ทันใดนั้นแววตาของชูฮันก็เปลี่ยนเป็นดุดันวาววับ นายหมายความว่า นอกเหนือจากกองทัพลูกผสมที่ยังเหลืออยู่อีก 250 ตัว มู๋เย๋ยังแอบโยกย้ายกำลังพลไปสร้างกองทัพลูกผสมลับๆอีก? แถมกองทัพลับนั่นก็เป็นลูกผสมระดับสูงที่รวมรวบคนแข็งแกร่งที่สุดจากในเมืองหยินมา?
หวังไคพยักหน้ารัวๆ นั้นแหละ!
จำนวนและพลังการต่อสู้ที่เจาะจงของพวกมัน? ชูฮันถามต่อทันที
นี่คือประเด็นที่ฉันต้องการจะพูดตั้งแต่แรก ท่าทางหวังไคตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เฉินยู่เทียนเองก็ไม่รู้จำนวนของกองทัพลับๆของมู๋เย๋ และก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากขนาดไหนเหมือนกัน เขาพึ่งจะได้ข่าวนี้มาสดๆ
ชูฮันแสยะยิ้ม มู๋เย๋มันทุ่มทุนจริงๆ จำเป็นต้องพยายามขนาดนี้เพื่อฆ่าฉัน หึ! นั้นไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด หวังไครีบเอ่ยเตือน ประเด็นคือกองทัพลูกผสมลับๆยังเดินทางมาไม่ถึง และเราก็ไม่รู้แม้แต่ว่าเป้าหมายของพวกเขามันคือที่ไหน มู๋เย๋ดูเหมือนจะวางแผนยกกองทัพลับนั่นให้เฉินยู่เทียนจัดการ แต่กลับไม่บอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องของอะไรให้เฉินยู่เทียนรู้เลย เฉินยู่เทียนรู้เพียงแค่ข้อมูลคร่าวๆที่ได้ข่าวมาเท่านั้น
ชูฮันนิ่วหน้าทันที ปัญหาเยอะจริงๆ
เพราะเฉินยู่เทียนไม่รู้อะไรเลยจริงๆจึงไม่สามารถบอกข้อมูลอะไรชูฮันได้ไปมากกว่านี้ มันอาจจะเป็นไปได้ว่ามู๋เย๋อาจจะเดาได้แล้วว่ามีสายอยู่ในหมู่ลูกผสม ดังนั้นมันก็เลยจงใจบอกข้อมูลไม่ครบและสร้างความสบสันเพื่อให้คนที่เป็นสายไม่สามารถส่งต่อข้อมูลได้
เป็นไปได้ว่าทั้งหมดคือแผนการที่มู๋เย๋วางไว้ตั้งแต่แรกเริ่มก่อนที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าจะถูกล้อมอย่างกระทันหัน ก่อนที่ทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะถูกฆ่าไป 700 คนและก็ตั้งใจจะฆ่าต่อให้หมด แต่เพราะไม่มีใครคิดว่าชูฮันจะปรากฏตัวขึ้นหากมู๋เย๋ก็ทิ้งไพ่เอาไว้…ถ้าชูฮันไม่ปรากฏตัวขึ้น มันก็จะลากทั้งเขี้ยวหมาป่าสู่ความตายในไม่ช้าก็เร็ว
ซอมบี้ทั้งหมดและลูกผสมทั้ง500 ตัวเป็นเพียงแค่แผนล่อของมู๋เย๋เท่านั้น มันการหลอกล่อเพื่อปิดบังไม่ให้ชูฮันมองแผนจริงออก ให้ชูฮันสนใจอยู่ที่สงครามที่กำลังเกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว ทั้งๆที่ความจริงแล้วศัตรูที่แท้จริงนั้นคือกองทัพลูกผสมระยะสูงที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งคอยตามมาตลบหลังต่างหาก
มันคือวงแหวนแห่งกับดัก…ที่พยายามจะผลักชูฮันสู่ความตาย
ชูฮันดึงความคิดกลับมาและมองไปทิศทางที่ห่างไกลออกไปยอดเขาที่ไล่เรียงสลับกันไปมาล้อมรอบตัวเมืองอันลูเอาไว้ทั้งหมด เหมือนกับกรงที่ปิดล้อมและพวกเขาก็ติดกับอยู่ตรงกลาง
โชคดีที่เขาได้เฉินยู่เทียนเป็นพรรคพวกเดียวกันก่อนและโชคดีที่เฉินยู่เทียนนั้นกระตือรือล้นที่จะได้รับความสนใจจากมู๋เย๋ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้รับข่าวสารนี้ทันเวลานี้และคงไม่มีเวลาพอที่จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
สงครามครั้งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด!
ทำยังไงดี?หรือจะรอให้เฉินยู่เทียนส่งข่าวมาก่อน? หวังไคพยายามออกความคิดเห็น พอตอนที่เฉินยู่เทียนได้รับการติดต่อจากกองทัพลับนั่นแล้วพูดคุยถึงรายละเอียดกัน เราก็จะได้รู้ข้อมูลไปด้วย
ไม่ ชูฮันปฏิเสธทันที ความคิดบ้าๆเริ่มผุดขึ้นมาในหัว ดำเนินการตามแผนเดิม
อะไรนะ?! หวังไคตกใจค้าง มันไม่ต่างอะไรกับการส่งอ้อยเข้าปากช้างเลยนะ?!
ชูฮันหันไปมองหน้าหวังไคและมองไปยังทางที่มีทหารทั้งสี่ทีมพิเศษรออยู่ก่อนจะพูดกับหวังไค ไปบอกเฉินยู่เทียนว่าให้ดำเนินการตามแผนเดิมที่วางไว้และให้เขาเตรียมตัวพร้อมสำหรับการบาดเจ็บและเดินทางกลับไปยังเมืองหยิน ฉันไม่สนใจเรื่องอื่น ฉันตัดสินใจไปหมดแล้ว หวังไคอยากจะห้ามแต่เมื่อเห็นท่าทางมุ่งมั่นของชูฮัน มันจึงทำได้แต่เพียงหมุนตัวและรีบวิ่งไปหาเฉินยู่เทียน
ชูฮันที่ยังยืนอยู่ที่เดิมเผยรอยยิ้มที่หาได้หากออกมา
ไม่สำคัญ…เพราะเขาชอบที่ได้เล่นกับความตื่นเต้นเร้าใจ!
สำหรับการดำเนินการตามแผนชูฮันไม่ได้ตกใจกับความจริงเรื่องกองทัพลับๆของมู๋เย๋ แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว…มีทางเลือกแค่สองทางเท่านั้น
หนึ่ง…ตัวตนของเฉินยู่เทียนห้ามถูกเปิดเผยเด็ดขาดนั่นคือประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับชูฮัน
ในเมื่อมู๋เย๋ส่งกองทัพลับมาดังนั้นทุกการเคลื่อนไหวของเฉินยู่เทียนจะไม่สามารถรอดผ่านสายตาพวกมันไปได้ง่ายๆ และยิ่งถ้าเฉินยู่เทียนมีคำถามหรือข้อสงสัย มู๋เย๋จะต้องสงสัยในตัวเฉินยู่เทียนอย่างมากแน่นอน ชูฮันไม่สามารถปล่อยให้เฉินยู่เทียนตกอยู่ในความเสี่ยงได้นอกจากเฉินยู่เทียนจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของหน่วยข่าวกรองลับแล้ว สำหรับชูฮันเขาไม่ถือว่าเฉินยู่เทียนเป็นลูกผสม แต่เป็นเพื่อนพ้อง เฉกเช่นเดียวกับเหล่าสมาชิกคนอื่นๆของเขี้ยวหมาป่า
ไม่เพียงแค่นั้นแต่ชูฮันยังเดิมพันไว้กับตำแหน่งของเฉินยู่เทียนที่เมืองหยินหลังจากนี้ มู๋เย๋เป็นคนชั่วร้ายและน่ากลัว แม้ว่าจะเป็นคนที่มีอำนาจและพลังอย่างมาก แต่แทบไม่ค่อยลงมือด้วยตัวเอง ดังนั้นมันต้องมีคนไว้ข้างกายคอยทำงานให้
สงครามระหว่างเขากับมู๋เย๋จะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็วและเขี้ยวหมาป่าก็จะต้องแตกฮือเพราะลูกผสม
ดังนั้นเฉินยู่เทียนเองก็คือไพ่ลับสำหรับชูฮันเหมือนกัน!
สอง…
ชูฮันเป็นคนก้าวร้าวชอบทำสงคราม ซึ่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ได้รับอิทธิพลด้านอุปนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์นี้ของชูฮันมา อีกทั้งยังเป็นกองทัพที่เขาออกแบบและฝึกฝนมากับมือตัวเอง
เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ชูฮันสามารถเสียสละเฉินยู่เทียนเพื่อความสำเร็จที่วางไว้ แต่เขาไม่อยากจะทำแบบนั้น
ฮีโร่แบบไหนกันที่เลือกความมั่นคงของตัวเองเวลาที่เจอกับปัญหา?
ถ้ามันต้องสู้เขาก็จะสู้และจะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาให้เห็น!
หลังจากซูเฟิงส่งผ่านคำสั่งของชูฮันมาให้ทุกคนทั้ง 300 คนต่างก็รีบลงมือเก็บข้าวของ เก็บกวาดร่องรอยทั้งหมดอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็ยืนนิ่งเป็นระเบียบเพื่อรอชูฮัน
ซูเฟิงซึ่งไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงและพละกำลังของเกาช้าวฮุ่ยเขาคิดว่าเกาช้าวฮุ่ยนั้นไม่ใช่คนที่เขาต้องให้ความสนใจเลยด้วยซ้ำ แม้แต่ตอนที่เขาสั่งให้เกาช้าวฮุ่ยหยุดกินและหยุดปิ้งเนื้อย่าง เกาช้าวฮุ่ยกลับตัดสินใจรวบไม้ที่เสียบเนื้อย่างทั้งหมดขึ้นหลังแทน เพราะไม่รู้ว่าต้องเก็บกวาดร่องรอยอย่างไร เขาไม่เคยจำเป็นต้องทำลายหลักฐานเพื่อกลบเกลื่อนตัวตนของตัวเอง
ดวลนี้เกาช้าวฮุ่ยโมโหจนอยากจะฆ่าคนซะเหลือเกินแต่สุดท้ายเขาก็ทำเพียงแค่กลืนอาหารคำโตลงคอไปอย่างขมขื่น และก็มองซูเฟิงอย่างเป็นศัตรูทันที ทว่ามันไม่ใช่เวลาที่สมควรเพราะแม้แต่เกาช้าวฮุ่ยก็มองออกว่าการที่ทหารทั้ง 300 คนถูกสั่งให้รีบเก็บของทุกอย่างรวดเร็วแบบนี้แสดงว่ามันต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
แม้เขาจะเป็นสมาชิกของตระกูลลึกลับเกาช้าวฮุ่ยกลับทำได้แค่เพียงรอการตัดสินใจจากชูฮัน เพราะเขาจำเป็นต้องให้ชูฮันเดินทางไปยังท่าเรือหนานช้ากับเขา
และทันทีที่ชูฮันปรากฏตัวขึ้นเขาก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ทหารทั้ง 300 คนต่างยืนเงียบกริบไม่ส่งเสียงใดๆ จิตสังหารรุนแรงพวยพุ่งออกมาจากทุกคนจนเกิดแรงกดดันมหาศาลกระจายเป็นวงกว้าง ราวกับพร้อมที่จะทำลายโลกได้ทุกเมื่อ
และถัดมาคือเกาช้าวฮุ่ยที่มีสีหน้ายับยู่ยี่จนน่าตลก…