ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1385 – ชิงสุ่ยก็สามารถฝึกฝน ทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม รูปแบบนกหงษ์เพลิง กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต ตระกูลเฉ่
ไม่ว่าเขาจะได้รับพลังอะไรมา แต่เพื่อยืนหยัดในเมืองหลวงแห่งนี้ เขาต้องมีพลังที่แข็งแกร่ง หรือทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญการรักษา ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ค่อยดีกับหอคอยจักรพรรดิ และเขากลายเป็นเป้าหมายของคนมีอิทธิพลเสียแล้ว
และไม่แน่ว่าตระกูลเย่หลางอาจพยายามโจมตีเขาอีกครั้ง
เขาสามารถสานสัมพันธ์กับตระกูลหลิงฮู ได้ค่อนข้างดี แต่ชิงสุ่ยได้คาดหวังให้พวกเขาต้องทำอะไรเพื่อตัวชิงสุ่ย ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นเขาจึงค่อยขอความช่วยเหลือ
สำหรับตระกูลเฉ่ ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่าเขาควรวางตัวอย่างไร หากตัดสินจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเป็นผู้ปกครองในกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำ ก็ถือว่าตระกูลของพวกเขานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หรืออาจจะผู้ฝึกตนที่เก่งกาจอยู่ในตระกูลเฉ่
คนที่เป็นปัญหาคือคนจากตระกูลย่อยในตระกูลเฉ่เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็คือตระกูลเฉ่ ถ้าตระกูลเฉ่ สามารถควบคุมคนของตนได้ คนพวกนั้นก็คงไม่สามารถแสดงท่าทีหยิ่งยโสเช่นนี้ได้
สำหรับคนที่ป่วยหรือบาดเจ็บ ชิงสุ่ยก็รักษาพวกเขา เพราะพวกเขาทำตามกฎของหอคอยจักรพรรดิ ไม่ได้ฝ่าฝืนกฏเช่นตระกูลเฉ่
ดังนั้นคงจะต้องมีบ้างที่ชิงสุ่ยปฏิเสธ เพราะในอนาคตเขายังต้องเจอเรื่องราวอีกมาก ดังนั้นจึงต้องปฏิเสธไปอย่างเช่นเหตุการณ์ในวันนี้
……
ตอนนี้ชิงสุ่ยเชี่ยวชาญ ทักษะร้อยปักษาบูชาหงส์ ทักษะนี้ไม่มีระดับขั้นของพลัง และเขาสามารถใช้พลังนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่นานมานิ้ชิงสุ่ยพยายามเรียนทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม แม้จะไม่เชี่ยวชาญในเรื่องดนตรี ชิงสุ่ยตัดสินใจฝึกหลังจากเขาเห็นรูปแบบการต่อสู้ของรูปแบบหงษ์เพลิง และเขาคิดว่าทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหลวนหลวนเลย
เมื่อชิงสุ่ยมีโอกาสได้รู้จัก เขาก็ไม่อยากละทิ้งทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ แม้จะเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อยที่ชายหนุ่มจะต้องเล่นพิณแต่ชิงสุ่ยก็ไม่คิดมาก
พิณห้าสายและพิณเจ็ดสายของรูปแบบหงษ์เพลิงนั้นเรียบง่ายแต่ก็ไพเราะ ซึ่งทุกคนสามารถเล่นได้
เขานั่งอยู่อากาศในขณะที่พิณห้าสายลอยอยู่ตรงหน้าเขา ถ้าทำเช่นนี้ได้ในโลกก่อนหน้า เขาคงกลายเป็นนักมายากลไปแล้ว ไม่ก็กลายเป็นพระเจ้าไปแน่ ๆ แต่สำหรับที่นี้ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
ชิงสุ่ยหลับตาทั้งสองข้างและเริ่มเล่นดนตรีพร้อมกับพิณห้าสาย และเมื่อทำเช่นนั้น บรรยากาศสบาย ๆ ค่อย ๆ แผ่ไปในอากาศ คนที่ได้ยินเสียงดนตรีนี้อาจสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่อ้างว้าง พวกเขาอาจรู้สึกเหมือนตัวเองใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวมานานกว่าพันปี จนเขาไม่อาจอดกลั้นความเหงาที่อยู่ภายในใจ
เคล้ง!
เสียงดนตรีดังขึ้น พลังบางอย่างเหมือนกับตอนแรกแผ่ออกมารอบ ๆ จนทั่วบริเวณ เป็นความรู้สึกหนักแน่น ราวกับมีพลังของบุรุษและม้านับพันตัวปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า เป็นกองทัพปราณกำลังปะทะกันอยู่กลางอากาศ พวกเขาโจมตีและทำลายแขนขาของฝ่ายตรงข้ามจนกลิ่นเลือดคลุ้งไปทั่วอากาศ บทเพลงที่หนักหน่วงนี้ปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้ของทุกคนขึ้นมา ราวกับทั่วร่างของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง เป็นพลังที่อาจผ่าสวรรค์ออกจากกันและกำจัดคู่ต่อสู้ทั้งพันคน
……
ชิงสุ่ยเริ่มชอบทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม โดยไม่รู้ตัว ช่างเป็นทักษะที่สง่างาม และเขาสามารถสังหารศัตรูได้อย่างเงียบ ๆ ชิงสุ่ยเพิ่งสังเกตเห็นคุณสมบัติข้อนี้
ทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม มีความเกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณ ยิ่งพลังวิญญาณแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไร ความสามารถในการควบคุมการโจมตีของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น หากชิงสุ่ยสามารถฝึกสำเร็จจนพลังวิญญาณของเขาเป็นหนึ่งเดียว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยิ่งรุนแรงมาก
เมื่อชิงสุ่ยมีเวลา เขาเริ่มทบทวนรูปแบบหงษ์เพลิง เขาประหลาดใจที่ค้นพบทักษะใหม่อีกหนึ่งทักษะ.
กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต!
ชิงสุ่ยมองทุกอย่างคร่าว ๆ นี่ไม่ใช่ทักษะต่อสู้ธรรมดา แต่ใช้สำหรับการต่อสู้ระยะประชิด ประการแรก กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตใช้เพื่อทำลายเส้นเลือด ลมปราณและจุดฝังเข็มของร่างกายมนุษย์ เป็นทักษะที่ใช้ต่อสู้กับเกราะอสูรสำแดงและคู่ต่อสู้ที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งหรือแข็งแกร่งกว่าตัวผู้ใช้
ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก
อีกทั้งกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตต้องการร่างกายที่ค่อนข้างพิเศษ ถ้าผู้ใช้ไม่สามารถสู้ระยะประชิด กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยมีย่างเก้า 9 เทวา เขาจึงได้เปรียบเรื่องความเร็ว
เมื่อยังมีเวลา ชิงสุ่ยเริ่มฝึกฝนกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต และทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม เขาตระหนักว่าความเร็วในฝึกฝนเคล็ดวิชาเลียนแบบสัตว์ 9 อสูรเร็วขึ้น อาจเป็นผลจากการรับพลังมา อีกทั้งชิงสุ่ยยังมีดินแดนหยกยุพราชอมตะ ดังนั้นการฝึกฝนทักษะนี้จึงเป็นเรื่องง่ายของชิงสุ่ย
โดยปกติแล้ว กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตมีเพียงแค่ 6 ทักษะ อย่างแรกคือการโจมตีโดยตรงทั่ว ๆ ไป การโจมตีนี้ทำให้เกิดความเสียหาย 2-3 เท่าจากพลังพื้นฐานของผู้ใช้ ทั้งยังมีแรงกดดันมหาศาลที่ออกมาจากนิ้วมือ ซึ่งสร้างความเสียหายให้ฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่าตัวมันได้ อย่างที่สองคือการโจมตีจุดฝังเข็ม จุดฝังเข็มกระจายอยู่ทั่วไปตามร่างกายของมนุษย์ โดยแต่ละจุดมีหน้าที่ต่างกันไป เมื่อจุดฝังเข็มที่อันตรายต่อชิวิตถูกโจมตี พลังทำลายล้างของ กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ถึงอย่างนั้นผู้ฝึกตนมากมายมีวิธีปกป้องจุดฝังเข็มของพวกเขา อย่างเช่นผู้ฝึกตนบางคนสามารถเคลื่อนย้ายจุดฝังเข็มของเขาได้
ทักษะที่สามคือการโจมตีลมปราณ โดยการตัดขาดการเชื่อมต่อของลมปราณเป็นระยะเวลาช่วงหนึ่ง
ทักษะที่ 4 เป็นการโจมตีอวัยวะ เป็นการโจมตีสำหรับมนุษย์โดยเฉพาะ เป็นการสร้างความเสียหายจากภายใน
ทักษะที่ 5 เป็นการโจมตีเส้นเลือดในร่างกาย เป็นพลังสำหรับทำลายเส้นเลือดของศัตรู
ทักษะที่ 6 คือการโจมตีจุดสำคัญของชีวิต การทำลายจุดสำคัญที่อันตรายถึงชีวิต มีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ฝ่ายหมดสติ
ชิงสุ่ยพอใจหลังจากเห็นความสามารถของกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต เขาน่าจะฝึกฝนจนเชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างนั้นตัวทักษะเองยังคงซับซ้อน แม้จะดูเรียบง่ายเหมือนปลายนิ้วเดียวแต่เมื่อลองทำดูนั้น ความจริงแล้วมันยากกว่าที่คิด
ชิงสุ่ยนึกถึงหมอนเพราะเขาเริ่มง่วงนอน หลังจากพบกับ ตระกูลเฉ่ แม้ เคล็ดวิชาสรวงสวรรค์วชิระ อาจจะไร้ประโยชน์ที่จะนำมาต่อสู้กับพวกเขา ความอดทนของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง พลังการป้องกันของเขาเพิ่มขึ้นสามเท่า ความเร็วของเขาก็แข็งแกร่ง และด้วยรองเท้าเสริมความเร็วอย่าง วชิระไร้เงายิ่งทำให้พลังนั้นน่ากลัว สิ่งเดียวที่เขาขาดไปคือทักษะต่อสู้ที่ทำให้บาดเจ็บถึงตายเพราะ ทักษะวชิระจู่โจมสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว แต่ตอนนี้ด้วยการผสานพลัง กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตและย่างก้าว 9 เทวา และ วชิระไร้เงาการรวมพลังนี้จะต้องแข็งแกร่งมาก
กรงเล็บแรก เป็นทักษะที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ แม้จะเรียบง่ายแต่ก็น่ากลัว เขาสามารถผสมผสานพลังด้วยพลังที่เขามี
ผ่านไปไม่นาน ชิงสุ่ยก็เชี่ยวชาญทักษะพื้นฐานของ กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต เนื่องจากทักษะของนิ้วอื่นๆ นั้นเกี่ยวข้องกับทักษะพื้นฐาน ดังนั้นชิงสุ่ยจึงใช้เวลาฝึกกรงเล็บแรกมากที่สุด
ซึ่งในตอนนี้ชิงสุ่ยก็เริ่มใช้กรงเล็บที่สอง ซึ่งจะโจมตีจุดฝังเข็มต่าง ๆ
เวลาใกล้หมดแล้ว ชิงสุ่ยแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ เวลานี้ยังไม่รุ่งสาง ชิงสุ่ยภาวนาให้วันนี้เป็นวันที่สงบสุข
เขาใช้เวลาสอนกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตให้หญิงสาวทั้งสอง โดยเริ่มจากกรงเล็บแรก ก่อนเขาจะเริ่มแก้ไขทีละจุดของการเคลื่อนไหว นอกจากนั้นทักษะหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจม ยังดีกว่าของหญิงสาวทั้สอง ชิงสุ่ยสามารถวิเคราะห์ความสามารถของทั้งสองได้
หลังจากเรียนรู้ได้ไม่นาน หญิงสาวก็เริ่มปวดหัว แม้ทั้งสองจะเริ่มเรียนทักษะนี้ก่อนหน้าชิงสุ่ย พวกเธอจึงคิดว่าความรู้ของตัวเองนั้นนำชิงสุ่ยอยู่ ทว่าพวกเธอกลับต้องตกใจเมื่อเห็นว่าชิงสุ่ยนำหน้าพวกเธอไปมากเพียงใด
แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือลูกสาวของชิงสุ่ยนั้นเชี่ยวชาญทักษะนี้เสียยิ่งกว่าชิงสุ่ยด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้หญิงสาวทั้งสองรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ชิงสุ่ยรู้สึกว่ากรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต เหมาะกับเขามาก เพราะอาวุธของเขาตอนนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในจุดตันเถียร ดังนั้นถึงจะไม่ถืออาวุธในมือแต่ก็เหมือนเขาถือมันอยู่ ดังนั้นเขาสามารถใช้พลังได้ โดยการขยับข้อมือและนิ้วมือ ชิงสุ่ยก็สามารถใช้พลังเช่นเดียวกับพันค้อนกัมปนาทด้วยข้อมือของเขา
ตระกูลหลิงฮู เข้าร่วมหอคอยจักรพรรดิ ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่ด้วย”บัตรเชิญ” ใครจะเข้ามาก็ได้ โดยคนผู้นั้นจะต้องเป็นที่จดจำของหอคอยจักรพรรดิ
แม้ว่า‘ทางเข้า’มายังหอคอยจักรพรรดินั้นสูงมากและคนมากมายกล่าวว่าที่นี้ดูแลแต่คนมีเงินและดูแคลนคนยากจน ดังนั้นการรักษาโดยไม่คิดเงินที่หอคอยจักรพรรดิ ให้บริการทุกสิบวันนั้น จึงทำให้คนพวกนั้นเงียบปากได้ เพราะในความจริงแล้ว หอคอยจักรพรรดิ ได้แจงรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าคนประเภทใดที่พวกเขาไม่สามารถรักษาได้
ในวันนั้น มีข่าวว่าเฉ่ จง แห่งตระกูลเฉ่ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเขาคือหัวหน้าตระกูล หนึ่งในตระกูลย่อยของ ตระกูลเฉ่ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งท่ามกลางตระกูลย่อยของตระกูลเฉ่ ดังนั้นตระกูลของเขา จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของตระกูลเฉ่ จนเป็นเหตุให้ เฉ่ หลาง ทำตัวอวดดี และที่เขามาหาชิงสุ่ยเมื่อวันก่อนก็คงจะเพราะเรื่องนี้
ตราบเท่าที่เฉ่ จงยังมีชีวิต ตระกูลย่อยนี้ก็ทำตัวเป็นใหญ่ได้ไม่สิ้นสุด แต่เมื่อไร้เขา ก็คงไม่มีใครกล้ารังแก ตระกูลเฉ่ ทว่าลำดับของพวกเขาอาจจะตกลง ไม่แน่ว่าหลังจาก 10 ปีหรือ 100 ปี ตระกูลย่อยนี้อาจจะหายไปจากตระกูลเฉ่เลยก็เป็นได้
ตระกูลเฉ่ เป็นตระกูลใหญ่ ถึงอย่างนั้นตระกูลย่อยของพวกเขาก็ไม่อาจคงอยู่ได้ตลอดกาล เพราะเมื่อแต่ละตระกูลย่อยมีรุ่นใหม่ๆ กำเนิด ก็จะมีเพียงตระกูลย่อยที่แข็งแก่งเท่านั้นที่ยังสังกัดอยู่ใน ตระกูลเฉ่ คนที่อ่อนแอก็จะค่อย ๆ ออกไป ความจริงนั้นทุก ๆ รุ่น มักจะมีหนึ่งคนที่เริ่มตั้งตัว แต่งงานและออกไปสร้างตระกูลของตัวเอง หรือบางคนก็แต่งงานกับตระกูลหลัก เพื่อรักษาสายเลือดของ ตระกูลเอาไว้ และเมื่อพวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลัก คนบางคนก็หวังจะเป็นผู้นำตระกูล ซึ้งตระกูลเก่าแก่ส่วนมากก็มักจะเป็นเช่นนี้ นี้คือสังคมที่มีแต่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับและเคารพ และด้วยเหตุนี้สายเลือดแห่งตระกูลเฉ่ก็จะดำรงต่อไป..
การตายของเฉ่ จงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับชิงสุ่ย และถึงแม้พวกเขาอาจจะสร้างปัญหาให้ชิงสุ่ย พวกเขาก็คงยังไม่มาในเร็ว ๆ นี้ เฉ่ หลางถูกชิงสุ่ยจัดการจนเสียฟันไปซี่หนึ่ง ดังนั้นจะต้องมีใครบางคนมาที่นี้เพื่อแก้แค้นแทนเขา
วันเวลาผ่านไปในพริบตาเดียว ก็ล่วงเลยมาแล้ว 3 วัน ชิงสุ่ยพยายามปรับตัวเพื่อฝึกฝน 4 กรงเล็บแรกของ กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาต ถ้าเป็นไปตามที่ชิงสุ่ยคิด ก็น่าจะเป็นเวลาปีครึ่ง การพัฒนาของหญิงสาวทั้งสองนั้นค่อนข้างช้า แต่เมื่อพวกเธอเห็นพลัง กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตที่ชิงสุ่ยแสดงให้ดู พวกเธอก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะฝึกฝนทักษะนี้ รวมถึงย่างก้าว 9 เทวา
……
ในตอนนั้นเสียงโหวกเหวกดังขึ้นจากชั้นล่าง ชิงสุ่ยยิ้มอย่างเยือกเย็น เขากระโดดลงมาจากชั้นบนทันที
อย่างที่คิด..ด้วยความใจร้อนของ ตระกูลเฉ่ ..ในที่สุดพวกเขาก็ปรากฏตัว
“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรักษาโรค แล้วเจ้ากล้าเรียกตัวเองว่าหมอได้อย่างไร!!!? พวกเราฆ่ามันให้หมด! รวมถึงพวกที่เกะกะด้วย” ชายผมสั้นวัยกลางคนพูดเสียงดัง
“สถานที่แห่งนี้มีไว้รักษาคนป่วย แล้วทำไมเจ้าต้องทำลายที่นี้ล่ะ?”
เสียงของชิงสุ่ยดังมาจากด้านหลัง
ผู้บุกรุกมีจำนวนนับร้อย และชั้นหนึ่งก็ถูกทำลายจนราบคาบ..
ชายวัยกลางคนหันมามองชิงสุ่ย เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาค่อนข้างดี เขาสวมชุดสีม่วงอ่อนที่ดูมีฐานะ แต่คิ้วและดวงตาของเขานั้นเฉียบคม จนใบหน้าของเขาไม่น่าภิรมย์
เมื่อเห็นชิงสุ่ย เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง “เจ้ากำลังต่อว่าพวกเรางั้นสิ?”
ชิงสุ่ยถอนหายใจในใจ “เลิกพูดคำว่า ตระกูลเฉ่ สักครั้งไม่ได้หรือ? ถ้ายังไม่หยุด..ข้าจะทำให้คำพวกนั้นหลุดมาจากพวกเจ้าไม่ได้อีกตลอดกาล”
“โอหัง! กล้าดีไม่เบาทีเดียว ก่อนหน้านี้เจ้าก็ทำร้ายคนของ ตระกูลเฉ่ ดังนั้นก็เตรียมตัวให้ดีเถอะ!”
ชิงสุ่ยรู้สึกตลก เมื่อพวกเขายังคงเน้นคำว่าตระกูลเฉ่ไม่เลิก ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าพวกเขามาจาก ตระกูลเฉ่ พวกเขาดูตั้งใจเกินไป จนชิงสุ่ยเริ่มแปลกใจว่าพวกเขาเป็นคนในตระกูลเฉ่ จริง ๆ หรือไม่
ตูมมมม!
เสียงกรีดร้องและเสียงระเบิดดังติดต่อกัน คนในหอคอยจักรพรรดิปลิวออกไปจากตึกด้วยสภาพเลือดกบปาก ก่อน อี่หวง กู่หวู๋ และ หยวน สู่ จะออกมา