บทที่ 1496 – ตระกูลฮั่วที่ไม่พึงพอใจ
มันคือเป็นแผนที่สมบัติจริงๆ ซึ่งทำให้ชิงสุ่ยนั้นตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันไปหาซี่เหว่ย คุน แผนที่สมบัติในเก้าทวีปนั้นมีความลึกลับอย่างมาก นอกจากนี้มันยังเป็นลายแทงที่จะนำไปสู่สมบัติที่ยากจะคาดคิดเอาไว้ได้อีกด้วย
“นี่เป็นแผนที่สมบัติที่พวกเราพึ่งได้รับมา แต่ตอนนี้พวกเรากำลังวางมือออกจากธุรกิจนี้แล้ว เนื่องจากมันนั้นอันตรายเกินไปและมีความเสี่ยงที่สูงมาก แต่ท่านแตกต่างจากเรา แม้ว่าตระกูลซี่เหว่ยนั้นจะแข็งแกร่งในหลินห่าย แต่เอาจริงๆแล้วเราก็มีคนที่มีความสามารถเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับขุมกำลังหลักของเรา เราก็คงจะไม่เหลืออะไรเลยก็กว่าได้ แต่สำหรับท่านในฐานะหมอแห่งปาฏิหาริย์ ข้าเชือว่าจะมีผู้คนมากมายที่ยินดีช่วยเหลือท่าน”
คำพูดของซี่เหว่ย หลุนนั้นมีความกระชับและชัดเจน และสามารถอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ได้ดี ในขณะที่ชิงสุ่ย ยิ้มและเปิดแผนที่ขุมทรัพย์เพื่อดูรายละเอียดข้างใน
เทือกเขาคุนเผิง เป็นเทือกเขาที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่ๆอันตรายและน่ากลัวที่สุดในบริเวณนี้ มีผู้บ่มเพาะมากมายที่ออกสำรวจมันแต่ก็ไม่เคยได้กลับมาก นอกจากนี้มันยังเป็นที่อาศัยของอสูรบรรพกาลคุนเผิงมาก่อน ดังนั้นจึงได้มีคนเรียกเทือบเขาแห่งนี้ว่าเทือกเขาคุนเผิง
คุนเผิงนั้นเป็นอสูรบรรพกาลที่มีตัวตนอยู่ ไม่ต่างจากมังกรบรรพกาล หรือวิหกเพลิงที่แท้จริง ในก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยนั้นเคยได้อ่านและพบเจอกับตำนานของคุนเผิงมากมาย แต่ก็สามารถสามารถจินตนาการณ์ถึงตัวตนที่แท้จริงของมันได้ แต่หลังจากที่ชิงสุ่ยได้พบเจอกับมังกรอสุราที่มีขนาดหลายพันเมตรมาแล้ว ทำให้เขาสามารถคาดเดาถึงภาพลักษณ์ของมันได้ มันทำให้เขารู้ได้ในทันว่ามันนั้นเป็นอสูรบรรพกาลที่มีขนาดใหญ่มากๆชนิดหนึ่ง
ซึ่งสมบัติดังกล่าวนั้นก็ผู้ซ่อนเอาไว้ในหุบเขาแห่งนี้ ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถคาดเดาได้ว่าตระกูลซี่เหว่ยต้องเคยส่งคนของพวกเขาไปค้นหามันมาก่อน แต่ล้มเหลว นั้นจึงทำให้พวกเขาถอดใจอย่างทุกๆวันนี้ เพราะไม่มีใครที่จะสามรถทนต่อแรงดึงดูดของสมบัติได้ และเป็นเรื่องยากที่จะยกมันให้กับคนอื่นๆ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยไม่ได้กังวลเกี่ยวกับรายละเอียดดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในที่แห่งนั้น หากบังเอิญเขาได้พบเข้ากับสมบัติแห่งพระเจ้าเข้าอีกชิ้นหนึ่งมันจะทำให้เขานั้นแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้
ชิงสุ่ยเก็บแผนที่สมบัติเข้าไปในดินแดนหยก ก่อนที่ยิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าน้อยก็จะไม่เกรงใจแล้ว”
“นี่เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องตอบแทบท่านคุณชายชิง นอกจากนี้ถ้าคุณชายชิงมีความจำเป็นให้ตระกูลของเราช่วยเหลืออะไร ท่านสามารถบอกได้ในทันที พวกเรายินดีที่จะช่วยเหลือท่านในทุกๆเมื่อ โดยที่เราจะไม่ปฏิเสธ “ตอนนี้ตระกูลซี่เหว่ยได้แสดงจุดยืนของพวกเขาออกมาอย่างชัดเชน การเป็นสหายกับชิงสุ่ยนั้นคือผลที่พวกเราหวังไว้มาตั้งแต่ต้น
ชิงสุ่ยยิ้มพยักศีรษะของเขาก่อนที่จะจากไป นี่คือความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันตราบเท่าที่พวกเขาสามารถที่ใช้ประโยชน์จากอีกฝ่าย นี่คือความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ
……
ตอนนี้อำนาจของหอคอยจักรพรรดิได้ขยายไปทั่ว นอกจากนี้กิจการของพวกเขานั้นก็ได้การเป็น ธุรกิจหลักของเมืองหลินห่าย มีผู้คนจากทั่วทิศทางมากมายเข้ามาใช้บริการที่แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ทำให้หอคอยจักรพรรดินั้นเป็นสถานที่ๆไม่เคยหลับใหล
ถึงแม้อาหารของชิงสุ่ยนั้นจะไม่ได้ผสมสารเสพติด แต่ก็มีผู้คนมากมายที่โหยหามัน นอกจากนี้มันนั้นยังมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บ่มเพาะ จึงทำให้ความต้องการของพวกมันนั้นมีมาอย่างไม่สิ้นสุด ราวกับผู้ชายที่โหยหาหญิงสาวตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ เนื่องจากการควบคุมของชิงสุ่ย ทุกๆคนนั้นจะได้รับอาหารและราคาที่เท่าเทียบกัน ทำให้ที่แห่งนี้ เป็นที่มีกระทั้งผู้คนรวยและคนทั่วไปนั้นผสมอยู่ เข้าด้วยกัน
ด้วยอำนาจที่เพิ่มขึ้นทำให้ตระกูลฮั่วและตระกูลเฉิงนั้นไม่พอใจอยู่ลึกๆ โดยที่พวกเขาแอยติดต่อกันเพื่อพูดคุยเรื่องดังกล่าว
“พี่เฉิงหยวน ท่านคิดยังไงกับการเติบโตของหอคอยจักรพรรดิ ตอนนี้มันทำให้ธุรกิจต่างๆของเราได้รับผลกระทบอย่างหนัก”ชายชราคนหนึ่งจากตระกูลฮั่วกล่าวออกมา
“การเติบโตของพวกเขิ เป็นอะไรที่พวกเราไม่สามารถรับมือได้และไม่สามารถหลักเลี่ยงได้เช่นเดียวกัน น้องฮั่ว ตอนนี้เราทำได้แค่ต้องทนๆไปก่อน”ชายชรากล่าวและถอนหายใจ
“อดทนรึ นี่ข้าก็ทนมามากพอแล้วที่มันมาทำกับลูกหลานของข้า นี่ท่านยังให้ข้าต้องทนต่อไปอีกอย่างนั้นรึ แล้วข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันละ? ”ชายชราจากตระกูลฮั่วกล่าวด้วยความโกรธ
“ข้ารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เจ้าไม่อยากได้ยิน ยิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนของเจ้าอีกด้วย แต่นี่ก็เป็นทางออกเดียวที่เรามีในตอนนี้!”เฉิงหยวนกล่าวออกมา
“ข้าไม่พอใจมัน ท่านต้องช่วยข้า!”ชายคนนั้นมองไปที่เฉิงหยวนอย่างไม่พอใจ
“ถ้าเช่นนั้นเราต้องหาใครสักคนที่มาจัดการกับเรื่องพวกนี้แทนพวกเรา”
“ยืมมือคนอื่น อย่างนั้นรึ?”
“ถูกต้องแล้ว!”
“ถ้าเป็นองค์ชายหลาง หลินเฟิงละ เขานั้นเป็นคนที่หยิ่งทะนงและมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทุกๆครั้งที่เขาได้ยินว่ามีใครแข็งแกร่งกว่าตนเองเขาจะทำลายอีกฝ่ายจนพินาศ หากเราสามารถใช้เขาได้ เราจะสามารถจัดการกับปัญหานี้โดยที่เราไม่ต้องลงมืออะไรเลย ยิ่งไปกว่านี้เรายังสามารถกำจัดตระกูลหลางและหอคอยจักรพรรดิไปได้ในตัว แต่หากมีอะไรผิดพลาดมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเราถูกมั้ย?”
“แล้วเราควรทำอย่างไรเพื่อให้พวกเขาต่อสู้กันละ?” ชายชราคนหนึ่งถาม
“หลาง หลินเฟิงนั้น ชอบซีฉีชาอย่างมาก ถ้ามีใครกล้าเข้าใกล้เธอเพียงเล็กน้อย จะถูกหลาง หลินเฟิงเล่นงานทันที ตรงกันในตอนนี้พ่อของเธอนั้นกำลังได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคแปลกประหลาดมาเป็นเวลานานแล้ว แล้วตอนนี้ถ้าท่านสามารถโน้มน้าวให้ตระกูลซีฉีเชิญชายหนุ่มผู้นั้นไปรักษาเขา ซีฉีชาจะต้องรู้สึกขอบคุณเจ้าหนุ่มนั้นอย่างแน่นอน ดีไม่ดีเขาอาจตกหลุมรักในความงามของเธอ ที่นี้แหละหลาง หลินเฟิงก็คงมิอาจทนนิ่งเฉยได้ “เฉิงหยวนกล่วออกมาราวกับมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
“ข้าเจ้าใจแล้ว นั้นข้าขอลาไปเตรียมตัวก่อน”
“เจ้าต้องทำให้แน่ใจนะว่าตระกูลหลางจะประทะกับหอคอยจักรพรรดิอย่างแน่นอน ทีนี้ทุกๆอย่างของหอคอยจักรพรรดิและตระกูลหลางจะตกเป็นของเรา”เฉิงหยวนกล่าวเตือนเขา
“ข้ารู้ดีท่านพี่ว่าจะทำอะไรในตอนนี้ ขอให้พี่เฉิงหยวนมั่นใจได้!”
ชายชราคำนับให้เขาก่อนจะจากไป
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้หลงลืมไปแล้วว่าเขานั้นยังมีภัยร้ายที่แอบซ่อนอยู่ แต่ถึงอย่างไรสำหรับชิงสุ่ยมันไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
ตอนนี้หอคอยจักรพรรดิได้กลายเป็นที่นับถืออย่างมาก พวกเขาทำการรักษาคนที่ได้รับบาดเจ็บและช่วยชีวิตผู้คนมากมายจากความตาย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังช่วยเหลือผู้คนอื่นๆโดยไม่หวังผลกำไร ยิ่งทำให้พวกเขาเป็นที่เคารพและรักอย่างมาก
แต่ถึงอย่างไรก็มีผู้คนมากมายที่ต้องการหาผลประโยชน์จากพวกเขา แต่อย่างไรก็ตามด้วยความสามรถและทักษะของชิงสุ่ยทำให้ชิงสุ่ยนั้นสามารถวิเคราะห์และแยกแยะได้ว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดีทำให้ไม่มีใครเลยที่สามารถเข้ามามาหลอกและหวังผลประโยชน์จากเขาได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมาชิงสุ่ยไม่ได้ออกจากเมืองสักครั้งเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่ได้แตะต้องแผนที่สมบัติเลยแม้แต่น้อย นั้นเพราะเขารู้ดีว่าเขายังไม่พร้อมที่จะออกค้นหามัน เขายังจำเป็นต้องหาคนอื่นๆอีกมาที่มาสนับสนุนก่อน ถึงแม้เขาจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นในเมืองหลินห่าย แต่ก็ไม่ใช้ว่าใครๆจะต้องการร่วมมือกับเขา
ในวันนี้ชิงสุ่ยกำลังเล่นกับเด็กน้อย เธอเป็นลูกสาว ของหญิงสาวที่ชิงสุ่ยได้ช่วยเอาไว้
“ท่านลุง นั้นอะไรเหรอ?” เด็กสาวชี้ไปที่อะไรแปลกๆบนต้นไม้
ดวงตาที่สวยงามและบริสุทธิ์ของเธอทำให้ ชิงสุ่ยรู้สึกสงบและยังทำให้เขานึกถึงลูกๆของเขาอีกด้วย “นั่นคือนกระเรียนขาว”
“ทำไมมันถึงอยู่ด้านบนของต้นไม้ละ?”
“เพราะมันสามารถบินได้นะสิ”
“แล้วท่านลุงบินได้รึไม่?”
……
เด็กน้อยคนนี้ยังคงอยู่ในช่วงการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกทุกอย่างจะงอนความอยากรู้อยากเห็นของเธอเธออยากรู้ทุกอย่างเธอเป็นเหมือนกระดาษแผ่นเปล่าที่จำเป็นต้องเป็นคนไร้ศักดิ์ศรีคนรอบข้างต้องใช้ความอดทน อธิบายทุกอย่างให้เธอ
“พี่ใหญ่มีคนข้างนอกมาหาท่านอยู่ พวกเขาบอกว่ามาจากตระกูลซีฉี”
“ตระกูลซีฉี?” ชิงสุ่ยเริ่มสงสัยว่าทำไมตระกูลซีฉีนั้นถึงมาหาเขาได้ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับความสามารถของเขาในการทำอาหารหรือความสามารถในการรักษาของเขา
ตระกูลซีฉีนั้นเป็นหนึ่งใน5ผู้นำของเมืองหลินห่าย พวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลดังเดิมที่ก่อตั้งเมืองแห่งนี้ขึ้นมา จึงเป็นที่รู้จักไปทั่ว
ถึงอย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็ไม่ได้กลัวพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ด้วยความสามารถที่ชิงสุ่ยมีเขาสามารถจะทำอะไรก็ได้ในตอนนี้
“ข้าจะไปหาพวกเขา” ชิงสุ่ยยิ้มออกมา
“ท่านแน่ใจนะ ถ้าท่านไม่ต้องการเจอพวกเขา ข้าจะออกไปบอกพวกเขาว่าท่านไม่อยู่ที่นี้ ดีหรือไม่ ? “เธอกล่าวออกมา หลังจากที่คิดมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง .
“ผ่อนคลายเถอะ พี่ชายของเจ้าไม่ใช่คนที่จะสามารถมาต่อกรได้ง่ายหลอกนะ? ไม่มีใครสามารถทำอะไรข้าได้หรอก “ชิงสุ่ยหัวเราะ
“ก็จริงของท่าน เป็นพวกเขานั้นต้องเป็นคนที่หวาดกลัวท่านมากกว่า” เธอหัวเราะออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เสน่ห์ของเธอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ชิงสุ่ยส่ายหน้าก่อนเดินไปที่ลานด้านหน้า