AST
บทที่1757 – ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์
มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เจ้าจะแสดงความกังวลขณะนี้ออกมา ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
ข้าจะเป็นกังวลก็ต่อเมื่ออยู่หน้าเจ้า มูหยุนชิงเก้อกล่าวพร้อมท่าทางเขินอาย
หากมันเป็นไปอย่างที่เจ้าพูดหรือว่าเจ้า….กำลังตกหลุมรักข้า? ชิงสุ่ยยิ้มขณะมองดูมูหยุนชิงเก้อ
เมื่อได้ยินคำพูดของชิงสุ่ยใบหน้ามูหยุนชิงเก้อก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ เจ้าคนหน้าไม่อาย!! ช่างกล้าพูดเขาข้างตัวเองว่าข้าตกหลุ่มรักเจ้า
เจ้าอย่าได้เขินอายเลยมันเป็นเรื่องธรรมดา ที่วันหนึ่งหญิงสาวจะต้องมองหาคนรัก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายทุกคนล้วนมีอารมณ์รักใคร่ด้วยกันทั้งนั้น ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เจ้านั่นแหละที่กำลังมองหาหญิงสาวคู่กาย!! ยิ่งมูหยุนชิงเก้อกล่าวเธอก็ยิ่งเขินอาย
ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้กับเธอเธอจึงไม่รู้ว่าเธอควรทำอย่างไรดี แต่สิ่งที่เธอรู้คือหัวใจของเธอกำลังเต้นถี่อย่างรุนแรง แต่แล้วในชั่วพริบตา เธอก็ถูกชิงสุ่ยดึงเข้าไปในอ้อมกอด
ชิงสุ่ยรู้สึกว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเขามันเป็นความรู้สึกที่หยั่งลึกลงไปในจิตใจ
มูหยุนชิงเก้อเหมือนถูกหยุดเวลาเอาไว้เธอแนบใบหน้าของเธอเข้าไปในอ้อมอกของชิงสุ่ย ในขณะที่ชิงสุ่ยค่อยๆเอื้อมมือโอบเอวเธอเอาไว้
เธอค่อยๆเงยหน้ามองชิงสุ่ยสิ่งเดียวที่เธอเห็นคือรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น มันเป็นความรู้สึกสงบอย่างที่เธออธิบายไม่ได้ มันให้ความรู้สึกว่าทั้งสองคนปฏิบัติตัวเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ชิงเก้อเจ้าจงปฏิบัติต่อข้าเฉกเช่นคนรักของเจ้าเถิด อย่าเก็บความอึดอัดเอาไว้อีกเลย ขณะที่ชิงสุ่ยกล่าวเขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
มูหยุนชิงเก้อตอบสนองโดยการพยักหน้าอย่างมีความสุข ข้าจะทำเช่นนั้น แต่เจ้าจะต้องให้แกล้งข้า ตัวข้านั้นยังคงคิดจะแต่งงานเสมอ
ชิงสุ่ยมองดูแหวนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมอบหมายให้กับเธอไม่ว่าจะเป็นโลกใบไหน แหวนคือสัญลักษณ์แทนความรักของคนๆหนึ่ง ย้อนกลับไปในตอนนั้น ตอนที่เขายื่นแหวนให้กับเธอ เธอลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็ยื่นมือออกมา แล้วปล่อยให้ชิงสุ่ยสวมแหวน
…………………………….
ในวันที่2 ชิงสุ่ย เข้าสู่เขตภูเขาที่ไร้ขอบเขต หลังจากที่ใช้ทักษะย่าวก้าว 9 เทวาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้พวกเขาไปปรากฏตัวอยู่ในบริเวณส่วนลึกของภูเขาแห่งนี้ แม้ว่าทักษะย่างก้าว 9 เทวาในปัจจุบันของชิงสุ่ย สามารถเดินทางได้ไกลถึงหลายล้านลี้ แต่หลังจากที่เขาใช้ทักษะย่างก้าวนี้ไปถึง 100 ครั้ง เขาก็พบว่ามันไม่มากพอที่จะทำให้เขาออกจากภูเขาแห่งนี้ได้
ความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านรวมถึงพระราชวังที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลเทียบเท่ากับภูเขา1 ลูก ในขณะที่ภูเขาบางลูกถูกทำให้แบนราบเพื่อสร้างอาณาจักร แน่นอนว่ายิ่งอยู่ภายในเขตแดนที่ลึกเท่าไหร่ ผู้คนก็จะลดหลั่นลง ยิ่งเข้าใกล้ก้นทะเล ศัตรูก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น
ชิงสุ่ยถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ควรจะอยู่แถวๆนี้ ข้าชักสงสัยแล้วว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้หาเจอง่ายๆเลย มูหยุนชิงเก้อแล้วคงตามติดชิงสุ่ยและค้นหาสถานที่ต่างๆต่อไป
ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ตั้งอยู่ภายในส่วนลึกของทะเลสาบชั้นในและพื้นที่แห่งนี้ก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ฉะนั้นพวกเราก็คงต้องหามันต่อไป ชิงสุ่ยงุนงงเหมือนกันเพราะพื้นที่เป้าหมายของเขานั้นมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร แม้ว่าจะไม่เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร แต่มันก็ยังคงหายากมาก
อีกครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็วจากสิ่งที่ปรากฏบนแผนที่ ตอนนี้พวกเขาเข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น
หืมชิงสุ่ย ข้ารู้สึกถึงกลิ่นอายอะไรบางอย่างรอบๆตัว มูหยุนชิงเก้อยิ้ม
ชิงสุ่ยเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เช่นกันแม้ว่าพลังที่เขาได้รับจะเป็นเศษเสี้ยวพลังที่แสนเบาบาง แต่มันกลับคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง ชิงสุ่ยตอบกลับมูหยุนชิงเก้อทันทีว่า ถ้าหากพวกเราตามกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไป พวกเราก็น่าจะเจอถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์
พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการโลดแล่นไปตามภูเขาต่างๆแต่หลังจากที่พวกเขาเดินทางตามกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไป สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าทำให้พวกเขายิ่งตกใจ เพราะมันคือมหาสมุทรที่อยู่ใจกลางมหาสมุทร
พื้นที่ทั้งหมดเหล่านี้คือผืนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่แต่กลับปรากฏให้เห็นเป็นมหาสมุทรอีกแหล่งที่อยู่บริเวณก้นมหาสมุทร น้ำในที่แห่งนี้สดใสยิ่งกว่าทุกๆที่ นอกจากนี้มันยังปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมา ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ที่นี่ก็ควรจะเป็นมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์ ไอลีนโนเวล
มหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์นั่นก็หมายความว่าถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ควรจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งบริเวณนี้ ชิงสุ่ยตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็วและพบว่าในสถานที่ที่ห่างไกลออกไปปรากฏให้เห็นเป็นภูเขาที่มีความสูงผิดปกติพร้อมกับแผ่ซ่านรัศมีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ออกมาดึงดูดใจชิงสุ่ย
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์!!!
ยอดเขาสูงสง่างามเต็มไปด้วยรัศมีที่ทรงพลังตามตำนานกล่าวไว้ว่ามหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์ประหนึ่งสวนหลังบ้านของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ แล้วจากเส้นทางคาดการณ์ ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ควรซ่อนตัวอยู่ในมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์
ถ้าหากที่นั่นคือภูเขาศักดิ์สิทธิ์พวกเราควรเข้าไปทักทายคนที่อยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์หรือไม่? ชิงสุ่ยกล่าวถามมูหยุนชิงเก้อ
อันที่จริงแล้วพวกเขาทราบดีว่าบางทีผู้คน และนี่ จู่ๆเฉินช่าวเย่ก็พูดขึ้น ลดน่องไก่ที่กำลังลงและใช้นิ้วเยิ้มน้ำมันชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ หัวหน้าบอกว่าถ้าเป็นหัวหน้าที่ต้องการโจมตีค่าย หัวหน้าจะเลือกใช้วงกตภูเขาลึกลับนี่แน่นอน มันเป็นจุดที่เหมาะกับการดักซุ่ม
หลิวยู่ติงจับคางและเริ่มจมอยู่ในความคิด แต่ตำแหน่งก็ดูไม่ค่อยเหมาะกับการป้องกันเหมือนกัน ถ้าพวกเขาเลือกเข้าไปในนี้เมื่อไหร่ ไม่ช้าก็เร็วเราเองก็จะแย่
เหอเฟิงมองทั้งสองอย่างชื่นชมอดไม่ได้ที่จะหยิบปากกาขึ้นมาวงจุดทั้งสองที่ถูกพูดถึงบนแผนที่ มีอีกหลายจุดที่ไม่สามารถหาพวกมันเจอ และมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเราอาจจะไล่ตามพวกมันไม่ทันเวลา พวกเราด้อยกว่ามันในเรื่องของจำนวนคน และเราสนใจเรื่องการหาตำแหน่งเจาะจงมากเกินไป หรือเราจะจำลองสถานการณ์ไล่ไปแต่ละวิธีดู? กูเหลียงเฉินถามเพื่อการคาดการณ์ทุกอย่างล่วงหน้า เพื่อให้การแปรขบวนรบทำได้เร็วขึ้นและรวมกับข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มันก็จะพัฒนาไปเป็นแผนการรบ
ไม่การคาดเดามันไร้ประโยชน์ เหอเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธทันที กองทัพเขี้ยวหมาป่ากลับมาจากเมืองโรแมนติกหรือยัง?
พวกเขาอยู่ระหว่างทางคาดว่าน่าจะมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าเย็นวันนี้ครับ เจียงเทียนชิงที่รู้ตำแหน่งของคนในค่ายดีที่สุดรายงานตอบทันที
ให้พวกเขาพักผ่อนทันทีที่กลับมาถึงจากนั้นให้พวกเขาเตรียมตัวเข้าสู่สภาวะสงคราม การต่อสู้มันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกที่ เหอเฟิงออกคำสั่งน้ำเสียงนิ่ง แววตาดุดันเป็นประกายจ้า ทั้งสามทีม นักฆ่าขนนก หลงยา และฮูหยาจะถูกย้ายกลับไปที่กลุ่มต่อสู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม ทีมความลับของพระเจ้าก็คอยทำหน้าที่อพยพผู้คนต่อไป ส่วนทีมลาดตระเวน…
เหอเฟิงร่ายแผนการแปรพลไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังอย่างมากก่อนจะสบตากับเจียงเทียนชิง คอยจับตาดูเหล่าผู้รอดชีวิตที่เดินทางมายังค่ายเขี้ยวหมาป่า Aileen-novel
ทันใดนั้นทุกคนก็แอบสบตากันทันทีพวกเขามีลางสังหรณ์ไม่ดี
เหอเฟิงเริ่มพูดสิ่งที่เจาคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ครั้งนี้ออกมา พวกมันต้องการซอมบี้มากกว่านี้ เพราะงั้นเหล่าผู้รอดชีวิตคือเป้าหมายของพวกมัน ตราบใดที่เราตอบโต้ทันทีที่พวกมันโจมตี เราก็จะสามารถไล่ตามเบาะแสไปจนถึงตำแหน่งที่ซ่อนของลูกผสมและซอมบี้ได้
ทุกคนตาโตแววตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง ครั้งนี้สงครามแห่งเมืองอันลูได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
———-
ขณะที่ในเมืองหลวงหนานตู้ชูฮันนอนพักฟื้นร่างกายอยู่บนดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ และในที่สุดเขาก็ได้พลังและความสามารถกลับคืนมา ชูฮัยเริ่มขยับตัวได้ในตอนเที่ยงของวันถัดมา แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูธรรมดาและไม่ได้มีระดับสูงเท่ากับความสามารถทำให้การฟื้นตัวจึงเป็นไปอย่างค่อยๆ และยิ่งร่างกายที่โดยเกาช้าวฮุ่ยลากจนกระแทกไปมาทำให้ร่างกายเขายิ่งบอบช้ำกว่าเดิม
การฟื้นตัวที่ค่อนข้างรวดเร็วของชูฮันทำให้เกาช้าวฮุ่ยสยองอดไม่ได้ที่กวาดตามองสำรวจชูฮันทั้งตัว มันแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง นายไม่เป็นไรแล้วเนี่ยนะ!
ชูฮันไม่คิดจะพูดกับคนคนนี้เขาไม่สามารถทำความเข้าใจการทำงานของสมองเกาช้าวฮุ่ยได้
ชูฮันรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่มือทั้งสองข้างของตัวเองจากนั้นก็มองไปที่ถนนด้านล่างที่มีซอมบี้อัดแน่นเต็มไปหมด และก็ต้องถอนหายใจเมื่อนึกถึงขวานซิ่วโหลและหวังไคที่หายไป แม้ว่าเขาจะรีบตามหาบริเวณทั่วไปจนหมดแล้วแต่เขาก็ไม่เจออะไร มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในเวลาสี่สัปดาห์ที่ผ่านมาและมีหลายเรื่องที่เขาไม่รู้ และก็คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าทำไมจู่ๆเกาช้าวฮุ่ยถึงมาโผล่ต่อหน้าเขาได้ในพริบตาและช่วยชีวิตเขาเอาไว้อีก
ซอมบี้เยอะมากนายจะจัดการมั้ย? คำพูดของเกาช้าวฮุ่ยทำให้ชูฮันหมดคำพูดอีกครั้ง
นี้กวนประสาทกันใช่มั้ย? ชูฮันชี้ไปที่แผลที่แขนของเขาซึ่งยังคงเหมือนเดิม และเลือดที่แห้งกรังติดตามหน้าและตัว และบาดแผลอีกหลายจุด
เกาช้าวฮุ่ยกระพริบตา ฉันต้องทำเหรอ?
แม่ง! ชูฮันอดไม่ไหวจนต้องสบถออกมา อยากให้ฉันเดินไม่ได้อีกรอบใช่มั้ย?
ไม่มีทาง เกาช้าวฮุ่ยยักหน้าอย่างไม่แยแส แล้วก็แค่หนีพวกมันหรือรอให้ร่างกายนายรักษาตัวเองดีกว่าแล้วลุกมาจัดการพวกมัน สั้นๆนะฉันไม่อยากฆ่าคนที่มีชีวิต ครั้งนี้ชูฮันชะงักค้างไปเลยจ้องเกาช้าวฮุ่ยตรงหน้าไม่วางตา อารมณ์ไม่จะเชื่อพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก
นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินสมาชิกของตระกูลลึกลับพูดว่ากลัวจะทำคนตาย?!
ซอมบี้มันไม่ใช่คนนายฆ่าพวกมันได้ ชูฮันพยายามควบคุมอารมณ์
หึ เกาช้าวฮุ่ยไม่ลังเลที่จะส่ายหัวปฏิเสธ พวกเขาเคยเป็นคนที่มีชีวิต และตอนนี้ก็ยังขยับตัวได้อยู่ มันไม่แน่
เมื่อได้เห็นทัศนคติที่หนักแน่นของเกาช้าวฮุ่ยชูฮันก็ได้แต่พยายามคุมความดันของตัวเองไว้ไม่ให้เส้นเลือดในสมองแตกตายซะก่อน ด้วยสายที่เต็มไปด้วยการคาดคั้นไต่สวน เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา ดูเหมือนนายจะเป็นเด็กน้อยขี้กลัวที่มีเรื่องฝังใจ หรือว่าเคยฆ่าคนแล้ว?
เกาช้าวฮุ่ยสบตากับชูฮันก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ ฉันไม่เคย แววตาของชูฮันเป็นประกายและมีร่องรอยขบขันก่อนจะไม่พูดอะไรอีกเขาพยายามทำความเข้าใจในหัวตัวเอง…สมาชิกตระกูลลึกลับที่มีระดับพลังสูงกว่ามนุษย์วิวัฒนาการทุกคนกลับกลัวการฆ่า
นี้จะต้องเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดแน่และมันก็เป็นการแสดงให้เห็นด้วยว่าครั้งนี้เกาช้าวฮุ่ยที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิต
แต่ยังไม่ทันได้ดีใจเพราะที่เกาช้าวฮุ่ยพูดว่าจะไม่ฆ่าสิ่งมีชิตถ้่อย่างนั้นลูกผสมก็ยังต้องเป็นชูฮันที่ต้องการจัดเอง
แกร๊ง!กึก!
ชูฮันกระชากแท่งเหล็กบนหลังคาออกมาพร้อมส่ายหัวอย่างไม่พอใจ ดี
เกาช้าวฮุ่ยกระตือรือล้นที่จะตามชูฮันไป
ชูฮันพยายามใช้ความคิดอย่างเต็มที่พละกำลังของร่างกายเขาครึ่งนึงที่มีนั้นมากพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ได้ แม้ว่าแท่งเหล็กในมือจะห่างไกลกับขวานซิ่วโหลราวฟ้ากับเหวแต่มันก็เพียงพอที่จะสู้กับซอมบี้บนถนน
พรึบ!
ชูฮันกระโดดลงมาจากดาดฟ้าทันทีระยะหนึ่งเมตรก่อนจะถึงพื้นในมือหมุนควงแท่งเหล็กอย่างเร็วจนเกิดเสียงประกอบกับเสียงร่างของซอมบี้ที่ถูกแท่งเหล็กฟาดดังขึ้นต่อเนื่องในอากาศ
ซอมบี้ที่ได้ยินเสียงยิ่งตื่นตัวพวกมันไม่รู้หรือมีความคิดใดๆทั้งนั้นว่าพวกพ้องของตัวเองกำลังถูกฆ่า จิตใต้สำนึกของพวกมันทำให้พวกมันสั่งให้พวกมันอ้าปากคำราม วิ่งกรูเข้ามาหาอาหาร
เกาช้าวฮุ่ยที่ไม่ได้กระโดดตามลงมาและยังอยู่บนดาดฟ้าเหมือนเดิมรู้สึกกลัวสำหรับคนที่ไม่เคยฆ่าอะไรเลย ยิ่งการได้เห็นกลุ่มซอมบี้จำนวนมากถูกชูฮันฆ่าเรื่อยๆก็ยิ่งรู้สึกแย่ พวกมันตายง่ายเกินไป
พั้วะ~ แท่งเหล็กที่อัดแน่นไปด้วยพละกำลังอันแรงกล้าจากชูฮันฟาดตัดอากาศลงมา!
ปัก!ปัก!
เสียงแตะระเบิดดังต่อเนื่องมันรวดเร็วจนมองไม่ทัน
ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์อาจจะไม่อนุญาตให้ทั้งสองคนเข้าไปในถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์แต่ถ้าหากทั้งสองคนเข้าไปโดยพลการ เรื่องไม่ดีก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน
พวกเขาคงไม่ให้เราลงไปในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาแน่ฉะนั้นพวกเราควรลงไปก่อน แล้วถ้าหากพวกเขาสังเกตเห็นพวกเราจริง พวกเราก็ค่อยใช้ข้ออ้างแก้ตัวว่าไม่รู้ว่าที่นี่คือเขตแดนของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็น่าจะพอถูไถไปได้
อืมข้าเองก็คิดเช่นนั้น ชิงเก้อ เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆเลย เอาละ ข้าจะทำตามที่เจ้าว่า ชิงสุ่ยพยักหน้า
เจ้าอยากตายสินะ ชิงเก้อถึงกับพูดไม่ออกแล้วตอนนี้ความรู้สึกของเธอยังคงไม่ชัดเจน คำพูดของเธอไม่ได้บ่งบอกถึงความโกรธ มันเหมือนกับคำพูดหยอกล้อ ซึ่งเธอเองก็รู้สึกต่อเขาแบบนี้ทุกครั้ง ที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเองแสดงออกเป็นอย่างไร
รีบไปกันเถอะมันจะดีกว่าถ้าเราเร่งรีบทำให้เสร็จสรรพ ชิงสุ่ยคว้าตัวมูหยุนชิงเก้อกระโดดลงไปในมหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
มหาสมุทรศักดิ์สิทธิ์มีบริเวณอาณาเขตกว้างไกลเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับ ชิงสุ่ยจึงเลือกใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา โดยการเดินทางจะเป็นไปตามความรู้สึกของพลังปราณจิตที่เขาได้รับ เขารู้สึกว่าถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์จะต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังปราณจิตแห่งสวรรค์
ชิงสุ่ยใช้ทักษะในการเคลื่อนที่ไปมากกว่า20 ก้าว ฉะนั้นระยะทางที่เขาเดินทางตอนนี้มีค่าประมาณ 20 ล้านลี้
หืมมมที่นี้ช่างอุดมสมบูรณ์จริงๆ ชิงสุ่ยข้อสังเกตสมุนไพรและปลาชนิดต่างๆที่แบบว่าอยู่ภายในทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
สมุนไพรส่วนใหญ่มีอายุประมาณ2-3 หมื่นปี แต่ก็ยังพอพบเห็นสมุนไพรที่มีอายุหลักแสนหลักล้านปีได้
ขณะที่ชิงสุ่ยออกเดินทางไปข้างหน้าเขาก็หยิบสมุนไพรบางอย่างมันเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ซึ่งสมุนไพรต่างๆที่เขาหยิบจับ ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรที่ใช้ช่วยชีวิต เขาเตรียมใช้มันในกรณีฉุกเฉินหากไม่พบเจอดอกมุทราศักดิ์สิทธิ์
หากมองดูจากมุมกว้างจะพบว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนห้องสมบัติ ที่เต็มไปด้วยสมบัติศักดิ์สิทธิ์นับร้อยล้านชนิด อันที่จริงแล้ว ชิงสุ่ยยังคงไม่รู้ตัวว่าสัมผัสจากพลังปราณจิตศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้รับจนเขาเข้าสู่ตัวถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์ มันคือพลังที่มีต้นกำเนิดจากหินขนาดมหึมาที่อยู่ภายในถ้ำ
หินน้ำนมกุณโฑ!!
ชิงสุ่ยรับรู้ถึงอากาศชื้นที่เกิดขึ้นบริเวณโดยรอบแต่ที่นี่กลับไม่มีแม้แต่หยดน้ำ อย่างไรก็ตามเบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏให้เห็นเป็นสระน้ำสีขาวขุ่นขนาดใหญ่ ที่กำลังแผ่ซ่านพลังปราณจิตที่เข้มข้นออกมา
สถานที่แห่งนี้จะใช่ถ้ำมหาสมุทรเสียงสวรรค์จริงๆหรือ? ทำไมมันถึงหาเจอได้ง่ายนัก?