หลิงฮันไม่มีทางยอม
ถึงแม้เขาจะมีผลึกก่อเกิดมากมาย และเพิ่งได้รับมาผลึกก่อเกิดมาสี่ล้านก่อน แต่หลังจากงานประมูล เขาเหลือผลึกก่อเกิดแค่หนึ่งแสนก้อนก็ตาม และมีหลายอย่างที่อยากได้ แต่เขาก็ไม่มีทางขายทักษะกินเด็ดขาด…
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีทางถ่ายทอดคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ให้คนอื่นได้ ถึงแม้เขาจะเต็มใจมอบให้ เขาก็ไม่รู้วิธีการถ่ายทอดมันอยู่ดี เพราะมันเป็นทักษะที่มีระดับสูงเกินไป
เมื่อซาหยวนเห็นหลิงฮันนิ่งเฉย เขาไม่โกรธ แต่ปรบมือหัวเราะชอบใจและพูดว่า “ตงเย่ว เหม่ยเอ๋อ พวกเจ้าสองคนสร้างความเพลิดเพลินให้กับสหายของข้าหน่อย!”
“เจ้าค่ะ!” สตรีทั้งสองคนตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และเดินเข้ามาประกบหลิงฮันจากด้านซ้ายและด้านขวา
หลิงฮันขมวดคิ้วและผลักพวกนางทั้งสองคนไปด้านหลังอย่างนุ่มนวล
“เจ้าไม่ชอบอย่างนั้นหรือ?” ซาหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ตงเย่วและเหม่ยเอ๋อเป็นสตรีที่งดงาม แต่พวกนางไม่ได้งดงามเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นจอมยุทธระดับภูผาวารีด้วย”
ดินแดนที่มีขนาดใหญ่อย่างจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ คำว่า “สาวงาม” เป็นอะไรที่ธรรมดามาก ในหมู่หญิงสาวสิบคนจะมีหนึ่งคนที่งดงามมาก ดังนั้นสาวงามจึงไม่ใช่อะไรที่พบเห็นได้ยาก แต่หญิงสาวที่ทั้งงดงามและแข็งแกร่งนั้นจะพบเห็นได้ยากมาก
หลิงฮันส่ายหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่ซาไม่มีธุระอะไรแล้ว ข้าคงต้องขอตัว!”
“เจ้าจะรีบไปไหนกัน!” ซาหยวนรีบพูด แววตาของเขาดูไม่พอใจ อีกฝ่ายเป็นแค่มดปลวกจากโลกใบเล็กมีสิทธิ์อะไรเรียกเขาว่าพี่น้อง! แต่ตอนนี้เขาต้องการทักษะของหลิงฮัน ดังนั้นเขาจึงปล่อยเรื่องนั้นไปก่อน
เขายิ้มและพูดว่า “เจ้าอาจยังไม่รู้ว่าตงเย่วและเหม่ยเอ๋อมีลีลาที่สุดยอดมาก ข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะต้องเพลิดเพลินอย่างแน่นอน!”
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง นี่เขาเป็นบุตรชายของแม่ทัพจริงหรือ? ทำไมเขาถึงถ่อยขนาดนี้ หรือว่าเขากำลังเมา
เขาลุกขึ้นยืนทันที ถึงแม้จะคิดเรื่องอย่างว่าอยู่ในหัว แต่เขาไม่ต้องการมีอะไรกับพวกนางทั้งสองคน
“พวกนางไม่ดีพอสำหรับเจ้าอย่างนั้นรึ?” ซาหยวนคิดว่าหลิงฮันไม่ชอบพวกนางสองคน เขาหัวเราะและพูดว่า “หลิงฮัน ตราบใดที่เจ้ามอบทักษะให้กับข้า ข้ายินดีที่จะมอบสาวใช้ส่วนตัวของข้าทั้งสี่คนให้กับเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นพวกนางยังบริสุทธิ์!”
ก่อนหน้านี้เขาเห็นหลิงฮันมักคลุกคลีกับสาวงามหลายคนอยู่รอบกาย เขาจึงคิดว่าหลิงฮันจะต้องเป็นคนหื่นกามไม่ผิดแน่ และหลงใหลในความงามของสตรี
หลิงฮันถอนหายใจและขี้เกียจเกินไปที่จะพูดอธิบาย เขาแค่พูดว่า “สุภาพบุรุษจะไม่เอาเปรียบสตรี และข้าขอตัวลา!”
“หลิงฮัน!” ซาหยวนตะโกนเรียกอย่างไม่พอใจและพูดว่า “อย่าคิดว่าเจ้ามีราชินิที่เก้าหนุนหลังอยู่ แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ! และอย่าลืมว่าเจ้าเป็นแค่มดปลวกที่ขึ้นมาจากโลกใบเล็ก!”
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของเจ้า!” หลิงฮันไม่แยแสอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
พูดตามตรง ถึงแม้จ้าวหลุนจะเป็นอันธพาล แต่ก็ยังดีกว่าซาหยวนหลายเท่า
“หลิงฮัน นี่ถือเป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายของข้า!” ซาหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดันกว่าเดิม
หลิงฮันไม่สนใจแม้แต่น้อยและเดินออกไป
ปัง!
ซาหยวนทุบโต๊ะอย่างรุนแรง แก้วไวน์ที่อยู่บนโต๊ะถึงกับล้มและหกไปทั่วโต๊ะ
“นายน้อยซา!” ตงเย่วและเหม่ยเอ๋อรีบเดินเข้ามาประกบเขาและพูดพร้อมกัน
หากเป็นสถานการณ์ปกติเขาคงกอดพวกนางทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาดูฉุนเฉียวมากและผลักพวกนางทั้งสองคนล้มลงกับพื้น
“เจ้าคิดว่ามีราชินีที่เก้าหนุนหลังแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นรึ?” เขาพูดพึมพัม “เหลี่ยวหยิง จับตาดูหลิงฮันให้ดี หากเขามีการเคลื่อนไหวอะไรให้รีบมารายงานข้าทันที!”
“เจ้าค่ะ!” เหลี่ยวหยิงคุกเข่าและขานรับคำสั่ง
หลังจากที่หลิงฮันเดินออกไปข้างนอก เขาส่ายหัวอยู่ในใจ
ถึงแม้ซาหยานจะเสนอผลึกก่อเกิดให้เขามากมาย แต่เขาจะขายทักษะลับของตัวเองได้อย่างไร?
คนอย่างเขาคงเป็นพวกเอาแต่ใจ หากไม่ได้อะไรดั่งใจก็จะไม่ยอมฟังที่คนอื่นพูดเลย
หลังจากที่กลับไปที่สำนัก หลิงฮันเข้าไปในหอคอยทมิฬทันที
“หอคอยน้อย ข้าจะปลูกมันได้ยังไง?” หลิงฮันนำต้นสังสารวัฎออกมา
“ข้าจะสร้างสถานที่ที่เหมาะสมกับมันก่อน!” น้ำเสียงของหอคอยน้อยฟังดูเคร่งขรึม ซึ่งแตกต่างจากปกติอย่างสิ้นเชิง นี่ทำให้หลิงฮันรู้ว่าแม้จะเป็นหอคอยน้อย ต้นสังสารวัฎนี่ก็ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง
ครืน หอคอยน้อยเป็นเจ้าของที่แท้จริงของหอคอยทมิฬ ภายใต้การควบคุมของมัน พื้นดินที่ว่างเปล่าก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับพลังปราณที่หนาแน่น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าหลิงฮันจะปลูกอะไร เจ้าหอคอยนี่ไม่ไหวติ่งแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้มันกลับเคลื่อนไหวและสร้างพื้นที่ปลูกขึ้นมาด้วยตัวเอง
“เจ้าโชคดีมากที่ได้ต้นสังสารวัฎมา” หอคอยน้อยกล่าว “แต่แปลกมาก ทำไมต้นสังสารวัฎถึงมาอยู่ที่นี่?”
หลิงฮันเปิดถุงและเห็นเมล็ดที่มีขนาดเท่ากับเม็ดถั่วอยู่ด้านในอยู่หนึ่งเม็ด
“ปลูกมัน” หอคอยน้อยกล่าว
หลิงฮันโยนเมล็ดลงบนดิน และหอคอยน้อยก็ใช้พลังลับของมันกับดิน ทันใดนั้นเองแสงสว่างที่สดใสก็ปกคลุมไปทั่วชั้นดิน
“เอาล่ะที่เหลือก็แค่รอคอยอย่างอดทน” หอคอยน้อยกล่าว น้ำเสียงของมันดูอ่อนล้า
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “อืม!”
เขาออกมาจากหอคอยทมิฬและเริ่มลองของที่ประมูลมาได้อุปกรณ์บินแหวกเมฆา เขาจะต้องศึกษาวิธีการใช้งานของมันก่อนที่จะออกเดินทางไกล
อุปกรณ์บินแหวกเมฆานั้นมีรูปร่างคล้ายพาหนะที่มีความหยาวและเพรียว แต่พื้นที่ภายในไม่ค่อยใหญ่มากนัก มันสามารถนั่งได้ไม่กี่คนเท่านั้น
สำหรับหลิงฮันมันไม่ใช่ปัญหา เพราะเขามีหอคอยทมิฬที่มีพื้นที่ไม่จำกัด
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เข้าในวิธีใช้งาน
จากนั้นเขาก็ไปรายงานตัวกับสำนัก ถ้าจะออกไปไหนนอกเมืองจักรพรรดิ ไม่ว่าจะออกไปปฏิบัติภารกิจก็ตาม
นี่เป็นเรื่องจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้นหลิงฮันยังมีอีกสถานะหนึ่งคือจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าหลิง เขาจะต้องได้รับการอนุมัติก่อนออกจากเมืองจักรพรรดิ มิฉะนั้นจะถือเป็นการไม่ไว้หน้าจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ
สองวันต่อมา เขาก็ได้รับการอนุมัติจากทางสำนัก