ครั้งนี้ไม่เพียงแค่พันตรี แต่หลูอี๋ก็ช็อคเหมือนกัน เขารู้จักหลิวยู่ติงดี พลตรีชื่อดังจากซางจิง แต่มันก็แค่นั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรมาก ไม่มีคนเห็นหลิวยู่ติงมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี้แล้วเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ ทำไมจู่ๆถึงได้กลายเป็นคนก้าวร้าวขนาดนี้?
ทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าต่างมองมาอย่างยิ้มๆ โดยเฉพาะกูเหลียงเฉินที่ยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแค่หลูอี๋ที่เห็น พันตรีคนนั้นก็รู้สึกโหวงในอกเช่นกัน มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องกลัวการหัวเราะขนาดนั้น?
“ฉันจะเอาตำแหน่งของพันตรีคนนี้ออกจากรายชื่อพันตรีของจีน” หลิวยู่ติงพูดและหมุนตัวหนีโดยไม่สนใจสายตาไม่อยากจะเชื่อของพันตรีที่จ้องมา หลิวยู่ติงหันไปมองหลูอี๋และไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ปฏิเสธ “ฉันเป็นพลตรีของซางจิง ฉันสามารถปลดตำแหน่งนายได้ นายถูกปลดแล้ว พลโทมีความเห็นอะไรมั้ย?”
คำของหลิวยู่ติงเหมือนปิดกั้นข้อโต้เถียงทั้งหมดไว้แล้ว หลูอี๋รู้ดีว่าพันตรีคนนี้สมควรถูกลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันไม่น่าจะถูกตัดสินใจโดยหลิวยู่ติง ชูฮันถึงกับให้มีคนไว้ทำหน้าที่ลงโทษทหารตัวเอง เห็นได้ชัดเลยว่าหลิวยู่ติงเรียนรู้มาจากใคร
ลูกน้องที่ดีซึ่งชูฮันสอนมาเองกับมือ!
พันตรีที่จู่ๆก็ถูกถอดตำแหน่งอย่างกระทันหันอึ้งค้าง เขาถูกปลดเพราะคำพูดประโยคเดียว ตำแหน่งเขาก็หายไปเลย? ประเด็นสำคัญคือหลูอี๋ไม่ปฏิเสธ และเขาถูกหลิวยู่ติงเป็นคนปลดตำแหน่ง
สมาชิกคนอื่นๆของค่ายเจียนอี๋ที่พึ่งมาถึงและได้เห็นภาพตรงหน้าถึงกับทำอะไรไม่ถูก เป็นเวลาพักหนึ่งที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
ในตอนนั้นเอง มันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากระยะไกล ซึ่งมันได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที
“นั่นท่านพลเอก!” วิวัฒนาการระยะ 6 หลี่บี๋เฟิงเป็นคนแรกที่ค้นพบ เขาอดไม่ได้ที่จะโบกมือไปอย่างตื่นเต้น
หลูอี๋ที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามหัวใจเต้นรัว เขาเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 แต่แม้แต่เขาเองก็ยังมองไม่เห็นเลย ทำไมหลี่บี๋เฟิงถึงมองเห็นได้ นี่หลี่บี๋เฟิงระยะสูงกว่าเขาอีกเหรอ?
ไม่!
ผ่านไปสักพักชูฮันและซูเฟิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วท่ามกลางสายตาของวิวัฒนาการส่วนใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลกว่าคนปกติ พวกเขาเห็นแล้วว่านั่นคือชูฮันอย่างไม่ต้องสงสัย สีหน้าเรียบนิ่งเป็นมาตรฐานที่ไม่เหมือนใคร หากไม่ได้นิ่งทื่อขนาดนั้นมันยังคงมีรอยยิ้มเย่อหยิ่งจางๆผสมอยู่
หลายคนเริ่มมีปฏิกิริยา โดยเฉพาะเหล่าทหารของค่ายเจียนอี๋ยิ่งประหลาดใจที่ได้เห็นความสามารถของหลี่บี๋เฟิง ผู้ชายคนนี้น่าประหลาดใจมาก!
“หืม?” ซูเฟิงที่วิ่งนำหน้ามาอดไม่ได้ที่จะหันไปตะโกนถามชูฮัน “พวกเขามาได้ยังไง?”
ชูฮันเองก็เห็นหลูอี๋และคนอื่นๆจากระยะไกลเหมือนกัน หลังจากประหลาดใจเล็กน้อย ชูฮันก็พูดขึ้น “ก็ดี เขาจะได้ช่วยให้เรามีชื่อเสียง?”
ซูเฟิงเหลือบมองชูฮันอย่างงงงวย
ในตอนนั้น ชูฮันก็เริ่มปรับความคิดในหัว หลังจากสงครามกลางภูเขา ชูฮันจะถูกผลักเข้าไปอยู่ท่ามกลางความสนใจของผู้คนทั่วจีนอีกครั้งและมันจะตามมาด้วยเหตุการณ์ต่างๆนับไม่ถ้วน กองทัพเขี้ยวหมาป่าจะกลายเป็นที่รู้จักและโด่งดัง ค่ายเขี้ยวหมาป่าจะได้รับการพัฒนาต่อไป ทรัพยากรมากมายจะเข้ามา
สำหรับทหารของค่ายเจียนอี๋ที่ถูกหลิวยู่ติงปลดตำแหน่งเพราะคำพูดที่ไม่เหมาะสมของตัวเอง หลูอี๋เองก็ปล่อยให้หลิวยู่ติงสั่งการได้อย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องเรียงลำดับตามความสำคัญ ชูฮันมีตัวตนที่สำคัญและสงครามครั้งนี้ก็พิสูจน์ได้มากพอลแล้วสำหรับหลูอี๋ ถึงแม้ทุกครั้งที่เห็นชูฮันแล้วเขาจะยังหัวเสียเหมือนเดิมก็ตาม
โชคร้าย ชูฮันมักมีลูกเล่นที่ไร้เหตุผล ก่อนที่จะเข้ามาถึงฝูงชน———-
พ้ะ!
ทันใดนั้น หัวของเฉินจีกวงก็ถูกเขวี้ยงลงพื้นอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงดัง “หัวของลูกผสมระยะ 6”
“ขอแสดงความยินดีกับการกลับมาครับท่านพลเอก!” สมาชิกทุกคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงด้วยความตื่นเต้น เสียงของพวกเขาดังสนั่นก้องกังวาลไปทั่วทั้งป่า
“เอ่อ”
หลูอี๋รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ความคิดทั้งหมดในหัวที่มีอยู่ไม่สามารถคิดให้แตกฉานได้
ไม่เพียงแต่หลูอี๋ แต่สมาชิกทั้งหมดของค่ายเจียนอี๋ก็ไม่ต่างกัน พวกเขาอึ้งกันหมด
ลูกผสมระยะ 6 นี่คือลูกผสมระยะสูงสุดที่พวกเขาเคยได้เห็นมา และความจริงที่ชูฮันและกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้เผชิญหน้ากับลูกผสมสูงกว่าระยะ 5 และยังสามารถฆ่ามันได้อีกหลังจากกำจัดพวกมันไปแล้ว 300 ตัวนั่นยิ่งน่าตกใจเข้าไปอีก
ความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นชัดเจนและเห็นได้ชัดจนรู้สึกละอาย พวกเขาฝึกฝนกันมานานกว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่า แต่กองทัพเขี้ยวหมาป่ากลับเหนือกว่าพวกเขาทุกด้าน
โดยเฉพาะพลเอกชูฮัน หลูอี๋นั้นชัดเจนต่อกุญแจสู่ความสำเร็จต่อเนื่องของชูฮัน สงครามกลางภูเขาไม่เพียงแต่ทำให้เขาเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างชัดเจน แต่ยังทำให้เขาเข้าใจถึงชัดแจ่มแจ้งถึงความแตกต่างระหว่างเขากับชูฮัน
มันเหมือนกับการหารครึ่ง!
ไม่แปลกใจ!
ไม่แปลกใจที่ซางจิ่งตี้ถึงกับยอมละทิ้งตำแหน่งพลตรีและเสี่ยงต่อการถูกซางจิงลงโทษ ยอมกลับไปที่เมืองอันลูคนเดียวเพื่อตามหาชูฮัน
และก็ไม่แปลกใจที่ป่ายหวีเนอซึ่งเป็นที่ต้องการของทั้งซางจิงกลับไปปรากฏต่อหน้าชูฮันอย่างกระทันหันทั้งๆหายตัวไปเป็นระยะเวลาหลายเดือน
ไม่แปลกใจที่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสูงหลายคนถึงยอมติดตามชูฮัน ไม่ว่าจะทั้งหยางเทียนหรือหลี่บี๋เฟิงหรือซูเฟิง!
ชูฮันเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แม้ผู้คนจะไม่รู้ว่าชูฮันอยู่ที่ไหนแต่ทุกคนกลับอิจฉาชูฮันจากหัวใจกันทั้งนั้น
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เมื่อมองไปที่กลุ่มทหารที่สีหน้างงงวยของค่ายเจียนอี่ ชูฮันก็เดินเข้ามาหาหลูอี๋
“ขออนุญาติครับท่านพลเอก” หลิวยู่ติงที่ไม่เคยมีความเมตตาเอ่ยกระซิบ “พวกเขาบอกว่าพวกเขามาช่วย แต่พวกเขายุ่งวุ่นวายกับการจะช่วยมากเกินไป และมีคนที่ฝ่าฝืนกฏระเบียบผมเลยปลดตำแหน่งออกครับ”
ชูฮันเลิกคิ้วและมองหน้าหลิวยู่ติงอย่างล้ำลึก ปีศาจคนนี้มาถึงจุดนี้แล้วงั้นเหรอ? แม้แต่ทหารที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ยังไม่รอด!
เมื่อมองไปที่หลูอี๋ที่อยู่ตรงหน้า ชูฮันก็ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“ในเมื่อค่ายเจียนอี๋แสดงความจริงและความมุ่งมั่นในการส่งกองกำลังมาช่วย ถ้าอย่างนั้นมันคงเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับเราที่จะปฏิเสธการช่วยเหลือของพวกคุณ” ชูฮันพูดเปิดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่ถ้าพวกคุณมา และไม่ช่วยอะไรนอกจากสร้างเรื่องไร้สาระไม่หยุด ถ้าอย่างนั้นก็กออกไปทำความสะอาดสนามรบแทนแล้วกัน”