Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 901 ใครลอบโจมตีใครกันแน่?

  ในจังหวะที่จงคุยกำลังไล่เลียงทุกอย่างในหัวอยู่ประตูห้องประชุมก็ถูกเจียงเหว่ยผลักเข้ามาพร้อมกับจงไคที่นั่งอยู่บนเก้ารถเข็น ความตื่นเต้นและความดีใจที่เก็บไว้ไม่มิดแสดงออกบนสีหน้าของจงไคชัดเจน
พลเอก!
พ่อของเขาใช้เวลานานเท่าไหร่กันกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้?แต่ตัวเขากลับได้เลื่อนขั้นเป็นพลเอกรวดเร็วขนาดนี้!
จงไคที่ในตอนนี้เชื่อใจเจียงเหว่ยเต็มร้อยเป็นเพราะเจียงเหว่ยที่มอบโอกาสให้ตัวเขาสามารถขึ้นมาเสมอภาคกับพ่อของเขาได้ พ่อที่เขาต้องยอมตกอยู่ใต้อำนาจมาตลอด
”ท่านพลเอกจงไคยินดีด้วยครับ” นายทหารหนุ่มที่ถูกส่งมาจากซางจิงไม่แปลกใจเลยที่จงไคจะมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างนี้
ที่จริงแล้วมันเป็นกระบวนการธรรมดาทั่วไปมากไม่ใช่ทุกคนจะทำให้มันยากและวุ่นวายเหมือนกับตอนมอบตำแหน่งให้ชูฮัน ซางจิงต้องควานตัวหาชูฮันพลิกแผ่นดินเพื่อมอบตำแหน่งพลเอก
แต่เพราะชูฮันไม่ใช่คนปกติ!
ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัวนายทหารหนุ่มก่อนจะสะบัดหัวเพื่อไล่เรื่องนี้ออกไปจากความคิด ก่อนจะหัวเราะกับตัวเองที่คิดมากเกินไป…ยังไงตอนนี้ชูฮันก็ตายไปแล้ว
เพราะงั้นหลังจากถอนหายใจรอบที่สองนายหทารหนุ่มก็ยิ้มออกมาก่อนจะมอบเอกสารแต่งตั้งอย่างเป็นทางการพร้อมกับตราตำแหน่งส่งให้จงไค
จงคุยที่อยู่อีกฝั่งมองทุกการกระทำขณะในใจนั้นดุเดือดจนแทบไหม้แววตาที่ใช้มองลูกชายตัวยิ่งระวาดระแวงและไม่เป็นมิตรมากขึ้นเรื่อยๆ
จงไคทำอะไรลงโดยที่เขาไม่รู้งั้นเหรอ?
มันกล้าดียังไงมาแย่งชิงอำนาจในมือเขาไป?!
ยืนอีกฝั่งหนึ่งมุมปากของเจียงเหว่ยยกยิ้มขึ้นโดยที่ไม่มีใครเห็น มันแฝงไปด้วยความตื่นเต้นแปลกๆ ตอนนี้ช่องว่างระหว่างสองพ่อลูกจงไคและจงคุยยิ่งกว้างเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และตอนนี้ทั้งสองมาถึงจุดที่กลายเป็นศัตรูกันเองไปแล้ว แสดงให้เห็นว่าแผนการที่เขาปรึกษากับเหมิงชีเหว่ยและหน่วยข่าวกรองลับเมื่อสองวันก่อนได้ถูกนำไปดำเนินการจริง
พลเอกสองคนในค่ายจินหยางสงครามเย็น แย่งชิงอำนาจภายใน!
————-
ณเมืองอันลู ภูเขาลูกหนึ่งซึ่งห่างจากค่ายเขี้ยวหมาป่ามา 20 กิโลเมตร มันเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้ว เหล่าวัชพืชและต้นไม้ต่างๆเติบโตขยายตัวอย่างดี หญ้าที่พื้นขึ้นสูงจนถึงหนึ่งเมตร
ครั้งนี้ทิวทัศน์ภูเขาลูกใหญ่ได้เปลี่ยนไปจากสภาพเดิมเนื่องจากมันตกอยู่ในสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการต่อสู้ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกองทัพเขี้ยวหมาป่า
สงครามปะทุพร้อมกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ค่อยๆเคลื่อยพลอย่างช้าๆไปข้างหน้าตามถนน แต่แล้วกองทัพซอมบี้ 50,000 ตัวจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นกระทันหันราวกับคลื่นน้ำที่ซัดเข้าฝั่ง พวกมันจงใจมาขวางทางพร้อมกับลอบจู่โจมใส่กองทัพเขี้ยวหมาป่ากระทันหัน
และครั้งนี้มันไม่มีลูกผสมปรากฏตัวขึ้น!
หลังจากการต่อสู้กองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ไดรับบาดเจ็บสาหัส จากเดิมที่มีทหาร 1,500 คนร่วมต่อสู้เป็นแนวหน้า ทว่าขณะนี้กองทัพเหลือทหารเพียง 1,200 คน ทหาร 300 คนตายในสงครามซึ่งมันรวมถึงสมาชิกในแต่ละทีมด้วย
การต่อสู้ที่ใช้เวลายาวนานถึงสองวันสองคืนหากในที่สุดซอมบี้50,000 ตัวก็ถูกกำจัดอยู่ในหุบเขา
พวกเขาสามารถทำให้คน1,200 คนยังมีชีวิตอยู่ได้และกำจัดซอมบี้ไปได้ 50,000 ตัวที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นจู่โจมพวกเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ที่จริงแล้วสถิติที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างความตกใจไปทั่วทั้งโลก เพราะนอกเหนือจากกองทัพเขี้ยวหมาป่าแล้ว ไม่มีกองทัพไหนในนโลกสามารถสร้างสถิติอันน่าสะพรึงกลัวแบบนี้ได้เลย
ทั้งหมดนี้อาศัยเพียงแค่ประสบการณ์จากการสังหารหมู่กองทัพซอมบี้เมื่อไม่กี่เดือนก่อนความเข้าใจอันดีงามระหว่างซอมบี้และการควบคุมการฆ่าอย่างแท้จริง โดยยึกกลยุทธ์การแปรทัพและการเคลื่อยพลของเหอเฟิงและการฝึกฝนปีศาจของชูฮันที่วางเอาไว้ล่วงหน้า
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีลูกผสมแสดงตัวออกมาในสงครามครั้งนี้เลย!
ในใจของสมาชิกกองทัพเขี้ยวหมาป่าทุกคนรวมถึงคนที่พึ่งเข้าร่วมใหม่อย่างเหอเฟิงก็ไม่สามารถยอมรับความจริงที่ไม่มีลูกผสมปรากฏตัวขึ้นได้กองทัพเขี้ยวหมาป่าถูกกองทัพซอมบี้ 50,000 ขวางเอาไว้ในหุบเขาและลอบจู่โจมทำให้ต้องเสียเเพื่อนทหารไปถึง 300 คน?
หทารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็มีน้อยอยู่แล้วแล้วจู่ๆก็มาตาย 300 คน?
ตอนที่ชูฮันอยู่กับกองทัพเขี้ยวหมาป่าพวกเขาสามารถกำจัดกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้โดยไม่สูญเสียทหารไปสักคน!
เขาไม่ยอมรับเด็ดขาด!
นี้มันเป็นการดูหมิ่นและน่าอับอายที่สุด!
เหอเฟิงผละออกไปจากสนามรบพร้อมกับสมาชิกที่เหลืออยู่ทันทีหลังจากสงครามจบลงพร้อมกับหุบเขาที่ทิ้งไว้กับซากศพเน่าจำนวนมาก
ในกลางดึกกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ประจำการอยู่ที่มั่นที่ปลอดภัย ไม่มีใครจุดกองไฟ ไม่มีใครส่งเสียง ทุกคนสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางความเงียบสนิท กินอาหารแห้งที่เตรียมมาเป็นเสบียงเงียบๆเท่านั้น อารมณ์เศร้าโศกแผ่กระจายไปทั่วบริเวณท่ามกลางความเงียบ
เหอเฟิงและเหล่าผู้นำทั้งหลายของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจัดประชุมฉุกเฉินภายในเต้นท์ทว่าแม้การประชุมจะล่วงเลยมาถึงสามชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่มีใครในเต้นท์เอ่ยเสียงพูดขึ้นสักประโยคเลย
ทุกคนรวมถึงคนที่กล้ามากที่สุดอย่างหลี๋บี๋เฟิงต่างนั่งนิ่งอยู่ที่ที่ตัวเองเงียบและเป็นกังวล
ทันใดนั้นเองเจียงเทียนที่เกี่ยวข้องกับแนวหน้าโดยตรงก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมา ท่าทางกระวนกระวายและเสียใจอย่างมาก “ทีมลาดตระเวนของเราไม่ได้สังเกตว่ามีศัตรูซุ่มโจมตีอยู่ข้างหน้า ครั้งนี้พี่น้องของเราสามร้อยคนต้องสังเวยชีวิตไปโดยที่ไม่มีบูกผสมปรากฏตัวขึ้เลย มันเป็นความผิดของผมเอง”
”ไม่”เหอเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้นท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา “ครั้งนี้ที่เราเสียทหารไปสามร้อยนายมันเป็นความผิดของฉันเอง”  ซูเฟิงนิ่วหน้าและมองเหอเฟิงด้วยความสงสัยและงุนงง”ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่าซอมบี้จงใจซ่อนตัวเพื่อรอจังหวะลอบโจมตีเราอยู่ก่อนแล้ว แสดงว่ามีลูกผสมคอยควบคุมมันอยู่ มันเป็นธรรมดาที่ทีมลาดตระเวนจะไม่ตรวจพบเพราะพวกมันซ่อนตัวอยู่ในภูเขาที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น มันไม่ใช่ความผิดของใรทั้งนั้นแต่เพราะครั้งนี้เราสูญเสียข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ไป”
เหอเฟิงเหลือบมองซูเฟิงด้วยแววตาอ่อนแสงก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาซับซ้อนอย่างรวดเร็ว และพูดขึ้นอีกครั้ง “มันเป็นความผิดของฉัน ฉันตัดสินใจผิดพลาด”
”อะไรน่ะ?”เป็นครั้งแรกที่เฉินช่าวเย่เงยหน้าขึ้นมา ในสายตาแสดงออกถึงความไม่เข้าใจอย่างชัดเจน
ทุกคนในเต้นท์เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันพวกเขาไม่เข้าใจถึงความหมายของคำพูกเหอเฟิงที่สื่อออกมา…การตัดสินใจพลาดอะไร?
เหอเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมาช้าๆพร้อมกับแววตาที่เปลี่ยนเป็นคมกริบและดุดัน “จำที่ฉันเคยพูดว่าให้พวกเราไปช่วยเหลือเหล่าผู้รอดชีวิต”
ทุกคนพยักหน้ารับขณะที่ซูเฟิงยังคงเงียบพยายามย้อนนึกคิดในใจ “อย่างที่รู้กันว่าลูกผสมต้องการซอมบี้เพิ่มมากขึ้นเพราะฉะนั้นพวกมันคงลอบจัดการเหล่าผู้รอดชีวิตที่คอยหลบอยู่ตามจุดต่าง จากนั้นก็จัดการทำให้มีคนมากขึ้นที่ติดเชื้อและกลายเป็นซอมบี้ และสั่งการให้ประจำอยู่ตามจุดเดิมเพื่อรอการเรียกตัว ซึ่งวิธีนี้ก็จะขจัดปัญหาการเคลื่อนย้ายกองทัพจำนวนมากของพวกมันได้”
”เพราะงั้นหลังจากโจมตีกลุ่มซอมบี้ผู้รอดชีวิตได้เราก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมลาดตระเวนที่จะสืบหาเบาะแสต้นตอของพวกมันและก็ดังซุ่มโจมตีพวกมันกลับ” เป็นเฉินช่าวเย่ที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ทุกอย่างก็ถูกแล้ว แล้วอะไรคือความผิดพลาด?”
”เพราะว่าเราคิดอย่างนั้นซึ่งลูกผสมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เราว่าราชาลูกผสมคงจะคิดแบบนี้” เหอเฟิงอธิบายด้วยน้ำเสียงขมขื่น ยิ้มเย้ยหยันให้กับความโง่เขลาของตัวเอง “เราคิดว่าเราจะใช้วิธีนี้ย้อนกลับไปจัดกรพวกมัน แล้วก็จะได้ลอบโจมตีวอมบี้และลูกผสมในทีเดียว แต่ในความคิดของราชาลูกผสม เราตกกับดักลวงที่มันวางล่อเราเอาไว้เต็มๆ!”
Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

APOCALYPSE MELTDOWN โลกาวินาศล่มสลาย
Status: Ongoing
มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset