พิธีกรเล็งเห็นถึงคำพูดเสียดสีของซือฮัวเจ๋อ เพราะกลัวเกิดปัญหาเขาจึงพูดขึ้นทันที “เอาล่ะครับ ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของอาจารย์ ผมเชื่อว่าเฉินโม่จะจดจำคำสั่งสอนของผู้อาวุโสอย่างแน่นอน แล้วรายการถัดไป…”
เสียงพิธีกรยังไม่ทันขาดคำ เฉินโม่ก็เอาไมค์โครโฟนมาจ่อปากก่อนจะพูดว่า “ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ”
พิธีกรตกตะลึง ซือฮัวเจ๋อก็ตกตะลึง!
ฉิวเหริงหยางและหลินไห่เองก็แปลกใจ
ผู้เข้าแข่งจะเผชิญหน้ากับกรรมการตัวต่อตัวงั้นเหรอ?
พิธีกรสับสนเล็กน้อยแต่เขาก็หยุดเฉินโม่ไม่ทันแล้ว ตอนนี้เขาได้แต่ฟังว่าเฉินโม่จะพูดอะไรเท่านั้น
“คนจับตามองสิ่งที่คุณพูดอยู่ ตอนนี้กำลังถ่ายทอดสด”พิธีกรแอบกระซิบข้างหูเฉินโม่โดยไม่ใช้ไมค์
เฉินโม่ไม่สนใจพิธีกร เขาจับไมค์แล้วเริ่มพูด “ทุกคน คุณมีความสุขไหมตอนที่ได้คะแนนสูงที่สุดในประวัติการเล่น <ฟลับฟี้เบิร์ด> ? ถ้าคุณมีความสุขก็ให้ยกมือขึ้น”
ผู้ชมตกใจและยกมือมากกว่าครึ่ง
“ตอนที่เลื่อนอันดับขึ้นมาในรายการจัดอันดับ คุณมีความสุขไหม? ถ้ามีความสุขให้ยกมือขึ้น”
ผู้ชมมากกว่าครึ่งก็ยกมือขึ้นอีกครั้งซึ่งน้อยกว่าครั้งก่อนเล็กน้อยแต่ไม่แย่มาก
“คุณมีความสุขตอนที่คุณเล่นได้คะแนนสูงกว่าเพื่อนคุณใช่ไหม? ถ้าคุณมีความสุขให้ยกมือขึ้น”
คนจำนวนมากก็ยกมือขึ้นในครั้งนี้ ผู้ชมส่วนใหญ่ยกมือขึ้นแล้ว
“หลังเกมโอเวอร์ คุณจะเลือกยอมแพ้หรือเลือกจะลองใหม่อีกครั้ง? คนที่เลือกยอมแพ้ให้ยกมือขึ้น”
แทบไม่มีคนยกมือเลย
“คนที่ลองใหม่อีกหลายครั้งและรู้สึกถอดใจเพราะพยายามไปก็ไม่มีความหมาย โปรดยกมือขึ้น”
หลายคนยกมือขึ้นแต่เมื่อมองไปรอบๆก็เอามือลง
เฉินโม่พูดต่อ “เห็นแล้วใช่ไหมผู้คนคิดว่าเกมของผมนำพาความสุขมาให้ทุกคน”
“หน้าที่ของเกมก็คือการระบายอารมณ์ของผู้เล่น อารมณ์เชิงลบบางครั้งก็ทำให้เขาตามืดบอดได้ แต่ได้โปรดคิดหน่อย ถ้าเกมนำพาแต่อารมณ์เชิงลบ คุณจะเล่นมันเหรอ?”
หลายคนส่ายหน้า
เฉินโม่ก็พูดต่อ “ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมอะไรก็นำพาความสุขมาให้ทั้งสิ้น เว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นมาโซคิสต์”
ผู้ชมมากมายหัวเราะลั่น
เฉินโม่มองซือฮัวเจ๋อ “ไม่ใช่ว่าคุณไม่เข้าถึงความสนุกของเกมนี้เหรอ? หรือไม่มีอยู่เลยต่างหาก ในทางกลับกันผู้เล่นมากมายคิดว่านี่คือเกมที่สนุก ไม่ใช่พึ่งพาการกระตุ้นอารมณ์เชิงลบทั้งหมดเพื่อกักขังผู้เล่น”
มุมปากซือฮัวเจ่อกระตุกเล็กน้อย
“ผมคิดว่าในฐานะนักออกแบบเกม คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือความเป็นธรรมและไม่มีอคติใดๆต่อเกม -ต่อให้พวกเขาไม่ชอบก็ตาม นี่คือคุณสมบัตินักออกแบบเกม”
“นักชิมคนหนึ่งเขาไม่ชอบรสเผ็ด ทุกครั้งที่เขาไปกินอาหารเสฉวน เขาจะให้คะแนนอาหารเสฉวนต่ำสุด เขามีคุณสมบัตินักชิมอาหารหรือป่าว?”
“คล้ายๆกัน ถ้าคุณคิดว่ามันคือเกมขยะเพราะคุณไม่ชอบ แล้วจะแตกต่างอะไรระหว่างคุณกับนักชิมอาหารที่ไม่ชอบอาหารเสฉวนละ?”
“ผมพูดเสร็จแล้ว ขอบคุณ”
เฉินโม่ยัดไมค์ใส่มือพิธีกรทันทีแล้วหันร่างกลับลงเวทีไป
เขาไม่มีว่างจะโต้เถียงกับซือฮัวเจ๋อหรอกนะ
“แก……”
ซือฮัวเจ๋อจ้องเขม็งตาขวางเกือบจะกระโดดลุกขึ้นจากโต๊ะ
หลินไห่ที่นั่งถัดจากซือฮัวเจ๋อรีบดึงไว้ทันที “เด็กๆจะไปรู้อะไร อย่าไปลดระดับทะเลาะกับเขาเลย”
ใบหน้าซือฮัวเจ๋อแดงจัดแต่ก็สงบลง เขาไม่ได้อารมณ์เสีย ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากโต้กลับหากแต่ยังคิดวิธีหักล้างเฉินโม่ไม่ออก!
คำพูดของเฉินโม่ไม่มีช่องโหว่ที่ขอให้ผู้ชมยกมือขึ้นและชักนำนักชิมอาหารมาเปรียบเทียบ ซือฮัวเจ๋อพบว่าไม่มีวิธีใดที่จะหักล้างเฉินโม่ได้เลย
ฉิวเหริงหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาไม่คาดคิดว่าเฉินโม่จะตอกหน้าซือฮัวเจ๋อโดยไม่ลังเล
แล้วก็เป็นการกระทำที่แนบเนียนมาก!
เมื่อกี้นี้บนเวทีเฉินโม่พูดออกมาได้รื่นไหลและมีความคิดที่ชัดเจน เขาเป็นนักออกแบบเกมมือใหม่จริงๆ งั้นเหรอ? มันรื่นไหลยิ่งกว่าคนที่มีประสบการณ์ที่จัดงานประชุมสาธารณะเสียอีก!
ยิ่งกว่านั้นสายตาของเฉินโม่ที่จ้องมองซือฮัวเจ๋อเหมือนผู้ใหญ่จ้องมองเด็กไม่มีผิด
เพราะอย่างนี้จึงทำให้ฉิวเหริงหยางตกตะลึง เขาแปลกใจเมื่อพบว่าเด็กคนนี้ราวกับมีความคิดมากมายกว่าที่เขาจะคิดถึง
ฉินเหริงหยางก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเฉินโม่ลงเวที
…………
เฉินโม่คร้านจะสนใจว่าพิธีกรจะจัดการเรื่องยุ่งเหยิงนี้ยังไง ไม่ว่ายังไงเขาก็ได้ที่หนึ่งแล้ว อะไรที่อยากได้ก็ได้รับไปแล้ว
ขณะที่ลงจากเวที ฉิวเหริงหยางก็ตามมาถึง
“อาจารย์เฉินโม่”ฉิวเหริงหยางเรียกหาเฉินโม่
เฉินโม่ประหลาดใจอยู่บ้าง “สวัสดีครับ มีอะไรหรือป่าวครับ?”
ฉิวเหริงหยางพูด “คืออย่างนี้ ผมชื่นชมงานของคุณ ผมอยากจะขอถามว่าคุณสนใจมาเข้าร่วม Hengyou.com ในฐานะผู้ช่วยผมไหม และผลตอบแทนจะต้องเป็นที่พอใจแน่นอน”
เฉินโม่ส่ายหน้า “ผมขอบคุณความปรารถดีของคุณนะครับแต่ผมมีแผนของตนเองแล้ว”
ฉิวเหริงหยางพยักหน้า เขารับรู้ความนัยของเฉินโม่แล้ว คนประเภทนี้ไม่ชอบอยู่ภายใต้ใคร เขาต้องการเริ่มต้นบริษัทแล้วพัฒนาเกมของตนเอง
“ตกลงครับ ผมขอให้คุณโชคดี ผมหวังว่าจะมีโอกาสร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ”ฉิวเหริงหยางพูด
เฉินโม่พยักหน้า “ยินดีครับ ผมเองก็หวังว่าจะมีโอกาสร่วมมือกันในอนาคตนะครับ”
ทั้งสองจับมือกัน ฉิวเหริงหยางพูดไม่มากนัก พวกเขาทิ้งวิธีติดต่อไว้ก่อนจะแยกกันไป
สำหรับคนอื่น ข้อเสนอนี้อาจจะล่อตาล่อใจอย่างมาก แต่สำหรับเฉินโม่ไม่น่าสนใจเลย
ต่อให้หัวหน้าของเอ็มเพอเรอะอินเตอร์แอคทีฟอินเตอร์เทนเมนท์อย่าง CEO มาเชิญให้เขาไปเป็นหัวหน้านักออกแบบด้วยตนเอง เขาก็จะไม่ไปเช่นกัน การอยู่ภายใต้หลังคาคนอื่น คุณจะถูกจำกัดโดยพวกเขาในที่สุด เฉินโม่ไม่ชอบการถูกจำกัดตอนที่กำลังออกแบบเกม
ไม่นานนัก เฉินโม่ก็พบทีมงานของการแข่งขัน
ทีมงานพูด “เราได้จดบัญชีของคุณแล้ว เงินทุน R&D 300000 หยวนควรจะส่งเข้าบัญชีภายใน 2-3 วันทำการ โปรดอย่าลืมตรวจสอบนะครับ”
“อีกอย่าง เก็บกุญแจร้านอย่างระมัดระวังและจดที่อยู่ด้วยนะครับ ซึ่งจะมีทีมงานโดยเฉพาะช่วยคุณจัดการเอง ถ้าคุณมีปัญหาอะไร ติดต่อผมได้ คุณตัดสินใจได้อิสระว่าจะจัดการยังไงแต่ต้องอยู่ในงบประมาณนะครับ เราจะพูดคุยรายละเอียดกันทีหลัง”
เฉินโม่พยักหน้า “ครับ ผมรู้แล้ว ขอบคุณครับ”
หลังจากนั้นพิธีการต่างๆก็เป็นอันจบลง เฉินโมเรียกรถเท็กซี่แล้วออกไปจากสนามแข่ง
เฉินโม่สวมใส่ชุดทางการจึงร้อนอย่างมาก มันทรมานมากตอนที่พบเห็นรถบัสที่แน่นขนัดและเมืองใหญ่ที่แออัด เพราะได้รับ 300000 หยวนมาเขาตัดสินใจว่าจะจ่ายฟุ่มเฟือยสักครั้ง!
จราจรติดขัดไม่นานเกินไป ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาเฉินโม่ก็กลับมาถึงโรงแรมที่เขาพักอยู่
กลับห้อง เฉินโม่ถอดชุดสูทออกเป็นอย่างแรก ไปหยิบเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นออกมาใส่
ข้างนอกห้องพักเฉินโม่ไกลออกไปจะมองเห็นถนนห้าวงแหวนและรถไฟใต้ดินที่ต้องใช้เวลาเดินทางกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาไม่มีทางเลือกเพราะค่าเช่าของเมืองจักรพรรดิแพงเกินไป เขาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่พักแถวๆสามวงแหวน
อย่างไรก็ตามด้วยร้านสัมผัสประสบการณ์ เฉินโม่จะหมดปัญหาในการทำสัญญากับเจ้าของบ้านเช่าก่อนหน้านี้
มีกระเป๋าเดินทางไม่พอ แต่กระเป๋าหนึ่งใบก็มีที่พอให้ยัดโน๊ตบุ๊คหนาๆเข้าไปได้ เฉินโม่ลากกระเป๋าเดินทางก่อนจะเช็คเอ้าโรงแรม และเรียกแท็กซี่ไปที่ร้านสัมผัสประสบการณ์ เขาวางแผนจะไปตรวจสอบร้านสัมผัสประสบการณ์ก่อน