“อืม” ชูฮันพยักหน้า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นฟานเจี้ยนแสดงความสนใจ ชูฮันชอบการที่เขาไม่ต้องเปลืองคำพูดเวลาคุยกับคนฉลาดๆ “ขั้นตอนต่อไปก็คือเริ่มเลือกภารกิจ เพราะว่าแกคนเดียวไม่สามารถรับงานทั้งหมดได้ไหว ยกระดับมูลค่าการจ้างให้สูงเพื่อเป็นการคัดงาน”
“ถ้างั้นมันก็ง่ายมาก พวกคนที่กลัวกับค่าจ้างที่สูงเกินไปของฉันก็จะถอยไปเอง แต่ฉันไม่ไว้ใจพวกนักล่าคนอื่นๆ เพราะงั้นฉันจะขอให้เพื่อนที่ฉันรู้จักและไว้ใจได้มาช่วยแทน นักล่าคนอื่นๆก็จะเห็นชื่อเสียงของฉันและเริ่มอยากเข้ามาเข้าร่วมด้วย? แต่ฉันจะต้องหาทางไปแนะนำตัวเองให้เหล่านายจ้างได้รู้จักเองใช่มั้ย?” ฟานเจี้ยนถาม
“ใช่ นั้นคือขั้นตอนที่สาม!” อีกครั้งที่ชูฮันชื่นชมฟานเจี้ยนในใจ “เราต้องทำการแจกจ่าย มอบหมายภารกิจในมือออกไป และเป็นเพราะความน่าเชื่อและชื่อเสียงที่แกมี ฉันเชื่อว่าเหล่านายจ้างส่วนใหญ่จะเชื่อใจในนักล่าที่แกเลือกมาให้ทำภารกิจแทน และนี่แหละจะเป็นจุดเริ่มก่อตั้งของสมาคมนักล่า”
ฟานเจี้ยนมองชูฮันที่มีรอยยิ้มบนหน้า ทันใดนั้นเขาก็อยากจะหัวเราะออกไป ตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งสมาคมนักล่าไปจนถึงแผนการเจาะจงต่อ และวิธีการที่ค่อนข้างยากในการทำขั้นตอนแรกให้สำเร็จ หรือแม้แต่ปึกเอกสารข้อมูลในมือนี้ ทุกอย่างทำให้ฟานเจี้ยนรู้สึกว่าชูฮันช่างเป็นคนที่ลึกลับและน่ากลัวอย่างมาก!
“คิดว่าไง?” ชูฮันที่พูดจบหันมามองฟานเจี้ยน “แกจะทำมั้ย? มันไม่อะไรยากเลย แกแค่ต้องลงแรงและทุ่มเทในช่วงขั้นตอนแรกก่อนแล้วก็เสวยสุขกับความสำเร็จในตอนหลัง เมื่อสมาคมนักล่าสามารถดำเนินการต่อไปได้ด้วยตัวเองแล้ว แกจะไปทำอะไรก็ได้อย่างอิสระและได้ผลตอบรับมหาศาลทุกปี”
“แล้วแกล่ะ? แกมีบทบาทอะไรในทั้งหมดนี้?” ฟานเจี้ยนที่งุนงงในตอนแรกจากสิ่งล่อลวงที่ชูฮันเอามาล่อเขา แต่จู่ๆเขาก็นึกถึงบางอย่างได้ “มูลค่าของสิ่งที่แกมอบให้ฉันมันมากแค่ไหน ฉันรู้และเข้าใจดี ถ้าเรื่องที่เราคุยกันนี้มีบุคคลที่สามล่วงรู้ขึ้นมา คาดว่าคนคนนั้นคงขโมยความคิดเราไปลงมือทำก่อนแน่นอน แต่แกกลับเลือกที่จะมาคุยกับฉัน และให้เสนอทุกอย่างให้ฉัน จุดประสงค์ของแกคืออะไร?”
“ก็เหมือนกับแก” ชูฮันกระพริบตา ทำหน้าใสซื่อ ดูเหมือนกับไม่ได้วางแผนซ่อนอะไรไว้ทั้งนั้น “ฉันเองก็เป็นนักลงทุน ในอนาคตฉันจะรอจนกระทั่งฉันขึ้นไปถึงระยะ 5 และสามารถใช้นามแฝงเข้าไปในสมาคมนักล่าเพื่อหาเงินได้ และเพราะฉันลงทุนอย่างมากในตัวแก หนึ่งในผู้ก่อตั้งก็ต้องมีฉันอยู่ด้วย? และฉันก็จะต้องมีสำเนาของหลักฐานเพื่อเป็นการยืนยันให้ตัวเองด้วย”
“แค่นั้น?” ฟานเจี้ยนยังคงคลางแคลง “แกดูเหมือนมีแผนการบางอย่าง แต่มันก็แค่ดูเหมือนนั้นแหละ”
“ฉันคิดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับมันมากกว่านั้น” ตาของฟานเจี้ยนแวววาว ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจความคิดของชูฮัน เขาจึงค่อยๆไล่ผลประโยชน์ออกมาทีละข้อ “เมื่อตอนที่สมาคมนักล่าเข้าสู่ช่วงที่พัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ คนที่ออกภารกิจและคำสั่งของภารกิจจะต้องเป็นความลับ มีเพียงแค่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้นที่จะรู้ข้อมูลได้ ซึ่งก็คือผู้ก่อตั้งของสมาคม และเมื่อสมาคมนักล่าพัฒนาเต็มรูปแบบแล้วและกลายเป็นองค์กรที่เหนือกว่าใคร เราจะรวบรวมข้อมูลทั้งจีนไว้ในสมาคมด้วย ในกรณีนี้ ใครทำอะไร ใครต้องการตกลงกับใคร ทุกๆอย่างจะต้องสามารถตรวจสอบได้หมด”
“ใช่! แกฉลาดมาก! นั่นคือการตั้งค่าของฐานข้อมูลทั้งหมด” ชูฮันเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน นี่คือจุดสูงสุดของสมาคมนักล่า ถ้าฟานเจี้ยนสามารถคิดแบบนี้ได้ เขาก็วางใจแล้ว “การสร้างฐานข้อมูลจะต้องอิงจากสมาชิกทุกคนในสมาคม แต่มันก็สามารถเป็นในรูปแบบภารกิจด้เช่นกัน อย่างเช่น ใครต้องการรู้ข้อมูลอะไร สมาคมนักล่าสามารถบอกข้อมูลให้ได้ถ้าอีกฝ่ายจ่ายตามราคา”
“ฉันฉลาด?” ฟานเจี้ยนหัวเราะเยาะตัวเอง “ชูฮัน ชูฮัน แกสามารถทำได้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ แต่แกทำมาเป็นช่วยฉัน ใครกันแน่ที่ฉลาด?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชูฮันหัวเราะและยอมรับคำชมของฟานเจี้ยนโดยไม่คิดรักษามารยาท “ฉันรู้สึกขอบคุณมาก ฉันเป็นคนฉลาดจนน่ากลัว สามารถคิดวิธีหาเงินได้มากขนาดนี้!”
“อืม ถ้างั้นในฐานะหนึ่งในผู้ก่อตั้วของสมาคมนักล่า แกสามารถเพลิดเพลินไปกับมันและปิดบังตัวตนไปด้วยได้ แม้แกจะไม่เข้าใจมาแทรกแซงสมาคมนักล่าให้ทำเรื่องไม่ดี แต่แกสามารถใช้ฐานข้อมูลของสมาคมนักล่าเพื่อค่ายเขี้ยวหมาป่าของแกได้ในฐานะหน่วยข่าวกรอง” จู่ๆฟานเจี้ยนก็แสยะยิ้ม “ฉันพูดถูกมั้ย?”
รอยยิ้มของชูฮันหายวับไปทันที อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “แกนี่มันไม่ยอมหลงกลจริงๆ!”
ฟานเจี้ยนที่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งของสมาคมนักล่าในชาติที่แล้ว มีเหรอที่จะมองไม่เห็นถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของชูฮัน? มันเป็นเรื่องจริงที่ฟานเจี้ยนพูดเกี่ยวกับชูฮัน เงินไม่มีค่าอะไรนอกจากของนอกกาย ที่จริงชูฮันสามารถได้รับคะแนนจากกลุ่มคนจำนวนมากที่จงรักภักดีที่ต่อและฆ่าซอมบี้ ซึ่งคะแนนเหล่านี้เขาก็สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นต่อกับระบบล่มสลายเพื่อสิ่งที่ต้องการได้ เพราะฉะนั้นเงินในโลกภายนอกนั้นไม่จำเป็นสำหรับชูฮันเลย
จุดประสงค์ที่ชูฮันต้องการคือก่อตั้งหน่วยข่าวกรองลับๆขึ้นเพื่อไม่ให้ใครรู้!
“ฉันรำคาญ!” สีหน้าของฟานเจี้ยนเปลี่ยนไปทันที “ถ้าแกคิดว่ามันดี ก็ไปทำเอาเอง ฉันไม่ทำด้วย!”
การที่จู่ๆฟานเจี้ยนจะเปลี่ยนท่าทางไปอย่างกระทันหันนั้นไม่ได้ทำให้ชูฮันวิตกเลย เขาเพียงแค่เม้มปากเล็กน้อยและมองไปรอบๆหุบเขา “มันจะมีที่ไหนดีกว่านี้ คิดดูถ้าเราสร้างฐานลับขึ้นภายในหุบเขานี้ โดยมีเทคโนโลยีล้ำหน้าขั้นสูงสำหรับการดำเนินงาน โดยมีภูเขาล้อมรอบเอาไว้ ฟังดูเป็นไง?”
หูของฟานเจี้ยนกระดิก หากเขาพยายามทำนิ่งไว้ไม่แสดงออกให้ชูฮันรู้ และรอให้ชูฮันพูดต่อ
ชูฮันรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสนใจอยู่ “ฉันจำได้ว่าฉันรู้จักคนหนึ่ง เขาเป็นอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่มี IQ ถึง 250! ถ้าแกจะร่วมมือกับฉัน งั้นถ้าเมื่อตอนที่ฉันขึ้นไปถึงระยะ 5 แล้ว ฉันจะทำเองคนเดียวละกัน เพราะถึงยังไงฉันก็มีทีมก่อสร้างอยู่แล้ว แล้วก็วิศวกรสถาปนิก แถมอัจฉริยะเทคโนโลยีขั้นสูงคนนั้นยังจงรักภักดีต่อฉันมาก มันไม่เป็นปัญหายากอะไรเลยกับการก่อตั้งสมาคมนักล่าขึ้นภายในครึ่งปีหลังจากนี้”
“คำถามสุดท้าย” ฟานเจี้ยนยอมในที่สุด หากสีหน้าเขายังดูข้องใจกับบางอย่างอยู่
“อืม อะไรล่ะ?” ชูฮันแอบตื่นเต้นอยู่ในใจ
“หนึ่งเดือน ภายในอาณาเขตของเมืองอันลู ความสำเร็จของภารกิจทั้ง 10 โดยเฉลี่ยอยู่ที่สามวันต่อหนึ่งภารกิจ จะต้องไม่รวมถึงเวลาในการหานายจ้างและเจรจา” ฟานเจี้ยนเริ่มคำนึงถึงกระบวนของขั้นตอนแรก “อาณาเขตของเมืองอันลูนั้นไม่ใช่เล็กๆ มันมีแม่น้ำอยู่ทางเหนือ ภูเขาอยู่ทางใต้ และภูมิศาสตร์ที่ซับซ้อนเต็มไปหมด ฉันมีแค่สองขาจะให้วิ่งไปทั่วหมดนี้คนเดียวเนี่ยนะ?”
“เรื่องนั้น? ง่ายมาก!” ชูฮันโบกมือทันที “ฉันเตรียมของไว้ให้แกแล้ว มันมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งอยู่ที่ตีนเขา ปรับแต่งแล้วเรียบร้อย แกเอามันไปใช้ได้เลย แน่นอนว่าความเร็วมันสุดยอด”
อึก!
ฟานเจี้ยนกลืนน้ำลายอึก หัวใจเต้นรัวด้วยความตกใจ ชูฮันคิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้วงั้นเหรอ? คนคนนี้มีความสามารถในการสอบสวนและคาดเดามากขนาดไหนกัน?
ชูฮันไม่สนว่าฟานเจี้ยนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาตบไหล่ฟานเจี้ยนเบาๆ “ส่วนสิ่งต่อไปจะส่งมอบให้แกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ เจอกันอีกหนึ่งเดือน”
หลังจากพูดเสร็จ ชูฮันก็หมุนตัวหันหลัง เขายิ้มออกมาจนเห็นฟันเรียงขาว
หน่วยลับของค่ายเขี้ยวหมาป่า เริ่มได้!