ทุกคนยังงุนงงกับความเงียบกระทันหันของชูฮันแววตาที่เอาแต่จับจ้องพื้นดินไม่วางตาราวกับว่ามันจะมีดอกไม้ผลิบานออกมาอย่างไรอย่างนั้น
เกาช้าวฮุ่ยที่ตอนแรกก็งงไม่ต่างกันทว่าทันใดนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเอนตัวผิงกำแพง ยกมือขึ้นกอดอก รอดูการแสดงอันยอดเยี่ยมตรงหน้า
และครู่เดียวหลังจากเกาช้าวฮุ่ยทำท่าทางนี้หยางเทียนก็ทำให้ทุกคนช็อคอีกครั้งเพราะจู่ๆเขาในฐานะวิวัฒนาการสูงสุดจู่ๆก็ปล่อยพลังผันผวนมหาศาลออกมา แรงกดดันอย่างหนักแผ่กระจายไปทั่วรอบๆ
”!!!”
ทุกคนตกใจตกใจกันหมดทำไมจู่ๆหยางเทียนถึงทำแบบนี้?
แต่มันยังไม่จบในขณะที่หยางเทียนปล่อยพลังผันผวนออกมา ชูฮันที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆก็กระโดดและกลับลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคงพร้อมกับมือที่กำด้ามขวานซิ่วโหลแน่น
”พรึบ!”
ชูฮันคว้าขวานที่ไพล่ไว้ด้านหลังมาตั้งท่าอยู่กลางอกด้วยความเร็วเหลือเชื่อจนทุกคนมองตามไม่ทันและมันยังมีลำแสงสีดำลากเป็นทางในอากาศให้เห็นอีก ซึ่งมันยิ่งสะดุดตาอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางวันที่สว่างจ้ากับเมื่อเจอกับเส้นลำแสงสีดำ
ในขณะเดียวกันนั้นเองชูฮันก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องมองไปยังเบื้องหน้าที่สุดขอบฟ้า นัยน์ตาสีดำสนิทราวกับห้วงลึกมีประกายวาวราวกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะเข้าสู่โหมดสงครามและปล่อยความบ้าคลั่งเต็มเหนี่ยวออกมา!
ทุกคนในที่นั้นยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนทั้งๆที่เห็นชูฮันเตรียมการราวกับพร้อมรบยิ่งเมื่อได้เห็นทิศทางสายตาของชูฮัน ทุกคนก็รีบเบนหน้าและมองตามไปทันที มันมีแต่ท้องฟ้าโล่งๆก้อนเมฆสีขาวลอยละล่องไปมา ไม่มีอะไรผิดปกติเลย มันมีอะไรกันแน่?
และในตอนนั้นเอง——–
”ตึง!”
มีเสียงดังขึ้นกระทันหันทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย วิวัฒนาการระดับสูงบางคนสัมผัสได้ถึงพลังงานและแรงสั่นสะเทือนบางๆราวกับว่ามีบางอย่างในที่ที่ห่างไกลเกิดการระเบิดขึ้น
”ปัง!”
มีเสียงเกิดขึ้นอีกครั้งระยะห่างของทั้งสองเสียงนั้นสั้นมาก ครั้งนี้เสียงมันดังมาก แรงสั่นสะเทือนที่พื้นมากกว่า คราวนี้วิวัฒนาการทั้งหมดสัมผัสได้ถึงแรงสั่นที่พื้น เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย
”ปังงงง!”
สำหรับครั้งที่สามแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวมีมากกว่าเดิม และเพราะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกันทำให้บ้านเรือนรอบๆสั่นไปด้วย เศษฝุ่นของดินและปูนกระเด็นตกลงพื้นและลอยฟุ้งค้างในอากาศและครั้งนี้ทุกคนรู้สึกได้
ฝูงชนหลายหมื่นคนมีสีหน้าตกใจกันถ้วนหน้าแต่ที่พวกเขาไม่พอใจจนหงุดหงิดเป็นเพราะว่าพวกเขาคิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเลย และทันใดนั้นเอง——-
”พรึบ!”
มีจุดสีดำบนฟ้ากำลังตกลงมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูงราวกับขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่กำลังดิ่งมาหาพวกเขา ขนาดของมันใหญ่ขนาดที่บดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายอยู่จนทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ขึ้น ความเร็วอันน่าทึ่งและพลังอำนาจน่ากลัวที่แฝงมากับมันใหญ่โตเกินไป!
”เฮือก!”
เกิดโกลาหลและความตื่นตระหนกขึ้นมาในหมู่ผู้คนทันทีพวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้แล้วในยามนี้ จุดสีดำบางอย่างบนฟ้ากำลังพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง และยิ่งมันลงมาใกล้พวกเขามากเท่าไหร่ มันก็ทำให้พวกได้เห็นความใหญ่ของสิ่งนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ!
เนื่องความเร็วที่มากเกินไปจนทุกคนไม่สามารถมองภาพรวมของเจ้าสิ่งนี้ได้ทันว่ามันคืออะไรกันแน่ พวกเขารู้แค่ว่ามันใหญ่มากจนสามารถบดบังพระอาทิตย์ได้ หลังจากนั้น——-
”ตึงงงง!”
เสียงกระแทกดังสนั่นอย่างน่าระทึกดังตามมาอีกครั้งพร้อมกับสีหน้าทุกคนที่ไม่สามารถตกใจไปมากกว่านี้ได้แล้ว!
”ปั่กกก!ปังงงงงง!!”
หลายคนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นของแผ่นดินไหวพวกเขาเริ่มยืนกันไม่มั่นคง บางคนที่ไม่ทันตั้งแต่ก็เซจนล้ม ผู้คนหลายหมื่นที่ยืนกันอัดแน่นซวนเซใส่กันไปมาเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่
เจ้าวัตถุขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถระบุได้บนฟ้าพุ่งตกลงมาใส่อาคารหลังหนึ่งที่ไม่ห่างจากลานจตุรัส!
จากนั้น—-
”ครืนนนนน!”
ต่อหน้าต่อตาทุกคนอาคารหลังหนึ่งพังทลายลงในแทบทันที เสียงพังครืนของสิ่งก่อสร้างที่ถล่มลงมากองที่พื้นจนกลายเป็นซากปรักหักพัง เศษดินฝุ่นจำนวนมากลอยฟุ้งขึ้นฟ้าและค่อยๆตกลงพื้น
การได้เห็นอาคารพังทลายได้ภายในพริบตาทำให้ชูฮันหยุดหายใจชั่วขณะ ความรู้สึกหวาดกลัวผุดขึ้นมาในใจ ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ทุกคนในค่ายมารวมตัวกันหมดที่นี้ เลยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นเขาไม่อยากจะนึกเลยว่าจะมีคนต้องตายไปกี่คน?
ค่ายเขี้ยวหมาป่าของเขา!
กว่าจะสร้างขึ้นมาได้!
ในตอนนั้นเองมันก็มีหางหนาๆที่ดูแข็งแรงความยาวมากกว่าสิบเมตรโผล่ออกมาจากซากปรักหักพัง มันมีสีน้ำตาลเข้ม ชูฮันรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่จะมาทำลายล้างค่ายเขี้ยวหมาป่า มันตวัดหางยักษ์ฟาดใส่ทุกอย่างรอบๆไม่หยุด ส่งผลให้เศษหินเศษดินตกกระจาย บ้านพักและอาคารในรอบๆถูกทำลายราบภายในพริบตา
หลังจากความกลัวและตกใจผ่านพ้นไปทุกคนที่เห็นการทำลายล้างตรงหน้า ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสิ่งที่ชูฮันพูด
สัตว์ประหลาด!
มันมีสัตว์ประหลาดที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาในค่ายจากทางฟ้าพวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดแบบนี้มาก่อน หางของมันทั้งหนาและยาวเหยียดและแข็งแรงอย่างมาก สามารถตวัดฟาดใส่อาคารจนถล่มได้
”ปังงงงงง!”
การทำลายล้างของสัตว์ประหลาดยังดำเนินต่อไปร่างขนาดใหญ่โตของมันถูกอาคารสูงบังเอาไว้ ทำให้ทุกคนเห็นเพียงแค่หางที่เอาแต่ทำลายล้างทุกอย่างไม่หยุดเท่านั้น
”นี้มันตัวอะไร?!”เสียงแหกปากร้องของผู้คนดังไปทั่วด้วยความแตกตื่น ทุกคนหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆ แม้แต่หยางเทียนก็ยังกลัวจนยืนไม่ติด
ขณะนี้หลังจากเจ้าสัตว์ประหลาดได้ทำลายทุกอย่างในรัศมีรอบๆตัวมันจนหมดแล้ว ในที่สุดเจ้าสัตว์ประหลาดก็โผล่เท้าของมันออกมาให้เห็นก่อน
”ไดโนเสาร์!!!”จู่ๆก็มีเสียงใครไม่รู้ตะโกนขึ้นมา หางยักษ์และกรงเล็บที่เท้าที่เห็นนั้นไม่ต่างจากภาพไดโนเสาร์ที่พวกเขาเคยเห็นเลย!
ชูฮันตะลึงมือข้างที่จับขวานซิ่วโหลอยู่เริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์แทบจะพังทลายทุกอาคารในค่ายจนหมดสิ้น พลังและการทำลายล้างของมันน่าทึ่งจนสามารถจัดการค่ายเขี้ยวหมาป่าได้ภายในเวลาสั้นๆ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาตัวคนเดียวจะสู้กับมันได้
ค่ายเขี้ยวหมาป่าตั้งขึ้นในพื้นที่ของเมืองอันลูและสาเหตุที่ชูฮันเลือกที่นี้เป็นที่ที่เขาจะพัฒนาค่ายก็เพราะตำแหน่งที่ตั้ง ตราบใดที่สามารถจัดการปัญหาเรื่องซอมบี้และลูกผสมได้ ที่นี้จะเปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติต่อไป
ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือการคุกคามจากศัตรูซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั่นเอง นั่นก็เพราะว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าด้านหลังล้อมด้วยภูเขาและด้านหน้ามีแม่น้ำกั้น ซึ่งหมายความว่า…สัตว์ประหลาดจำนวนมาก!
เหอซางยังกลับมาไม่ทันเขาอยู่ระหว่างเดินทางกลับมาค่ายเขี้ยวหมาป่า อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆในค่ายยังไม่สมบูรณ์ดี การเผชิญหน้ากับซอมบี้และลูกผสมจะสามารถจัดการได้ด้วยกลยุทธ์และการวางแผนการรบ
ตัวเขาเป็นวิวัฒนาการระยะ6 ทว่าดูจากสัตว์ประหลาดตรงหน้าแล้วเขาคิดว่าถ้าเทียบกับพลังของคนนั้นคงจะมีค่าเท่ากับวิวัฒนาการระยะ 8 หรือสูงกว่า!
รวมถึงหลูปิงเซ่อที่ชูฮันถือเป็นเกราะป้องกันชั้นที่สองของเขา เพราะหลูปิงเซ่อสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ทว่าหลูปิงเซ่อไม่ได้อยู่ที่นี้และด้วยท่าทางคลุ้มคลั่งของเจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้านี้ที่แทบจะเรียกได้ว่าราชาสัตว์ประหลาด เขาจะจัดการมันอย่างไรดี?
ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของทุกคนผู้คนหลายหมื่นตกอยู่ในความสิ้นหวัง พวกเขาทำได้แค่ยืนมองสัตว์ประหลาดยักษ์ทำลายที่พัก ทำลายบ้านของพวกเขาไปต่อหน้าต่อตาจนเหลือแต่เศษซากอย่างไม่สามารถทำอะไรได้เลย
และในที่สุดเจ้าสัตว์ประหลาดก็โผล่ออกมาทั้งตัวเผยให้ทุกคนในค่ายได้เห็นกันพร้อมหน้า และกลับกลายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกไปไกล มันไม่ใช่สัตว์ในตำนานอย่างไดโนเสาร์
แต่เป็น…จิงโจ้!
เกาช้าวฮุ่ยที่ตอนแรกก็งงไม่ต่างกันทว่าทันใดนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเอนตัวผิงกำแพง ยกมือขึ้นกอดอก รอดูการแสดงอันยอดเยี่ยมตรงหน้า
และครู่เดียวหลังจากเกาช้าวฮุ่ยทำท่าทางนี้หยางเทียนก็ทำให้ทุกคนช็อคอีกครั้งเพราะจู่ๆเขาในฐานะวิวัฒนาการสูงสุดจู่ๆก็ปล่อยพลังผันผวนมหาศาลออกมา แรงกดดันอย่างหนักแผ่กระจายไปทั่วรอบๆ
”!!!”
ทุกคนตกใจตกใจกันหมดทำไมจู่ๆหยางเทียนถึงทำแบบนี้?
แต่มันยังไม่จบในขณะที่หยางเทียนปล่อยพลังผันผวนออกมา ชูฮันที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆก็กระโดดและกลับลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคงพร้อมกับมือที่กำด้ามขวานซิ่วโหลแน่น
”พรึบ!”
ชูฮันคว้าขวานที่ไพล่ไว้ด้านหลังมาตั้งท่าอยู่กลางอกด้วยความเร็วเหลือเชื่อจนทุกคนมองตามไม่ทันและมันยังมีลำแสงสีดำลากเป็นทางในอากาศให้เห็นอีก ซึ่งมันยิ่งสะดุดตาอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางวันที่สว่างจ้ากับเมื่อเจอกับเส้นลำแสงสีดำ
ในขณะเดียวกันนั้นเองชูฮันก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องมองไปยังเบื้องหน้าที่สุดขอบฟ้า นัยน์ตาสีดำสนิทราวกับห้วงลึกมีประกายวาวราวกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะเข้าสู่โหมดสงครามและปล่อยความบ้าคลั่งเต็มเหนี่ยวออกมา!
ทุกคนในที่นั้นยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนทั้งๆที่เห็นชูฮันเตรียมการราวกับพร้อมรบยิ่งเมื่อได้เห็นทิศทางสายตาของชูฮัน ทุกคนก็รีบเบนหน้าและมองตามไปทันที มันมีแต่ท้องฟ้าโล่งๆก้อนเมฆสีขาวลอยละล่องไปมา ไม่มีอะไรผิดปกติเลย มันมีอะไรกันแน่?
และในตอนนั้นเอง——–
”ตึง!”
มีเสียงดังขึ้นกระทันหันทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย วิวัฒนาการระดับสูงบางคนสัมผัสได้ถึงพลังงานและแรงสั่นสะเทือนบางๆราวกับว่ามีบางอย่างในที่ที่ห่างไกลเกิดการระเบิดขึ้น
”ปัง!”
มีเสียงเกิดขึ้นอีกครั้งระยะห่างของทั้งสองเสียงนั้นสั้นมาก ครั้งนี้เสียงมันดังมาก แรงสั่นสะเทือนที่พื้นมากกว่า คราวนี้วิวัฒนาการทั้งหมดสัมผัสได้ถึงแรงสั่นที่พื้น เหมือนกับเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย
”ปังงงง!”
สำหรับครั้งที่สามแรงสะเทือนของแผ่นดินไหวมีมากกว่าเดิม และเพราะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกันทำให้บ้านเรือนรอบๆสั่นไปด้วย เศษฝุ่นของดินและปูนกระเด็นตกลงพื้นและลอยฟุ้งค้างในอากาศและครั้งนี้ทุกคนรู้สึกได้
ฝูงชนหลายหมื่นคนมีสีหน้าตกใจกันถ้วนหน้าแต่ที่พวกเขาไม่พอใจจนหงุดหงิดเป็นเพราะว่าพวกเขาคิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นเลย และทันใดนั้นเอง——-
”พรึบ!”
มีจุดสีดำบนฟ้ากำลังตกลงมาทางพวกเขาด้วยความเร็วสูงราวกับขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่กำลังดิ่งมาหาพวกเขา ขนาดของมันใหญ่ขนาดที่บดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายอยู่จนทำให้เกิดเงาขนาดใหญ่ขึ้น ความเร็วอันน่าทึ่งและพลังอำนาจน่ากลัวที่แฝงมากับมันใหญ่โตเกินไป!
”เฮือก!”
เกิดโกลาหลและความตื่นตระหนกขึ้นมาในหมู่ผู้คนทันทีพวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้แล้วในยามนี้ จุดสีดำบางอย่างบนฟ้ากำลังพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง และยิ่งมันลงมาใกล้พวกเขามากเท่าไหร่ มันก็ทำให้พวกได้เห็นความใหญ่ของสิ่งนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ!
เนื่องความเร็วที่มากเกินไปจนทุกคนไม่สามารถมองภาพรวมของเจ้าสิ่งนี้ได้ทันว่ามันคืออะไรกันแน่ พวกเขารู้แค่ว่ามันใหญ่มากจนสามารถบดบังพระอาทิตย์ได้ หลังจากนั้น——-
”ตึงงงง!”
เสียงกระแทกดังสนั่นอย่างน่าระทึกดังตามมาอีกครั้งพร้อมกับสีหน้าทุกคนที่ไม่สามารถตกใจไปมากกว่านี้ได้แล้ว!
”ปั่กกก!ปังงงงงง!!”
หลายคนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นของแผ่นดินไหวพวกเขาเริ่มยืนกันไม่มั่นคง บางคนที่ไม่ทันตั้งแต่ก็เซจนล้ม ผู้คนหลายหมื่นที่ยืนกันอัดแน่นซวนเซใส่กันไปมาเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่
เจ้าวัตถุขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถระบุได้บนฟ้าพุ่งตกลงมาใส่อาคารหลังหนึ่งที่ไม่ห่างจากลานจตุรัส!
จากนั้น—-
”ครืนนนนน!”
ต่อหน้าต่อตาทุกคนอาคารหลังหนึ่งพังทลายลงในแทบทันที เสียงพังครืนของสิ่งก่อสร้างที่ถล่มลงมากองที่พื้นจนกลายเป็นซากปรักหักพัง เศษดินฝุ่นจำนวนมากลอยฟุ้งขึ้นฟ้าและค่อยๆตกลงพื้น
การได้เห็นอาคารพังทลายได้ภายในพริบตาทำให้ชูฮันหยุดหายใจชั่วขณะ ความรู้สึกหวาดกลัวผุดขึ้นมาในใจ ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ทุกคนในค่ายมารวมตัวกันหมดที่นี้ เลยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ไม่อย่างนั้นเขาไม่อยากจะนึกเลยว่าจะมีคนต้องตายไปกี่คน?
ค่ายเขี้ยวหมาป่าของเขา!
กว่าจะสร้างขึ้นมาได้!
ในตอนนั้นเองมันก็มีหางหนาๆที่ดูแข็งแรงความยาวมากกว่าสิบเมตรโผล่ออกมาจากซากปรักหักพัง มันมีสีน้ำตาลเข้ม ชูฮันรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่จะมาทำลายล้างค่ายเขี้ยวหมาป่า มันตวัดหางยักษ์ฟาดใส่ทุกอย่างรอบๆไม่หยุด ส่งผลให้เศษหินเศษดินตกกระจาย บ้านพักและอาคารในรอบๆถูกทำลายราบภายในพริบตา
หลังจากความกลัวและตกใจผ่านพ้นไปทุกคนที่เห็นการทำลายล้างตรงหน้า ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจสิ่งที่ชูฮันพูด
สัตว์ประหลาด!
มันมีสัตว์ประหลาดที่จู่ๆก็โผล่เข้ามาในค่ายจากทางฟ้าพวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดแบบนี้มาก่อน หางของมันทั้งหนาและยาวเหยียดและแข็งแรงอย่างมาก สามารถตวัดฟาดใส่อาคารจนถล่มได้
”ปังงงงงง!”
การทำลายล้างของสัตว์ประหลาดยังดำเนินต่อไปร่างขนาดใหญ่โตของมันถูกอาคารสูงบังเอาไว้ ทำให้ทุกคนเห็นเพียงแค่หางที่เอาแต่ทำลายล้างทุกอย่างไม่หยุดเท่านั้น
”นี้มันตัวอะไร?!”เสียงแหกปากร้องของผู้คนดังไปทั่วด้วยความแตกตื่น ทุกคนหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆ แม้แต่หยางเทียนก็ยังกลัวจนยืนไม่ติด
ขณะนี้หลังจากเจ้าสัตว์ประหลาดได้ทำลายทุกอย่างในรัศมีรอบๆตัวมันจนหมดแล้ว ในที่สุดเจ้าสัตว์ประหลาดก็โผล่เท้าของมันออกมาให้เห็นก่อน
”ไดโนเสาร์!!!”จู่ๆก็มีเสียงใครไม่รู้ตะโกนขึ้นมา หางยักษ์และกรงเล็บที่เท้าที่เห็นนั้นไม่ต่างจากภาพไดโนเสาร์ที่พวกเขาเคยเห็นเลย!
ชูฮันตะลึงมือข้างที่จับขวานซิ่วโหลอยู่เริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์แทบจะพังทลายทุกอาคารในค่ายจนหมดสิ้น พลังและการทำลายล้างของมันน่าทึ่งจนสามารถจัดการค่ายเขี้ยวหมาป่าได้ภายในเวลาสั้นๆ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาตัวคนเดียวจะสู้กับมันได้
ค่ายเขี้ยวหมาป่าตั้งขึ้นในพื้นที่ของเมืองอันลูและสาเหตุที่ชูฮันเลือกที่นี้เป็นที่ที่เขาจะพัฒนาค่ายก็เพราะตำแหน่งที่ตั้ง ตราบใดที่สามารถจัดการปัญหาเรื่องซอมบี้และลูกผสมได้ ที่นี้จะเปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของมนุษยชาติต่อไป
ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือการคุกคามจากศัตรูซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั่นเอง นั่นก็เพราะว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าด้านหลังล้อมด้วยภูเขาและด้านหน้ามีแม่น้ำกั้น ซึ่งหมายความว่า…สัตว์ประหลาดจำนวนมาก!
เหอซางยังกลับมาไม่ทันเขาอยู่ระหว่างเดินทางกลับมาค่ายเขี้ยวหมาป่า อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆในค่ายยังไม่สมบูรณ์ดี การเผชิญหน้ากับซอมบี้และลูกผสมจะสามารถจัดการได้ด้วยกลยุทธ์และการวางแผนการรบ
ตัวเขาเป็นวิวัฒนาการระยะ6 ทว่าดูจากสัตว์ประหลาดตรงหน้าแล้วเขาคิดว่าถ้าเทียบกับพลังของคนนั้นคงจะมีค่าเท่ากับวิวัฒนาการระยะ 8 หรือสูงกว่า!
รวมถึงหลูปิงเซ่อที่ชูฮันถือเป็นเกราะป้องกันชั้นที่สองของเขา เพราะหลูปิงเซ่อสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ทว่าหลูปิงเซ่อไม่ได้อยู่ที่นี้และด้วยท่าทางคลุ้มคลั่งของเจ้าสัตว์ประหลาดตรงหน้านี้ที่แทบจะเรียกได้ว่าราชาสัตว์ประหลาด เขาจะจัดการมันอย่างไรดี?
ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของทุกคนผู้คนหลายหมื่นตกอยู่ในความสิ้นหวัง พวกเขาทำได้แค่ยืนมองสัตว์ประหลาดยักษ์ทำลายที่พัก ทำลายบ้านของพวกเขาไปต่อหน้าต่อตาจนเหลือแต่เศษซากอย่างไม่สามารถทำอะไรได้เลย
และในที่สุดเจ้าสัตว์ประหลาดก็โผล่ออกมาทั้งตัวเผยให้ทุกคนในค่ายได้เห็นกันพร้อมหน้า และกลับกลายเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกไปไกล มันไม่ใช่สัตว์ในตำนานอย่างไดโนเสาร์
แต่เป็น…จิงโจ้!