จุดพักของกลุ่มผู้อพยพขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอันลู บ้านทั้งหลายที่ถูกทำลายโดยฝูงซอมบี้ถูกผู้คนหลายสิบคนร่วมมือกันสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วสูงภายในระยะเวลาสั้นๆ ถึงแม้มันจะไม่ดีเท่ากับในยุคศิวิไลซ์ หากมันก็ยังมีหน้าต่างและประตูที่ช่วยให้หลับนอนหลบความหนาวได้
“ขอบคุณมาก!” กลุ่มคนที่ใส่ผ้าขาดริ้วหากมีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกล่าวขอบคุณ สีหน้าเต็มไปด้วยอาการตื่นเต้น
“ไม่เป็นไรครับ” เสี่ยวเคินลงมาจากขั้นบันไดสู่พื้น สภาพคลุกฝุ่นหากแววตา
กลับเปล่งประกายและร่างกำยำ
เหล่าคนในทีมที่อยู่ก็เบนสายตามองตามมา พวกเขายืนอยู่ต่อหน้าเสี่ยวเคินด้วยท่าทางนิ่งสงบ ในมือถืออาวุธคมแหลม ท่าทางเอาเรื่องและแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด ถ้าชูฮันอยู่ที่นี้เขาจะต้องประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของทีมอย่างแน่นอน…เรียบง่ายหากเย็นชา คมในฝัก
ทีมกุ้งเสือดำนั่นช่างสมกับชื่อจริงๆ
“เพื่อเป็นการขอบคุณ กรุณารับสิ่งของเหล่านี้ไว้ด้วย” ชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชนพร้อมกับถือถุงที่บรรจุของไว้ขนาดใหญ่ออกมา มันไม่ได้ขาวหรือสะอาด แต่อาหารพวกนี้คือสิ่งที่มีค่าที่าสุดที่ท่ามกลางกลุ่มอพยพของพวกเขาจะมีได้แล้ว
เสี่ยวเคินพร้อมกับเหล่าคนในทีมของเขาเผยรอยยิ้มออกมาและรับของจากชายชราไป พวกเขาเองก็ขาดแคลนอาหาร พวกเขาคอยช่วยเหลือผู้คนตลอดระหว่างทางและทุกคนก็ตอบแทนพวกเขาด้วยการมอบอาหารให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดเช่นกัน
“คุณลุง” หนึ่งในทีมกุ้งเสือดำ ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ จางโบฮั่นพยายามปกปิดแววประกายในดวงตาของเธอและรอยยิ้มที่มุมปากเอาไว้ “คุณลุงเคยได้ยินชื่อหยางเทียนมั้ย?”
“ไม่ ฉันไม่รู้ว่าเขาคือใคร” “ไม่รู้เลย”
“ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย”
หลายคนต่างส่ายหัวปฏิเสธ
แววตาของเสี่ยวเคินฉายร่องรอยของความผิดหวัง และตอนนี้ทีมของพวกเขาเข้าใกล้เมืองอันลูแล้ว แต่ผู้คนที่พวกเขาพบระหว่างทางกลับไม่เคยได้ยินชื่อของหยางเทียนกันมาก่อนเลย ถึงแม้มันจะยังมีเวลาเหลืออีกสิบวันจากระยะเวลาสามวันที่ชูฮันให้พวกเขาไว้ แต่ระยะห่างที่พวกเขามีกับทีมความลับของพระเจ้าประกอบกับความผิดหวังที่ลูกทีมของเขารู้สึกกันในตอนนี้ทำให้ทีมกุ้งเสือดำของเขาต้องระมัดระวังอย่างมาก
ทีมความลับของพระเจ้าเองก็ยังไม่เจอหยางเทียนเหมือนกันใช่มั้ย หรือพวกนั่นแอบหัวเราะพวกเขาอยู่ในเงามืด?
“ขอให้ทุกคนโชคดี” เสี่ยวเคินบอกลาอย่างสุภาพกับทุกคนตรงหน้าเขา ทีมกุ้งเสือดำหมุนตัวและตัดสินใจจากออกไป ทว่าทันทีที่พวกเรากลับหลังหันกันพวกเขาก็ต้องมึนงงกับภาพตรงหน้า
ชายหนุ่มคนหนึ่ง เนื้อตัวดูสะอาดอย่างมาก ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ทุกอย่างบนร่างกายประณีตเรียบร้อย ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังทีมกุ้งเสือดำ
“ทำไมพวกคุณถึงตามหาหยางเทียน?” ———-
ภายในเมืองอันลู บนถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เหล่าผู้ลี้ภัยที่ขดตัวนอนกันอยู่กลางถนนใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวมองไปที่ฝูงชนที่เดินผ่านหน้าพวกเขาไป
“ใครคือหยางเทียน เขาอยู่ที่ไหน?” อู๋เจียช่าว สมาชิกคนหนึ่งของทีมความลับของพระเจ้าที่แสร้งทำเป็นเดินลาดตระเวนบ่นขึ้นมา “พวกเราทุกคนครอบครองถนนสายนี้ กัปตันหลูปิงเซ่อเป็นหัวหน้าที่คุมทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครในถนนเส้นนี้รู้เกี่ยวกับหยางเทียนเลย?”
“หรือว่าเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว?” ลมฝุ่นเสนอความคิดขึ้น
“นี่มันไม่ใช่ เวลาเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ฉันเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อหยางเทียนเลย” อู๋เจียช่าวขบคิดจนหน้าย่น “หยางเทียนคนนี้เป็นคนดีหรือไม่ดีกัน ไม่ใช่ว่าเราฆ่าเขาไปแล้วหรอกนะ?”
“เราลองใช้วิธีคิดจากอีกมุมหนึ่งแทนมั้ยล่ะ?” จู่ๆลมฝุ่นก็ชะงักไป หากสักพักก็พูดต่อ “ไม่ต้องถามถึงหยางเทียน เราลองเปลี่ยนเป็นถามว่าใครรู้จักชูฮัน! ในตอนนั้นหัวหน้าชูฮันไม่บอกตัวตนของหยางเทียนกับพวกเราเลย เราเอาแต่ไล่วิ่งตามหาเหมือนงมเข็มในสมุทรมากันตลอด ถ้าหยางเทียนคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าชูฮัน มันจะปรากฏออกมาให้เห็นได้เอง และถ้าเป็นศัตรู มันก็เฮเลยทีนี้!”
อู๋เจียช่าวก้าวเท้าเข้ามา ตามมาด้วยตากลมโตที่จ้องตากับลมฝุ่น
“นายจ้องมาฉันก็จ้องกลับ” ลมฝุ่นมีสายตาที่ไม่สามารถอธิบายได้ “มันผิดหรือไง?”
อู๋เจียช่าวกรอกตา จากนั้นก็ดึงสายตากลับมาขณะขบคิดอยู่ในหัว “ไม่ใช่! ฉันแค่คิดว่าสิ่งที่นายพูดมันสมเหตุสมผลมาก!”
“งั้น! ทำไมนายยังกรอกตาใส่ฉัน?” “นี่นายลืมชื่อฉัน? มานี่ อ่านสิ…อู๋เจียช่าว!”
เฮ้ย!
ทั้งสองคนเดินมาถึงโถงทางเดินมืดๆ จากนั้นก็เตะเข้าที่ประตูของบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนถนนและก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ซึ่งมันปรากฏภาพของชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ในบ้านอ้าปากค้าง
หัวหน้าแก๊งตะลึงค้างและเหล่าลูกน้องในแก๊งที่ยืนกันอยู่ตามมุมห้องก็ตกใจกันหมดถ้วนหน้า มีสายตาหวาดกลัวปรากฏอยู่บนสีหน้าหลายคนในห้องให้ได้เห็น
“พวกนายเป็นใครกันแน่?” มันมีความหวาดกลัวอยู่ในอกของคนที่ถามอย่างเห็นได้ชัด คนพวกนี้ปล้นอาณาเขตของเขาไม่พอยังคิดจะทรมานเขาอีกเหรอ? เขาคิดมาตลอดว่าเขาเป็นคนคุมถนนเส้นนี้ แต่เวลานี้มันไม่ใช่ มันคือกองทัพพวกนี้ต่างหาก!
หลูปิงเซ่อหันหน้าไปมองอู๋เจียช่าวและเฟิงจื่อจือที่พยักหน้าส่ง น้ำเสียงแสดงออกถึงอาการหมดความอดทนขณะมองไปที่คนในมุมห้อง “วันนี้ฉันไม่ได้มาถามหาข่าวของหยางเทียน เรามาคุยกันดีๆเถอะ”
หลังจากพูดจบ หลูปิงเซ่อก็นั่งลงที่เก้าและพิงตัวเอนทันที “เข้ามา สะกดจิตแล้วก็ทรมานให้มันสารภาพซะ!”
ชายที่อยู่ในมุมห้องเซล้มเข่าอ่อนทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกนั้นจะทรมานเพื่อให้เขาสารภาพอย่างงั้นเหรอ?
“ฟู่~~~” ลมฝุ่นเป่าปาก จากนั้นก็พูดออกมาอย่างหมดหนทาง “กัปตัน ฉันจะไม่สะกดจิต” หลูปิงเซ่อยิ้มเยาะพลางเกาหัวตัวเอง “แกมีไม้กายสิทธิ์ไม่ใช่ไง?” “เอาล่ะ ถ้างั้นละก็น่ะ” เฟิงจื่อจือกระแอม จากนั้นก็เดินไปที่มุมห้องพลางจ้องชายคนนั้นนิ่งและเอ่ยปากพูด “บอกวันเกิดของคุณ ชื่อและอายุ”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
หลูปิงเซ่อขัดจังหวะลมฝุ่นด้วยการเคาะโต๊ะ “ประเด็นสำคัญ เข้าเรื่อง! นี่แกคิดว่ากำลังทำนายโชคชะตาอยู่เหรอไง?!”
ลมฝุ่นทำหน้าซื่อ “นี่เป็นกระบวนการที่ต้องทำ กัปตันช่วยยืนดูอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้ฉันจัดการเองได้มั้ย?”
“งั้นก็ช่างมัน เมื่อกี้นายถามอะไรน่ะ?” หลูปิงเซ่อโบกมือ “เร็วเข้า หาข้อมูลมา”
สมาชิกของทีมความลับของพระเจ้าและกุ้งเสือดำนั่นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งความสามารถของลมฝุ่นก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดและพวกเขายังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเต็มที่ ทว่าต้องบอกเลยว่าคนคนนี้มีความสามารถที่ค่อนข้างแปลกประหลาด อีกทั้งที่พวกเขามาถึงได้จุดนี้ก็เป็นเพราะการทำนายของลมฝุ่นที่นำพาพวกเขามาถึงนี้
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ต่างไม่เชื่อกัน แต่ตอนนี้พวกเขาเชื่อแล้วเพราะทีมของพวกเขานำหน้าทีมกุ้งเสือดำมาตลอดระยะเวลาสองเดือนครึ่ง
จากตะวันออกไปจนตะวันตก ความมืดที่ไล่กินไปเรื่อยและสร้างความวุ่นวายและพวกเขาก็ได้รับผลประโยชน์จากมัน นี้คือสิ่งที่ทีมความลับของพระเจ้าถนัดที่สุด!