จังหวะที่ชูฮันพูดจบเขาก็เดินมาถึงหัวุมมของคฤหาสน์ตรงหน้าแล้ว ท่ามกลางความมืดและการซ่อนกาย คนที่อยู่ด้านในคฤหาสน์ไม่สามารถรับรู้ตัวตนของชูฮันได้เลย ภายในไม่ถึงห้านาทีชูฮันก็เดินไปทั่วทุกจุดแล้ว
ภาพที่เห็นตรงหน้านี้สามารถบรรยายได้คำเดียวว่าสวยงาม ชูฮันอยากจะหัวเราะออกมา เจียงหลิงโหลวซึ่งเดิมทีเป็นถึงกัปตันของทีมสำรองเขี้ยวหมาป่าสูญเสียเงินทั้งหมดเพราะติดหนี้กับเขาแถมยังเกือบจะเสียชีวิตตัวเองด้วย นี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เธอเป็นถึงวิวัฒนาการระยะ 6 ที่ซึ่งมีเพียงแค่ไม่กี่คนบนโลก เป็นที่อิจฉาของผู้คนทั่วทั้งจีน สถานการณ์ในตอนนี้เธอสามารถไปที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องพูดถึงเถาจินที่เป็นแค่หัวหน้าค่ายที่ไม่ได้แต่งตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ
ไม่มีเงิน และไม่รู้วิธีหาเงิน!
ทุกคนที่เคยมาค่ายเถาจินต่างรู้กันเองว่ามันมีสภาพเสื่อมโทรมมากขนาดไหนเพราะเถาจินเอาสมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่ตัวเองมีเก็บไว้ในคฤหาสน์ของตัวเองเท่านั้น แล้วเจียงหลิงโหลวกลับวิ่งโร่ออกไปรับภารกิจทำแทนที่จะมาปล้นสมบัติของเถาจินที่อยู่ตรงหน้า เขาปวดหัวกับระดับปัญญาของเจียงหลิวโหลวจริงๆ!
ขณะที่ชูฮันกำลังหัวเราะเยาะกับตัวเองอยู่ มันก็มีเสียงดังขึ้นด้านหลังเขา “คุณโง่มากที่ส่งเสียงหัวเราะออกมารู้มั้ย?”
หวังไคตกใจมาก หากชูฮันทำเพียงแต่หันกลับไปโดยไม่มีท่าทีประหลาดใจเลย แถมยังหัวเราะต่อเสียงดังอีก “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า โอ้ย ฉันหันกลับมาเพราะอยากหัวเราะใส่หน้านายต่างหาก”
มันคือฟานเจี้ยนที่มีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่นั่นเอง และชูฮันก็ส่งยิ้มให้อย่างไม่สนใจอะไร “นายกล้าหรือว่าโง่กันแน่? ฉันไม่ได้ทำให้นายตกใจเลยเหรอไง?”
ชูฮันเพียงแค่ยิ้มจางๆให้ฟานเจี้ยน ถอนหายใจเบาๆและตบไหล่ฟานเจี้ยน “นายรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าฉันอยู่นี่ไม่ใช่เหรอไง? เพราะงั้นฉันก็เลยจงใจส่งเสียงหัวเราะออกมา ให้นายออกมาหาฉัน!”
ฟานเจี้ยนที่ถูกตบไหล่อยู่หลายครั้งก็ตระหนักได้แล้วว่าชูฮันไม่ได้หมูอย่างที่คิด เขารีบวิเคราะห์ตามสถานการณ์และการเคลื่อนไหวของชูฮันทันที
ชูฮันค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาอารมณ์ดีพอสมควร “นายโตขึ้นนะ นายหาฉันเจอ”
“ฉันอุตส่าห์เชื่อนายนะ นายยังเป็นเหมือนเดิม!” ฟานเจี้ยนมักถูกชูฮันล่อหลอกให้ตื่นเต้นอยู่เสมอ “ทำไมนายถึงต้องการให้ฉันจับนายได้ด้วย ต้องการจะเล่นเกมส์กับฉันอะไรอย่างนั้นใช่มั้ย?”
“มากกว่านั้น!” ชูฮันยิ้มกว้างและยื่นมือออกมา “แล้วเรื่องเงินล่ะ?”
“เงินอะไร? ฉันไม่เข้าใจ” ฟานเจี้ยนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาชูฮัน เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ
“ไม่เอาน่า ฉันได้เจ็ดส่วนจากที่นายได้ไง ไม่อย่างนั้นจะไม่อนุญาตให้นายได้เข้าไปทำภารกิจที่หนานตู้ ฉันจะไม่ช่วยเหลืออะไรเลย” ชูฮันเริ่มทำการขู่
“สุดยอด” ฟานเจี้ยนระเบิดหัวเราะออกมา และพูดออกมาอย่างมีความสุข “นายไม่ต้องช่วย ฉันทำเองได้ ทางใต้นั้นกว้างใหญ่มาก มีค่ายที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของจีนอยู่ ฉันเกรงว่ามันจะไม่มีภารกิจ?”
ชูฮันแสยะยิ้มออกมาทันที และเริ่มเข้าสู่โหมดใช้พลัง “ฉันลืมบอกนายไป มันมีคนของฉันอยู๋ในหนาตู้ ถ้าครั้งนี้นายไม่จ่ายเงิน ฉันสาบานเลยว่าจะทำให้อัตราความสำเร็จของนายในหนานตู้สูงถึง 100% แน่นอน”
หลังจากพูดจบ ชูฮันก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างต้องการคำตอบจากฟานเจี้ยน แถมยังเพิ่มเข้าไปอีกประโยค “ฉันไม่ได้ขู่นะ นี่คือเรื่องจริง”
ฟานเจี้ยนตะลึง สบตากับชูฮัน ความกลัวเริ่มผุดขึ้นในใจ และภายในไม่ถึงเสี้ยววินาทีฟานเจี้ยนก็รีบควักถุงเงินขนาดใหญ่ออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อ เขาส่งมันให้ชูฮันอย่างเศร้าใจ
ชูฮันยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีขาวจ้า “นายให้ฉันไม่ครบ”
ฟานเจี้ยนพูดอะไรไม่ออก เขาส่งเงินที่เหลืออีกสามพันเหรียญล่มสลายที่แอบหักไปให้ชูฮันคืน “นายรู้ได้ยังไง? นายยังไม่ได้เดาด้วยซ้ำว่าหลูอี๋ให้ราคาแต่ละภารกิจเท่าไหร่?”
“ฉันรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น” ชูฮันเก็บเงินหนึ่งหมื่นเหรียญล่มสลายลงไป เขารู้สึกดีที่มีเงินในมืออีกครั้ง
มองไปที่หน้าของชูฮันที่หนายิ่งกว่ากำแพง ฟานเจี้ยนก็ขี้เกียจเกินกว่าจะคาดคั้นว่าเพราะเหตุใดชูฮันถึงได้คำนวนทุกอย่างได้แม่นยำขนาดนี้ และเปลี่ยนเรื่องแทน “ทำไมนายถึงมาที่นี้? นายตั้งใจจะทำอะไร?”
“เถาจินไม่อยู่บ้าน?” ชูฮันไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะตั้งคำถามแทน
“นายรู้อะไรมา?” ฟานเจี้ยนเริ่มมีความคิดว่าชูฮันอาจจะเป็นเทพ
“นำทางไปสิ ห้องของเถาจินหรือที่เก็บสมบัติ เขาซ่อนมันไว้ที่ไหน?” ชูฮันถามด้วยท่าทางสบายๆเหมือนมันเป็นการพูดคุยปกติ
ก่อนจะมาค่ายเถาจิน ชูฮันทำการบ้านมาแล้ว ผู้ชายคนนี้หมกหมุ่นเรื่องความต้องการเพศสูงมาก และความงามอันหาตัวจับไม่ได้ยากของบูชาที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในถนนซ่อง การเคลื่อนไหวทำให้ถนนทั้งเส้นอัดแน่นไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่ต่างล้วนอยากจะเจอบูชา สำหรับเถาจินในฐานะผู้อำนาจสูงสุดในค่ายมีเหรอที่จะพลาดความสนุกนี้?
“ฉันรู้ว่าเขาซ่อนของมีค่าทุกอย่างไว้ที่ไหน แต่มันคือที่ที่เถาจินไม่อนุญาตให้ใครเขาไป ซึ่งนั่นน่าจะเป็นที่ที่นายตามหาอยู่” ฟานเจี้ยนพูดพร้อมกับเดินนำทางไปด้วย ชูฮันเดินตามฝีก้าวของฟานเจี้ยนไปอย่างเงียบๆ ทั้งคนหลบหลีกสายตาของลูกน้องเถาจินในคฤหาสน์ไปได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ชูฮันและเถาจินกำลังเดินสำรวจคฤหาสน์ของเถาจินอยู่ เถาจินเองก็เดินทางมาถึงทางเข้าของถนนซ่องที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่ขยายออกไปไกล หากมันกลับมีคนตายเต็มไปหมด
มันยากที่จะมองอะไรเห็นสำหรับเถาจิน เพราะไม่ว่าจะมองไปที่ไหนตรงหน้ามันก็เต็มไปภาพน่าสยดสยอง ถนนซ่องของเขานั้นกลายเป็นถนนนองเลือด!
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?” เถาจินที่กำลังเดือดดาลตะคอกถามออกมาอย่างโมโหจัด “ใครกล้าฆ่าคนของฉันในค่ายของฉัน?!”
บนหลังคาของอาคารแห่งหนึ่ง ดาบของต้านฮวงสะบัดเลือดที่ติดอยู่ที่ดาบออก มันมีลำแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นตามแนวของดาบในมือต้านฮวง สายตาจับจ้องไปที่บูชา รอบข้างเงียบสนิททว่าอัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมายที่หวาดกลัวจนตัวสั่น “ฉันถูกจับได้แล้ว ชูฮันไม่ใช่คนอวดภูมิ ข้างกายเขาตอนนี้ไม่มียอดฝีมือเลย ป่านนี้เขาน่าจะรีบหนีออกไปจากค่ายเถาจินแล้ว เขาน่าจะรีบกลับไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า ตอนนี้เราควรรีบเร่งความเร็วตามติดเขาไปให้ทันก่อนจะถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าดีกว่า ถ้าเราปล่อยให้เขากลับเข้าไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าได้ การจะฆ่าเขามันยากจะกว่าเดิมเยอะ นายจะอยู่ที่นี้ต่ออีกเหรอ?”
บูชายืนอยู่บนหลังคาของอาคารเดียวกับต้านฮวง ชุดกระโปรงสีแดงของเธอปลิวไสวไปตามแรงลม เหมือนกับดอกกุหลาบแดง ที่ดูสวยงามเย้ายวนหากก็แฝงไปด้วยอันตราย น้ำเสียงของเธอเองก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้คนฟังรู้สึกเคลิ้ม “ฉันแค่ต้องการบอกให้นายรู้ว่าฉันจะไปไหน”
“ก็ดี” ต้านฮวงแสยะยิ้มเก็บดาบยาวใหญ่ของเขาเข้าไปในฝัก จากนั้นก็หายตัวไปในความมืดภายในพริบตาอย่างไร้ร่องรอย
บูชาเหยียดยิ้ม ริมฝีปากแดงเบะใส่หลังของต้านฮวงที่หายไป “ไล่ตามงั้นเหรอ? ถ้าที่ซ่อนของชูฮันมันหาได้ง่ายขนาดนั้น เขาคงไม่ใช่ชูฮัน ท่าทางผู้ชายคนนี้คงจะไม่ได้ศึกษาอะไรมาเลย ชูฮันยังไม่ไปจากค่ายเถาจินเลยด้วยซ้ำ”
หลังจากนั้นบูชาก็นิ่วหน้า เธอมองไปที่ศพทั้งหลายที่นอนอยู่ตามถนน แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ฉันและต้านฮวงไม่น่าฆ่าคนมีความสามารถทิ้งมากขนาดนี้เลย…”