ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1372 – ตระกูลเย่หลางแห่งเมืองหลวงมหาทวีป เคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 ชนิด ร้อยปักษาบูชาหงส์ และหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม
ในครั้งนี้ชิงสุ่ยอยู่ที่ตระกูลของเขา 10 วันเต็ม นอกเหนือจากเวลาที่เขาเข้าไปฝึกตนภายในดินแดนหยุพราชอมตะ เขาก็ใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดเพื่อเพิ่มพูนขีดจํากัดความสามารถของคนในตระกูล สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนหลุมลึกที่ไม่อาจเติมเต็ม ไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด ในทุกครั้งที่เขากลับมาเขาก็ยังคงมีสิ่งที่ต้องทำเสมอ
จากนั้นชิงสุ่ยโดยใช้ธงสวรรค์ปัญจธาตุเพื่อเดินทางกลับไปยังหอคอยจักรพรรดิโดยอาศัยธงสวรรค์ปัญจธาตุที่เป็นตัวรับซึ่งอยู่กับตัวของอี่หวงกู่หวู๋
ทันทีที่อี่หวงกู๋หวู๋เจอหน้าชิงสุ่ย เธอโอบกอดเขายังมีความสุข ทั้งสองอยู่ด้วยกันในห้องของอี่หวงกู่หวู๋ แม้ช่วงเวลา 10 วันอาจจะดูเหมือนสั้น แต่ก็มากพอที่ทำให้หัวใจของคนห่อเหี่ยว ทั้งสองคนใช้เวลากว่าครึ่งวันกอดกันอยู่ภายในห้อง
อาหารและความรู้สึกทางเพศคือธรรมชาติของมนุษย์ ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2-3 วันครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายที่มีพละกำลังอำนาจที่สูงส่งมักจะมีหญิงสาวข้างกายในทุกคืน
“หวู๋หวู๋น้อย เจ้านับวันยิ่งเหมือนปีศาจสาวมากขึ้นทุกวันแล้วนะ”ชิงสุ่ยยังคงกอดร่างกายที่งดงามดุจหยกขาว
“แล้วเจ้าชอบมันหรือไม่?”อี่หวงกู่หวู๋กล่าวอย่างมีความสุข
“ข้าชอบมัน และข้าก็ชอบมันมาก ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ร่างกายสามีของเจ้าเพียบพร้อม มิฉะนั้นเจ้าคงแห้งตายจากความกระหายของเจ้าเป็นแน่”ชิงสุ่ยกล่าว
“เจ้าคิดว่าพวกเราจะสามารถมีลูกกันได้หรือไม่?”
ชิงสุ่ยรู้ว่าอี่หวงกู่หวู๋มักจะเล่นกับลูกของหมอปีศาจ ตอนนี้เธอเปรียบเสมือนแม่อุปถัมภ์และเขาก็เปรียบเสมือนพ่อทูนหัวของเด็กๆเหล่านั้น
และด้วยสถานภาพเช่นนี้เด็กๆจึงมักจะออกไปเล่นกับอี่หวงกู่หวู๋ แม้แต่หมอปีศาจเองยังรู้สึกอิจฉาเด็กน้อยเหล่านั้น เพราะเหล่าเด็กๆจะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอน ในเมื่อพ่อทูนหัวและแม่อุปถัมภ์เป็นคนที่อยู่ในระดับสูงถึงปราณบัญชาสวรรค์พินาศ
“ในอนาคต พวกเราจะทำมันทุกวัน และข้าคิดว่ามันจะต้องสำเร็จแน่”โอกาสในการตั้งครรภ์ของผู้ที่อยู่ในระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศต่ำมากแต่ก็ไม่ได้เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างยังคงอยู่บนกฎของโลกใบนี้
ชิงสุ่ยไม่ค่อยกังวล เขาเชื่อมั่นในตัวเองอยู่แล้วเพียงแค่โอกาสในการตั้งครรภ์มันต่ำ ดังนั้นเขาจึงตอบกลับไปราวกับว่าพยายามเพิ่มโอกาสที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ทันทีที่อี่หวงได้ยินคำพูดของชิงสุ่ย เธอแสดงท่าทางเขินอายที่ดูน่ารัก
“ข้าจริงจังนะ”อี่หวงกู่หวู๋กล่าว
“ข้าเองก็จริงจังเช่นกัน”ชิงสุ่ยพยายามกล่าวในสิ่งที่เขาพูด
อี่หวงกู่หวู๋คิดบางสิ่งบางอย่างจากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย
“จริงสิ เทียนฮี่ เรินโม่มาหาเจ้าในตอนที่เจ้าไม่อยู่ เขาเลยบอกว่าเขาจะกลับไปอีกในภายหลัง”อี่หวงกู่หวู๋กล่าว
“ว่าแต่เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าตระกูลเทียนฮี่นั้นมีความบาดหมางกับตระกูลใดบ้างในมหาทวีปนี้?”ชิงสุ่ยคิดถึงบางอย่างก่อนจะถาม ย้อนกลับไปในตอนที่เขาเคยอยู่ในตระกูลเทียนฮี่เขาได้ยินข่าวคราวบางสิ่งแต่ก็ไม่ได้ถามต่อ
“ข้าเองก็ไม่ได้อยู่มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำมานานมากแล้ว อาจารย์ของข้าพาข้าไปยังเทือกเขาปู๋โถวตั้งแต่ข้ายังเยาว์วัย ข้าก็อยู่ที่มหาทวีปอู่เซี่ยตะวันตกมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามข้าเองก็ได้ยินเรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวกับตระกูลเทียนฮี่ เทียนฮี่ เรินโม่คืนหนึ่งในเด็กรุ่นยาวที่เก่งที่สุดจึงทำให้ข่าวคราวของเขานั้นโด่งดังจนเป็นที่รู้จักกันดี และนั่นก็เป็นฉนวนที่ทำให้เขาได้รับความเสียหายจากภาพลักษณ์อย่างรุนแรง คู่หมั้นของเขานั้นถูกใครบางคนแย่งชิงไปเพื่อเป็นนางสนม และเขาก็สู้กับคนคนนั้นไม่ได้ และดูเหมือนตระกูลเทียนฮี่เองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกันแม้แต่จะปกป้องผลประโยชน์จากหญิงสาวคนนั้น”
“ว่าแต่คนเหล่านั้นมาจากตระกูลใด? และพวกเขามีพลังมากเพียงใดกัน?”
ยิ่งได้ฟังชิงสุ่ยยิ่งสงสัยมากขึ้น
“พวกมันคือตระกูลเย่หลางแห่งเมืองหลวงมหาทวีป ตระกูลเย่หลางนั้นทรงพลังยิ่งกว่าตระกูลเทียนฮี่แต่ผู้คนก็ต่างกล่าวกันว่าบ้างก็บอกมันคือเรื่องจริงบ้างก็บอกมันก็ไม่ใช่เรื่องจริง ส่วนข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”อี่หวงกหวู๋กล่าว
ชิงสุ่ยไม่ได้กังวลมากว่าข่าวลือเรานั้นจะเป็นจริงหรือไม่ เขาแค่ต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติมอย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาก็รู้ว่าตระกูลเย่หลางคือตระกูลที่มีสถานะสูงส่งในเมืองหลวงของมหาทวีป เมืองหลวงของมาทวีปคือเวทีที่ไว้แสดงอำนาจสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยตระกูลหลักของมหาทวีปและจะเป็นตระกูลของคนชนชั้นสูงที่แตกแขนงกิ่งก้านสาขาออกไปตามเมืองหลวงในส่วนภูมิภาคต่างๆ
แล้วด้วยการที่เมืองหลวงของมหาทวีปเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยชนชั้นสูงจึงถือเป็นพื้นที่ที่รุ่งเรืองมากที่สุดในภูมิภาค ดังนั้นเมืองเงินอื่นๆจึงจำเป็นจะต้องส่งกำไรของพวกเขาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อมอบให้กับเมืองหลวงหลักของมหาทวีป แล้วก็เท่ากับว่าเรื่องอื่นจะต้องมีฐานะต่ำกว่าเมืองหลวงและยังต้องแบ่งกำไรที่ควรจะได้รับออกอีกด้วย
เมืองหลวงหลักของมหาทวีปประกอบด้วยกลุ่มอำนาจ มันเป็นเรื่องยากยิ่งที่จะกูลเดียวจะสามารถครอบครองผู้คนได้ทั้งทวีป กลุ่มตระกูลเหล่านี้จะแบ่งปันสิ่งต่างๆและสร้างพันธมิตรเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์และทรัพยากรที่ควรจะได้รับ
อย่างไรก็ตามนั่นย่อมต้องมีผู้นำของกลุ่มตระกูลทั้งหมด โดยจะถูกเลือกมาจากแต่ละตระกูลน่าจะต้องแสดงความสามารถความแข็งแกร่งและศักดิ์ศรีของตนให้ผู้อื่นได้เห็น
คนเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะได้รับเงินและสมบัติแต่พวกเขาก็จะต้องแสดงอำนาจปราบปรามเมืองต่างๆและล้มล้างเมืองที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับพวกเขา และเมื่อภูมิภาคเติบโตขึ้นก็ย่อมต้องมีกลุ่มต่างๆจัดตั้งกลุ่มขึ้น บางส่วนก็ถือได้ว่าเป็นกลุ่มกลางๆ และบางส่วนก็เลือกที่จะอยู่นิ่ง โดยทั่วไปแล้วกลุ่มมหาอำนาจจับกุมอำนาจอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากโข
ส่วนขั้วอำนาจอีก 2 ส่วนที่เหลือเป็นแบบผสม โดยรวมตัวกันของคนทุกประเภทซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เนื่องจากพื้นที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าอำนาจจะถูกมอบหมาย ดังนั้นมันจึงลดหลั่นออกไปเมื่อสถานที่ที่อยู่นั้นห่างไกลขึ้นมันก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง
“ว่าแต่เจ้าพอจะรู้ลำดับของตระกูลที่แข็งแกร่งภายในเมืองหลวงหรือไม่?”ชิงสุ่ยอยากรู้รายชื่อของผู้ที่มีพลังอำนาจและโดดเด่น
“มันมีมากมายเหลือคณา และทุกอย่างก็ไม่ใช่ความลับ แต่มันผ่านมาหลายปีแล้วข้าจึงไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่เจ้าสามารถหาข่าวคราวของมันได้อย่างง่ายดาย”อี่หวงกู่หวู๋ยิ้มและกล่าว
……………………………
วันต่อมา ชิงสุ่ยก็ยังคงฝึกฝนภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะเช่นเดิม ด้วยการที่เขาสามารถทะลวงผ่านขึ้นสวรรค์ขั้นที่ 8 รูปแบบนกหงส์เพลิงภายในเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 ชนิดจุดประกายขึ้น นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชิงสุ่ยสามารถเริ่มฝึกฝนมันได้แล้ว
มังกรและนกหงส์เพลิงคือสัตว์ในตำนาน แต่เมื่ออยู่ในโลก 9 มหาทวีปพวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่จริง ในโลกใบก่อนของชิงสุ่ย มีคำอธิบายมากมายเกี่ยวกับมังกรซึ่งเปรียบเทียบดังตัวผู้ชาย และนกหงส์เพลิงที่เปรียบดังตัวผู้หญิง อักขระที่ใช้อธิบายเพศชายและเพศหญิงนั้นล้วนมีความแตกต่างกัน แต่ผู้คนส่วนมากมักจะให้ความนับถือกับนกหงส์เพลิงซึ่งเป็นตัวแทนของผู้หญิง ดังนั้นราชันย์แห่งนกหงส์เพลิงจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสถานะสูงส่ง
เมื่อชิงสุ่ยได้เห็นทักษะที่เขากำลังจะได้เรียนรู้เพิ่มเติม เขาถึงกับตกตะลึงเพราะมันมีเพียงแค่ 2 ทักษะต่อสู้เท่านั้น
ร้อยปักษาบูชาหงส์ และหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม
ร้อยปักษาบูชาหงส์คือทักษะการใช้ปราณเพื่อลดความสามารถของศัตรูลง 10% ซึ่งสามารถซ้อนทับกับทักษะปราณอื่นได้
และมันก็ดูเรียบง่ายเหมือนชื่อของมัน : ร้อยปักษาบูชาหงส์ จะมีกลิ่นอายของราชันย์นอกจากจะซ้อนทับกับความสามารถในทักษะอื่นแล้ว สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของชิงสุ่ยนั่นก็คือปราณจักรพรรดิ์ เมื่อทั้งสองผสานเข้าด้วยกันมันจะทำให้ความสามารถของศัตรูลดลงได้ถึง 30%
30% ถือว่าค่อนข้างสำคัญ แม้แต่มังกรไอยราเกล็ดทองคำที่มีทักษะสูงส่งที่ลดได้ 10% ยังเป็นสิ่งที่ศัตรูต้านทานได้ยาก แต่สำหรับ 30% นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า
คำอธิบายต่างๆรวมถึงวิธีการฝึกฝนยังคงถูกจารึกไว้เป็นตัวอักษรภายใต้ทะเลแห่งปัญญาซึ่ง ชิงสุ่ยยังไม่รีบร้อนที่จะเริ่มเขาจึงหันไปมองดูทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม
คลื่นเสียง??
แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยเห็นไม่ได้มีเพียงแค่นั้น แต่มันหมายถึงชนิดของเสียงหงส์เพลิงร่ำร้อง
หงส์เพลิงร่ำร้อง(เพลงศึก) : เพิ่มความสามารถในการต่อสู้กับศัตรู เลือกเป้าหมายที่ต้องการเพื่อปลดปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่
หงส์เพลิงร่ำร้อง(เพลิงสงคราม) : เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ เลือกเป้าหมายที่ต้องการเพื่อเพิ่มโอกาสที่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
หงส์เพลิงร่ำร้อง(ทะลวงศึก) : เพิ่งโอกาสให้เป้าหมายสามารถโจมตีทะลวงผ่านเกราะป้องกันในระดับหนึ่ง
หงส์เพลิงร่ำร้อง(ระงับ) : ระงับความสามารถของเป้าหมายทำให้เป้าหมายไม่สามารถใช้งานพลังได้อย่างปกติ
………………….
เมื่อชิงสุ่ยมองเห็นสิ่งเหล่านี้มันยิ่งทำให้เขามีความสุข มันคือสิ่งที่น่าทึ่งและมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจมคือสิ่งที่เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ยาก มันไม่ใช่เพราะเขาขี้เกียจแต่เพราะ ชิงสุ่ยนั้นไม่ได้รู้จักเรื่องดนตรีและทำนองที่จำเป็นต้องใช้
อย่างน้อยชิงสุ่ยก็ยังรู้สึกดีที่ได้รับการเรียนรู้ทักษะร้อยปักษาบูชาหงส์ ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขาและทักษะที่สามารถลดพลังศัตรูมากถึง 30% มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ศัตรูเกิดความเสียขวัญจนต้องร่ำร้องด้วยความพ่ายแพ้
ชิงสุ่ยเริ่มต้นฝึกฝนอาจเป็นเพราะว่าเขานั้นชื่นชอบในทักษะการต่อสู้และรู้สึกว่ามันคล้ายคลึงกับปราณจักรพรรดิแต่ก็มีความแปลกประหลาดซ่อนอยู่ ซึ่งมันทำให้เขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและไม่มีความท้าทายใดๆ
1 วันผ่านไป แม้ว่าชิงสุ่ยจะยังไม่สำเร็จในระดับขั้นสมบูรณ์ แต่ความคืบหน้าก็เป็นไปอย่างราบรื่น เขายังคงพักผ่อนและมองดูการแตกกิ่งก้านสาขาของต้นอู้ทงต้นไม้ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของวิหคเพลิง ต้นไม้แห่งนี้ได้รับการบำรุงจากพลังปราณภายใต้ดินแดนหยกยุพราชอมตะ และมันยังได้รับการดูแลจากวิหคเพลิงซึ่งทำรังอยู่เหนือมัน มันจึงทำให้พลังปราณจิตอันเฉลียวฉลาดค่อยๆสร้างตัวและแฝงอยู่ภายใน
แน่นอนว่าเรื่องอายุนั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา ชิงสุ่ยกำลังศึกษาวิธีการสร้างพิณ ขณะที่เขานำข้อมูลที่ได้รับมาพิจารณาเขาก็พยายามจดรายละเอียดเล็กๆและพยายามจำลองกระบวนการสร้างภายในจิตใจ