ภายใต้การนำของกูเหลียงเฉิน กองทัพเขี้ยวหมาป่าค่อยๆเดินผ่านประตูค่ายเข้ามาเรื่อยๆทีละคนๆ และถูกกลุ่มของชาวบ้านพุ่งเข้ารุมล้อม ภาพที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
กูยี่หมิงถูกบีบอัดจากทุกทาง ไม่ว่าเขาจะพยายามเบียดตัวดันเข้าไปมากขนาดไหน มันก็เปล่าประโยชน์ ไม่ว่าเขาจะตะโกนเรียกกูเหลียงเฉินกี่ครั้ง มันก็เปล่าประโยชน์ เสียงของถูกกลืนเข้าไปกับเสียงเชียร์ผู้คนอย่างสมบูรณ์แบบ
“เฮ้! อย่าเบียดสิ! อย่าเบียด! ฉันกำลังมองหาน้องชายฉันอยู่!”
กูยี่หมิงยิ่งเครียดเครียด ชาวบ้านของค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่ได้ทำให้ดีขึ้นเลย นอกจากจะคอยยืนขวางทางตลอดแล้ว ยังส่งเสียงดังลั่นอีก
นี่มันยิ่งทำให้กูยี่หมิงปวดหัวเข้าไปอีก ทำไมน้องของเขาถึงจำเขาไม่ได้ทันที?
เมื่อเห็นว่าทหารหลายร้อยคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าตรงหน้าเริ่มห่างไกลเขาออกไปเรื่อยๆ บวกกับแผ่นหลังของกูเหลียงเฉินที่เริ่มหายไปจากระยะสายตา ในที่สุดกูยี่หมิงก็กัดฟันและเค้นพลังทั้งหมดของตัวเองตะโกนขึ้นมา “ซาลาเปา!”
พรึบ!
เสียงดังวุ่นวายต่างๆค่อยเงียบลง ทุกคนตกใจกับเสียงตะโกนสนั่นที่ดังแทรกขึ้นมา หลายคนหันหน้าไปตามเสียงและได้เห็นกูยี่หมิง ใครกัน?
กูยี่หมิงที่กลัวว่าจะถูกเพิกเฉยอีกครั้งรีบตะโกนขึ้นมาต่อทันที “ซาลาเปา! พี่ชายของนายอยู่นี่—-“
พรึบ!
จู่ๆมันก็มีการเคลื่อนไหวของร่างหนึ่งอย่างรวดเร็วตรงหน้ากูยี่หมิง คว้าตัวกูนี่หมิ และในขณะที่ผู้คนรอบค้างยังคงไม่ทันได้ตอบสนอง ร่างของกูยี่หมิงก็หายวับไปภายในพริบตา
กูยี่หมิงเองก็ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่เขารู้สึกถึงความเร็วราวกับลมกรด และร่างของเขาที่ถูกลากตามพื้น
ฝูงชนต่างตาโตเท่าไข่ห่าน ไม่มีใครเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลูเหวินเฉิงที่มีสัมพันธ์กับกูเหลียงเฉินมากที่สุดก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆและยิ้มออกมา “ไม่มีอะไรทุกคน ทุกอย่างปกติ ทุกคนไปเถอะ แยกย้ายไปพักผ่อนได้แล้ว”
ในตอนนั้น กูยี่หมิงและกูเหลียงเฉินก็เดินทางด้วยความเร็วสุดขีดมุ่งหน้าไปที่ที่พักของกูเหลียงเฉิน
ประตูถูกกระแทกเปิด กูเหลียงเฉินเหวี่ยงร่างกึ่งตายของกูยี่หมิงลงไปที่พื้น จากนั้นก็หันไปกวาดสายตาที่แสนจะน่ากลัวใส่หลายคนที่ยืนอยู่ด้านนอกและปิดประตูทันที
กูเหลียงเฉินจ้องเขม็งไปที่กูยี่หมิงอย่างรุนแรง ขณะที่กูยี่หมิงกำลังสำลักอย่างน่าสมเพชอยู่ที่พื้น “ลองเรียกชื่อนั้นอีกทีสิ!?”
“แค่ก แค่ก แค่ก!” กูเหลียงเฉินแทบจะสำลักอากาศตาย ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้เจอน้องชายของเขาต่อหน้าแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้และรู้สึกผิดมาก “ฉันเรียกตั้งนานแต่แกไม่หันมาเลย การป้องกันของค่ายมันเข้มงวดเกินไป ฉันไม่มีวิธีที่จะเข้าถึงแกได้เลย ฉันทำได้แค่เรียกชื่อเล่นแกเพื่อดึงความสนใจจากแก”
“หุบปาก อยากตายเหรอไง!” กูเหลียงเฉินเดือดจนหัวร้อน หากทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “ว่าแต่แกมาที่นี้ได้ยังไง?”
“ถามฉัน?” กูยี่หมิงลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ด้วยตัวเอง “แกนี่เก่งดีนี่ ได้กลายเป็นถึงกัปตันของกองทัพเขี้ยวหมาป่า? ฉันคิดว่าแกตายที่ซางจิงไปแล้วซะอีก!”
“ฉันเกือบตายที่ซางจิง แต่โชคดีที่ฉันได้เจอผู้มีพระคุณช่วยชีวิตฉันไว้”
“ผู้มีพระคุณ? ชูฮัน?” กูยี่หมิงคาดเดา
“ไม่” กูเหลียงเฉินชะงัก น้ำเสียงเริ่มแปลกไป “แกรู้มั้ย ในยุคศิวิไลซ์คนที่มีการตกลงทางธุรกิจกับครอบครัวของเรา ซึ่งไม่คิดเลยว่าเกิดการปะทุของโลกาวินาศเขาจะคิดฆ่าฉัน”
กูยี่หมิงรู้ว่ากูเหลียงเฉินพูดถึงใคร สีหน้าของกูยี่หมิงเริ่มมืดมนและน่ากลัว “มันมีเรื่องบางอย่างที่แกไม่รู้ แกจะไม่ถามเหรอว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ในอันลู? แกรู้รึเปล่าว่าพ่อแม่ของเราตายแล้ว?”
กูเหลียงเฉินช็อคและจ้องไปที่กูยี่หมิงด้วยสีหน้าจริงจัง มือของกูเหลียงเฉินเริ่มสั่น เขาพยายามอย่างมากที่จะระงับอาการของตัวเองไว้ไม่ให้กูยี่หมิงเห็น
ในตอนนั้น ทุกคนที่มารวมตัวกันที่ทางเข้าของค่ายได้แยกย้ายกันไปแล้ว หลูเหวินเฉิงหัวเราะอยู่กับกลุ่มทหารผ่านศึกของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ถ้าไม่ใช่เพราะมันยังคนเหลืออยู่รอบๆ พวกเขาคงจะลงไปขำกลิ้งที่พื้นแล้ว
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ชื่อเล่นของกูเหลียงเฉินคือซาลาเปางั้นเหรอ?
นี่มันน่าทึ่งมาก!
“ไปกัน… ไปดูกันเถอะ!” นำโดยหลูเหวินเฉิง กลุ่มทหารผ่านศึกกมุ่งหน้ากลับมาโดยไม่แม้แต่จะล้างหน้าล้างตาก่อน พวกเขารอไม่ไหวที่จะไปถึงที่พักของกูเหลียงเฉิน
ขณะที่กลุ่มทหารผ่านศึกเดินไปพร้อมกับหัวเราะไปมา และในขณะที่กำลังจะเคาะประตู—-
พั้วะ!
จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออก ทุกคนเห็นว่าหน้าของกูเหลียงเฉินแดงจัด ลมหายใจสั้น ร่างสั่นเทิ้ม เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของกูเหลียงเฉินกำลังจะปะทุ
“นี่มัน นายเป็นอะไรน่ะ?!”
เสียงโวยวายของหลูเหวินเฉิงทำให้คนอื่นๆต่างมองไปที่กูเหลียงเฉินที่สีหน้าเปลี่ยนอย่างกระทันหัน เกิดอะไรขึ้น?
“ฉันจะไปหาท่านพลเอกก่อน” กูเหลียงเฉินจากไปทันทีที่พูดจบ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หลูเหวินเฉิงส่ายหัว มองตามแผ่นหลังของกูเหลียงเฉินไป จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปในที่พักและยิ้มให้กับกูยี่หมิงที่อยู่ข้างใน “เฮ้! คุณเป็นพี่ชายของไอ้ซาลาเปาเหรอ? เป็นพี่ชายสินะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
กูยี่หมิงเหลือบมองตราตำแหน่งตรงหน้าอกของหลูเหวินเฉิง เขารีบผุดลุกขึ้นยืนทันที และรีบทำสีหน้าประจบ “โอ้ ร้อยเอก? สวัสดีครับท่าน!”
วันที่สองของการกลับมาที่ค่าย ทหารทั้งสองร้อยคนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้รับรางวัลเป็นยศและตราตามการบันทึก ประสบการณ์ตลอดสามเดือนของการฝึกและชัยชนะของสงครามกลางภูเขา ทุกคนล้วนได้ยศและตรากันหมด นั้นจึงทำให้ทุกคนได้กลายมาเป็นทหารของชูฮันอย่างเป็นทางการ
ความจริงแล้ว ชูฮันให้ตำแหน่งที่ต่ำมากกับทุกคน ถ้าพวกเขาอยู่ในค่ายใหญ่อื่นด้วยประสบการณ์การรบที่มีมากขนาดนั้น อย่างหลูเหวินเฉิงคงจะได้ตำแหน่งพันตรีไปเลยด้วยซ้ำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สวัสดี พี่ชาย!” หลูเหวินเชิงหัวเราะลั่น จากนั้นก็เริ่มทำการสืบ “ชื่อของกูเหลียงเฉินคืออะไรครับ? พี่บอกผมได้ ผมไม่บอกใครแน่นอน!”
ในตอนนั้นเอง กูเหลียงเฉินที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานของชูฮัน ไม่ได้รับรู้เลยว่าเขากำลังถูกพี่ชายของตัวเองขายอยู่ เขาเพียงแค่ใช้จังหวะนั้นเพื่อหนีพี่ตัวเองและวิ่งมาที่ห้องทำงานของชูฮันแทน กูเหลียงเฉินเคาะประตูห้องทำงานชูฮัน
“ปัง!”
แรงเคาะนั้นดังสนั่นจนสามารถทำให้ทุกคนที่กำลังประชุมอยู่ข้างในสะดุ้งตกใจกันหมด
กูเหลียงเฉินเปิดประเข้าไปอย่างเร่งรีบ “ท่านพลเอกครับ ผมมีบางอย่างจะบอกครับ!”
กลุ่มคนที่กำลังปรึกษากันเรื่องการก่อสร้างของค่ายนั้นตะลึงค้าง สายตาของทุกคนมองมาที่กูเหลียงเฉินที่พุ่งเข้ามาด้วยอารมณ์เต็มที่ มันเกิดอะไรขึ้นกับกูเหลียงเฉิน?
ชูฮันพยักหน้า หากในขณะเดียวกันเขากำลังมองข้อมูลส่วนตัวของกูเหลียงเฉินในระบบล่มสลายอยู่ กูเหลียงเฉินเป็นคนมั่นคงเสมอความภักดีของกูเหลียงเฉินนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นช้าๆ
เกิดอะไรขึ้นกัน?