ด้วยคำพูดของชูฮันซูเฟิงจึงได้แต่ยืนนิ่งเหมือนคนบื้อ คอของเขาบิดอย่างแรงจนเกือบหักด้วยความตกใจ
การเลือกโจมตี…
เหล่าทหารที่เหลือที่ยังไม่ถูกส่งออกไปต่อสู้มองมาที่ชูฮันด้วยสายตาสับสนและมึนงงความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามาในพวกเขา…หัวหน้าของพวกเขาจะไม่กลายเป็นปีศาจใช่มั้ย?
มีเพียงแค่สมาชิกของทีมความลับของพระเจ้าไม่กี่คนที่มีความตื่นเต้นอัดล้นอยู่ในแววตาลืมไปสนิทใจเลยว่าตัวเองกำลังดักซุ่มเพื่อรอโจมตีตามคำสั่งอยู่
ขณะที่แววตาของแต่ละคนมีอารมณ์แตกต่างกันไปทันใดนั้นมันก็เสียงดังขึ้น
เจ้านกเหยี่ยวออกบินขึ้นฟ้าพุ่งตัวไปยังทิศทางของลูกผสมอย่างรวดเร็ว!
นี้มันฟังเราเข้าใจ?ซูเฟิงสบตากับชูฮันอีกครั้ง นายสื่อสารกับสัตว์ได้ยังไง? ที่นี้ไม่มีหลูปิงเซ่อซะหน่อย…
ยังพูดไม่ทันจบประโยคทันใดนั้นซูเฟิงก็ตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ ใช่แล้ว! ต้องเป็นฝีมือหลูปิงเซ่อแน่ๆ!
ไม่มีทางที่สัตว์ประหลาดพวกนี้จะมีความอยากกินเนื้อของพวกลูกผสมและไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้วิธีลอบซุ่มโจมตีอย่างเงียบๆได้เอง…ถ้าไม่ใช่ว่ามีบางคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง
เมื่อรวมกับการตอบสนองที่นิ่งเฉยของชูฮันแล้วมันก็ชัดเจนว่าทั้งหมดคือฝีมือของหลูปิงเซ่อนั่นเอง!
อย่างไรก็ตามปัญหาก็ยังกลับไปที่จุดเริ่มต้นอยู่ดี เพราะมีเพียงแค่พรสวรรค์ที่หาได้ยากอย่างหลูปิงเซ่อเท่านั้นที่สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ ชูฮันแม้จะเป็นวิวัฒนาการที่ทรงพลังเหนือใครๆก็ไม่มีความสามารถเช่นนั้นแล้วทำไมนกเหยี่ยวยักษ์นั่นถึงเข้าใจสิ่งที่ชูฮันพูดและก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที?
ไม่มีทางที่ชูฮันจะพลาดสายตาแปลกใจของซูเฟิงเขาเข้าใจว่าตอนนี้ในหัวของซูเฟิงคงกำลังตีกันยุ่งเหยิงไปหมดด้วยความไม่เข้าใจ หากชูฮันก็เลือกที่จะยกมือขึ้นมาแตะปลายจมูกตัวเองโดยไม่อธิบายอะไร
ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เพราะว่าชูฮันสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้หรืออะไรทั้งนั้น และเมื่อครู่ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าเหยี่ยมยักษ์เข้าใจที่ชูฮันพูดออกไป เพียงแต่ว่าท่ามกลางสัตว์พวกนี้มันมีความพิเศษในการเปลี่ยนแปลงตอนที่มันกลายพันธุ์
มันคือสัตว์ที่มีพันธุกรรมย้อนกลับ!
สัตว์ทั้งหมดในโลกาวินาศกลายพันธุ์เพราะสาเหตุจากความผันแปรของสนามแม่เหล็กและมีเพียงแค่ไม่กี่ตัวที่จะเกิดสายพันธุ์พิเศษขึ้น ท่ามกลางในจำพวกนั้นจะมีกลุ่มสัตว์ที่พันธุกรรมของพวกมันจะถูกย้อนกลับไปยังพันธุกรรมดั้งเดิม ซึ่งมันมักจะกลับไปยังยุคของไดโนเสาร์ ในทางกลับกันสัตว์ที่เกิดพันธุกรรมย้อนกลับนั้นจะมีรูปร่างแตกต่างจากดั้งเดิม
ความผันแปรจากสัตว์ดั้งเดิมนั้นจะเกี่ยวโยงกับพลังทางกายภาพที่เฉพาะเจาะจงกันไปพูดง่ายๆก็คือ พลังในตัวของสัตว์เอง โดยเฉพาะพลังงานที่อยู่ในส่วนของหัวใจซึ่งมีค่ามากที่สุด
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างสัตว์พันธุกรรมย้อนกลับและแหล่งที่มาของความผันแปรนั่นจะสะท้อนออกมาในสมอง!
พลังงานจำนวนมากกระจุกอยู่ในสมองทำให้ส่วนต่างๆของร่างกายเกิดการหดตัว แม้พันธุกรรมจะย้อนกลับแต่ร่างของพวกมันจะเล็กลงเรื่อยๆ ในขณพที่สมองจะเริ่มวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ
นี่คือปรากฏการณ์ที่คุกคามมนุษยชาติในยุคโลกาวินาศลองจิตนาการว่าถ้าเหล่าสัตว์เริ่มวิวัฒนาการสมองของมันจนเกิดสติปัญญา ค่อยๆพัฒนาจนไมี IQ ที่สามารถเทียบเท่ากับมนุษย์ได้ แล้วโลกนี้จะยังถูกครองด้วยมนุษย์ต่อไปมั้ย?
ดังนั้นสัตว์ที่มีพันธุกรรมย้อนกลับจึงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่คุกคามต่อการอยู่รอดของมนุษยชาติในยุคโลกาวินาศ!
อย่างไรก็ตามณ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะเมื่อชาติที่แล้วมันก็เป็นปีที่สิบกว่ามนุษย์จะค้นพบถึงภัยคุกคามนี้ ซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่และการออกล่าสัตว์ที่มีพันธุกรรมย้อนกลับอย่างป่าเถื่อน
ในขณะเดียวกันเป็นเพราะวิวัฒนาการการย้อนกลับนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก และในความเป็นจริงการพัฒนาสติปัญญาของสัตว์ที่มีพันธุกรรมย้อนกลับนั้นก็ช้าอย่างมาก ดังนั้นเจ้านกเหยี่ยวในตอนนี้จึงไม่ได้เข้าใจสิ่งที่ชูฮันพูดเลยแม้แต่น้อย
เพียวแค่ทันทีที่ชูฮันเห็นเจ้านกเหยี่ยวเขาก็นึกขึ้นได้ถึงสัตว์พันธุกรรมย้อนกลับที่หาได้ยากขึ้นมาในชาติที่แล้ว แม้จะรู้ว่าเจ้านกเหยี่ยวจะไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองพูดก็ตามที แต่ตัวเขาเองก็ได้เปิดความสามารถด้านการสื่อสารกับสัตว์ไว้แล้ว แม้ความสามารถของเขาอาจจะไม่ได้ถึงเศษเสี้ยวของหลูปิงเซ่อเลยก็ตามทีแต่เขาจึงอยากลองดูเพื่อว่ามันจะได้ผล
การถูกควบคุมโดยหลูปิงเซ่อแม้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ตรงนี้…ชูฮันมั่นใจว่ายังไม่มีพรสวรรค์คนไหนที่มีความสามารถเช่นนี้ในจีนหรือว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญที่ตัวเขาสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้เหมือนกัน?
เป็นไปได้เหรอ…แต่ไหนจะเรื่องขนาดของความสามารถและความแตกต่างของการเป็นวิวัฒนการและพรสวรรค์อีกละ
หลูปิงเซ่อซึ่งเป็นกัปตันของทีมกุ้งเสือดำเปลี่ยนไปเพราะการฝึกฝันพิเศษของชูฮันเขาถือเป็นพรสวรรค์ที่เก่งกาจในระดับแนวหน้า แม้จะมีพรสวรรค์ที่มีความสามารถเดียวกันปรากฏตัวขึ้น แต่ก็ไม่มีทางที่จะมีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่ากับหลูปิงเซ่อได้
แม้ว่าจะสื่อสารกับสัตว์ได้แต่ถ้าไม่มีพละกำลังในการต่อสู้ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตรอดในโลกาวินาศได้!
ชูฮันยิ้มบางๆเมื่อถึงหลูปิงเซ่อที่เคยเป็นแค่เด็กน้อยไม่รู้เรื่องราวแต่ตอนนี้เขาได้พัฒนาไปไกลแล้ว!
อารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาของชูฮันทำให้ซูเฟิงค่อนข้างตกใจและงุนงง ทันใดนั้นเองมันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
กรอบ!แกรบ!
ร่างของหลูปิงเซ่อพุ่งออกมาจากพุ่มไม้เขารีบวิ่งเข้ามาหาชูฮันพร้อมร้องเสียงดัง หัวหน้า ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้คิดจะเอาหน้าอะไรเลย ผมเพียงแค่อยากทำให้พวกลูกผสมมันกลัว มันสนุกดี ผมก็เลย…
ซูเฟิงเม้มปากแน่น…หลูปิงเซ่อทำเพราะสนุกแต่มันทำให้เขาเป็นกังวลอยู่ตั้งนาน
เมื่อได้เห็นว่าเป็นหลูปิงเซ่อนั้นเองเหล่าทหารทั้งหลายก็โล่งอก สมาชิกของทีมความลับของพระเจ้าบางคนหัวเราะออกมาและยังพูดขู่ว่าหลูปิงเซ่อจะต้องถูกบทลงโทษของกองทัพแน่ๆ
อย่าพึ่งพูดอะไรชูฮันขี้เกียจที่จะพูดกับหลูปิงเซ่อ และตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงจริงจังแทน นายไม่ได้อยู่กับทีมกุ้งเสือดำเหรอไง? แล้วทีมกุ้งเสือดำอยู่ไหน?
ถ้าทีมกุ้งเสือดำมาถึงเมืองอันลูแล้วมันก็คือข่าวดีอย่างมาก ทั้งพิเศษทั้งหมดรวมกัน ไหนจะมีทีมหลงยาและฮูหยาอีก ชัยชนะของชูฮันในสงครามครั้งนี้ก็พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว
หลูปิงเซ่อเริ่มเหงื่อตกผมแยกกับพวกเขามา พวกเขาช้าเกินไปจนผมทนรอไม่ไหว
ช้า…
ความเร็วของทีมกุ้งเสือดำจะช้าได้ยังไง!
ทันใดนั้นชูฮันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้เขาทำเพียงถอนหายใจและมองหน้าหลูปิงเซ่อ แล้วนายควบคุมจากระยะไกลได้แล้ว?
อ่า…ใช่จู่ๆหลูปิงเซ่อก็มีท่าทีตื่นเต้น เขาชี้นิ้วไปยังงูยักษ์ที่ห่าลูกผสมระยะต่ำไปได้หลายตัว นี้ไงเจ้างูยักษ์เสี่ยวเหอ เก่งกาจสุดๆ หล่อมากๆ มันเท่มากใช่มั้ยครับ?
หน้าของชูฮันเริ่มอึมครึมหล่อบ้าอะไร…กลัวจะตายอยู่แล้ว!