ห้ะ~
ด้วยความตกใจทันใดนั้นเหงื่อก็เริ่มไหลย้อยมาตามกรอบหน้าของฉางกวนหลงทันที เขานิ่งช็อคค้างไปอยู่พักหนึ่งก่อนจะได้สติ ไม่ได้ตาย?!
ฉางกวนยวีซินที่นั่งอยู่หันหน้ามาสบตากับฉางกวนหลงเงียบๆก่อนจะตอบคำถาม ชูฮันยังไม่ตาย ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาเผชิญหน้าที่เมืองหนานตู้หรือตำแหน่งที่อยู่ของเขาตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้เลย…
แต่ว่า เมื่อตั้งสติได้ ฉางกวนหลงที่ขบคิดมาแล้วก็พูดขึ้น ที่กองทัพซอมบี้หยุดโจมตีพวกเราไป หลังจากต่อเนื่องเป็นเวลาสิบวัน ก็หมายความว่าลูกผสมที่เมืองหนานตู้ไม่ได้ควบคุมพวกซอมบี้อีก แล้วประจวบเหมาะกับที่ข่าวการตายของชูฮันแพร่สะพัดไปทั่ว แล้วที่ซอมบี้หยุดโจมตีพวกเราก็เพราะลูกผสมเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าไม่ใช่หรือไง? เวลาและสถานที่ ทุกอย่างมันประจวบเหมาะทุกอย่าง แล้วจะบอกว่าชูฮันยังไม่ตายงั้นเหรอ?
ฉางกวนยวีซินมองพ่อของเธอด้วยท่าทางนิ่งๆ พ่อเข้าใจผิดแล้ว พ่อคิดว่าทำไมซอมบี้ที่ถูกลูกผสมควบคุมอยู่ถึงหยุดโจมตีค่ายของเราล่ะ? ลองคิดถึงสาเหตุอื่นดูสิ?
สาเหตุอื่น? ฉางกวนหลงไม่เข้าใจในตอนแรก ก่อนจะตระหนักได้ในวินาทีต่อมา ลูกหมายถึง ลูกผสมในเมืองหนานตู้ตายหมดแล้ว?
ไม่ใช่ว่าฉางกวนหลงไม่อยากจะคิดในทิศทางนี้แต่เพราะมันไม่น่าเชื่อ จากจำนวนของกองทัพซอมบี้มหาศาลที่บุกถล่มค่ายหนานตู้ มันน่าจะตีความได้ว่าจำนวนของลูกผสมในเมืองหนานตู้ที่ชูฮันต้องเผชิญนั้นไม่ใช่แค่แข็งแกร่งอย่างมากเท่านั้น แต่จำนวนก็มากเช่นกัน
ดังนั้นในตอนนี้เมื่อได้ยินความคิดของฉางกวนยวีซิน สัญชาตญาณของฉางกวนหลงจึงทำให้เขาไม่สามารถเชื่อได้ลง มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ชูฮันเดินทางไปเมืองหนานตู้เพื่อจัดการลูกผสมตัวคนเดียวและเขาก็เป็นเพียงแค่วิวัฒนาการระยะ 5 เท่านั้น ชูฮันจะสามารถจัดการกับลูกผสมระดับสูงที่น่ากลัวจำนวนมากแบบนั้นในระยะเวลาสั้นๆได้ยังไง?
ฉางกวนยวีซินเผยรอยยิ้มแปลกๆออกมา พ่อไม่คุ้นเคยกับชูฮัน แต่หนูรู้จักเขาดี หนูเชื่อว่าสถานการณ์ในเมืองหนานตู้มันคือวิกฤตร้ายแรง แต่หนูก็เชื่ออีกว่าคนคนเดียวที่จะมีชีวิตรอดมาได้ก็คือชูฮัน
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แสนจะมุ่งมั่นของลูกสาวนัยน์ตาของฉางกวนหลงก็หดตัวลงทันที และอดไม่ได้ที่จะมองยวีซินด้วยความเป็นห่วง พ่อเชื่อ แต่มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกตลอดสองวันที่ผ่านมา? มันมีอะไรกันแน่?
ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันฉางกวนหลงไม่กล้าจะทำลายความเชื่อและความสุขของลูกสาวตัวน้อยของเขา นี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องระมัดระวังตัวอย่างเข้มงวดขนาดนี้
มีสองอย่างที่หนูต้องบอกพ่อ ฉางกวนยวีซินพูดขึ้นช้าๆอย่างไร้ความกังวล หนึ่ง หลานชายของผู้บัญชาการมู๋…ซงเสี่ยว เด็กชายที่หนูเข้าใจผิดว่าเป็นลูกชายของชูฮันในตอนแรก เขาเปลี่ยนไปมากตลอดปีที่ผ่านมา หนูพึ่งมานึกออกตอนที่หนูส่งหลูปิงเซ่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปค่ายเขี้ยวหมาป่า
ฉางกวนยวีซินพูดด้วยท่าทางสงบนิ่งหากฉางกวนหลงราวกับโดนสายฟ้าฟาดเข้ากลางหัว เขาชะงักค้างจนเกือบหยุดหายใจกลับเรื่องที่ได้ยิน
ความสัมพันธ์ของซงเสี่ยวและชูฮันเป็นความลับสุดยอดไม่มีใครในซางจิงรู้เรื่องของซงเสี่ยว พ่อน่าจะพอเดาออกว่าหนูหมายความว่ายังไง? ฉางกวนยวีซินเหลือบตามองพ่อเธอเงียบๆ
ร่างของฉางกวนหลงสั่นเทิ้มไม่หยุดเขาไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ทำไมจู่ๆทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรไปหมดแบบนี้! ไอลีนโนเวล
ลูกแน่ใจใช่มั้ย? ฉางกวนหลงอ้าปากค้างถามอย่างช็อคๆ น้ำเสียงแผ่วเบา นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก นอกเหนือจากปฏิกิริยาของเขี้ยวมังกร แสดงว่าสถานการณ์ในซางจิงคงเลวร้ายอย่างหนักสินะ!
ฉางกวนยวีซินมีท่าทีผ่อนคลายกว่าเธอยังคงนั่งด้วยท่วงท่าสง่างามอยู่ที่เดิม และพูดขึ้นอย่างไม่ลังเล พ่อลองตรวจสอบดูก็ได้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเราถูกโอนย้ายมาจากซางจิงกี่คน
ฉางกวนหลงเหงื่อแตกเขารีบไล่ย้อนความทรงจำและขบคิดทุกอย่างในหัวอยู่พักหนึ่ง
ดูเหมือนว่าทั้งซางจิงและค่ายหนานตู้จะไม่ปลอดภัยอย่างแท้จริง! หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว ฉางกวนหลงก็โพล่งออกมาอย่างรุนแรง ก่อนจะหันไปมองยวีซินด้วยแววตาจริงจัง ดีมากลูก ในเมื่อชูฮันยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าครั้งนี้โอกาสของค่ายเขี้ยวหมาป่าที่จะชนะสงครามจะต่ำมาก และแม้ว่าพ่อก็ยังคิดไม่ตก แต่ไม่รู้ทำไมพ่อมีความรู้สึกว่า ชูฮันและกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะสร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหม่
นี้เป็นข้อสรุปที่ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนของฉางกวนหลงชูฮันและกองทัพเขี้ยวหมาป่าในไร้เทียมทาน และตัวชูฮันเองก็เป็นอมตะและเป็นจักรพรรดิผู้ครองสนามรบ
ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีจำนวนมากขนาดไหน ชูฮันก็คือที่สุดเสมอ!
ฉางกวนยวีซินสบตากับฉางกวนหลงอย่างพอใจก่อนจะยกยิ้มมุมปาก แน่นอน
ดังนั้น ฉางกวนหลงถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นระวังตัวอีกครั้ง เขากดมือลงบนหัวไหล่ของฉางกวนยวีซินอย่างเป็นห่วง คืนนี้ลูกแอบหนีไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าอย่างลับๆพร้อมกับทรัพยากรและคนสนิทไม่กี่คน และไม่ต้องกลับมาที่ค่ายหนานตู้อีก ที่นี้มันอันตรายเกินไป พ่อ…พ่อกลัวว่าจะไม่สามารถสามารถปกป้องลูกให้ปลอดภัยได้
ฉางกวนหลงไม่มีทางเลือกแล้วเขาถูกสถานการณ์บีบบีงคับให้ตัดสินใจเลือกเช่นนี้ เขาสังเกตเห็นถึงอันตรายที่จะตามมาจากการสนทนากับยวีซินในครั้งนี้ และหลังจากนี้มันจะต้องมีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น ดังนั้นฉางกวนหลงจึงจำใจต้องส่งตัวลูกสาวออกไปเพื่อความปลอดภัย
แม้ว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าจะถูกช้อมรอบไปด้วยซอมบี้มหาศาลและกลุ่มลูกผสมแต่สถานการณ์ภายในของค่ายเขี้ยวหมาป่านั้นเล็กน้อยกว่าทุกที่ในโลก ทุกอย่างหมุนรอบตัวชูฮัน ทุกคนในค่ายรวมกันเป็นหนึ่ง เป้าหมายของทุกคนไปในทางเดียวกันนั่นก็คือป้องกันศัตรูที่จ้องจะทำร้าย
ดังนั้นที่นั่นคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดอย่างแท้จริง!
ที่ฉางกวนหลงไม่คิดก็คือทันทีที่เขาตัดสินใจจะส่งตัวลูกสาวไปปฏิกิริยาของฉางกวนยวีซินกลับผิดคาดไปอย่างสิ้นเชิง ไม่หนูไม่ไปค่ายเขี้ยวหมาป่า หนูไม่ไปไหนทั้งนั้น! ฉางกวนยวีซินลุกขึ้นช้าๆ มองหน้าฉางกวนหลงไม่วางตา ทันใดนั้นแววตาของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เรื่องที่สองที่หนูอยากจะพูดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้
ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉางกวนหลงตอนนี้เขาแทบไม่รู้จักฉางกวนยวีซินที่อยู่ตรงหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นลูกสาวมีท่าทีแบบนี้ เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤตการณ์ที่รุนแรง
นี่คือ…
รัศมีของคนที่มีอำนาจ!
แววตาของฉากงวนยวีซินไม่เปลี่ยนแปลงแถมยังเปล่งประกายไปด้วยความทะเยอทะยานและความมั่นใจในคำพูด พ่อ สอนหนูให้เป็นนักการเมือง ในอนาคตหนูจะเป็นผู้นำของค่ายหนานตู้เอง