บทที่ 1302 – การเคลื่อนย้ายด้วยธงสวรรค์ปัญจธาตุที่น่าอึดอัดใจ
“โอ๊ะ ข้าเคยไปที่มหาทวีปดารานภาลัย ทำไมท่านถึงย้ายออกมาหล่ะ?”
ชายชราคนนี้คือหลิงเสี่ยวผู้นำตระกูลหลิง เมื่อชิงสุ่ยได้ยินชายชราพูดถึงมหาทวีปดารานภาลัย สิ่งแรกที่เขานึกถึงคือตระกูลถานท่าย มันเป็นเพราะตระกูลถานท่ายยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชิงสุ่ยในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเคยไปที่ตระกูลถานท่ายมาก่อน เทือกเขาปู๋โถวใน 5 มหาทวีปเป็นเพียงสาขาหนึ่งของเทือกเขาปู๋โถวในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก มิหนำซ้ำชิงสุ่ยยังได้รับธงสวรรค์ปัญจธาตุมาจากผู้นำเทือกเขาปู๋โถวของมหาทวีปอู่เซียตะวันตก
นอกจากนี้ชิงสุ่ยยังนึกถึงเย่กู่หยาน หญิงผู้ทะนงตนและโดดเดี่ยว เขาคิดถึงหญิงสาวตัวน้อย เขาเป็นคนที่ส่งเธอไปหาเย่กู่หยานด้วยตัวเอง เขาได้ช่วยเหลือตระกลูเย่แก้ไขสถานการณ์อันเลวร้ายของพวกเขา แม้ว่ามันจะเป็นอดีตไปแล้ว ตระกูล ถานท่ายก็ยังคงดูแลตระกูลเย่จนถึงตอนนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าตอนนี้เธอสบายดีไหม ในขณะที่เขานึกถึงเธอนั้น ความทรงจำที่มีของเขาไม่ค่อยจะชัดเจนนัก แต่มันก็ไม่ถึงกับเรือนราง เมื่อทบทวนดูก็พบว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมานานพอสมควร
“ทั้งตระกูลหลิงและตระกูลเฮยฟงไม่สามารถอยู่ในมหาทวีปดารานภาลัยได้ พวกเราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกมาจากที่นั่น อย่างไรก็ตามพวกเราไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับตระกูลที่ทรงพลังอย่างตระกูลชิง” หลิงเสี่ยวดูเหมือนจะขมขื่นเล็กน้อยเมื่อกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ความเข้าใจของชิงสุ่ยในเรื่องมหาทวีปดารานภาลัยนั้นมีจำกัด เมืองทะเลดารานภาลัยเป็นเพียงเมืองหลวงแห่งมหาทวีปดารานภาลัยเท่านั้น โดยทั่วไปเหล่าขั้วอำนาจมักจะรวมตัวกันอยู่ที่นั่น
“ท่านผู้เฒ่า ด้วยความสามารถของตระกูลหลิง ใน 5 มหาทวีปมีน้อยคนที่จะสามารถเอาชนะพวกท่านได้ ข้าสงสัยว่าใครเป็นผู้บีบบังคับตระกูลหลิง ส่วนตระกูลเฮยฟงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลิงเลย ถูกหรือไม่?” ชิงสุ่ยรู้สึกแปลกใจมาก
“ตระกูลเฮยฟงนั้นแข็งแกร่งพอๆกับตระกูลหลิง แม้ว่าพวกเราทั้งสองตระกูลจะร่วมมือกัน พวกเราก็ไม่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้ พวกเขาเป็นชนป่าเถื่อน ตระกูลของพวกเราสูญเสียคนไปไม่น้อยเพียงเพื่อให้คนที่เหลือหลบหนีไป” หลิงเสี่ยวดูเศร้าใจเมื่อพูดถึงมัน
“ชนป่าเถื่อน?”
ชิงสุ่ยนึกถึงชนป่าเถื่อนในมหาทวีปอู่เซียตะวันตกที่อยู่ใกล้กับทะเลทิศทักษิณา เขารู้ว่าทะเลทิศทักษิณาใน 5 มหาทวีปก็เป็นส่วนหนึ่งของมหาทวีปอู่เซียตะวันตกเช่นกัน ทะเลทิศทักษิณานั้นกว้างใหญ่ เขาเชื่อว่าชนป่าเถื่อนกลุ่มนั้นไม่น่าจะเป็นพวกเดียวกันกับในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก พวกเขาอาจเป็นชนป่าเถื่อนจากเกาะบางแห่งในทะเลทิศทักษิณา?
มีเกาะอยู่หลายแห่งในทะเลทิศทักษิณา บางแห่งมีขนาดใหญ่มากและมีประชากรหนาแน่น พวกเขาอยู่กันอย่างกับว่ามันเป็นโลกใบเล็กๆของตัวเอง
ความจริงที่ว่าตระกูลหลิงสามารถหลบหนีออกมาได้นั้นหมายความว่าชนป่าเถื่อนเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวมากนัก หากเทียบกับตระกูลหลิงและตระกูลเฮยฟง พวกเขาไม่น่าจะมีพลังมากนัก มันอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาแค่มีจำนวนมากกว่า
“พวกเขามีกันทั้งหมดกี่คนหรือ?” ชิงสุ่ยนึกถึงตระกูลถานท่ายและตระกูลเย่ในเมืองทะเลดารานภาลัย
“อย่างน้อยก็ราวๆ 5,000 คนและทุกคนแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เมืองทะเลดารานภาลัย” หลิงเสี่ยวคิดบางอย่างและกล่าว
ชิงสุ่ยไม่ได้วางแผนที่จะมุ่งหน้าไปที่นั่นและมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีก ข่าวก็แพร่กระจายมาที่นี่ ระยะห่างระหว่างโลก 9 มหาทวีปมีมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันมีความวุ่นวายอยู่ทุกหย่อมหญ้าภายใต้ความสงบเงียบ
เหตุผลหลักที่ชิงสุ่ยมาที่นี่คือการตรวจสอบความสามารถของตระกูลหลิงและตระกูลเฮยฟง หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของตระกูลหลิงแล้ว ชิงสุ่ยก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ พวกเขาห่างชั้นจากตระกูลชิงในปัจจุบันนัก ตระกูลชิงอาจถือผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดใน 5 มหาทวีป
หลังจากการสนทนากับตระกูลหลิง ด้วยการสังเกตของเขา เขาหวังว่าทุกคนจะอยู่ร่วมกันได้ ชิงสุ่ยกล่าวลาตระกูลหลิงและทิ้งหลวนหลวนไว้แล้วไปที่ตระกูลเฮยฟง
ตระกูลเฮยฟงทราบข่าวสักพักใหญ่ๆแล้วว่าชิงสุ่ยเข้าไปเยี่ยมเยียนตระกูลหลิง ดังนั้นพวกเขาจึงยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยความเคารพเพื่อรอการมาถึงของเขา ต่อหน้าพลังอำนาจอันเด็ดขาด ทุกคนย่อมต้องถ่อมตน นี่คือกฎแห่งโลกของการต่อสู้ ความภาคภูมิใจของผู้ฝึกตน และกฏแห่งการอยู่รอด
ตระกูลเฮยฟงคอยเฝ้าดูตระกูลชิงตั้งแต่แรกด้วยเพราะเหล่าหญิงงามอันไม่อาจมีใครเทียบได้ทั้งหลายในตระกูลชิงที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มผู้มาถึงคนนี้เป็นเหมือนสิ่งที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมาจากสรวงสรรค์ เขาต้องมาจาก 4 มหาทวีป
คนของตระกูลเฮยฟงมีจำนวนน้อย พวกเขามีสีผิวที่คล้ำ นี่ดูเหมือนจะเป็นเพราะสายเลือดของพวกเขา แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ใช่จากโลหิตทองคำอินทนิลหรือสายเลือดทองคำ มันไม่ได้มีค่าอะไรนัก แต่ก็ยังดีกว่าสายเลือดธรรมดาทั่วไป คนที่มีสายเลือดนี้จะมีความแข็งแกร่งทางกายมากขึ้น
คนทั่วไปชอบที่จะมีสายเลือดปกติมากกว่าสายเลือดดังกล่าว มันเป็นเพราะผู้ที่มีสายเสือดนี้สีผิวของพวกเขาจะคล้ำมาก สำหรับผู้ชายมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่กับผู้หญิงมันช่างน่าเศร้า
ชิงสุ่ยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันเพื่อกลับไปที่ตระกูลชิงกับหลวนหลวน ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา เขาสามารถบอกได้ว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญในตระกูลหลิงและตระกูลเฮยฟง เขามั่นใจได้โดยการไปเพียงครั้งเดียว
ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าสันเขาราชันย์ราชสีห์เป็นอย่างไร เขาไม่พบร่องรอยของนิกายพุทธองค์ทองคำและสันเขาราชันย์ราชสีห์ใน 4 มหาทวีป นิกายพุทธองค์ทองคำนั้นไม่แข็งแกร่งพอและมหาทวีปอู่เซียตะวันตกก็อยู่ห่างไกลเกินไป มหาทวีปอู่เซียตะวันตกที่ชิงสุ่ยเคยไปเป็นเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้น แม้ว่าสถานที่ที่เขาไปจะเป็นจักรวรรดิที่ทรงพลัง มันเป็นได้ว่านิกายพุทธองค์อาจอยู่ในจักรวรรดิระดับหนึ่งและสันเขาราชันย์ราชสีห์อาจอยู่จักรวรรดิระดับสองหรือสาม ชิงสุ่ยไม่พบอะไรเลย อย่างไรก็ตามพวกเขายังเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นเขาจะต้องไปตรวจสอบดูเมื่อกลับไป
หลังจากกลับถึงคฤหาสน์ ชิงสุ่ยวางแผนที่จะมุ่งหน้ากลับไปยังมหาทวีปอู่เซียตะวันตก เขาสัญญากับพวกเขาว่าจะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถร่วมเดินทางไปด้วยได้ แต่การที่เขาสามารถกลับมาเยี่ยมเยียนได้สักครั้งก็ทำให้พวกเขาพึงพอใจแล้ว นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดฝันในอดีต พวกเขาคิดว่าคงไม่สามารถพบเจอเขาได้อย่างน้อยก็ 10 หรือ 20 ปีผ่านไป
เมื่อเห็นว่าเป็นยามบ่ายแล้ว ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเป็นการดีที่สุดที่จะกลับไปในเวลานี้!
มันเป็นเพราะเขาจำเป็นต้องใช้คู่ธงสวรรค์ปัญจธาตุ มันคงไม่ดีถ้าเร็วเกินไปและมันจะแย่หากช้าเกินไป เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกเวลาก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
หลังจากที่เขาโบกมือลาผู้คนจากตระกูลชิง ชิงสุ่ยก็หายวับไป
เมื่อชิงสุ่ยปรากฏกายอีกครั้ง เขาก็รู้สึกอยากร้องไห้…
เขาพบตัวเองอยู่ในน้ำซึ่งหมายความว่าเธอนั้นอยู่ในน้ำ เธออยู่ในน้ำไหน? เขาอยู่ในอ่างอาบน้ำ มันมีขนาดใหญ่มากและยาวกว่า 3 เมตร มีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆรอบตัวเขา แต่กลิ่นเหล่านี้ยังถือว่าส่งผลน้อยนัก นั่นเป็นเพราะมีร่างอันเปลือยเปล่าปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
นี่เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยกลัวมากที่สุด เขากลัวว่าเธอจะนอนหลับเมื่อเขาเคลื่อนย้ายมา เขากลัวว่าเธออาจจะทำธุระส่วนตัวอยู่ แน่นอนว่าเขากลัวว่าเธอกำลังอาบน้ำ เขาตระหนักว่ายิ่งเขากลัวเรื่องอะไรมากเท่าไหร่ โอกาสที่มันจะเกิดขึ้นก็จะมากตามไปด้วย
เธอตกใจอย่างเห็นได้ชัด ขาอันเรียวยาวของเธอเตะมาทางชิงสุ่ย ก่อให้เกิดสายน้ำคล้ายมังกรขนาดเล็กพุ่งใส่เขา
เธอสังเกตเห็นว่าเป็นชิงสุ่ยอย่างรวดเร็วและสงบสติลง อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอสลายการโจมตีและลุกขึ้นมาแบบไม่สนใจ
น้ำในอ่างใสสะอาดเช่นเดียวกับเรือนร่างอันขาวนวลของเธอ ชิงสุ่ยเคยเห็นมันมาก่อน สิ่งที่อาจทำให้ไฟในหัวใจของชายหนุ่มลุกโชนมากที่สุดเป็นคู่ของเนินอกและกลิ่นหอมทรงเสน่ห์ ยอดเนินอกสีชมพูของเธอเป็นสิ่งที่สะดุดตาที่สุด
“ข้างดงามหรือไม่?” เสียงหญิงที่โตเต็มวัยและมีเสน่ห์ดังขึ้นเมื่อแขนของเธอพาดลงบนไหล่ของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยรู้สึกตกใจตื่น เขาเงยศีรษะขึ้นมองใบหน้าของเธอและคู่เนินอกเล็กน้อยในเวลาเดียวกัน ความความอึดอัดและเขินอายปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ เขารู้สึกว่าหญิงผู้นี้ช่างกล้าหาญและยังมีความอยากมากเช่นกัน
“ข้าไม่รู้ว่าท่านจะอาบน้ำในเวลานี้” ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆ ตั้งแต่ตอนที่เขาเห็นเธอเปลือยกายอยู่ มันก็คงจะเป็นเรื่องเสแสร้งเล็กน้อยที่จะขอโทษในตอนนี้
“เจ้ามองไปที่ใดก่อนหน้านี้? มันดูดีหรือไม่?” การแสดงออกของเธอดูสงบนิ่งและไม่ได้แสดงถึงความลำบากใจหรือเขินอาย
“ท่านเป็นเหมือนสิ่งอันลึกลับ!” ชิงสุ่ยกล่าวเบาๆ
ใบหน้าของเธอมีเลือดฝาดและดูขมขื่นเล็กน้อย
“ถูกต้อง ข้าเป็นสิ่งที่ลึกลับ อย่างไรก็ตามข้าแตกต่างจากผู้อื่น อย่าได้คิดสิ่งใดกับข้า ถ้าไม่เช่นนั้นชีวิตของเจ้าจะดับสิ้น” เธอกระโดดออกไปด้วยร่างที่เปลือยเปล่าและเดินเข้าไปข้างในห้องเพื่อสวมเสื้อผ้า
ชิงสุ่ยยังคงตกตะลึง เธอควรจะเหมือนกับเหวินเหรินอูซวงและดูเหมือนจะเป็นคนที่จะนำโชคร้ายมาให้กับสามีของเธอ มันเป็นเพราะถ้าชายใดพยายามขึ้นไปบนเตียงของเธอ พวกเขาก็จะพบกับความตายอย่างรวดเร็ว…
อย่างไรก็ตามเขามีกายาทองคำ 9 หยาง ดังนั้นแม้จะเป็นเหวินเหรินอูซวง เขาก็สามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้แล้ว…
เขาลุกขึ้นยืนและออกจากอ่างอาบน้ำ เขาแผ่ลมปราณไปทั่วร่างกายเพื่อระหายน้ำและไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ออกมาด้วยชุดที่เรียบง่าย แต่เธอไม่สามารถซ่อนเรือนร่างอันงดงามเอาไว้ได้
“เจ้ากลับไปที่บ้านมางั้นหรือ?” เธอยิ้มและถาม
ที่นี่เป็นคฤหาสน์ไผ่ทะเลใต้ของเธอ อย่างไรก็ตามถานท่ายหยวนและอวี้ลู่หยานไม่ได้อยู่ใกล้ๆนี่ในตอนนี้
“อืมม!” ชิงสุ่ยตอบ
เขารู้สึกแย่มาก เมื่อคิดว่าครั้งแรกที่ใช้การเคลื่อนย้าย เขาพบตัวเองอยู่ในอ่างอาบน้ำของเธอ เขาจะกล้าใช้มันอีกในอนาคตได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าชิงสุ่ยจะหน้าทน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงของเขา
“ทุกอย่างปกติดีหรือไม่?”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ข้าอาจจะกลับไปทุกๆหนึ่งหรือสองเดือน…” ชิงสุ่ยมองไปที่เธอและกล่าวเบาๆ
“อืม เช่นนั้นก็ดี!” เธอยิ้มและพูด
“แต่ข้ากลัวว่าบางอย่างเช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก”
“เจ้าไม่ชอบที่ได้เห็นงั้นหรือ?”
เมื่อเธอกล่าวอย่างนี้ ชิงสุ่ยก็เริ่มเหงื่อออก เขาเอามือปาดไปที่หน้าผากขณะมองดูหญิงที่มีเสน่ห์ เธอดูบริสุทธิ์และสง่างาม มีความเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เหมือนใคร ตอนนี้ความบริสุทธิ์และความเย้ายวนใจของเธอและผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์