ซูเฟิงช็อคจนตัวแข็งไปแล้วทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าตัวเองเป็นถึงวิวัฒนาการระยะ 7 ซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวในจีนด้วยที่อยู่ในระดับนี้ และคนที่มีอำนาจเท่าเขาในทั่วทั้งโลกก็มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น เขาสามารถเผชิญหน้ากับราชาลูกผสมอย่างมู๋เย๋ได้โดยไม่เสียเปรียบเลยด้วยซ้ำ
แต่แม้ซูเฟิงจะมีพลังมากถึงขนาดไหนหากเขาก็ยังอดอึ้งไม่ได้กับสนามพลังงานของชูฮันที่ได้ประจักษ์ชัดกับตาอยู่ในขณะนี้ และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือในใจของเขามันมีแต่ความกลัว!
หมอกสีดำที่ทำให้ทุกอย่างมืดมิดไปหมดราวกับมันค่อยๆคืบคลานเข้ามาและครอบงำซูเฟิงไปเรื่อยๆ ณ เวลานี้มันไม่มีซูเฟิงที่เป็นยอดฝีมือวิวัฒนาการระยะ 7 มีเพียงแต่ซูเฟิงที่ตกอยู่ในความกลัวอย่างสิ้นเชิง
เขากลัวว่าจะถูกความมืดมิดกลืนกิน! มันคือเอกลักษณ์ของสนามพลังงานสีดำของชูฮันที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ทางจิตวิญญาณ!
ในสนามพลังชูฮันเพียงยืนนิ่งๆจ้องไปที่ซูเฟิงและอธิบายให้ฟัง พื้นที่ที่ครอบคลุมทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่พลังที่ฉันปล่อยออกมาครึ่งหนึ่งเท่านั้น ถ้าฉันปล่อยมันออกมาเต็มที่ เกรงว่าเกาช้าวฮุ่ยจะสัมผัสได้ซะก่อน
แค่ครึ่งเดียว? ซูเฟิงไม่อยากเชื่อหู ความชื่นชมที่มีต่อชูฮันค่อยๆเปลี่ยนเป็นความเคารพศรัทธา
แม้ระยะวิวัฒนาการของชูฮันจะน้อยกว่าเขาเสมอแต่เมื่อพูดถึงสัญชาตญาณด้านการต่อสู้ การปรับใช้กลยุทธ์สงคราม การบังคับบัญชากองทัพ การคาดการณ์สถานการณ์ หรือแม้แต่สนามพลังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้…เขาไม่สามารถเทียบเท่าชูฮันได้เลยสักนิด
ชูฮันเป็นเหมือนเครื่องปั่นไฟที่เดินเครื่องเต็มกำลังอยู่เสมอมักจะนำหน้าเขาในทุกเรื่อง และเป็นคนที่นำพาทั้งเขี้ยวหมาป่าไปข้างหน้าเพื่อก้าวสู่อนาคต
นายจะลองดูบ้างมั้ยล่ะ? ชูฮันยิ้มทั้งแววตา
ทันใดนั้นซูเฟิงก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่เข้าใจเรื่องสนามพลังงานดี แต่ถ้าเขาไม่ลองฝึกมันก็ไม่มีทางควบคุมได้สักที
พรึบ~
ทันใดนั้นซูเฟิงก็เค้นปล่อยพลังออกมาเขาต้องการจะทำลายลูกบอลสีดำยักษ์ของชูฮันให้ได้ในการออกแรงครั้งเดียว และเหนือความคาดหมาย——-
แป๊ก!
ซูเฟิงเอื้อมมือแตะผนังของสนามพลังงานทันใดนั้นเขาก็โดนพลังสะท้อนถีบตัวเขาออกไปอย่างรุนแรงจนเขาแทบจะกลิ้งคลุกไปกับพื้น แรงดีดสะท้อนรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันเป็นสิ่งที่ซูเฟิงไม่เคยเตรียมใจหรือคาดถึงมาก่อนเลย นี่มัน… ซูเฟิงยังตกใจไม่หาย สสารนี้ก่อตัวขึ้นมาได้ยังไง?!
ที่ผ่านมาสนามพลังงานนี้ช่วยให้ซูเฟิงพัฒนาการต่อสู้ขึ้นได้มากในสนามรบแต่ที่ผ่านมามันยังไม่ใช่แก่นแท้ของสนามพลังงานที่แท้จริง ดังนั้นมากที่สุดมันจึงช่วยให้เขาต่อสู้เคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น ไวต่อการสัมผัสและการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งรอบตัวมากขึ้น แต่ถ้าเขาต้องการจะทำได้อย่างชูฮัน…ที่สร้างวงล้อมพลังงานขึ้นมาปิดกั้นจากโลกภายนอก มันยากเกิน เขาทำไม่ได้
ชูฮันส่งยิ้มให้ซูเฟิงอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเหยียดมือออกไปแตะที่ผนังของสนามพลังงานอย่างง่ายๆราวกับไม่มีอะไรเลยทั้งนั้น
มันเกิดขึ้นได้ยังไง?! ตาของซูเฟิงแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ทุกอย่างมันไปไกลเกินกว่าสำนึกและความเข้าใจที่เขามี มันเหมือนกับการเปิดโลกใบใหม่…
ไม่มีอะไรซับซ้อน…ก็แค่หักล้างความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติอย่างสิ้นเชิง!
การเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ชูฮันหดมือกลับมาและอธิบายต่อ พลังงานที่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่มีทรงพลังมากแต่คนส่วนใหญ่สามารถดึงพลังที่แท้จริงออกมาใช้ได้เพียง 10% เท่านั้น หลังจากขึ้นมาถึงระยะ 5 ซึ่งคือบ่อน้ำแห่งพลังงาน มนุษย์สายพันธุ์ใหม่จะสามารถควบคุมพลังงานได้มากขึ้นอย่างอัตโนมัติซึ่งโดยเฉลี่ยทุกคนสามารถใช้พลังงานได้ที่ระดับ 20% แต่ในกรณีของนายที่สามารถสร้างสนามพลังงานได้ครึ่งหนึ่งนั้น แสดงว่าการควบคุมและเข้าถึงพลังงานของตัวนายตอนนี้อยู่ที่มากกว่า 50%
ซูเฟิงที่ได้ฟังการอธิบายอย่างละเอียดพร้อมตัวเลขก็เริ่มเข้าใจได้แม้จะยังไม่ทั้งหมดก็ตามที แล้วนายสามารถควบคุมและใช้ได้มากแค่ไหน?
ชูฮันแตะปลายคาง 85%
หากใครไปถึงที่ระดับ100% คนคนนั้นจะสามารถใช้กลยุทธ์แบบป่ายหวีเนอได้ทันที ซึ่งแน่นอนว่าชูฮันยังไปไม่ถึงระดับนั้น ครั้งสุดท้ายที่เขาทำได้สำเร็จนั้นปัจจัยหลักเพราะมันขึ้นอยู่กับขวานซิ่วโหลที่เป็นกุญแจสำคัญ…ไม่ใช่การควบคุมของเขา
สูงมาก! ซูเฟิงประหลาดใจไม่น้อย ทั้งๆที่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ทั่วไปมีค่าโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ระหว่าง 10-20% และตัวเขาที่แม้จะแข็งแกร่งแถมยังอยู่ที่ระยะ 7 ซึ่งสูงกว่าชูฮันกลับดึงพลังงานมาใช้ได้ที่ 50% ทว่าชูฮันกลับดึงพลังงานมาใช้ได้สูงถึง 85% เลย?
ช่องว่างที่เห็นได้ชัดทำให้ซูเฟิงรู้สึกอาย!
พลังด้านสมรรถภาพทางกายของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่นั้นส่วนใหญ่มีการกำหนดไว้แล้วโดยเฉพาะแต่ละการยกระดับ สมรรถภาพทางกายที่เพิ่มขึ้นนั้นอยู่ในช่วงประมาณที่พอๆกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่คนที่อยู่ระยะน้อยกว่าจะแข็งแกร่งกว่าคนระยะสูงกว่า
ดังนั้นระหว่างคนที่แข็งแกร่งและคนที่อ่อนแอความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดนอกเหนือจากระยะของแต่ละคนแล้ว มันก็คือการควบคุมและการดึงพลังงานที่แท้จริงมาใช้ ซึ่งมันคือหลักการพื้นฐานที่ทุกคนสงสัยว่าทำไมชูฮันถึงได้แข็งแกร่งและไร้เทียมทานกว่าทุกคน
ลองนึกภาพคนที่สามารถใช้พลังได้แค่20% แม้ว่าจะมีระยะสูงกว่าชูฮันมาก แต่ชูฮันกลับสามารถใช้พลังได้ถึง 85% แค่นี้มันก็มองออกแล้วว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร
ชูฮันถอนพลังเพื่อสลายสนามพลังงานเสียงลมในอากาศเสียงใบไม้ที่ตีกระทบกันก็กลับมาอีกครั้ง ให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกลับความเงียบสนิทในสนามพลังงานก่อนหน้านี้
ซูเฟิงยิ้มและจำได้ถึงตอนที่ตัวเขาถอนสนามพลังงานครึ่งๆกลางๆของตัวเองออกไปความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับชูฮันนั้นไม่ต่างอะไรจากเต่าเลยสักนิด มันเห็นได้ชัดเลยว่าในเรื่องนี้ชูฮันนำหน้าเขาไปไกลขนาดไหน
ไม่จำเป็นที่จะต้องกดตัวเองให้ต่ำลงกว่าฉัน ชูฮันที่เห็นท่าทางพ่ายแพ้ห่อเหี่ยวของซูเฟิงก็พูดปลอบ เขาตบไหล่ซูเฟิงอย่างให้กำลังใจและพูดกระตุ้นเพื่อให้ซูเฟิงเชื่อมั่นในตัวเอง ฉันก็เหมือนกับนายในตอนแรก นายแค่ต้องฝึกฝน ฝึกตั้งแต่แรกเริ่ม นายต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนนี้ รู้เอาไว้ว่าตอนนี้มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องสนามพลังงาน เพราะฉะนั้นมันหมายความว่านายนำหน้าทุกคนไปแล้ว
ชูฮันไม่กล้าพูดว่าเขาเป็นคนแรกและซูเฟิงเป็นคนที่สองตอนนี้ชูฮันยังไม่รู้แน่ชัดว่าสมาชิกของตระกูลลึกลับทั้งหมดสามารถเข้าถึงพลังงานได้แบบเดียวกันรึเปล่า เพราะเมื่อตอนที่เกาช้าวฮุ่ยโผล่มาที่เมืองหนานตู้ตอนนั้น…ตั้งแต่ที่เขาได้เห็นพลังที่เกาช้าวฮุ่ยปล่อยออกมา เขาก็คิดมาตลอดในหัวตั้งแต่ตอนนั้น
พลังงานที่เกาช้าวฮุ่ยใช้…ชูฮันเกรงว่ามันอาจจะไปถึงระดับ90% หรืออาจจะสูงกว่าก็เป็นได้!
นายฝึกการควบคุมพลังงานนี้ตั้งแต่แรกเริ่มจริงๆเหรอ? ซูเฟิงจับคำพูดของชูฮันได้อย่างรวดเร็ว หรือว่าตั้งแต่ตอนที่เกิดการปะทุของโลกาวินาศ…แสดงว่าก็ตั้งแต่ตอนที่นายพึ่งกลายเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่เลย?
ใช่! คำตอบของชูฮันที่สั้นและชัดเจน ทำให้ซูเฟิงตกใจจนแทบจะเป็นลม
ตั้งแต่ที่ชูฮันเป็นวิวัฒนาการระยะ1 แสดงว่าชูฮันพยายามฝึกมาตลอดจนกระทั่งตอนนี้ที่อยู่ระยะ 6 โดยไม่หยุด เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการควบคุมของชูฮันถึงได้สูงขนาดนั้น ชูฮันชนะเขาตั้งแต่เขายังไม่ทันเริ่มเลย!
ขณะที่ซูเฟิงกำลังกระอักเลือดอยู่ในอกและอยากจะถามคำถามชูฮันต่อจู่ๆชูฮันก็จ้องเข้าไปที่ตาของซูเฟิงด้วยสายตาจริงจังพร้อมกับจับมือเขย่า นายกลับไปก่อน รีบให้ทุกคนเก็บกวาดและออกไปจากที่นี้ทันที!
ครับ! ซูเฟิงที่สัมผัสได้ถึงความตึงเครียดและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปก็ตอบรับคำสั่งทันทีโดยไม่ตั้งคำถามใดๆ เขาเข้าสู่สถานะของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีและรีบวิ่งกลับไปยังจุดพักของทั้งสี่ทีมพิเศษอย่างรวดเร็ว
เขารู้ว่าโดยส่วนตัวเขากับชูฮันเป็นเพื่อนกันสามารถเรียกชื่อคุยกันปกติ แต่บนสนามรบ…ชูฮันคือพลเอกเพียงคนเดียวของเขา!
หลังจากซูเฟิงจากไปกระต่ายขนาดจิ๋วก็โผล่หัวออกมาหาชูฮันทันที
แย่แล้วชูฮัน! หวังไคไม่เสียเวลา รีบรายงานชูฮันทันที เฉินยู่เทียนส่งข่าวล่าสุดมา ตอนนี้มันมีกลุ่มลูกผสมอีกกลุ่มในเมืองหยิน ซึ่งพูดกันว่ามันคือกองทัพลูกผสมส่วนตัวที่มู๋เย๋ตั้งขึ้นมาลับๆ!