ขณะนั้นเกาช้าวฮุ่ยยืนหลบออกมาจากทั้งสี่ทีมที่ตั้งแถวอย่างเป็นระเบียบ บนหลังนั้นแบกของขนาดใหญ่ที่ดูมีน้ำหนักไม่น้อย…ซึ่งก็คือเนื้อเสียบไม้ย่างทั้งหลายที่ยังคงมีควันลอยโขมงและกลิ่นไหม้ลอยออกมา ตรงกันข้ามกับเหล่าทหารทั้งสามร้อยคนที่ยืนเรียงแถวด้วยท่าระเบียบพักทหาร
เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ชูฮันก็บิดยิ้มมุมปาก ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ไปกินข้าวและพักผ่อนกันซะ
อะไรน่ะ? เกาช้าวฮุ่ยตะลึง สมองพลันว่างเปล่าไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาชูฮัน ฉันอุดส่าห์เชื่อฟังและทำตามคำสั่งทุกอย่าง แล้วเมื่อกี้จะทำให้ทุกคนกลัวเพื่ออะไร? คนกำลังกินข้าวอยู่ดีๆ แล้วมาขัดจังหวะโดยที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรเลย รู้มั้ยว่าเวลาขัดคนกำลังกินมันน่าโมโหขนาดไหน?
ตอนแรกทุกคนคิดว่าศัตรูคงกำลังเข้ามาใกล้เป็นแน่โดยไม่รู้ว่าพวกเขาต้องตั้งรับหรือเป็นฝ่ายบุก มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ทุกเมื่อ แต่ชูฮันกลับทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตลกรึไง?
เมื่อได้เห็นชูฮันที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลยไม่แม้แต่จะชายตามองเกาช้าวฮุ่ยด้วยซ้ำ เกาช้าวฮุ่ยจึงอดไม่ได้นอกจากปล่อยผ่านมันไป ช่างมันเถอะ ฉันอยากอยู่เงียบๆ
ในเมื่อโวยวายแล้วไม่ได้ผลเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ เห็นได้ชัดว่ารัศมีออร่าของชูฮันที่แผ่ออกมามันน่ากลัวเกินไป เกาช้าวฮุ่ยไม่สามารถต่อกรได้ไหว
ทหารทั้งสามร้อยคนที่ได้ยินคำพูดของชูฮันก็ต่างนิ่วหน้าและไม่พอใจขึ้นมาหากพวกเขาก็รีบสลัดอารมณ์พวกนั้นทิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทยอยนั่งลง คว้าเปิดกระเป๋าเป้ที่หลังมาหยิบอาหารและเริ่มลงมือกิน ไม่นานก็เริ่มมีเสียงพูดคุยและก็ค่อยๆเข้าสู่บรรยากาศครื้นเครง เพราะพวกเขา…
ชินแล้ว
เมื่อครั้งในอดีตที่พวกเขาเข้ารับการฝึกจากหัวหน้าชูฮันเพื่อฝึกฝนให้พวกเขามีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ชูฮันมักจะมาในรูปแบบเช่นนี้และก็เปลี่ยนแปลงในวินาทีสุดท้าย
ซูเฟิงเหลือบมองชูฮันด้วยความสงสัยที่อัดแน่นในแววตาตอนที่เขาอยู่กับชูฮันก่อนหน้านี้ มันเห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ทว่าตอนนี้ชูฮันกลับพูดว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น เพียงแค่เขาเปลี่ยนใจแล้ว
ดังนั้นซูเฟิงจึงไม่ถามอะไรให้มากความเพราะในความคิดของเขา การที่ความคิดของชูฮันเปลี่ยนไปแสดงว่ามันต้องมีเหตุผล บนสนามรบซูเฟิงรู้และเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่เขาควรทำและไม่ควรทำ
เมื่อเห็นว่าชูฮันเองก็ตามกลับมาภายในไม่กี่นาทีแสดงว่ามันคงอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ชูฮันเดินเข้าไปหาเกาช้าวฮุ่ยและวางมือลงที่ไหล่
อะไร? เกาช้าวฮุ่ยยังคงยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
ชูฮันเอื้อมเข้ามาเอ่ยกระซิบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ครั้งนี้ ฉันจำเป็นต้องใช้ความช่วยเหลือจากนายจริงๆ
เกาช้าวฮุ่ยสบตากับนัยน์ตาสีเหลืองอำพันเผลอแสดงความไม่ไว้ใจออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะตัวเขาถูกชูฮันปั่นหัวมาหลายครั้งแล้ว แม้ตอนนี้สีหน้าของชูฮันจะดูจริงใจและความกลัวในใจเกาช้าวฮุ่ยนั้นมีมากจนกลบทุกอย่างมิด
ชูฮันไม่สนใจท่าทางของเกาช้าวฮุ่ย เราเดินทางมาจนถึงภูเขานี้และก็อยู่ในนี้มาหลายวันแล้ว และนายก็รวดเร็วกว่าทุกคนในกองทัพของฉันเป็นสิบเท่า
คิดจะพูดอะไรกันแน่? เกาช้าวฮุ่ยนิ่วหน้าและสังเกตเห็นถึงความไม่ระวังตัวจากคำพูดของชูฮัน ในที่สุดเขาก็เชื่อว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ! นี้มันบ้าอะไรกัน?
ไม่จำเป็นต้องถาม ชูฮันไม่อยากจะบอกความจริงให้ใครรู้ ยิ่งคนรู้น้อยมากเท่าไหร่ ความสงสัยที่มู๋เย๋จะจับผิดได้ก็จะน้อยมากเท่านั้น เขารีบออกคำสั่งแก่เกาช้าวฮุ่ย รีบกลับไปที่ไปที่ค่ายตั้งรบ บอกเหอเฟิงให้เร่งมือขึ้นกว่ากำหนดการเดิม ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการร่วมต่อสู้ของทหารใหม่และทหารผ่านศึก ให้รีบเร่งลงมือจัดการซอมบี้ในภูเขาให้หมดโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องห่วงเรื่องรักษาทรัพยากรอะไรทั้งนั้น ความช่วยเหลือที่ค่ายทั้งหลายส่งมาบอกให้ทุกคนสามารถใช้ได้เต็มที่
ค่ายตั้งรบซึ่งเป็นจุดรวมพลของกองทัพเขี้ยวหมาป่าจะต้องเร่งมือในการกำจัดซอมบี้ภายในภูเขาเพราะชูฮันไม่สามารถรับรองได้ว่ากองทัพลูกผสมลับนั้นจะปรากฏขึ้นมาตอนไหนและก็ไม่รู้ว่าระดับพลังอำนาจที่พวกมันมีในครอบครองนั้นสูงมากขนาดไหน
ปัญหาครั้งนี้ร้ายแรง… ตอนนี้พวกเขาคือฝ่ายเสียเปรียบมันมีข้อมูลที่ไม่รู้และตัวแปรมากมายเกินไป ชูฮันรู้ดีว่าสงครามครั้งนี้อาจจะมีผลลัพธ์แย่ตามมา แต่เขาจะทำทุกอย่างสุดความสามารถเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น
ในกรณีนี้ถ้าทหารของเขาต้องเผชิญหน้ากับกองทัพลูกผสมลับๆ ผลลัพธ์คือมีแต่ความพ่ายแพ้ แม้เหอเฟิงจะนำกองทัพทหารขนาดใหญ่ตามมาช่วยสนับสนุนมันก็ไม่ทัน แถมยังอันตรายอย่างมากด้วย
ทำให้สุดฝีมืองั้นเหรอ? เกาช้าวฮุ่ยทวนคำสั่งของชูฮันด้วยความประหลาดใจ
อย่างที่รู้ว่าชูฮันมักจะเป็นคนตระหนี่ไม่ใช่ต่อทหารของเขาแต่สำหรับการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างมีเหตุผลเพื่อให้เกิดการเสียเปล่าที่น้อยที่สุด ท้ายที่สุดแล้วค่ายเขี้ยวหมาป่ายังไม่ใช่ค่ายที่พัฒนาแล้ว ทรัพยากรนั้นมีค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่ที่มีก็ได้รับมาจากค่ายร่ำรวยที่ส่งมาสนับสนุน ทว่ามันจะมีแต่หมดลงไปเรื่อยๆเมื่อนำมาใช้ ชูฮันรู้ดีว่าเกาช้าวฮุ่ยกำลังสงสัยหากเขาเพียงแค่ส่งยิ้มเย็นๆ ฉันเคยบอกเหอเฟิงไว้ตั้งแต่แรกแล้ว จะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีจนหมดฉันก็ไม่ว่า แต่ต้องจัดการปัญหาซอมบี้ให้ได้หมด!
เกาช้าวฮุ่ยพยักหน้า เข้าใจแล้ว
หลังจากแก้ไขปัญหาซอมบี้เรียบร้อยให้เหอเฟิงพาทุกคนเดินทางมาหาฉันพร้อมกับทำเครื่องหมายไว้ทุกสถานที่ที่เดินผ่าน ย้ำให้พวกเขาจำรายละเอียดของแต่ละจุดในป่าที่เดินผ่าน ชูฮันไม่ยอมปล่อยผ่านรายละเอียดย่อย เขาตบมือย้ำลงที่บ่าของเกาช้าวฮุ่ย รบกวนนายด้วย
เกาช้าวฮุ่ยจ้องตากับชูฮันที่ยังคงวางมือบนไหล่เขาอยู่บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันแปลกๆเพราะว่าสงครามครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเกาช้าวฮุ่ยเลย เขาไม่จำเป็นต้องสนใจว่าเขี้ยวหมาป่าจะถูกทำลายล้างหรือไม่ แต่ชูฮันกลับทำตัวเหมือนปกติ ทันทีที่มาถึงก็มอบหมายภารกิตกับเกาช้าวฮุ่ยราวกับเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
เกาช้าวฮุ่ยแม้จะไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ในตอนนี้เท่าไร่นักเพราะเขาเติบโตมาในตระกูลลึกลับที่ซึ่งมีแต่เรื่องของผลประโยชน์และภารกิจของตระกูล หน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เขาไม่เคยสัมผัสกับคำว่ามิตรภาพที่แท้จริง
ไม่นานเกาช้าวฮุ่ยก็จากไปและมันเป็นครั้งแรกที่ทั้งสามร้อยคนได้มองเห็นความเร็วขนาดนี้ มันรวดเร็วราวกับหายตัวไปได้ ร่างของเกาช้าวฮุ่ยหายวับไปทันทีภายในพริบตาทิ้งไว้แต่เพียงพลังงานรุนแรงที่ถูกปล่อยออกมาในอากาศ แม้แต่ซูเฟิงก็อดอึ้งไม่ได้กับสิ่งที่ได้เห็น
เขารู้ว่าเกาช้าวฮุ่ยรวดเร็วแต่ไม่คิดว่าจะรวดถึงขนาดนี้ เขาคิดว่าเกาช้าวฮุ่ยน่าจะเป็นพรสวรรค์ที่มีความสามารถพิเศษด้านความเร็วโดยเฉพาะ แต่นี้มันเกินความคาดหมายไปมาก
คนที่เหลือเองก็ไม่คิดว่าเกาช้าวฮุ่ยจะมีความสามารถมากถึงเพียงนี้เพราะตอนที่ซูเฟิงบอกให้พวกเขารีบเก็บกวาดทุกอย่างและเตรียมพร้อมต่อสู้ เกาช้าวฮุ่ยยังเอาแต่โวยวายและไม่ยอมทำตามคำสั่ง ไม่ยอมยืนเป็นระเบียบแถวเหมือนคนอื่น
แต่กลับกลายเป็นว่าคนคนนี้มีพละกำลังแกร่งกล้าอย่างไม่น่าเชื่อ!
ไม่แปลกใจที่ทำไมเกาช้าวฮุ่ยถึงเมินเฉยต่อกฏระเบียบทหารของกองทัพไม่แม้แต่จะทำตัวเคารพใครเลย เอาแต่คอยเกาะติดชูฮันและสร้างความวุ่นวายในบางที
ไม่แปลกใจที่ชูฮันซึ่งมักจะอยู่คนเดียวเสมอถึงได้พาเกาช้าวฮุยมาอยู่ข้างกายแบบนี้
เพราะว่าเกาช้าวฮุ่ยมีความจำเป็น!
ราวสายฟ้าของเกาช้าวฮุ่ย
เป็นเวลาครู่หนึ่งที่สายตาของทุกคนต่างจ้องมองไปที่ชูฮันเป็นตาเดียว…คนที่อยู่ข้างกายหัวหน้าชูฮันได้ ไม่มีใครธรรมดาทั้งนั้น
��