ภาพวาดของหลูชูซเวนั้นดูดีมาก ทุกคนต่างจับจ้องสายตามาที่ภาพวาดนั่น
เนื่องจากชูฮันแสร้งทำตัวใสซื่อต่อหน้าทุกคน เขาทั้งเจ้าเล่ห์และร้ายกาจราวกับสุนัขจิ้งจอก!
มีแต่ผีเท่านั้นที่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของชูฮันคืออะไร?
“นายเคยเจอพลเอกชูฮัน? เขาอยู่ที่ไหน?” เหอเฟิงไม่ปล่อยโอกาสทิ้งไป ผู้คนที่ค่ายซางจิงต่างกำลังตามหาตัวชูฮันกันอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาไล่ค้นทีละเมือง พลิกแผ่นดินตามหาตัวชูฮันกันอยู่
ทุกคนต่างจ้องไปที่ไก๋หนานและหลูชูซเวด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ คนอื่นๆก็แทบจะกระอัก พวกเขาเองก็ถูกชูฮันหลอกเหมือนกัน แล้วไก๋หนานล่ะ? เขาเองก็เผชิญหน้าพลเอกทั้งสองคนเหมือนกัน
“ฉันเห็นเขา!” ไก๋หนานวิ่งนำหน้าออกมาพร้อมกับบอกข้อมูลของชูฮันที่เขารู้ “เขาไปทางซ้ายของถนน!”
เนื่องจากนั่นคือพลเอกชูฮันและเขาก็เหมือนกำลังได้ช่วยตวนเจียงเหว่ยอยู่ เขาเองก็ไม่ได้มีความเกลียดชังใครและก็ไม่ใช่ศัตรูของเขา แล้วเขามีอะไรจะต้องกังวล? ในสายตาของเหล่าทหาร ไก๋หนานมักจะอึดอัดใจเสมอแต่ตอนนี้เขาดูสบายใจขึ้นมาก
หลูชูซเวอ้าปากค้าง…ผู้ชายคนนี้รู้ว่าชูฮันไปไหนจริงๆ!
“ถ้างั้นพลเอกตวนเจียงเหว่ย ผมขอตัวก่อน” เหอเฟิงกับเติงฮ่าวรีบจากไปตามถนนที่ไก๋หนานชี้บอกทันที ทุกคนที่ซางจิงต่างวางตำแหน่งชูฮันไว้สำคัญมาก และเวลานี้เหอเฟิงไม่มีเวลามาสนใจคนอื่นๆ ไม่ว่าชูฮันจะเป็นคนอย่างไรก็ตามตอนนี้เขาต้องหาตัวชูฮันให้เจอก่อน
ตวนเจียงเหว่ยมองตามหลังของทั้งสองคนที่จากไปด้วยรอยยิ้มประหลาดๆ ในเมื่อชูฮันต้องการซ่อนตัว เขาคิดว่าเส้นทางไปทางซ้ายนั่นก็คงจะไม่ใช่เส้นทางจริงที่ชูฮันไป
การแข่งขันกับสุนัขจิ้งจอก จะมีกี่คนในจีนกันที่มองเห็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของชูฮันกัน?
————–
ขณะนี้ ชูฮันที่เดินทางออกมาจากจุดเดิมไกลแล้ว ก็ยืนอยู่ด้านนอกของหมู่บ้านเล็กๆพร้อมกับจ้องไปที่เด็กชาย 5 ขวบตรงหน้า
“นายชื่ออะไร?” เมื่อได้เห็นเด็กชายตัวเล็กตรงหน้า ชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย มองไปที่หมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลออกไปเขาก็ยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีก เด็กนี้คือใคร ทำไมถึงออกมาอยู่ข้างนอก?
เด็กตัวน้อยไม่ตอบคำถาม แต่กลับมองมาที่ชูฮันด้วยตาใสแป๋ว
“ครอบครัวนายอยู่ไหน?” ชูฮันถามต่อ
ทว่าเด็กตัวน้อยก็ยังคงไม่พูดอะไรเหมือนเดิม แม้แต่ท่าทางไม่เปลี่ยน ดวงตาก็ยังคงจ้องมาที่ชูฮันใสแจ๋วเหมือนเดิม
ชูฮันเลิกคิ้วขณะมองไปที่เด็กชายตัวน้อยที่ยืนห่างกับเขา อีกฝ่ายยืนอยู่ห่างจากชูฮันประมาณ 10 เมตร ทว่าชูฮันกลับไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสัมผัสใดๆ จากนั้น—–
พ้ะ!
ทันใดนั้นกระต่ายสีขาวก็ถูกโยนออกมาจากกระเป๋าของชูฮัน หวังไคถูกโยนออกมาโดยไม่มีการเตือนใดๆทั้งนั้น มันกลิ้งหลุนๆไปกับพื้นโคลนอยู่หลายตลบ เด็กชายตรงหน้ายืนจ้องกระต่ายตรงหน้าตาไม่กระพริบไม่เลิกจนหวังไครู้สึกขนลุก
ขณะเดียวกัน ชูฮันที่ยืนห่างออกไปก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย “คนที่ซ่อนอยู่ในที่มืด ออกมา?”
ในตอนนั้น หวังไคช็อคและตะโกนอยู่ในหัวชูฮัน “ชูฮัน! นายใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อ?”
“ก็ นายบอกว่าทำได้หลายหน้าที่นี้!” ชูฮันตอบอย่างไม่แยแสอะไร ทว่าสายตาของเขากลับจดจ้องไปที่ริมถนนอย่างคมกริบ
มีเสียงฝีเท้าดังมาจากริมถนนข้างป่า ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาตามกลางถนนอย่างเย็นชา ชื่อของเขาคือหลูปิงเซ่อ เขาได้ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดมาตลอด
ชูฮันมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาและตะโกนออกมา “หวังไค กลับมา”
ชูฮันเพิ่มความระแวงที่มีต่อผู้ชายคนนี้ขึ้นทันที มันเป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่มีที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ขนาดนี้แต่เขาสัมผัสไม่ได้ถึงการมีตัวตนของอีกฝ่าย ถ้าไม่ใช่เพราะมีเด็กชายตัวน้อยอยู่ตรงนี้ประกอบกับการที่เขาโยนหวังไคออกมาอย่างกระทันหันเพื่อขัดบรรยากาศละก็คือเขาก็คงหาหลูปิงเซ่อไม่เจอ
ด้วยสายตาที่จ้องมาไม่กระพริบของเด็กน้อยทำให้หวังไครีบกลิ้งตัวกลับไปหาชูฮันทันทีและยอมที่จะปล่อยให้ชูฮันตราหน้าว่าเป็นคนอ่อนแอดีกว่าเพราะยังไงตัวมันก็เคยชินกับการกลั่นแกล้งของชูฮันอยู่แล้ว
เด็กชายตัวน้อยเปลี่ยสีหน้าทันทีที่เห็นกระต่ายน่ารักกลิ้งหนีหายไปจากระยะสายตา
หลูปิงเซ่อเห็นภาพตรงหน้า เขาเลิกคิ้วขึ้นใส่ชูฮัน “ผู้ชายตัวโตเลี้ยงกระต่าย?”
“นายก็ไม่ได้เลี้ยงเด็กเหมือนกันเหรอไง?” ชูฮันกรอกตาใส่พร้อมกับพูดตอบ…อย่าประมาทหวังไคเชียว มันมีดีมากกว่าที่เห็น
หลูปิงเซ่อประหลาดใจกับความเงียบที่เกิดขึ้นอยู่สักพัก จากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้เป็นมิตรมากเท่าไหร่ “นายไม่ได้เป็นศัตรู นายสามารถเข้าหมู่บ้านได้”
สายตาของชูฮันเต็มไปด้วยความประหลาดใจทันทีที่ได้ยินแบบนั้น หลูปิงเซ่อหันหน้าไปหาเด็กน้อยและอ้าปากขยับพูดแบบไร้เสียงกับเด็กน้อย ส่วนเด็กน้อยก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มกว้างทันทีพร้อมกับพยักหน้าและเดินเข้าไปหาหลูปิงเซ่อ
สายตาของชูฮันไม่สามารถซ่อนความสับสนที่เขามีได้…นี่มันอะไรกัน?
หลูปิงเซ่อนิ่วหน้าใส่ชูฮันที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “เขาชื่อ เจิ่งเทียนอี้…เขามีปัญหาด้านการได้ยิน ส่วนฉันชื่อ หลูปิงเซ่อ เร็วเข้ามันจะมืดแล้ว”
หลังจากพูดจบหลูปิงเซ่อก็ไม่สนใจปฏิกิริยาของชูฮันอีก เขาดึงมือของเจิ่งเทียนอี้เดินไปทางเข้าหมู่บ้านด้วยกัน เขาค้นพบแล้วว่าเด็กชายตัวน้อยนี้หูหนวกแต่เขายังไม่เข้าใจ และมันน่าประหลาดใจว่าหลูปิงเซ่อสื่อสารกับเจิ่งเทียนอี้ได้อย่างไร?
พรสวรรค์? มีเพียงแค่เหตุผลเดียว มันเป็นความสามารถของพรสวรรค์แบบไหนกัน?
นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ทำให้ชูฮันประหลาดใจอีกครั้ง จำนวนของผู้คนในหมู่บ้านนี้มันน่าทึ่งมาก มันไม่ได้เงียบสงบและธรรมดาเหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือเขาได้พบกับพรสวรรค์มากมายตลอดทางเดินในหมู่บ้าน!
และน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีกก็คือหมู่บ้านนี้ได้พัฒนาอารยธรรม มันมีทางเดินราดที่ดูเรียบง่าย มันเป็นค่ายผู้รอดชีวิตขนาดใหญ่ที่มีความสามารถและวิธีที่จะประดิษฐ์ของออกมา!
“แปลกไหมล่ะ?” หลูปิงเซ่อที่เดินข้างๆชูฮันพูดขึ้น “ทุกๆคนที่มาถึงที่นี้มักจะมีท่าทีแบบนี้เสมอ ฉันเองก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเลยเลือกที่จะตัดสินใจอยู่ที่นี้ วันโลกาวินาศที่เป็นเหมือนภัยพิบัติทั่วทั้งจีนสำหรับทุกคน แต่กับที่นี้มันคือสวรรค์”
แปลก?
ชูฮันบิดปาก