Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 483

ติงเซวและชูเซี่ยรีบพาสองคนออกไปจากจุดนั้นและหายไปอย่างรวดเร็วในความมืด

 

ส่วนคนที่เหลือไม่ว่าจะทั้งทหารผ่านศึกของชูฮันหรือสมาชิกที่เข้าร่วมใหม่ ทั้งหมดต่างยืนตั้งมั่นในตำแหน่งของตัวเอง เพราะเหล่าทหารมาใหม่ยังไม่มีความสามารถที่จะรับมือกับซอมบี้ได้เองพวกเขาจึงถูกวางตัวให้ยืนอยู่ข้างๆเหล่าทหารผ่านศึก และถึงแม้เหล่าสมาชิกที่พึ่งเข้าร่วมใหม่จะตัวสั่นด้วยความกลัวต่อซอมบี้มหาศาลแต่เมื่อพวกเขาได้เห็นสีหน้าของเหล่าทหารผ่านศึก…สีหน้านิ่งสงบของทุกคนและปฏกิริยาเรียบนิ่งของเฉินช่าวเย่ เหล่าคนมาใหม่ก็ค่อยๆเริ่มสงบสติลง

 

“ทุกคนเชื่อฟังคำสั่งฉัน เหล่ยเซอเป็นพรสวรรค์ด้านความรวดเร็วเพราะฉะนั้นนายไปล่อซอมบี้มา!” เหงื่อเย็นๆผุดขึ้นตรงหน้าผากเฉินช่าวเย่ เขามีความประหม่าและกังวล หลังจากการฝึกฝนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของชูฮันที่ห้ามเขาใช้ปืนทำให้เฉินช่าวเย่ได้เติบโตขึ้นในฐานะพลโท เขาได้เรียนรู้น้ำเสียงในการพูดของชูฮันเพื่อผ่อนคลายความกังวลและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา “ความปลอดภัยของตัวเองต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง และเอาหัวซอมบี้มาให้ฉันก่อนยี่สิบตัว!”

 

ทุกคนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เหล่าทหารผ่านศึกหลายคนพลันนึกถึงชูฮันขึ้นมาทันที ท่านพลเอกชูฮันมักจะทำตัวแบบนี้ ท่าทางหยิ่งจองหองและความแปลกประหลาดของชูฮันมักช่วยทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจ

 

“เข้าใจแล้วครับ!” เหล่ยเซอตอบรับเสียงดังฟังชัด

 

พรสวรรค์ระดับสองอย่างเหล่ยเซอไม่จำเป็นต้องฆ่าซอมบี้เพราะหน้าที่ของเขาในทีมนี้เป็นหน้าที่ที่สำคัญและอันตรายที่สุด นั่นก็คือเป็นเหยื่อล่อศัตรู!

ซูเซียงหลงยืนอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายที่สุดนั่นก็คือตรงกลางของถนนซึ่งจะเป็นจุดที่จะปะทะกับคลื่นซอมบี้จุดแรก “พวกเรามีกันทั้งหมดสิบสามคน พวกมันแค่ยี่สิบตัวจะมากพอให้พวกเราฆ่าเหรอ?”

 

เฉินช่าวเย่จำได้ถึงคำอธิบายของชูฮันก่อนหน้านี้ เขาพูดพลางขมวดคิ้ว “ให้เวลากับคนมาใหม่หน่อย”

 

เหล่าคนมาใหม่ขยับตัวทันทีที่ถูกเอ่ยถึง และเมื่อนึกถึงที่เฉินช่าวเย่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้แววตาของพวกเขาก็แสดงออกถึงความโล่งใจ การไม่ละทิ้งเพื่อนพ้องถึงแม้จะต้องขุดขึ้นมาจากหลุมฝังลึกขนาดไหนก็ตาม นี่คือวิถีของกองทัพเขี้ยวหมาป่า!

 

ตอนนี้ ตัวล่ออย่างเหล่ยเซอได้วิ่งกลับมาแล้ว ตามมาด้วยซอมบี้ยี่สิบตัวที่อ้าปากคำรามจนเห็นฟันแหลมคมและเสียงคำรามที่ดังสนั่นอย่างโมโหของพวกมันที่ไม่สามารถไล่ตามความเร็วของเหล่ยเซอได้ทัน มันจึงทำได้แต่ปล่อยความโกรธและความหิวโหยออกมาทางสีหน้าและเสียง เหล่ยเซอทำได้อย่างที่คิด เฉินช่าวเย่บอกยี่สิบตัวเหล่ยเซอก็พาซอมบี้มายี่สิบตัวอย่างพอดี ซึ่งมันทำให้เหล่าคนมาใหม่ตกใจกับความสามารถนี้จนแทบจะเซ

 

นี่คือความภาคภูมิใจของเหล่ยเซอ การฝึกปีศาจตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนไม่ได้สูญเปล่า! เนื่องจากท่านพลเอกชูฮันรู้ดีว่าความสามารถเฉพาะทางของเขาคือความเร็ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านเขาจึงโดนฝึกฝนอย่างหนักหนาสาหัส แต่มันก็เป็นเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาทรงพลังมากกว่าพรสวรรค์ระยะ 3 อย่างหลูเหวินเฉิงซะอีก มันคือผลลัพธ์ของการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงและวันนี้มันได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้วยฝูงซอมบี้ที่มากกว่าสองพันตัว เหล่ยเซอสามารถล่อพวกมันมาได้ในระยะเวลาสั้นๆแถมยังยึดติดกับจำนวนเจาะจงแค่ยี่สิบตัวเท่านั้นอีก

 

“รับทราบ!” เสียงของเฉินช่าวเย่ดังขึ้นมาในเวลาที่ถูกต้อง “ลูกทีมทุกคนเตรียมพร้อมในอีกหนึ่งนาที! เหล่ยเซอ ครั้งต่อไปขอสามสิบตัว ขอบคุณที่หาปัญหามาให้!” “ครับ!” ลูกทีมทุกคนตอบรับคำสั่งของเฉินช่าวเย่อย่างพร้อมเพรียงไม่ว่าจะทั้งทหารผ่านศึกหรือคนมาใหม่

 

ทันทีที่ซอมบี้มาถึงเหล่ยเซอก็กระโดดเหยียบเข้าที่ไหล่ของมันและตีลังกาถีบขาคู่ใส่อย่างสวยงาม จากนั้นก็ลงมายืนอยู่ที่พื้นด้วยเท้าคู่ ร่างของเหล่ยเซอเคลื่อนไหวเหมือนกับลูกกระสุน ต่อมาเหล่ยเซอก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปล่อซอมบี้มาอีกครั้ง ส่วนซอมบี้ที่เขาเหยียบบนไหล่และกระโดดถีบใส่จนล้มนั้นก็ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะได้สติและลุกกลับขึ้นมา

 

“ปัก! ปัก!”

 

เกิดเสียงบดขยี้ที่หัวของซอมบี้ดังขึ้นอยู่พักหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงแนะนำจากทหารผ่านศึก

 

“เฮ้ อย่าใช้พลังงานเยอะเกินไป วิธีที่ง่ายที่สุดคือทุบเข้าที่กกหูมัน”

 

“ดูนี่ แค่ทุบเข้าไปตรงนี้!”

 

“ใช่ อย่างนั่นแหละ! นายทำดีแล้ว ถ้าคนมาใหม่สามารถฆ่าซอมบี้ได้ 50 ตัวคนคนนั้นก็จะได้รับยศสิบโท!”

 

“พยายามต่อไปละ!”

 

ด้วยน้ำเสียงให้กำลังใจและการชี้แนะจากทหารผ่านศึก รวมถึงการล่อลวงด้วยยศทหาร และการที่เหล่าทหารผ่านศึกจะส่งซอมบี้ระยะแรกที่จัดการได้ไม่ยากมาให้เหล่าคนมาใหม่จัดการก่อนเพื่อเป็นการฝึกปรึกฝีมือ ทำให้เหล่าคนมาใหม่ที่ในตอนแรกทำพลาดและวิตกกังวลเริ่มทำได้ดีขึ้น พวกเขาเริ่มจับจังหวะได้และเข้าใจแล้วว่าทำไมทหารของชูฮันถึงได้เก่งกล้าและน่ากลัวได้ขนาดนี้

 

ซอมบี้มหาศาลแน่นอนว่ามันหมายถึงอันตราย ถ้าพวกเขาพุ่งเข้าไปสู้ตรงๆแน่นอนว่าพวกเขาจะพบแต่ความตาย แต่วิธีแก้ปัญหานั้นแตกต่างไปจากที่ทุกคนเคยรับรู้ โดยการรวมตัวเป็นวงล้อมที่ชูฮันเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อสู้นั้นได้ผลสำเร็จทุกครั้งในทุกการต่อสู้

 

กลุ่มคนทั้งสิบสามคน แรกเริ่มพวกเขาจัดการกับซอมบี้ 20 ตัวซึ่งคนมาใหม่สามารถจัดการไปได้สองตัวจากในนั้น ในช่วงเวลานั้นเหล่าทหารผ่านศึกก็ได้ชี้แนะแนวทางแถมช่วงเวลาที่เหลือก็ช่วยแก้ไขวิธีการต่อสู้ที่ผิดให้ถูกแก่คนมาใหม่ ซอมบี้กลุ่มแรก 20 ตัวนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชูฮันในการฝึกครั้งนี้

 

การฝึกฝนคนมาใหม่!

 

เหล่าคนมาใหม่ได้ค้นพบพลังที่แท้จริงของตัวเองหลังจากได้ฆ่าซอมบี้ ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เข้าใจดีว่าซอมบี้ที่พวกเขาฆ่าเป็นแค่ซอมบี้ระยะแรกที่อ่อนแอที่สุดและเพราะเช่นนั้นพวกเขาจึงสามารถทุบหัวพวกมันจนเละได้อย่างง่ายๆประกอบกับที่มีทหารผ่านศึกร่วมช่วยและชี้แนะทักษะในการจัดการให้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้สร้างความมั่นใจให้แก่พวกเขาเพิ่มขึ้น…แม้พวกเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาแต่ก็สามารถฆ่าซอมบี้ได้เช่นกัน และนี่ถึงเรียกว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่า พวกเขาเกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไม่อาจบรรยายได้ถูก

 

อะไรคือความหมายของชีวิตที่เอาแต่หลบหนีและอยู่ไปวันๆ? การลุกขึ้นยืนหยัดสู้ซอมบี้กับพวกพ้องนั่นต่างหากที่เรียกว่าคนจริง!

 

“หายใจเข้าลึกๆ เตรียมตัวสำหรับซอมบี้คลื่นต่อไป คนมาใหม่ตั้งใจฟังให้ดี หนึ่งคนจัดการกับซอมบี้สองตัว!” เฉินช่าวเย่ออกคำสั่งทันทีที่เห็นร่างของเหล่ยเซอกำลังวิ่งกลับมาเป็นครั้งที่สอง ขวานดับเพลิงในมือของเฉินช่าวเย่ตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้

 

ความสามารถของเฉินช่าวเย่นั้นอ่อนแอลงอย่างมากเพราะถูกชูฮันยึดปืนไรเฟิลไป แต่เพราะการฝึกฝนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทำให้ความสามารถทางกายภาพของเฉินช่าวเย่เติบโตขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ โดยปกติแล้วเขาเป็นแค่คนอ้วนตัวใหญ่และไม่สามารถลงไปสู้ในสนามรบได้ แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางกายภาพหรือกลยุทธ์ในการต่อสู้ขั้นพื้นฐานและคุณสมบัติของความเป็นผู้นำ

 

เพราะอย่างนั้นเฉินช่าวเย่ถึงสามารถออกคำสั่งได้ทันทีหลังจากเห็นฝูงซอมบี้จำนวนมาก และสามารถพาผู้ใต้บังคับบัญชาสิบสามคนสู้กับฝูงซอมบี้มากกว่าสองพันตัวได้อย่างกล้าหาญ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อนพวกเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าสถานการณ์มันจะเป็นแบบไหน

 

ชูฮันไม่ปล่อยให้เฉินช่าวได้ขี้เกียจหรือพักผ่อนเพียงเพราะว่าเขาเป็นมือปืนพระเจ้า หรือไม่ให้สิทธิพิเศษใดๆเพราะว่าเฉินช่าวเย่เป็นคนแรกที่ติดตามเขา ทุกอย่างดำเนินตามแผนที่ชูฮันวางไว้สำหรับความสามารถและตัวตนที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละคน อย่างเฉินช่าวเย่ซึ่งเป็นคนดี เป็นถึงพลโทของจีนและยังเป็นมือปืนพระเจ้า เขาจะต้องทำตัวให้คู่ควรกับฉายาที่ได้รับ! ด้วยการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง ถึงแม้จะไม่มีใครเก่งกล้าได้เกินกว่าชูฮันก็ตาม แต่ทุกคนถูกดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองออกมา และทุกคนก็กลายเป็นเสพติดต่อพลังที่ตัวเองมี เมื่อได้ใช้มันแล้วพวกเขาก็อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ

 

หลังจากที่เฉินช่าวเย่พูดจบ ทุกคนก็พลันปรับการหายใจของตัวให้คงที่ทันที เหล่าทหารผ่านศึกกำอาวุธในมือของตัวแน่น ส่วนคนมาใหม่ก็ตื่นเต้นอย่างมาก มือของพวกทั้งสั่นและตื่นตัว ความรู้สึกของการฆ่าซอมบี้ได้สำเร็จนั้นทำให้พวกเขาตื่นตัวและมีความกล้ามากขึ้น

 

พวกเขาไม่ได้ซ่อนตัวจากซอมบี้อีกต่อไปแต่กลับกันพวกเขากลับมองหาโอกาสที่ฆ่ามัน สองสิ่งนี้เป็นความรู้สึกที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง! ซอมบี้คลื่นที่สองซึ่งมีซอมบี้อยู่สามสิบตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และมันก็ยังมีซอมบี้ระยะ 2 ปะปนอยู่ในกลุ่มด้วย พวกมันมุ่งหน้าเข้ามา ไล่ตามเหล่ยเซอที่กำลังวิ่งมาทางพวกเขา

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset