“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันคือชูฮัน?” นี่คือจุดที่ชูฮันคิดไม่ออกว่าหลูปิงเซ่อเดาออกได้อย่างไร มันควรจะเป็นหลังจากที่ได้เห็นเสาหินที่อยู่ในทะเลสาบก่อนถึงจะกระจ่างได้สิ
แต่ทำไมหลูปิงเซ่อถึงรู้ได้? เขากลายเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 ทันทีหลังจากเสร็จจาการทดสอบ
เมื่อได้เห็นชูฮันยอมรับ เสี่ยวเคินก็เป็นคนนำวิวัฒนาการที่เหลือแสดงความเคารพ ทุกคนต่างชื่นชมและนับถือจากใจจริง ไม่แปลกว่าทำไมชูฮันมักจะได้คะแน S+ ติดต่อกันตลอดและเป็นอันดับที่หนึ่งในทุกระยะการทดสอบ
ในขณะเดียวกันทุกคนก็รู้สึกอับอายกับการกระทำของตัวเองที่ก่อนหน้านี้พูดจาเยาะเย้ยและแดกดันคนที่ทรงพลังและเป็นอันดับที่ 1 ในการประเมิณตั้งแต่ระยะ 1 ถึง 3 อย่างชูฮันที่มาถึงหมู่บ้านเล็กๆนี้ ทว่าคนที่พวกเขาเจอก่อนหน้านี้ที่ดูต้องการแต่คริสตัลและไม่ปล่อยทางเลือกอื่นให้พวกเขานอกจากจำยอมต้องมอบคริสตัลให้ดูไม่เหมือนกับชื่อเสียงที่มีเลย
เมื่อเทียบกับชูฮันที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้ มันดูไม่เข้ากันเลยสักนิด
เมื่อได้ยินคำถามของชูฮัน หลูปิงเซ่อก็รีบก้าวเท้ามาข้างหน้าท่ามกลางฝูงชนและแหกปากใส่ชูฮัน “ฉันเจอกับกระต่ายป่าที่มาจากทะเลสาบ มันบอกฉันว่า—“
“เฮ้—-” เฟิงจื่อจือส่งเสียง
เฟิงจื่อจือตะลึงกับคำตอบของหลูปิงเซ่อ นี่มันอะไร?
เสี่ยวเคินยิ้ม หลูปิงเซ่อหลอกหลวงพวกเขาเพื่อจะเอาคริสตัลจากพวกเขา แม้ว่าวิธีการจะแตกต่างไปจากชูฮัน แต่เขาก็สามารถเดาตัวตนของชูฮันที่มีความสามารถแบบนี้ออกได้
จางโบฮั่นนั่งห่างออกไปและมองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ส่วนชูฮันก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน ทุกคนต่างรอให้ชูฮันพูด
จางโบฮั่นกระพริบตาพลางสงสัย จู่ๆคนพวกนี้ต้องการจะทำอะไรกัน?
เฟิงจื่อจือยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ สายตาของเขายังคงหันไปจับจ้องสลับไปมาระหว่างเสี่ยวเคินและหลูปิงเซ่อไม่หยุด
“ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี้ งั้นฉันจะอธิบายให้ฟังเองทั้งหมด” ชูฮันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงธรรมดา “แรกเลย หลูปิงเซ่อ—-“
ชูฮันยิ้มมุมปาก จากนั้นก็เอ่ยปากพูดต่อ “คริสตัล 70 ชิ้นที่ฉันเอามาจากนายก่อนหน้านี้”
“นั่นมันสำหรับหัวหน้า!” หลูปิวเซ่อรีบตอบทันที “คริสตัลก่อนหน้านี้ถือเป็นเกียรติแก่หัวหน้าของพวกเรา!”
“ใช่! นั่นคือของขวัญสำหรับหัวหน้า!” วิวัฒนาการที่ยืนอยู่ข้างหลูปิงเซ่อพูดขึ้นมาเสียงดัง
เสี่ยวเคินถอนหายใจจากนั้นก็ตะโกนใส่ชูฮัน “คริสตัลของพวกเราก่อนหน้านี้ก็เป็นเกียรติแก่หัวหน้าเหมือนกัน!”
หลังจากนั้น เสี่ยวเคินก็มองไปที่หลูปิงเซ่อด้วยสายตายั่วเย้าเล็กน้อย ถ้าแกจะประจบ? เราก็จะทำเหมือนกัน!
ชูฮันหัวเราะหึ คนพวกนี้ไม่อยากได้คริสตัลแล้ว? เพี้ยนกันหมดแล้วเหรอไง?
จางโบฮั่นได้แต่คิด นี่ฉันหวังพึ่งพวกบ้าพวกนี้ได้มั้ย?
“อะ หึ่ม–” ชูฮันกระแอมและตัดสินใจที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดของคนพวกนี้ “มันไม่เกี่ยวกับคริสตัล ถ้าอยากจะติดตามฉันมันมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น การทดสอบอย่างเดียวก็คือพวกนายทั้งหมดต้องไปหาหยางเทียนในเมืองอันลูภายในเวลา 3 เดือน”
หลังจากชูฮันพูดเงื่อนไขออกมา หลูปิงเซ่อและคนอื่นๆก็มีแต่สายตาตะลึงงันเผยออกมาเช่นเดียวกับกับกลุ่มของเสี่ยวเคินก่อนหน้านี้ “จำไว้ ว่าต้องทุกคน”
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่หลูปิงเซ่อ ทว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย เสี่ยวเคินเองก็นิ่งไปพักหนึ่งเช่นกัน ภายในเวลาแค่ไม่กี่นาที การทดสอบของชูฮันก็เพิ่มระดับขึ้นไปอีก?
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาตัวหยางเทียนในเมืองอันลูให้ได้ภายในเวลาแค่ 3 เดือน แต่ชูฮันยังบอกให้ทุกคนต้องไปถึงเมืองอันลูด้วยกันทั้งหมด นี่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำภารกิจให้สำเร็จได้!
และในตอนนั้นเองเฟิงจื่อจือที่ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเลยสักคำ จู่ๆก็พูดขึ้น “ทุกคนในที่นี้หมายความว่าทุกคนต้องไปถึงอย่างปลอดภัย?”
“ไม่มีแขนขาขาด” ชูฮันพูดต่อพร้อมกับหวาดตามองกลุ่มคนตรงหน้าเขา…ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ ก็คือจบ
เฟิงจื่อจือมีท่าทางลังเลขณะตอบ “ฉันเข้าร่วมกับพวกเขาด้วยได้มั้ย?”
“เข้าร่วม? ได้สิ” ชูฮันหันกลับไปมองเฟิงจื่อจือ จากนั้นก็เอ่ยปากถาม “เสี่ยวเคินและหลูปิงเซ่อ นายต้องการจะเข้าร่วมทีมไหน?”
“สองทีม?” เสี่ยวเคินตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
อ่า—? มีการแบ่งทีม? หลูปิงเซ่อเองก็ตกใจมากเช่นกัน
จางโบฮั่นไม่เข้าใจ ชูฮันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่?
“ใช่ ทั้งสองทีมจะไปคนละเส้นทาง” รอยยิ้มบนหน้าชูฮันเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็หยิบถุงใบเล็กๆออกมา “ข้างในนี่มีคริสตัลของซอมบี้ระยะ 2 อยู่ 100 อัน 70 อันเป็นรางวัลสำหรับทีมแรกที่ไปถึงก่อน ที่เหลือจะเป็นของอีกทีม ฉันไม่ให้พวกนายเหนื่อยเปล่า แต่พวกนายต้องจำกฏไว้ให้ขึ้นใจ ห้ามทีมไหนขาดใครไปสักคน ทุกทีมต้องมีจำนวนสมาชิกเต็มจำนวนเมื่อไปถึง ถ้าขาดใครไปสักคนจะถือเป็นโมฆะทันที”
คริสตัล 100 อัน!
แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือล้น คริสตัล 100 อัน เป็นของตอบแทน…วิวัฒนาการระยะ 4 ช่างใจกว้างจริงๆ!
“ฉันจะทำ” เสี่ยวเคินเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยอมรับเงื่อนไขของชูฮัน “หัวหน้าชูฮัน พวกเราจะทำภารกิจให้สำเร็จ!”
หลูปิงเซ่อเองก็ตอบรับเงื่อนไขของชูฮันเช่นกันหลังจากเงียบไปอยู่ครึ่งหนึ่ง “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ฉันก็ตัดสินใจที่จะเชื่อหัวหน้า ฉันจะทำภารกิจนี้”
เฟิงจื่อจือในยุคศิวิไลซ์จะได้รับรางวัลแกรมมี่ถึง 6 รางวัลภายในเวลา 2 ปี ในฐานะดีเจวัย 26 ปี โปรดิวเซอร์และหัวหน้าค่ายที่ออกอัลบั้มแรกของเขาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เฟิงจื่อจือรีบกล่าว “ฉันต้องการเข้าร่วมทีมของหลูปิงเซ่อ”
จางโบฮั่นขมวดคิ้ว “แล้วฉันกับเจิ้งเทียนอี้ล่ะ?”
“เธอพูดว่าอะไรน่ะ?” ชูฮันหันไปมองจางโบฮั่น “ถ้าเธอกับเด็กนี่อยากจะเข้าร่วมด้วย เธอไปกับทีมของเสี่ยวเคิน ส่วนเจิ้งเทียนอี้ให้หลูปิงเซ่อเป็นคนรับผิดชอบ”
“เอ่อ…” จางโบฮั่นโวยวายใส่ชูฮัน “แต่ฉันคุ้นเคยกับหลูปิงเซ่อกว่า พวกฉันเข้าใจกันดี”
“จะให้พรสวรรค์ทั้งหมด 3 คนไปอยู่ในทีมเดียวมันไม่ค่อยยุติธรรมนะ ความสามารถของเธอค่อนข้างพิเศษ ฉันเชื่อว่ามันจะเหมาะสำหรับทีมของเสี่ยวเคิน เจิ้งเทียนอี้ยังเด็ก นั้นจึงเป็นหน้าที่เพียงพอแล้วให้ทีมหลูปิงเซ่อต้องรับผิดชอบดูแล” ชูฮันพูดต่อ ร่างกายของชูฮันปล่อยพลังผันผวนและกดดันออกมา ทำให้ไม่มีใครสามารถจ้องไปที่ชูฮันตรงๆได้ “นอกเหนือจากนี้ ฉันอยากจะบอกอะไรพวกนายซักหน่อย ถือเป็นคำแนะนำสำหรับทั้ง 2 ทีม”