ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1380 – การตัดสินใจของตระกูลเย่หลาง,การเปิดตัวหอคอยจักรพรรดิ, ความเย็นชาและไร้ชีวิตชีวา
ชิงสุ่ยวางตัวไม่ให้สนิทหรือห่างเหินกับผู้คนที่เดินทางมาจนมากเกินไป แน่นอนว่าเขาไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่ผู้คนได้จัดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้คนเชิญชวนเขาเยอะเกินไปและมันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบรับทุกคน ดังนั้นเขาจึงต้องปฏิเสธไปทั้งหมด
แม้ว่าชิงสุ่ยจะได้ปฏิเสธคำชวนของผู้คนมากมาย แต่ก็ยังบอกกล่าวพวกเขาให้เดินทางมาในวันที่หอคอยจักรพรรดิเปิดตัวและหวังว่าพวกเขาจะช่วยสนุบสนุนตน โดยปกติคนทั่วไปมักไม่ปฏิเสธอยู่แล้วแต่ในแง่ของการปฏิบัติจริงคงเป็นอีกเรื่อง
…
“พวกเจ้าได้ทำให้ตระกูลเย่หลางต้องอับอายแล้ว เจ้าเด็กนั่นสมควรถูกฆ่าจริงๆ”
ณ เวลานี้ในห้องโถงตระกูลเย่หลาง ชายชรากล่าวออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว สีหน้าของเขาดูน่ากลัว ผมสีขาวหิมะถูกเอาไว้โดยเชือกแบบหยาบๆ เขามีหน้าผากยื่นนูนออกมาและดวงตาของเขากำลังกระพริบด้วยความเร่าร้อน
ดูเหมือนว่าเย่หลางเชียนคุนจะเป็นเพียงผู้น้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราคนนี้ เขากล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง “ผู้อาวุโส เจ้าเด็กนั่นไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ว่าในวันนี้พวกเราจะต้องอับอาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่ายแพ้เสียทีเดียว พวกเราควรใช้โอกาสนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาของพวกเรา ท่านเห็นว่าอน่างไร?”
“เชียนคุน ข้ารู้ว่าเจ้าระมัดระวังตัวมาโดยตลอดแต่ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ตระกูลเย่หลางของพวกเราอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้? เจ้าคาดว่าในอนาคตผู้คนจากตระกูลเย่หลางจะเชิดหน้าชูตาอยู่ได้อย่างไร? ผู้คนในกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำจะมองตระกูลเย่หลางอย่างไร?” ชายชรามองไปยังเย่หลางเชียนคุน
“ผู้อาวุโส เจ้าเด็กนั่นไม่ใช่คนธรรมดาๆเลย ได้โปรดเชื่อข้าในครั้งนี้ อีกไม่นานตระกูลอื่นๆคงได้เผชิญหน้ากับเขาและต้องได้รับความเสียหายโดนเด็กคนนี้เป็นแน่ เมื่อถึงตอนนั้นตระกูลเย่หลางจะไม่รู้สึกอับอายอีกต่อไป” เย่หลางเชียนคุนพยายามอธิบาย
“เชียนคุน เจ้าทำให้พวกเราผิดหวังยิ่งนัก ข้าจะให้เจ้าขึ้นนำตระกูลเย่หลางด้วยสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร?” ชายชราถอนหายใจก่อนจะกล่าวออกมา
“ผู้อาวุโสท่านต้องเชื่อข้า สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าใครจะเป็นผู้นำตระกูลเย่หลางในอนาคต แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆคือการรักษามรดกของตระกูลไว้ ” เย่หลางเชียนคุนกล่าวด้วยความห่วงใย
“เอาล่ะ ข้าไม่มีอะไรจะต้องพูดอีกแล้ว เชียนหยวนไปจัดการเจ้าเด็กนั่นซะ เจ้ามีปัญหาอะไรหรือไม่? ชายชรามองไปยังเย่หลางเชียนคุนและกล่าวกับชายผู้ที่มีอายุน้อยกว่าเขาเล็กน้อย”
“ไม่มีปัญหาขอรับ ท่านผู้อาวุโส” ชายชรากล่าวด้วยความตื่นเต้น
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ผู้คนจากตระกูลเย่หลางจะรับคำสั่งจากเจ้าโดยตรง ไม่ว่าเพราะเหตุใดก็ตามถ้าหากมีคนทำให้ตระกูลเย่หลางต้องอับอายเจ้าจะต้องเอาชีวิตมันมา ถ้าเจ้าจัดการกับปัญหานี้ได้ ตระกูลเย่หลางจะอยู่ในความดูแลของเจ้า จำเอาไว้ เจ้าต้องจัดการให้ได้ไม่ว่าวิธีการใดก็ตาม” ชายชรากล่าวจบก็ได้หายตัวไปในทันที
เย่หลางเชียนคุนถอนหายใจพร้อมส่ายศีรษะ เขาได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงถึงจุดยืนของตนเองแล้ว เหตุใดเรื่องกลับกลายเป็นเช่นนี้? ตระกูลเย่หลางจะผ่านการทดสอบในครั้งนี้ไปได้หรือไม่?
เย่หลางเชียนคุนเดินออกไปข้างนอกโดยลำพัง แผ่นหลังของเขาให้ความรู้สึกอ้างว่าง เย่หลางเชียนหยวนมองไปยังเย่หลางเชียนคุนจนเงาของเขาเลือนหายไป เขายิ้มขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ
“ยินดีด้วย ท่านพี่”
“ยินดีด้วย ท่านพ่อ”
…
เย่หลางเชียนหยวนรู้สึกดีใจเป็นที่สุด เขาไม่ได้คาดหวังอีกแล้วหลังจากที่รอมาเนินนาน ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้รับตำแหน่งผู้นำของตระกูล ตราบเท่าที่เขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าเย่หลางเชียนคุนไม่ใช่คนอ่อนแอ แม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะได้รับความพ่ายแพ้กลับมา ดังนั้นเขาจะต้องระมัดระวังปัญหานี้เป็นพิเศษ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจะต้องจบเรื่องนี้ให้ได้ ผู้อาวุโสได้กล่าวเอาไว้แล้วว่าไม่ต้องสนวิธีการทั้งสิ้น
เมื่อเขาได้รับโอกาสที่ดีเช่นนี้มาแล้ว เขาจะต้องกำมันไว้ให้ให้แน่นที่สุด
…
เรื่องก็คือตระกูลเย่หลางได้ทำให้ชิงสุ่ยและพรรคพวกกลายเป็นที่สนใจไปเสียแล้ว ผู้คนมากมายรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของเขาและเมื่อชิงสุ่ยรับรู้ถึงสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงได้ตัดสินใจดำเนินการทันใด
เปิดตัวหอคอยจักรพรรดิ!
การเปิดตัวหอคอยจักพรรดิจึงมีความกะทันหันขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ ชิงสุ่ยได้เตรียมป้ายและสิ่งต่างๆไว้เนิ่นนานแล้ว รวมถึงการตกแต่งภายในที่เสร็จเรียบร้อย อีกทั้งยังมีบริวารที่เหมาะสมสำหรับร้านค้าแล้ว
สิ่งต่างๆดำเนินไปด้วยดีด้วยเงินทอง ดังนั้นเขาไม่อยู่ในจุดที่ลำบากในการดำเนินงานนัก คนที่เดินทางมาก่อนไม่เพียงแค่รักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่านั้นแต่ยังรวมถึงยารักษาอีกด้วย
คฤหาสถ์ของตระกูลเทียนฮี่อยู่ในจุดทำเลที่ดีและมีผู้คนมากมายเข้ามาเยี่ยมชนงานเปิดตัวของชิงสุ่ย เมื่อชิงสุ่ยได้พบสถานที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีร้านสมุนไพรหลากหลายชนิดเปิดขายในบริเวณใกล้เคียง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชิงสุ่ยสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ชิงสุ่ยเขียนกฏของหอคอยจักรพรรดิไว้อย่างชัดเจน ในวันแรกชิงสุ่ยและหยวนสู่ช่วยกันรักษาคนไข้ ชิงสุ่ยดูแลคนไข้ชายส่วนหยวนสู่เป็นคนดูแลคนไข้หญิง พวกเขาต่างมีห้องส่วนตัวในการรักษา ส่วนงานของอี่หวงกู่หวู๋ก็คือการดูแลให้สถานที่แห่งนี้มีความปลอดภัย อีกทั้งหอคอยจักรพรรดิยังมีการคัดเลือกผู้ฝึกยุทธมาเป็นผู้รักษาความปลอดภัยให้กับคฤหาสถ์อีกด้วย
“หลบไป ใครอนุญาตให้เจ้ามาทำกิจการที่นี่?”
มีน้ำเสียงที่ไม่พอใจดังขึ้นและฝ่ากลุ่มของฝูงชนตรงมาหาชิงสุ่ย
แม้ว่าชิงสุ่ยจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเย่หลาง แต่ผู้คนก็ยังรู้จักเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความสัตย์จริงมีผู้คนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รู้เรื่องของชิงสุ่ย
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะพบกับปัญหาเมื่อเปิดดำเนินการกิจการ
ชิงสุ่ยชะเง้อหน้าขึ้นเล็กน้อยพร้อมมองไปยังกลุ่มชายหนุ่มสิบคนข้างหน้าเขา ผู้คนที่เป็นผู้นำมีรูปร่างอ้วนท้วน คนอ้วนส่วนมากมักให้ความรู้สึกเรียบง่ายและมีความซื่อสัตย์แตกต่างจากชายผู้นี้ เขาไม่ได้ดูเรียบง่ายและมีท่าทีซื่อสัตย์แม้แต่น้อย เขามีท่าทีเย็นชาและไร้ชีวิตชีวา
“เขาคือเจ้าอ้วนหลิงฮู อะไรทำให้เขาเป็นบ้าในวันนี้? เหตุใดเขาชอบมีปัญหากับพวกหมออยู่เรื่อย?”
“เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยของเขาต้องแย่ลงเพราะพวกหมอ ในอดีตเขาเป็นยอดยุทธที่เป็นที่รู้จักที่สุดในตระกูลหลิงฮู ในอดีตเขาไม่ได้อ้วนท้วนขนาดนี้ แต่ดูเขาในตอนนี้สิ” เมื่อกล่าวออกมา ชายผู้พูดถึงกับถอนหายใจ
“ท่านรู้หรือไม่ว่าเขาเจ็บป่วดด้วยโรคใด?”
“ข้าไม่ทราบเช่นกัน ผู้ที่เป็นต้นเหตุล้วนตายไปหมดแล้ว”
ผู้ที่กล่าวถามถึงกับหยุดชะงักและไม่ได้กล่าวอะไรอีก
…
“ข้าไม่ต้องได้รับอนุญาติจากใครเพื่อดำเนินกิจการทั้งสิ้น ได้โปรดอย่ารบกวนการรักษาผู้ป่วยของข้า”
“ใช่แล้ว เขาคือท่านหมอเทวดาและเขาให้การรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในวันนี้”
“ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย? หมอเทวดา? พวกเจ้าเคบพบหมอเทวาคนใดที่ให้การรักษาฟรีเช่นนั้นหรือ? เขาเป็นเพียงนักต้มตุ๋น! นักต้มตุ๋นที่สามารถสังหารผู้คนได้โดยไม่ต้องเสียเลือดแม้แต่หยดเดียว” เจ้าอ้วนตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นพิเศษ
“เจ้าไม่ชอบพวกหมอเป็นเพราะเพียงคนๆหนึ่งได้ทำไม่ดีไว้กับเจ้า และหมอเหล่านั้นที่รักษาเจ้าสมควรได้รับความตาย ถ้าหากข้าเป็นเจ้า ข้าก็จะทำแบบนั้นเช่นกัน” ชิงสุ่ยมองไปยังเจ้าอ้วนและกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เจ้าอ้วนตอบกลับ “เจ้าเป็นใคร? เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?”
ชิงสุ่ยยิ้มออกมา “จริงๆแล้วผู้คนมากมายต่างทราบเรืองพวกนี้อยู่แล้วเพียงแค่พวกเขาไม่พูดออกมา ข้าอยากรู้ว่าเจ้าอยากกลับไปเป็นเจ้าในอดีตอีกหรือไม่?”
ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความสุภาพทำให้เจ้าอ้วนถึงกับตัวสั่น เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไมต้องเชื่อชายหนุ่มผู้หล่อเหลาคนนี้ด้วย อาจเป็นเพราะนักต้มตุ๋นคนนี้พูดย้อนไปยังเรื่องในอดีตถึงความเป็นจริงที่หมอทั้งหลายได้ทำกับเขาไว้ เจ้าอ้วนได้สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวหมอจนกลายเป็นเกลียดชัง อย่างไรก็ตามความต้องการที่มีของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เขาต้องการที่จะปฏิเสธกลับไปแต่ความรู้สึกที่ชิงสุ่ยได้มอบให้ทำให้รู้สึกน่าเชื่อถือ หลังจากที่ได้พบหมอมามากมายไม่เคยมีใครเลยที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจ ยิ่งไปกว่านั้นชิงสุ่ยยังเป็นคนแรกที่ให้การรักษากับคนจนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นเพราะแผ่นป้ายที่เขียนไว้อย่างชัดเจน
แม้ว่าเจ้าอ้วนจะไม่ใช่คนจน เขาก็รู้สึกชมเชยผู้คนที่กล้าทำเช่นนี้ แน่นอนว่าคนๆนี้คงเป็นหมอเทวดาที่ต้องการช่วยคนยากจนจริงๆ ผู้คนทั้งหลายต่างรอคอยหมอที่จะรักษาพวกเขาด้วยจิตใจที่เมตตา เพื่อช่วยคนที่กำลังจะตายหรือได้รับบาดเจ็บ และหมอไม่ควรจะเป็นคนที่ฆ่าผู้อื่นเพียงเพราะแค่ชื่อเสียงของตนเอง
เจ้าอ้วนพยักหน้ารับ
“เช่นนั้นเจ้ากลับไปพร้อมพรรคพวกเสียก่อนและเดินทางมาที่นี่อีกครั้งในภายหลัง เจ้าต้องเชื่อใจในตัวข้า” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสุภาพและไม่ได้สนใจเจ้าอ้วนอีก
เจ้าอ้วนพยักหน้าและเดินจากไป เขาได้กล่าวขอโทษผู้คนที่ได้มีการกระทบกระทั่งกับเขาในก่อนหน้า ผู้คนเหล่านี้ที่ต่างถูกผลักออกไปอยู่รอบนอกตัวเขา
ชิงสุ่ยเห็นด้วยกับการกระทำของเจ้าอ้วน เหตุผลที่ชิงสุ่ยต้องการช่วยเขาเป็นเพราะเขาได้พบกับเรื่องราวต่างๆมามากมาย ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าชายผู้นี้ไม่ใช่คนเลวร้าย เป็นเพราะได้ยินคำพูดต่างๆนาๆจากฝูงชน
ตระกุลหลิงฮูจากเมืองหลวงของมหาทวีปถือเป็นตระกูลที่ทรงพลังเช่นกัน เหตุที่ชิงสุ่ยตัดสินใจรักษาให้เจ้าอ้วนไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนของจากตระกูลหลิงฮู ชิงสุ่ยไม่มีทางก้มหัวให้กับตระกูลใดทั้งสิ้น
ในเวลาไม่นานนักจำนวนผู้ป่วยได้ลดลงไปมาก ในเวลานั้นมีตระกูลหลายตระกูลที่เคยเชิญชวนชิงสุ่ยในก่อนหน้าต่างเข้ามาแสดงความยินดีและมอบของขวัญให้กับชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยต้องการคงระเบียบของหอคอยจักรพรรดิไว้ให้เหมือนกับอาณาจักรอี่หวง แต่เมื่อเขามาตั้งอยู่ในต่างถิ่นแล้ว เขาสร้างข้อกำหนดสำหรับบุคคลที่เขาจะไม่ให้การรักษาเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกอึดอัด
อย่างไรก็ตาม ชิงสุ่ยยังมีข้อกำหนดวางไว้ พวกคนจนถูกต้อนรับเป็นอย่างดีแต่สำหรับคนบางกลุ่มกลับรู้สึกไม่สบายใจกับข้อกำหนดเหล่านี้ เขาจะไม่รักษาให้กับคนรวยที่ไร้เมตตา คนที่มีชือเสียงในทางเลวร้าย คนที่หยิ่งยโส ผู้คนที่ไม่น่าเชื่อถือ ผู้คนที่ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่…
เขาหมายถึงสิ่งใดกับผู้คนที่ไม่น่าเชื่อถือ? และผู้คนที่ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่… หากชิงสุ่ยไม่ต้องการรักษาให้พวกเขา เขาเพียงอ้างว่าทำตัวไม่น่าเชื่อถือหรือไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่ ดังนั้นผู้คนมากมายต่างกล่าวสาปแช่งชิงสุ่ย
“มีเรื่องแบบนี้บนโลกด้วยหรือ? เขาคิดหรือไงว่าตนเองเป็นหมอเทวดาจริงๆ? กลับกันเถอะ ข้าจะไม่สนับสนุนคนเช่นนี้”
“กลับกันเถอะ เจ้าทำตัวราวกับเป็นเทพเจ้า เหตุผลที่พวกเรามาที่นี่เพาะคิดว่าเจ้าเป็นคนดี เจ้าไม่รู้ถึงจุดยืนของตนเองและคิดว่าตัวเองสูงส่งเพียงใด”
“ข้าหวังว่าทักษะทางการแพทย์ของเจ้าจะช่วยแสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมของกฏที่เจ้าตั้งเอาไว้ได้”
…
ผู้คนมากมายต่างเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและความโอหัง ชิงสุ่ยแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรต่อคนรวยและคนที่ถือตัวทำให้ผู้คนมากมายต่างรู้สึกอึดอัด เป็นเพราะพวกเขารู้ตัวว่าตนเองรวยเพียงใดและมีคนหยิ่งยโสในตระกูลตนเองมากมาย อย่างไรก็ตามชีวิตของผู้คนก็ดำเนินไปเช่นนี้ เป็นเรื่องปกติที่คนพวกนี้จะหยิ่งยโสและถือตัว พวกเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากมาย อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ยินคนกล่าวถึงในแง่นี้
พวกเขามีท่าทีต่อต้านต่อกฏที่ชิงสุ่ยได้วางไว้และไม่เดินทางมายังหอคอยจักพรรดิ กิจการที่ดูเหมือนจะคึกคักกลับต้องเงียบงันลงเล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดมันก็มีความต่างกับการเปิดตัวกิจการของตระกุลอื่นๆ
ผู้คนที่ร่ำรวยและผู้คนจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่มักรู้สึกไม่เต็มใจเมื่อทำให้ถูกขายหน้า เมื่อชิงสุ่ยแสดงท่าทีต่อพวกเขาเช่นนี้ ถ้าหากเขายังสนับสนุนชิงสุ่ย พวกเขาจะไม่ได้รับความอัปยศเช่นนั้นหรือ? ดังนั้นผู้คนมากถึงเก้าในสิบส่วนต่างเดินจากไป
ชิงสุ่ยไม่ได้สนใจหรือทุกข์ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ในทางกลับกันเขารู้สึกมีความสุข ผู้คนที่มาแสดงความยินดีต่างได้รับเหรียญจากหอคอยจักรพรรดิ ในอนาคตพวกเขาสามารถนำเหรียญเหล่านี้มารับการรักษาฟรีได้โดยไม่มีเงื่อนไข
แม้ว่าผู้คนจะไม่รู้ถึงค่าของเหรียญในตอนนี้ แต่คงไม่นานนักผู้คนที่เดินทางกลับไปก่อนจะต้องแสดงถึงความเสียใจ และในเวลาต่อมา เหรียญเหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งล้ำค่าและไม่มีใครต้องการที่จำนำมันออกมาขาย
ในเวลานั้นเจ้าอ้วนปรากฏตัวขึ้นเพียงคนเดียว เขาไม่ได้จากไปแต่กลับรออยู่ห่างๆ ชิงสุ่ยรู้เรื่องมาสักพักแล้ว
“ท่านหมอ ตอนนี้ท่านยังไม่ว่างใช่หรือไม่”หลิงฮูตุ่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย
“มาสิ เข้ามาข้างในก่อน”
“ชิงสุ่ยปิดประตูหอคอยจักรพรรดิและเดินเข้าไปข้างใน”
เมื่อชิงสุ่ยกำลังเดินเข้าไปก็ได้คิดถึงเกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง ถ้าหากผู้ชายไม่มีความมุ่งมั่นมากพอก็ไม่ควรได้รับอะไรดีๆต่อตนเอง นี่เป็นวิธีทดสอบเจ้าอ้วนหลิงฮู
เส้นลมปราณเทียนหยางของเขาได้รับความเสียหาย!
คำพูดของชิงสุ่ยทำให้หลิงฮูตุ่ยสั่นสะท้าน เป็นเพราะเขารู้ถึงสภาพของตนเองดี เขากลัวชิงสุ่ยจะกล่าวว่าอาการของเขาไม่สามารถรักษาได้