ในเวลาเดียวกันเนื่องจากเพราะหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้อยู่ เสียงจากด้านนอกจึงดังชัดเจน ตรงข้ามกับภายในห้องที่เงียบสนิท เสียงความวุ่นวายโกลาหลไม่ต่างกับตอนที่เกิดการปะทุของโลกาวินาสดังขึ้นมาระลอกแล้วระลอกเล่า
”พระเจ้ารายชื่ออันดับ! นายเห็นมั้ย?!”
”ไร้สาระไม่มีทาง!”
”ชูฮันพลเอกชูฮัน? เขาตายแล้วไม่ใช่เหรอ?!”
”อันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ5 พร้อมกับคะแนนประเมิณ S+ เป็นชื่อชูฮัน นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความข้องใจและตกใจดังระงมไปทั่วทุกที่ในเมืองชั้นในของซางจิง แทบทุกจุดที่สามารถมองเห็นเสาหินประเมิณได้นั้นมีคนกระจุกนั้นกันเต็มไปหมด และพวกเขาก็ยิ่งได้ยินเสียงที่ดังมาจากถนนด้านนอกซึ่งมีฝูงชนมากมายรวมตัวกัน ด้วยน้ำเสียงที่ตกใจและผู้คนตะโกนพูดพึงการเปลี่ยนแปลงกระทันหันของอันดับรายชื่อเสาหิน
ชูฮันตายไปแล้วข่าวลือต่างแพร่กระจายไปทั่วทั้งจีนมาเป็นกว่าครึ่งเดือนแล้ว และก็ไม่มีข่าวสารหรือการอธิบายใดๆจากค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อทำให้ทุกคนสงบลงเลย มันจึงยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อว่าชูฮันตายไปแล้วจริงๆ
หากตอนนี้ในวันที่สำคัญเช่นนี้ บนแผ่นหินขนาดยักษ์ที่ทุกคนสามารถเห็นได้แต่ไกล กลับมีชื่อชูฮันปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันบนรายชื่อระยะ 5 มันจึงกลายเป็นเรื่องช็อคโลกแก่ทั่วทั้งจีนอีกครั้ง ทุกคนต่างอึ้งและพูดอะไรไม่ออก
ชื่อตัวใหญ่ที่มีสีแดงประกายจ้าพร้อมกับรายละเอียดการประเมิณที่แสดงอยู่บนอันดับแรกของรายชื่อระยะ5 นั้นชัดเจนแจ่มแจ้งแก่สายตาทุกคน
ชื่อ: ชูฮัน การประเมิณโดยรวม: S+
ชื่อและคะแนนประเมิณที่ตระหง่านอยู่ในอันดับแรก!
”อะไร?นี่มันหมายความว่าไง?!” หวังเฉินหน้าตาบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด ผลกระทบของรายชื่อบนเสาหินไม่ต่างกับถูกหินทุบเข้าที่หัว
ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงยิ้มกว้างอย่างมีความสุขอย่างห้ามไม่อยู่ก่อนหน้านี้พวกเขายังพูดคุยกันเรื่องชูฮันว่าไปอยู่ไหนกันแน่ แต่แล้วจู่ๆ?
ดี!
ชื่อของชูฮันที่ปรากฏขึ้นมาได้ทันเวลาพอดีแม้จะไม่มีใครได้เห็นตัวเป็นๆของชูฮัน ทว่าแค่นี้มันมากพอที่จะทำให้คนที่หวังร้ายต่อค่ายเขี้ยวหมาป่าราวกับโดนตบหน้าเข้าเต็มก็ไม่ปาน!
อย่างนี้มันก็หมายความว่าชูฮันยังไงไม่ตาย
ยังอยากจะให้ค่ายเขี้ยวหมาป่าล่มสลายเพื่อยึดครองเมืองอันลูอยู่อีกมั้ย?
ราชาแห่งสมครามยังอยู่ดีและแข็งแกร่งกว่าเดิมมันเป็นการประกาศกร้าวให้โลกรู้ได้ดีที่สุดว่าไม่เพียงแต่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังแข็งแกร่งกว่าเดิมจนสามารถคว้าอันดับที่หนึ่งของระยะ 5 ในการประเมิณเสาหินมาครองได้อีก!
ใครยังกล้าคิดจะต่อกรอีก?
”ทำไม?มันเป็นไปได้ยังไง!” หวังเฉินที่แตกสลาย คิดอะไรในหัวไม่ออก ยิ่งได้ฟังเสียงจากด้านนอกที่ลอดเข้ามา เขายิ่งรับความจริงนี้ไม่ได้
”เรียกประชุมฉุกเฉิน”ผู้บัญชาการมู๋เอ่ยสั่งเสียงนิ่ง ตั้งแต่ที่หวังเฉินเข้าห้องมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลุกขึ้นยืน
เลาหมิงเองก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนและยิ้มอย่างสะใจใส่หวังเฉินโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไอ้หนุ่มชูฮันนี่มันเลือกเวลากดระเบิดได้ถูกใจจริงๆหวังเฉินระเบิดกระจุยตายสนิทไปแล้ว ถ้าช้าไปกว่าแค่หนึ่งหรือสองวินาที แผนการของหวังเฉินคงสำเร็จไปแล้ว!
การประชุทฉุกเฉินที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้บัญชาการมู๋ไม่นานก็เริ่มขึ้นเนื่องจากการกระทำที่น่าตื่นตาตื่นใจของชูฮัน หลายคนเองก็กระสับกระส่าย เพราะงั้นเมื่อผู้บัญชาการมู๋เรียกประชุมฉุกเฉิน ทุกคนจึงรีบมารอก่อนเวลานัดล่วงหน้าห้านาทีด้วยซ้ำเพราะความกังวลใจ และไม่น่าเชื่อว่าหวังเฉินจะมาถึงเป็นคนสุดท้าย
ผู้บัญชาการมู๋ยังคงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหังโต๊ะซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดด้วยท่าทางนิ่งสงบหากเลาหมิงที่นั่งข้างๆกลับยิ้มสะใจก่อนจะพูดแดกดันใส่ทักหวังเฉินที่มาถึง “โอ้ ในที่สุดก็มาถึงครบกันหมด งั้นก็มาเริ่มการประชุมกันเถอะ”
ชูฮันยังไม่ตายทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทั้งหมด หลายคนที่มีแผนการเกี่ยวกับเมืองอันลูจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการกันหมด ต้องหาวิธีที่จะจัดการ และหลายคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวโยงกันซึ่งทำการตกไว้ก่อนหน้านี้ มันจะต้องเกิดสงครามน้ำลายขึ้นอย่างแน่นอน
ซางจิงเหมือนกับตกอยู่ในสภาวะชะงักเพราะการกระทำราวกับพายุถล่มใส่ของชูฮัน จึงเป็นอีกครั้งที่ซางจิงตกอยู่ในความวุ่นวาย พวกคนที่ต้องการฉวยโอกาสจากกาารตายของชูฮันจำเป็นต้องคิดหามาตราการใหม่ และพวกคนที่ต้องจะยึดอำนาจของผู้บัญชาการมู๋ก็ต้องรีบปกปิดร่องรอยตัวเองโดยเร็ว
หลายๆคนที่เคยแสดงความทะเยอทะยานและอวดดีต่างเสียใจต่อการกระทำของตัวเองสีหน้าสลดและตึงเครียดช่างแตกต่างกับสีหน้าเย่อหยิ่งจองหองอย่างตลอดหลายวันที่ผ่านมา
สำหรับผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงที่ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรทั้งนั้นเป็นอีกครั้งที่ชูฮันพลิกผันสถานการณ์ได้อย่างรุนแรงท่ามกลางวิกฤตในซางจิง!
ไอ้เด็กนี้เป็นดาวนำโชคของพวกเขารึยังไง?
———-
ทั้งสองพ่อลูกแห่งค่ายจินหยางจงคุยและจงไคต่างได้รับสถานะครอบครองเมืองด้วยฐานะพลเอกคู่ ไม่มีใครเข้าหน้าทั้งสองมาเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน พวกเขาเอาแต่เขม่นใส่กันและกันไปมาไม่หยุดจนไม่สามารถแยกทั้งสองออกจากกันได้
และในระหว่างวันวันนี้ทั้งสองที่คอยจับตามองและคิดหาวิธีจัดการแต่ละฝ่ายอยู่ตลอด ข่าวที่ได้รับรายงานกระทันหันก็เหมือนกับคลื่นน้ำแข็งที่ระเบิดซัดเข้าใส่
ชูฮันยังไม่ตายแถมมันยังคว้าอันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 5 มาอีก!
ค่ายจินหยางที่เดิมทีก็วุ่นวายอยู่แล้วในตอนนี้ตกอยู่ในโกลาหลทั้งสองพ่อลูกมีนิสัยอารมณ์คล้ายกัน ดังนั้นทันทีที่ทั้งคู่ได้ยินข่าว ปฏิกิริยาตอบสนองแรกก็คือทำลายข้าวของภายในบ้านพักเพื่อระบายอารมณ์ ในขณะเดียวทหารใต้บังคับบัญชาหลายนายก็กลายเป็นที่ระบายอารมณ์จนเสียชีวิตไปหลายคน
ความไม่พอใจและอัปยศอดสูเกิดขึ้นในใจของสองพ่อลูกอีกครั้งและจงไคเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงกว่า เขานั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นในสภาพนัยน์ตาแดงก่ำ ท่าทางหมดสภาพอยู่ภายในบ้านพักที่พังเละเทะจนดูไม่ได้
ทุกอย่างมันเป็นเพราะชูฮันตั้งแต่ที่เขาเจอกับชูฮันที่ค่ายหนานตู้ และเริ่มติดตามชูฮันเพื่อหาโอกาสลอบโจมตี จนตัวเองพลาดพลั้งและกลายเป็นพิการ!
ความเกลียดชังและคับแค้นที่อัดแน่นสุมอกเขาไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ จนกระทั่งตอนที่ได้รู้ว่าชูฮันตายแล้ว เขาถึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้และก็ตั้งเจตนาที่จะยึดอำนาจของพ่อตัวเองมา
แต่แล้วไอ้ชูฮัน! มันยังชีวิตอยู่?!
ไม่เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่แต่ยังได้อันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 5 อีก?
มันเป็นข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วทั้งจีนทุกคนเห็นเป็นตาเดียวกันหมด การเปลี่ยนแปลงของรายชื่อระยะ 5 บนเสาหินนั้นประจักษ์ต่อสายตาทุกคน!
ทำไมทุกครั้งที่เขาจะทำอะไรสำเร็จชูฮันถึงต้องขโมยความหวังของเขาตัดหน้าไปตลอด?
นอกจากจงไคอารมณ์ของจงคุยในตอนนี้ก็ราวกับคนโง่เง่า ในตอนแรกเขาแสนจะมีความสุขสะใจที่ชูฮันตาย แต่ตอนนี้กลับมานั่งเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดของตัวเอง
ที่ค่ายหนานตู้ชูฮันมันกล้าตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน ราวกับคนไร้อำนาจที่ทำอะไรชูฮันไม่ได้เลย เขาคับแค้นและเฝ้ารอหนทางที่จะทำให้ชูฮันมันต้องเจ็บและอับอายเพื่อเอาคืนและมันก็สำเร็จ
ทว่าตอนนี้ชูฮันไม่เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ดี แต่ยังสร้างชื่อเสียงเกียรติยศเพิ่มพูนขึ้นไปอีก มันเป็นหนามที่เติบโตและทิ่มแทงอยู่ในใจจงคุย
น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด นี้มันเหมือนโดนตบเข้าที่หน้าจังๆ!
”พระเจ้ารายชื่ออันดับ! นายเห็นมั้ย?!”
”ไร้สาระไม่มีทาง!”
”ชูฮันพลเอกชูฮัน? เขาตายแล้วไม่ใช่เหรอ?!”
”อันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ5 พร้อมกับคะแนนประเมิณ S+ เป็นชื่อชูฮัน นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น?!”
เสียงที่เต็มไปด้วยความข้องใจและตกใจดังระงมไปทั่วทุกที่ในเมืองชั้นในของซางจิง แทบทุกจุดที่สามารถมองเห็นเสาหินประเมิณได้นั้นมีคนกระจุกนั้นกันเต็มไปหมด และพวกเขาก็ยิ่งได้ยินเสียงที่ดังมาจากถนนด้านนอกซึ่งมีฝูงชนมากมายรวมตัวกัน ด้วยน้ำเสียงที่ตกใจและผู้คนตะโกนพูดพึงการเปลี่ยนแปลงกระทันหันของอันดับรายชื่อเสาหิน
ชูฮันตายไปแล้วข่าวลือต่างแพร่กระจายไปทั่วทั้งจีนมาเป็นกว่าครึ่งเดือนแล้ว และก็ไม่มีข่าวสารหรือการอธิบายใดๆจากค่ายเขี้ยวหมาป่าเพื่อทำให้ทุกคนสงบลงเลย มันจึงยิ่งทำให้ทุกคนเชื่อว่าชูฮันตายไปแล้วจริงๆ
หากตอนนี้ในวันที่สำคัญเช่นนี้ บนแผ่นหินขนาดยักษ์ที่ทุกคนสามารถเห็นได้แต่ไกล กลับมีชื่อชูฮันปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันบนรายชื่อระยะ 5 มันจึงกลายเป็นเรื่องช็อคโลกแก่ทั่วทั้งจีนอีกครั้ง ทุกคนต่างอึ้งและพูดอะไรไม่ออก
ชื่อตัวใหญ่ที่มีสีแดงประกายจ้าพร้อมกับรายละเอียดการประเมิณที่แสดงอยู่บนอันดับแรกของรายชื่อระยะ5 นั้นชัดเจนแจ่มแจ้งแก่สายตาทุกคน
ชื่อ: ชูฮัน การประเมิณโดยรวม: S+
ชื่อและคะแนนประเมิณที่ตระหง่านอยู่ในอันดับแรก!
”อะไร?นี่มันหมายความว่าไง?!” หวังเฉินหน้าตาบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด ผลกระทบของรายชื่อบนเสาหินไม่ต่างกับถูกหินทุบเข้าที่หัว
ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงยิ้มกว้างอย่างมีความสุขอย่างห้ามไม่อยู่ก่อนหน้านี้พวกเขายังพูดคุยกันเรื่องชูฮันว่าไปอยู่ไหนกันแน่ แต่แล้วจู่ๆ?
ดี!
ชื่อของชูฮันที่ปรากฏขึ้นมาได้ทันเวลาพอดีแม้จะไม่มีใครได้เห็นตัวเป็นๆของชูฮัน ทว่าแค่นี้มันมากพอที่จะทำให้คนที่หวังร้ายต่อค่ายเขี้ยวหมาป่าราวกับโดนตบหน้าเข้าเต็มก็ไม่ปาน!
อย่างนี้มันก็หมายความว่าชูฮันยังไงไม่ตาย
ยังอยากจะให้ค่ายเขี้ยวหมาป่าล่มสลายเพื่อยึดครองเมืองอันลูอยู่อีกมั้ย?
ราชาแห่งสมครามยังอยู่ดีและแข็งแกร่งกว่าเดิมมันเป็นการประกาศกร้าวให้โลกรู้ได้ดีที่สุดว่าไม่เพียงแต่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขายังแข็งแกร่งกว่าเดิมจนสามารถคว้าอันดับที่หนึ่งของระยะ 5 ในการประเมิณเสาหินมาครองได้อีก!
ใครยังกล้าคิดจะต่อกรอีก?
”ทำไม?มันเป็นไปได้ยังไง!” หวังเฉินที่แตกสลาย คิดอะไรในหัวไม่ออก ยิ่งได้ฟังเสียงจากด้านนอกที่ลอดเข้ามา เขายิ่งรับความจริงนี้ไม่ได้
”เรียกประชุมฉุกเฉิน”ผู้บัญชาการมู๋เอ่ยสั่งเสียงนิ่ง ตั้งแต่ที่หวังเฉินเข้าห้องมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลุกขึ้นยืน
เลาหมิงเองก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนและยิ้มอย่างสะใจใส่หวังเฉินโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไอ้หนุ่มชูฮันนี่มันเลือกเวลากดระเบิดได้ถูกใจจริงๆหวังเฉินระเบิดกระจุยตายสนิทไปแล้ว ถ้าช้าไปกว่าแค่หนึ่งหรือสองวินาที แผนการของหวังเฉินคงสำเร็จไปแล้ว!
การประชุทฉุกเฉินที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้บัญชาการมู๋ไม่นานก็เริ่มขึ้นเนื่องจากการกระทำที่น่าตื่นตาตื่นใจของชูฮัน หลายคนเองก็กระสับกระส่าย เพราะงั้นเมื่อผู้บัญชาการมู๋เรียกประชุมฉุกเฉิน ทุกคนจึงรีบมารอก่อนเวลานัดล่วงหน้าห้านาทีด้วยซ้ำเพราะความกังวลใจ และไม่น่าเชื่อว่าหวังเฉินจะมาถึงเป็นคนสุดท้าย
ผู้บัญชาการมู๋ยังคงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหังโต๊ะซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดด้วยท่าทางนิ่งสงบหากเลาหมิงที่นั่งข้างๆกลับยิ้มสะใจก่อนจะพูดแดกดันใส่ทักหวังเฉินที่มาถึง “โอ้ ในที่สุดก็มาถึงครบกันหมด งั้นก็มาเริ่มการประชุมกันเถอะ”
ชูฮันยังไม่ตายทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทั้งหมด หลายคนที่มีแผนการเกี่ยวกับเมืองอันลูจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการกันหมด ต้องหาวิธีที่จะจัดการ และหลายคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวโยงกันซึ่งทำการตกไว้ก่อนหน้านี้ มันจะต้องเกิดสงครามน้ำลายขึ้นอย่างแน่นอน
ซางจิงเหมือนกับตกอยู่ในสภาวะชะงักเพราะการกระทำราวกับพายุถล่มใส่ของชูฮัน จึงเป็นอีกครั้งที่ซางจิงตกอยู่ในความวุ่นวาย พวกคนที่ต้องการฉวยโอกาสจากกาารตายของชูฮันจำเป็นต้องคิดหามาตราการใหม่ และพวกคนที่ต้องจะยึดอำนาจของผู้บัญชาการมู๋ก็ต้องรีบปกปิดร่องรอยตัวเองโดยเร็ว
หลายๆคนที่เคยแสดงความทะเยอทะยานและอวดดีต่างเสียใจต่อการกระทำของตัวเองสีหน้าสลดและตึงเครียดช่างแตกต่างกับสีหน้าเย่อหยิ่งจองหองอย่างตลอดหลายวันที่ผ่านมา
สำหรับผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงที่ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรทั้งนั้นเป็นอีกครั้งที่ชูฮันพลิกผันสถานการณ์ได้อย่างรุนแรงท่ามกลางวิกฤตในซางจิง!
ไอ้เด็กนี้เป็นดาวนำโชคของพวกเขารึยังไง?
———-
ทั้งสองพ่อลูกแห่งค่ายจินหยางจงคุยและจงไคต่างได้รับสถานะครอบครองเมืองด้วยฐานะพลเอกคู่ ไม่มีใครเข้าหน้าทั้งสองมาเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน พวกเขาเอาแต่เขม่นใส่กันและกันไปมาไม่หยุดจนไม่สามารถแยกทั้งสองออกจากกันได้
และในระหว่างวันวันนี้ทั้งสองที่คอยจับตามองและคิดหาวิธีจัดการแต่ละฝ่ายอยู่ตลอด ข่าวที่ได้รับรายงานกระทันหันก็เหมือนกับคลื่นน้ำแข็งที่ระเบิดซัดเข้าใส่
ชูฮันยังไม่ตายแถมมันยังคว้าอันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 5 มาอีก!
ค่ายจินหยางที่เดิมทีก็วุ่นวายอยู่แล้วในตอนนี้ตกอยู่ในโกลาหลทั้งสองพ่อลูกมีนิสัยอารมณ์คล้ายกัน ดังนั้นทันทีที่ทั้งคู่ได้ยินข่าว ปฏิกิริยาตอบสนองแรกก็คือทำลายข้าวของภายในบ้านพักเพื่อระบายอารมณ์ ในขณะเดียวทหารใต้บังคับบัญชาหลายนายก็กลายเป็นที่ระบายอารมณ์จนเสียชีวิตไปหลายคน
ความไม่พอใจและอัปยศอดสูเกิดขึ้นในใจของสองพ่อลูกอีกครั้งและจงไคเป็นคนที่อารมณ์รุนแรงกว่า เขานั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นในสภาพนัยน์ตาแดงก่ำ ท่าทางหมดสภาพอยู่ภายในบ้านพักที่พังเละเทะจนดูไม่ได้
ทุกอย่างมันเป็นเพราะชูฮันตั้งแต่ที่เขาเจอกับชูฮันที่ค่ายหนานตู้ และเริ่มติดตามชูฮันเพื่อหาโอกาสลอบโจมตี จนตัวเองพลาดพลั้งและกลายเป็นพิการ!
ความเกลียดชังและคับแค้นที่อัดแน่นสุมอกเขาไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ จนกระทั่งตอนที่ได้รู้ว่าชูฮันตายแล้ว เขาถึงสามารถเดินหน้าต่อไปได้และก็ตั้งเจตนาที่จะยึดอำนาจของพ่อตัวเองมา
แต่แล้วไอ้ชูฮัน! มันยังชีวิตอยู่?!
ไม่เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่แต่ยังได้อันดับที่หนึ่งของรายชื่อระยะ 5 อีก?
มันเป็นข่าวใหญ่ที่ดังไปทั่วทั้งจีนทุกคนเห็นเป็นตาเดียวกันหมด การเปลี่ยนแปลงของรายชื่อระยะ 5 บนเสาหินนั้นประจักษ์ต่อสายตาทุกคน!
ทำไมทุกครั้งที่เขาจะทำอะไรสำเร็จชูฮันถึงต้องขโมยความหวังของเขาตัดหน้าไปตลอด?
นอกจากจงไคอารมณ์ของจงคุยในตอนนี้ก็ราวกับคนโง่เง่า ในตอนแรกเขาแสนจะมีความสุขสะใจที่ชูฮันตาย แต่ตอนนี้กลับมานั่งเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดของตัวเอง
ที่ค่ายหนานตู้ชูฮันมันกล้าตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคน ราวกับคนไร้อำนาจที่ทำอะไรชูฮันไม่ได้เลย เขาคับแค้นและเฝ้ารอหนทางที่จะทำให้ชูฮันมันต้องเจ็บและอับอายเพื่อเอาคืนและมันก็สำเร็จ
ทว่าตอนนี้ชูฮันไม่เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ดี แต่ยังสร้างชื่อเสียงเกียรติยศเพิ่มพูนขึ้นไปอีก มันเป็นหนามที่เติบโตและทิ่มแทงอยู่ในใจจงคุย
น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด นี้มันเหมือนโดนตบเข้าที่หน้าจังๆ!