“ฉันว่าฉันไม่ได้บอกว่ามันทดแทนกันได้นะ” คำพูดของชูฮันได้ทำลายความหวังของกลุ่มที่หนึ่งทันที
เมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่มีหน้าตาหมองคล้ำดำคร่ำเครียด ชูฮันก็หันไปยิ้มให้หลิวยู่ติง “กลุ่มที่สองรวมกับกลุ่มที่เจ็ดและสิบช่วยกันกำจัดฝูงซอมบี้เพื่อช่วยแก้ไขวิกฤตของกลุ่มที่สาม คุณงามความดีของพวกคุณจะถูกบันทึกเอาไว้”
หลิวยู่ติงยิ้มเยาะก่อนจะจดลงไปในสมุดบันทึก การบันทึกก็คือการบันทึก แต่…ฮึ!
ทั้งสามกลุ่มที่ถูกเอ่ยถึงพลันมีสีหน้าพึงพอใจขึ้นมาทันที แต่ประโยคต่อมาของชูฮันนั้นก็ทำให้พวกเขาช็อคค้าง “แต่มันคือคุณงามความดีและผลตอบแทน ส่วนการล้มเหลวของภารกิจนั้นก็ยังต้องถูกลงโทษเหมือนกลุ่มอื่น”
ทำภารกิจไม่สำเร็จ ก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี!
“มีทั้งหมดห้ากลุ่มที่ทำภารกิจสำเร็จ” ชูฮันเอ่ยขึ้น “กลุ่มที่สามและสี่ทำเกินภารกิจ พวกคุณจะถูกลงโทษ ผู้คุมกฏระเบียบทหารจะเป็นคนจัดการเรื่องบทลงโทษแก่พวกคุณที่เหลือเอง”
“รับรองได้ครับว่าผมจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์อย่างแน่นอน” หลิวยู่ติงตอบอย่างตื่นเต้น
นอกเหนือจากกลุ่มที่ทำภารกิจสำเร็จ กลุ่มที่เหลือต่างก็มีสีหน้าคร่ำเครียดกันหมเ พวกเขาอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อสามวันที่แล้ว!
“ในเมื่อภารกิจได้ทำการรายงานเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการลงโทษจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้” ทันใดนั้นชูฮันก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับแววตาเย็นชา “ตอนนี้มาแก้ปัญหาของซุปเปอร์ซอมบี้กัน”
คนหนึ่งร้อยห้าสิบคนต่างรวมตัวกันยืนตรงพร้อมกับความกลัวที่ซ่อนไว้ พวกเขาเข้ามาในสุสานแห่งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์เพื่อตามหาซุปเปอร์ซอมบี้ หากหลายกลุ่มไม่พบร่องรอยหรือความผิดปกติใดๆ อีกทั้งตลอดสามวันพวกเขาทำเพียงแค่หาอาหารกินดื่มและเล่นซอมบี้สนุกๆไปเรื่อย โดยไม่ได้มุ่งเน้นการตามหาซุปเปอร์ซอมบี้
และเพราะพวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่าชูฮันน่าจะหาซุปเปอร์ซอมบี้เจอแล้ว ส่วนครั้งนี้ก็เป็นแค่การฝึกพวกเขาเท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะเจอร่องรอยอะไรหรือไม่มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเผชิญหน้ากับซุปเปอร์ซอมบี้อยู่ดี แต่การตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเขาที่เชื่อใจพลเอกชูฮันและเพิกเฉยต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ได้นำไปสู่การลงโทษที่พวกเขาต้องเผชิญในวันพรุ่งนี้
มองไปที่กลุ่มคนที่ในที่สุดก็เริ่มมีสีหน้าจริงจัง ชูฮันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปตรวจดูคู่พ่อลูกเย็นชาที่นั่งอยู่ข้างกองไฟ เหลิงเล่ย…คนเป็นพ่อมักมองเหลือบมองมาทางทุกคนด้วยสายตาระแวดเสมอแต่ลูกสาวของเขากลับมีท่าทีเหมือนเดิมตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ไม่เปลี่ยน…นั่งเงียบๆมองกองไฟ
สายตาเย็นชาประกายวาว ชูฮันยกเท้าก้าวออกเดินอย่างค่อยๆเดินผ่านกลุ่มคนหนึ่งร้อยห้าสิบคนตรงหน้าเขาไป น้ำเสียงที่เอ่ยไม่ได้กระชากโฮกฮาก “ฉันบอกพวกคุณแล้วว่าซุปเปอร์ซอมบี้มีศักยภาพที่จะเป็นราชาซอมบี้ และมันก็เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องร้ายแรง แต่พวกคุณ? กลับทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จ พวกคุณไม่ได้จริงจังกับภารกิจกันด้วยซ้ำ จากทั้งสิบหกกลุ่ม ทำภารกิจล้มเหลวไปสิบเอ็ดกลุ่ม ถึงแม้สามกลุ่มจะเกือบทำภารกิจไม่สำเร็จเพราะขาดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และมีแค่สองกลุ่มเท่านั้นที่ทำเกินหน้าที่ นั่นก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก”
“แถมมันยังมีแค่สองคนจากหนึ่งร้อยห้าสิบคนเท่านั้นที่พบจุดสังเกตของซุปเปอร์ซอมบี้!” ขณะพูดประโยคนี้สีหน้าของชูฮันเปลี่ยนเป็นรุนแรงอย่างมากพร้อมกับความโกรธที่พุ่งทะลุเพดาน “ฉันฝึกพวกคุณมาหนึ่งเดือน แต่นี่คือผลลัพธ์ของภารกิจครั้งนี้งั้นเหรอ?!”
ทุกคนพลันเกิดความกลัวขึ้นในใจ สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ชูฮันที่จู่ๆก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ไม่มีใครกล้าจะพูดอะไรทั้งนั้น ครั้งนี้พวกเขารู้ได้ในทันทีว่าเรื่องครั้งนี้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงแล้วพ
หลิวยู่ติงเองก็วางอารมณ์ที่กำลังสนุกสนานของตัวเองลงทันทีและหันไปมองชูฮันอย่างตกใจเช่นกัน นี่มันไม่ใช่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันถึงทำให้ชูฮันโกรธขึ้นมาได้ขนาดนี้?
“หึ!” หลังจากแสยะยิ้ม ชูฮันก็เปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของเขาแสดงพลังอำนาจที่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเกรงกลัวพร้อมกับเสียงที่ก้องกังวาลไปด้วยอำนาจ “อัตราความสำเร็จของพวกคุณต่ำมาก เอาแต่สู้กับซอมบี้ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะซูเฟิงที่คอยสอดส่องดูแลพวกคุณทั้งหมดตลอดสามวันสามคืนไม่ได้พัก พวกคุณคงโดนซอมบี้กินกันไปหมดแล้ว พวกคุณเจริญอาหารกันอย่างมากจนไม่สนใจอะไรเลย!”
เมื่อชูฮันพูดออกไป หลายคนตะลึงงัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าซูเฟิงจะคอยปกป้องพวกเขาอยู่อย่างลับๆ อีกอย่างอารมณ์และท่าทางข่มขู่ของชูฮันทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจ
“คงคิดว่าฉันตื่นตูมเกินเหตุ? คิดว่าฉันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่?!” ชูฮันกวาดสายตามอง น้ำเสียงไม่ได้แผ่วลงเลยสักนิดกลับกันมันยิ่งดุดันและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พลังผันผวนของชูฮันพวกเขาก็เริ่มทนกันไม่ไหว “ภารกิจผ่านไปนานแล้ว พวกคุณทุกคนล้มเหลว! พวกคุณเป็นผู้แพ้!”
คนแพ้! “เฮือก!” หูของทุกคนแทบแตกด้วยเสียงตะโกนแหลมของชูฮัน หัวใจของหลายเต้นรัวจนแทบจะวาย อีกทั้งพลังผันผวนของวิวัฒนาการระยะ 4 ของชูฮันที่ระเบิดออกมาอย่ารุนแรงประกอบกับเสียงดังลั่นเหมือนกับคลื่นพลังเสียงทำให้ทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ตอัดแน่นไปด้วยเสียงดังก้องจนหูแทบแตก
เฉินช่าวเย่เองก็กลัวที่จะเงยหน้ามองหัวหน้าของเขา นอกเหนือจากเมื่อตอนที่เลาเสี่ยวเสียวโดนยิง เขาพึ่งเคยเห็นหัวหน้าโกรธมากขนาดนี้ ทันใดนั้นเฉินช่าวเย่ก็รู้สึกว่าครั้งนี้เขาไม่สามารถสบตากับหัวหน้าได้ แม้ตอนนี้ชูฮันไม่ได้แสดงท่าทางแข็งกระด้างและยังมีสีหน้าปกติอยู่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมมันให้ความรู้สึกเหมือนราชา ที่ทำให้ทุกคนโค้งคำนับและศิโรราบได้โดยไม่รู้ตัว
ไม่รอคอยให้ทุกคนได้คืนสติกลับมา น้ำเสียงรุนแรงของชูฮันก็เอ่ยต่อขึ้นมาอีกครั้ง “พวกคุณคิดว่าฉันลำเอียง? ว่าฉันเลื่อนตำแหน่งให้หลิวยู่ติงโดยไม่สนใจพวกคุณ? ว่าฉันเย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัวและฝึกพวกคุณผิดวิธี?”
ถึงแม้ภายนอกทุกคนจะไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมา แต่ข้างในใจของพวกเขารู้สึกต่อต้านอย่างที่ชูฮันพูด และส่วนเรื่องของหลิวยู่ติงนั้น…แน่นอนทุกคนคิดว่าชูฮันลำเอียง ซูเฟิงเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 ส่วนหลิวยู่ติงเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 3 ซึ่งด้อยกว่าหลี่บี๋เฟิงด้วยซ้ำ ทำไมหลิวยู่ติงถึงไม่ต้องเข้าร่วมการฝึกครั้งนี้เหมือนกับพวกเขา ทำไมถึงได้มอบอำนาจมากมายขนาดนั้นให้หลิวยู่ติง หรือเป็นเพราะความสัมพันธ์อันดีในวัยเด็กของชูฮันและหลิวยู่ติง?
หลิวยู่ติงเองก็มองชูฮันอย่างไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
ชูฮันไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับกลับไปทันที เขาเดินถอยหลังสองสามก้าว จากนั้นก็เอ่ยปากพูด “กูเหลียงเฉิน!”
กูเหลียงเฉินเป็นสิบเอกที่มีหน้าที่มากมาย แม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมครั้งนี้ชูฮันถึงเรียกชื่อเขา
“จับคนเป็นพ่อซะ!” โดยไม่มีท่าทีใดๆ จู่ๆชูฮันก็สั่งออกมา
ความตกใจปรากฏขึ้นบนสีหน้าทุกคน!
“ครับ!” กูเหลียงเฉินตอบรับทันทีพร้อมกับปล่อยผัพลังนผวนของวิวัฒนากาารระยะ 3 ของตัวเองออกมาและไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะพุ่งตัวออกไปอย่างไว ไม่มีการข้องใจต่อคำสั่งของชูฮันเลยแม้แต่น้อย
“เดี๋ยว! นั่นนายจะ…” เหลิงเล่ยตกใจและโชคร้ายเพราะยังไม่ทันที่เหลิงเล่ยจะได้ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาก็ถูกกูเหลียงจับตัวกดลงกับพื้นแล้ว
ทุกคนช็อค นี่ชูฮันกำลังทำอะไร? นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่?
หลายคนที่มีจิตใจดีกังวลเกี่ยวกับเด็กสาว แต่พวกเขากลับต้องประหลาดใจที่ได้เห็นว่าเด็กสาวยังคงนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิมอย่างไม่สนใจอะไร ทั้งๆที่พ่อของเธอถูกจับกดลงกับพื้นอยู่แท้ๆ แต่เธอกับไม่มีปฏิกิริยาหรือแม้แต่จะหันมามองด้วยซ้ำ