อุปกรณ์บินเกินไปตามอากาศมุ่งไปยังทิศตะวันตก
ต่อให้เป็นอุปกรณ์บินก็ยังใช้เวลาเก้าวันกว่าพวกเขาจะถึงมหาสมุทรดารา
มหาสมุทรดาราคือทะเลภายในเกาะ มีคำบอกเล่าว่าเมื่อนานมาแล้วมันเคยเป็นพื้นที่ราบเรียบ แต่วันหนึ่งได้มีดวงดาวตกลงมาจากท้องฟ้าและร่วงลงสู่บริเวณนี้ทำให้เกิดเป็นร่องมหาสมุทร
ดังนั้นบางครั้งบางคราวใต้สมาสมุทรแห่งนี้จึงมีการค้นพบโบราณสถานหรือแร่โลหะระดับสูงที่เป็นสิ่งดึงดูดผู้คนมากมายให้มาที่นี่
ยิ่งถ้าหากเจอทักษะโบราณระดับสูงด้วยล่ะก็ นั่นจะยิ่งน่าอัศจรรย์มากขึ้นไปอีก
ที่จริงไม่ใช่แค่ทักษะ แต่ยังมีสมุนไพรและเม็ดยาอื่นๆอยู่อีก มีข่าวลือว่ามีจอมยุทธบางคนได้ค้นพบหุ่นเชิดระดับสูงที่นี่ แถมหุ่นเชิดนั่นยังมีพลังต่อสู้ที่น่าทึ่งมากอีกด้วย
หรือให้พูดง่ายๆ มหาสมุทรแห่งนี้คือขุมสมบัติ!
เพราะเหตุนี้ที่นี่จึงได้มีโจรสลัดเกิดขึ้น พวกเขาจะปล้นสมบัติที่มีคนเก็บได้อย่างไม่ปรานี
เมื่อพวกเขามาถึงปลายขอบของมหาสมุทร หลิงฮันก็หยุดอุปกรณ์บิน
มหาสมุทรแห่งนี้แปลกประหลาดมาก มันทำไม่ให้อุปกรณ์บินเคลื่อนที่ได้ โดยการปล่อยแรงโน้มถ่วงที่รุนแรงออกมา หากอุปกรณ์บินลอยอยู่มันจะถูกกดให้ร่วงจมสู่พื้นทะเลทันที
เรือธรรมดาไม่สามารถแล่นในมหาสมุทรแห่งนี้ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกจมในเวลาไม่ถึงนาที
ถ้าอยากจะเดินทางในมหาสมุทรจำเป็นต้องใช้เรือที่ถูกสร้างจากกระดูกและหนังของสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแห่งนี้ นั่นเพราะพวกมันที่อาศัยอยู่ที่นี่มานาน ร่างกายจะเกิดจากวิวัฒนาการให้มีความต้านทานแรงโน้มถ่วง
โจรสลัดที่หลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ต้องตามล่าอยู่ในมหาสมุทรแห่งนี้ แต่รังของพวกมันจะอยู่ที่ไหนนั้นไม่อาจทราบได้
กลุ่มโจรสลัดในมหาสมุทรแห่งนี้นั้นลงมืออย่างรอบคอบและไม่เผยรังให้ใครรับรู้ การจะกวาดล้างพวกมันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง
แต่แผนการของพวกหลิงฮันนั้นง่ายมาก พวกเขาก็แค่ไปร่วมขึ้นเรือคนอื่นแล้วรอให้โจรสลัดมาปล้น หลังจากนั้นพวกเขาก็จะใช้โอกาสนี้ไล่ล่าพวกมัน
เพราะอย่างไรภารกิจของพวกเขาก็คือการจัดการโจรสลัดเท่านั้น ส่วนจำนวนเท่าใดนั้นไม่ได้กำหนดไว้
“พวกเราอาจจะมีวาสนาก็ได้ ครั้งหนึ่งเคยมีคนค้นพบแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบที่นี่!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าว
สุ่ยเยี่ยนยวี่ได้อธิบายเกี่ยวกับมหาสมุทรดาราในขณะที่เดินทางแล้ว หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้าวาสนาดีมาโดยตลอด”
นี่ไม่ใช่คำโอ้อวด เขาที่ขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผ่าการเปิดสวรรค์จะได้รับพรจากสวรรค์และปฐพี วาสนาของเขาจึงดีกว่าคนทั่วไป
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า นางศึกษาเกี่ยวกับโลกใบเล็กมาอย่างดี นางรู้ว่าคนที่เปิดสวรรค์ได้สำเร็จจะได้รับพรจากสวรรค์และปฐพีรวมไปกับพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เป็นผู้นำการเดินทางครั้งนี้!” นางกล่าว
หลิงฮันเก็บอุปกรณ์บินแหวกเมฆาและยิ้ม “เราเป็นสามีภรรยากัน เพราะงั้นเจ้าต้องเป็นผู้ตามข้าเป็นเรื่องธรรมดา”
“เจ้าอันธพาล!” สุ่ยเยี่ยนยวี่เค้นเสียง
“ไปกันได้แล้ว!” นางเดินนำ
เป้าหมายของพวกเขาคือท่าเรือขวานทรราชที่เป็นสถานที่สำหรับนำเรือออกสู่มหาสมุทร และแน่นอนว่าหากต้องการขึ้นเรือจำเป็นต้องใช้เงินนำนวนมาก
ท่าเรืออยู่ไม่ไกลมาก ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึง
เพราะมีคนต้องการออกทะเลมากมาย เมืองเล็กๆจึงถูกสร้างขึ้นในท่าเรือแห่งนี้ ในเมืองมีทั้งโรงเตี้ยม ซ่อง บ่อนพนันและอื่นๆที่เป็นสถานบันเทิงที่ไม่สามารถหาได้ในเมืองจักรพรรดิหรือเมืองใหญ่ๆ
ในเมืองมีแท่นธงสูงตั้งอยู่ บนธงมีรูปขวานสีเลือดถูกวาดเอาไว้ ซึ่งมันคือสัญลักษณ์ของทีนี่
หลิงฮันเดินมาถึงทางเข้าเมืองแต่ก็ถูกหยุดเอาไว้
“ทุกคนที่จะผ่านต้องจ่ายผลึกก่อเกิดมาก่อน” อีกฝ่ายมีกันอยู่ห้าคน พวกเขากอดอกแน่นและมองสำรวจหลิงฮันกับสุ่ยเยี่ยนยวี่ สายตาของพวกเขาหยุดชะงักที่สุ่ยเยี่ยนยวี่และถลึงตามองราวกับจะเปลื้องผ้าของนาง
หลิงฮันเดินขึ้นหน้ามาเล็กน้อยเพื่อบังสุ่ยเยี่ยนยวี่เอาไว้ด้านหลังและกล่าว “ข้าไม่เคยได้ยินว่าหากจะเข้าท่าเรือขวานทรราชต้องจ่ายค่าธรรมเนียม”
“แต่ตอนนี้เจ้าก็ได้ยินแล้ว” ชายร่างใหญ่กล่าวอย่างไม่แยแส
“เพียงแต่ว่าหากสตรีที่งดงามด้านหลังเจ้ามอบจูบให้พวกข้า เจ้าก็จ่ายส่วนของเจ้าคนเดียวได้” ชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งแสยะยิ้ม
“เหอๆ แต่ถ้านางยอมทำอะไรบางอย่างให้ข้า ข้าจะไม่เอาผลึกก่อเกิดก็ได้!”
“ฮ่าๆๆๆ!” ทั้งห้าคนหัวเราะลั่น
ในเมืองจักรพรรดิ ถึงแม้จะมีคนอย่างจ้าวหลุน ชาหยวนกับหลัวป้าที่ชอบทำตัวกร่างอยู่ แต่พวกเขาก็อยู่ภายใต้อำนาจปกครองของจักรพรรดินี การกระทำของพวกเขาจึงแสดงออกมาได้อย่างจำกัด
แต่ ณ ที่แห่งนี้ผู้คนสามารถแสดงสัญชาตญาณดิบออกมาได้อย่างเต็มที่
ในโลกของจอมยุทธ พลังคือความถูกต้อง
“ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบสตรีที่งดงามในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ ช่วยมาสร้างความสนุกให้พวกข้าหน่อยแล้วกัน!” ชายร่างใหญ่อดใจไม่ไหว เขาเอื้อมมือผ่านร่างหลิงฮันไปยังสุ่ยเยี่ยนยวี่
เมื่อใดยินคำว่า ‘สร้างความสนุกให้พวกข้า’ ใบหน้าของหลิงฮันก็กลายเป็นมืดมน เขายื่นมือไปคว้าข้อมือของชายร่างใหญ่และกล่าว “บังอาจแม้กระทั่งคิดไม่ดีกับภรรยาข้า ช่างกล้านัก!”
“นี่เจ้ากล้าต่อต้านงั้นรึ?” ชายร่างใหญ่กระฉากมือกลับ แต่เขาพบว่าข้อมือของเขาราวกับถูกเชื่อมไว้ด้วยเหล็ก เขาพยายามออกแรงจนในที่สุดก็มองไปยังหลิงฮัน
“ฮึ่ม!” หลิงฮันสะบัดมือ ทันใดนั้นเสียงกระดูกแตกหักก็ดังออกมาและพบว่าแขนของชายร่างใหญ่บิดหมุนราวกับเส้นบะหมี่ แขนของเขาห่อยลงมาเนื่องจากกระดูกทั่วแขนแตกสลาย
“อ้ากกก” ชายร่างใหญ่กรีดร้อง
“บังอาจ กล้าทำร้ายคนของกลุ่มห้าทมิฬงั้นรึ!” ชายร่างใหญ่อีกสี่คนเกรี้ยวกราด พวกเขานำอาวุธออกมาแล้วเข้าล้อมหลิงฮัน