Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 619 คำพูดไม่กี่คำก็แก้ไขปัญหาได้หมด

ชูฮันยิ้มยกมุมปากอย่างถูกใจ น้ำเสียงนิ่งเรียบ “ข้อแรก การประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูง จัดตั้งคนจดบันทึกการประชุม ข้อสองจัดตั้งแผนกเจ้าหน้าที่ขึ้นอย่างเป็นทางการโดยให้กูเหลียงเฉินเป็นผู้รับผิดชอบชั่วคราวไปก่อน ข้อสามการก่อตั้งแผนกลาดตระเวนอย่างเป็นทางการจะนำโดยเจียงเทียนชิง ข้อสี่ ได้ทำการเลือกเจ้าหน้าที่แผนกหน่วยข่าวกรองหรือยัง?”

 

ทันทีที่คำสั่งสี่คำสั่งออกมา ทั้งห้องประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบสนิททันที หลายคนมีสีหน้าที่ตีความได้ว่าเอาจริงเหรอ หัวหน้าข้ามขั้นตอนการวิเคราะห์โดยใช้เหตุผลและเริ่มคิดไปการณ์ไกลออกไป…

 

อย่างไม่ลังเล ซางติ่วจี้จดบันทึกคำสั่งของชูฮันทันที คำสั่งทั้งสี่คำสั่งนี้จะถูกปฏิบัติก่อนเป็นอันดับแรก สำหรับคนอื่นๆคำสั่งทั้งสี่คำสั่งของชูฮันอาจจะดูธรรมดาไม่มีอะไร แต่มันเป็นสิ่งผ่านกระบวนการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว แน่นอนว่าทั้งสี่คำสั่งนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องที่สำคัญอย่างมากต่ออนาคตของค่ายเขี้ยวหมาป่าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

คำร้องของการให้จดบันทึกการประชุมถูกตัดสินจากพื้นฐานเฉพาะกิจ การประชุมครั้งที่แล้วที่เขาสั่งงานไว้ มันแทบไม่มีการคืบหน้าอะไรเลยสักนิด ซึ่งการกลับมาครั้งนี้และเป็นการประชุมครั้งที่สองมันทำให้เขาได้เห็นปัญหามากมาย

 

ไม่มีความเป็นมืออาชีพสุดๆ!

 

ชูฮันเคยเข้าร่วมการประชุมขนาดใหญ่ของเหล่าผู้นำระดับสูงของประเทศที่ซางจิงมาแล้ว ซึ่งมันทำให้เขาประทับใจอย่างมาก ไม่มีร่องรอยของการไม่ได้รับข้อมูลจากคนใดคนหนึ่ง ทุกคนได้รับข้อมูลครบถ้วนเหมือนกันหมด ทุกคนในห้องประชุมภาพมองรวมภาพใหญ่ไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้การประชุมดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

กระบวนการประชุมทั้งหมดได้รับการจัดการอย่างดี ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน บุคลากรที่ได้รับมอบหมายภารกิจและมีความรู้โดยตรงเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้  มันเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการประชุมที่จะต้องบันทึกการวิเคราะห์การใช้เหตุผลของแต่บะคนและจำแนกทุกคนในห้องประชุม นี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากสำหรับการจัดการประชุม ดังนั้นคำสั่งแรกของชูฮันจึงเป็นการจัดตั้งผู้บันทึกการประชุม

 

สำหรับการจัดตั้งแผนกเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการโดยให้กูเหลียงเฉินเป็นคนผู้รับผิดชอบ เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลยเจ้าหน้าที่อาวุโสของค่ายเขี้ยวหมาป่า เจ้าหน้าที่ในค่ายเขี้ยวหมาป่ายังมีประสบการณ์และความรู้เทียบเท่าไม่ได้กับเจ้าหน้าที่ของซางจิง ค่ายซางจิงนั้นเข้มงวดอย่างมาก แต่มันทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

คำสั่งที่สามที่ให้จัดตั้งแผนกลาดตระเวนอย่างเป็นทางการนั้นเป็นกระบวนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมันจะต้องเกิดขึ้นหลังจากการมาถึงของชินหยวนและคนอื่นๆที่จะเข้ามารวมกับค่ายเขี้ยวหมาป่า ค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่ใช่ค่ายผู้รอดชีวิตธรรมดา แต่เป็นค่ายที่รวบรวมเหล่าผู้อพยพหลายกลุ่ม ที่ในอนาคตจะมีผู้คนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นมันจำเป็นที่เราจะต้องยกระดับประสิทธิภาพในการประชุมของเหล่าเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ทุกคนต้องมีกฏระเบียบในการปฏิบัติและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน

บทบาทของแผนกลาดตระเวนนั้นคือเพื่อค้นหาความผิดปกติ เป็นผู้นำในการช่องทางการติดต่อสื่อสาร เข้าใจถึงสถานการณ์และกลับมารายงานที่ค่าย และหลังจากนั้นเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายก็จะทำการวิเคราะห์หามาตรการในการรับมือผ่านข้อมูลในมือที่ได้รับมาจากแผนกลาดตระเวร

 

เจียงเทียนชิงประหลาดใจมากที่ได้ยินชื่อตัวเองขึ้นมา หากเขาก็รีบสงบสติลง แน่นอนว่ามันมีผู้ช่วยมากมายรอบตัวเขา การก่อตั้งแผนกลาดตระเวนจะสามารถก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การที่หัวหน้าออกคำสั่งมาในตอนนี้ ความจริงแล้วมันจะต้องซ่อนเจตนาบางอย่างเอาไว้

 

เจียงเทียนชิงสามารถคิดออกได้ในขณะที่หลายคนในห้องนี้คิดไม่ออก นั้นเป็นเพราะเขารู้จักนิสัยของชูฮันดี คำพูดแค่ไม่กี่คำของชูฮันแต่มันซ่อนอันตรายที่อยู่ในวงล้อมของการจัดการในการแก้ไขปัญหาของค่ายไว้หมด สายตาของชูฮันเหมือนกับเหยี่ยว เมื่อเทียบกับวิธีการคิดวิเคราะห์ที่น่าประหลาดใจของกูเหลียงเฉินก่อนหน้านี้ การแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็วของชูฮันนั้นช่างน่าทึงและน่าชื่นชมจริงๆ

 

เป็นเวลาอยู่พักหนึ่งกว่าที่อารมณ์ภายในห้องประชุมจะสงบลง ทุกคนต่างมองไปที่ชูฮันด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าของทุกคนราวกับเห็นผี

 

ก๊อก! ก๊อก!

 

ชูฮันเคาะโต๊ะอย่างหมดความอดทน น้ำเสียงค่อนข้างไม่พอใจ “กูเหลียงเฉิน ต่อสิ เกิดอะไรขึ้นกับแผนกหน่วยข่าวกรอง?”

 

“อ่า?—-เอ่อ?” กูเหลียงเฉินที่พึ่งได้สติหลังจากตกใจ จากนั้นก็รีบคุ้ยหากระดาษในกระเป๋าของตัวเองทันที มันเป็นกระดาษที่เขาจดรายชื่อคนไว้มากมายสำหรับแผนกหน่วยข่าวกรอง ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่ามันยังไม่ได้ทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

 

ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของชูฮัน กูเหลียงเฉินส่งกระดาษให้กับชูฮันไป “ครับท่าน ยังไม่ได้ตัดสินรายชื่อขั้นสุดท้ายครับ แต่นี่คือรายชื่อของคนที่สามารถไว้ใจได้และเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ในแผนกหน่วยข่าวกรองครับ”

 

ชูฮันก้มดูรายชื่อในมือ มันมีรายชื่อหลายรายชื่อในนี้รวมถึงหลูเหวินเชิงที่กูเหลียงเฉินแนะนำอย่างขันแข็ง และมีอีกหลายคนที่ชูฮันคุ้นเคยดีอย่างเฉินเสี้ยนกาว เย๋เฉิน รวมๆแล้วทั้งหมดยี่สิบคนสำหรับการก่อตั้งแผนกหน่วยข่าวกรอง

 

การที่ชูฮันเปลี่ยนหัวข้อการไปมาราวกับสายฟ้า ทำให้ทุกคนในห้องประชุมแทบจะตามความคิดของชูฮันกันไม่ทัน พวกเขาทำได้แค่จดบันทึกตามลงไป

 

เห็นได้ชัดว่าชูฮันไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว หลังจากเห็นท่าทีเร่งรีบและสับสนของทุกคน ชูฮันก็ยิ้มบางและพูดขึ้น “พวกคุณเห็นความสำคัญของการจดบันทึกการประชุมหรือยังล่ะ?”

 

หลายคนนิ่งอึ้ง ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าที่ผ่านมาพวกเขาทำงานกันอย่างเละเทะแค่ไหน อย่างที่ชูฮันพูด ถ้ามันมีคนจดบันทึกการประชุม สถานการณ์ทุกอย่างจะดีกว่านี้

 

“ฉันจำได้ว่าติงเซวเหมือนจะอยู่ในแผนกโลจิสติกส์?” ทันใดนั้นชูฮันก็นึกถึงติงเซว ภรรยาที่เฉินช่าวเย่หวังจะได้ ซึ่งได้ผ่านการฝึกฝนกับกองทัพเขี้ยวหมาป่ามาเป็นเวลาสามเดือน หลังจากชูฮันย้ายเธอไปอยู่แผนกโลจิสติกส์ตามใจตัวเอง

 

“ใช่ครับ ตอนนี้เธอรับผิดชอบการตรวจรายการของในแผนกโลจิสติกส์” เหลาเกาหัวหน้าแผนกโลจิสติกส์ลุกขึ้นและตอบคำถามของชูฮัน

 

“เอาเธอออกมา และให้เธอเป็นผู้จัดบันทึกการประชุมแทน และข้อมูลของการประชุมก่อนหน้านี้ทั้งหมดให้ส่งไปให้เธอซะ” ชูฮันไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะมอบหมายตำแหน่งสำคัญให้ติงเซว

 

“ธะ เธอเหมาะสมเหรอครับ?” บางคนถามขึ้นอย่างลังเล

 

หลายคนในนี้เป็นเจ้าหน้าเก่าแก่ของค่ายเขี้ยวหมาป่า  มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่คุ้นเคยกับกองทัพเขี้ยวหมาป่า เพราะงั้นการที่จู่ๆชูฮันดึงคนแปลกหน้าเข้ามาทำตำแหน่งที่สำคัญมากอย่างมาก พวกเขาจึงเกิดความกังวลเป็นเรื่องปกติ เพราะถึงอย่างไรแล้วการสนทนาในการประชุมระดับสูงอย่างนี้เป็นความลับ และเท่าที่พวกเขารู้ก็คือติงเซวคือภรรยาของเฉินช่าวเย่ในความเข้าใจของทุกคน ส่วนข้อมูลอื่นๆนั้นพวกเขาไม่รู้เลย

 

ชูฮันไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ติงเซวเคยเป็นหัวหน้านักศึกษาในมหาวิทยาลัยของฉัน”

 

เงียบกริบ…

 

ทุกคนแทยหยุดหายใจกันหมด การที่ชูฮันมีท่าทีแน่วแน่อย่างนี้ก็เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดถึงความสามารถของติงเซว ดูเหมือนว่าชูฮันได้ทำการเพิ่มพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับการบริหารของค่ายเขี้ยวหมาป่า!

 

“ประชุมต่อ” วิธีการทำงานของชูฮันนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าไปง่ายๆ ชูฮันประกาศคำสั่งต่อไปออกมาทันที “หลังจากก่อตั้งแผนกหน่วยข่าวกรองเสร็จแล้ว กูเหลียงเฉินนายก็ใช้ระยะสักพักสังเกตการณ์หาคนที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าแผนกหน่วยข่าวกรอง”

 

“ครับ” กูเหลียงเฉินมีงานล้นมือตอนนี้

 

หลายคนรอบๆเกิดความอิจฉากูเหลียงเฉิน กูเหลียงเฉินได้รับงานใหญ่และมีบทบาทสำคัญ ซึ่งการที่ชูฮันมอบหมายงานสำคัญมากมายให้กูเหลียงเฉินอย่างนี้มันสามารถยืนยันถึงความสามรถของกูเหลียงเฉินได้ชัดเจน

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset