สองวันต่อมามีกองทัพลูกผสมปรากฏตัวที่ริมชายฝั่งแม่น้ำซึ่งเป็นที่ที่ชูฮันและทหารของเขามาปรากฏตัวเมื่อวันก่อน
พวกมันมีจำนวนมากพอตัวประมาณหนึ่งพันตัวและทุกตัวก็มีชุดคลุมสีดำสนิทคลุมทั้งตัวจนมิดชิด ไม่มีส่วนใดของร่างกายให้มองเห็นได้เลย
ในขณะเดียวกันพวกลูกผสมทั้งหลายดูนิ่งอย่างมาก นัยน์ตาสีเลือดของพวกมันอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่ขณะจับจ้องไปยังลูกผสมตัวที่เดินนำหน้าสุดด้วยสายตาจำนน
เห็นได้ชัดว่าลูกผสมตัวที่เดินนำหน้าอยู่คือหัวหน้าของกองทัพลูกผสมกองทัพนี้ไม่เหมือนกับกลุ่มลูกผสมกลุ่มก่อนหน้านี้ ตัวระดับหัวหน้าไม่ได้มีร่างกายสูงใหญ่ รูปร่างไม่ได้กำยำอะไรเลย ตรงกันข้าม ร่างกายกลับเล็กและดูบอบบาง
หยุดก่อน ทันใดนั้นลูกผสมตัวที่เป็นหัวหน้าก็เอ่ยสั่งขึ้นเสียงนิ่ง แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นเสียงของผู้หญิง
มีอะไร? ด้านหลังของลูกผสมหญิงซึ่งเป็นหัวหน้า มีลูกผสมชายร่างสูงเดินก้าวเข้ามาใกล้ แววตาแข็งกร้าวจับจ้องไปยังหัวหน้าของตัวเองอย่างมีนัยนะบางอย่าง
ที่นี่มันแปลกๆ ลูกผสมผู้หญิงซึ่งเป็นหัวหน้าชี้นิ้วไปยังร่องรอยบางอย่างที่มองเห็นที่พื้น
แน่นอน ลูกผสมชายยิ้ม ในใจคิดว่ามันต้องมีปัญหาแน่ๆ พวกเราเห็นร่องรอยและชิ้นส่วนเล็กน้อยมาตลอดทาง น่าจะหมายความว่ากลุ่มลูกผสมก่อนหน้านี้คงถูกโจมตีตรงบริเวณนี้และอาจจะตายกันไปหมดแล้ว แต่มันไม่ใช่ฝีมือของชูฮันหรือทหารของมันหรอก
ลูกผสทหญิงนิ่วหน้า เกรงว่ามันจะไม่ได้ง่ายแบบนั้น
อู๋หลิงฉิงเธอระแวงมากเกินไป ด้วยจำนวนลูกผสมระดับสูงจากเมืองหยินที่เรามีในมือนับพันตัว ตอนนี้แถมยังมีระยะ 7 จุดสูงสุดอย่างเธออยู่ ยังจะกลัวว่าจะจัดการกับชูฮันไม่ได้อีกเหรอ? ลูกผสมชายพูดไปหัวเราะเยาะไป หากอู๋หลิงฉิงไม่สนใจเลยสักนิด
ตี่ตงครั้งนี้ฉันเป็นหัวหน้า อู๋หลิงฉิงหมุนตัวกลับมาและมองจ้องหน้ากับลูกผสมชายที่ชื่อตี่ตงด้วยแรงกดดันจำนวนมาก
ตี่ตงพลันมีสีหน้าไม่พอใจทันทีมันไม่ชอบที่อู๋หลิงฉิงปฎิเสธมันต่อหน้าลูกผสมมากมาย จึงทำเพียงแต่ส่งยิ้มอ่อน ใช่ ฉันก็จะเชื่อฟังเธอ
อู๋หลิงฉิงเลิกคิ้วขึ้นไม่คิดจะให้ความสนใจต่อตี่ตงอีก เธอหันกลับมาให้ความสนใจกับร่องรอยที่เหลืออยู่บนพื้นตรงหน้าต่อ
เมื่อได้เห็นว่าอู๋หลิงฉิงเมินเฉยต่อตัวเองในใจของตี่ตงก็เดือดพล่านด้วยความไม่พอใจ มันพยายามอดกลั้นทนรออยู่สักพักแต่แล้วอู๋หลิงฉิงก็ไม่มีทีท่าจะกลับมาสนใจ ในที่สุดมันจึงตัดสินใจพูดขึ้น อู๋หลิงฉิง เราเดินตามรอยพวกนี้มาตลอดทาง มันก็ชัดเจนแล้วว่าจุดนี้เคยเป็นที่ที่มีการต่อสู้เกิดขึ้น ซึ่งดูแล้วยังไงมันก็มีลูกผสมเร่ร่อนตายไม่เกิน 300 ตัวหรอก
ฉันจะพูดอีกครั้ง… อู๋หลิงฉิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ช้อนสายตาสีเลือดสบตากับตี่ตงด้วยจิตสังหารรุนแรง ครั้งนี้ ฉันเป็นหัวหน้า
ตี่ตงพลันรู้สึกเสียหน้าอย่างมากโดยเฉพาะต่อหน้าลูกผสมจำนวนมากที่ยืนอยู่ด้านหลังมัน ป่านนี้ทุกตัวคงแอบหัวเราะเยาะเขากันใหญ่แล้ว หน้าอายชะมัด!
หึ! ตี่ตงที่ต้องการกู้หน้าตัวเอง มันแสะยิ้มและจ้องอู๋หลิงฉิงด้วยท่าทีเย็นชา อู๋หลิงฉิง คิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่ท่านมู๋เย๋ให้ความวางใจรึไง ถึงจะเป็นลูกผสมเต็มตัวและมีพลังรองแค่จากท่านมู๋เย๋ แต่รู้มั้ยว่าหน้าตาแบบเธอเนี่ยเป็นที่ต้องการของผู้ชายมากขนาดไหน
หลังจากพ้นจากระยะ5 ลูกผสมจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งความเร็วในการเปลี่ยนแปลงนั้นจะแตกต่างกันไป สำหรับอู๋หลิงฉิงไม่ใช่แค่เพียงมีความเร็วสูงอย่างมากเท่านั้นแต่ยังเป็นคนแรกที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงและก็มีพลังเป็นรองแค่ราชาลูกผสมอย่างมู๋เย๋
วันนั้นที่เธอเปิดเผยผ้าคลุมหน้าออกและเผยใบหน้าและผิวพรรณที่เหมือนมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบของเธอสู่สาธารณะ มันก็ได้สร้างความตกใจแก่ลูกผสมจำนวนมากไม่น้อย โดยเฉพาะลูกผสมชายทั้งหลายที่อดไม่ได้ที่จะเกิดชอบและหลงใหลอู๋หลิงฉิงขึ้นมา
เมื่อเทียบกับเนื้อมนุษย์ที่เป็นอาหารมีเพียงแค่ลูกผสมหญิงที่สวยอย่างอู๋หลิงฉิงเท่านั้นที่ควรค่าแก่การไล่ตาม!
ตี่ตงเองก็เป็นหนึ่งในลูกผสมชายที่ต้องการได้อู๋หลิงฉิงมาครองแต่เพราะตี่ตงเป็นคนที่ถือตัวและอารมณ์ร้าย แม้จะกล้าไล่ตามอู๋หลิงฉิงแต่ไม่มีความแข็งแกร่ง นั้นจึงเป็นปัญหาของเขามาตลอด
มันต้องใช้เวลานานมากกว่าจะทำให้อู๋หลิงฉิงหันมาสนใจได้และตอนในที่ท่านมู๋เย๋แต่งตั้งอู๋หลิงฉิงเป็นหัวหน้ากองทัพลูกผสม ประกอบกับการที่อู๋หลิงฉิงหักหน้าตี่ตงหลายต่อหลายครั้งจึงทำให้ความอดทนของตี่ตงหมดลง
ตี่ตงเองก็เป็นลูกผสมเต็มตัวแม้ว่าตัวมันจะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงช้ากว่าอู๋หลิงฉิงก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในลูกผสมชั้นสูงเหมือนกัน ทำไมอู๋หลิงฉิงถึงมองข้ามมันตลอด?
แม้จะได้ยินคำพูดของตี่ตงหากอู๋หลิงฉิงไม่คิดสนใจ เธอเพียงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงและท่าทางแสนเยือกเย็น ฉันไม่ต้องพูดเรื่องปัญหามนุษย์ผู้หญิงกับนาย ตอนนี้นายควรจะสนใจที่เบาะแสที่เหลือทิ้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำนี่ แทนที่จะสนใจเรื่องมนุษย์ผู้หญิงมากกว่ามั้ย
ไม่ใช่เรื่องมนุษย์แต่ดีกว่านั้นอีก แค่มองก็รู้แล้วว่าพวกลูกผสมเร่ร่อนถูกสัตว์ประหลาดโจมตี ก็แค่พวกขยะทั้งนั้น! ตี่ตงไม่ปิดบังอารมณ์ของตัวเลยแม้แต่น้อย เขาแสยะยิ้ม ดังนั้นตอนนี้เราควรจะไปที่ฐานเพื่อดูว่ามีพวกลูกผสมเร่ร่อนเหลืออีกเท่าไหร่ และก็รีบหาตำแหน่งของชูฮันจากเบาะแสที่มีประสิทธิซึ่งฉันและทีมของฉันได้เข้าไปสำรวจในป่ามาก่อนหน้านี้และก็เจอมันเข้า แบบนี้เราก็จะสามารถจบเรื่องนี้ได้โดยไว
อู๋หลิงฉิงจ้องตาตี่ตงเขม็งก่อนจะหัวเราะในลำคอ นายไม่คิดบ้างเลยเหรอว่ามันคือฝีมือของชูฮัน ทั้งๆที่มีคนมากมายขนาดนี้ ยังคิดได้แค่นี้? ฉันได้ยินว่าเมื่อครั้งสงครามที่เมืองหนานตู้ กัปตันของทีมความลับของพระเจ้าซึ่งเป็นพรสวรรค์นั้นสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้
แล้วยังไง? น้ำเสียงของตี่ตงเริ่มหมดความอดทน คนคนนั้นชื่อหลูปิงเซ่อ ฉันตรวจสอบข้อมูลของมันแล้ว มันและทีมของมันได้แยกกับชูฮันนานแล้ว ตอนนี้คาดว่าน่าจะอยู่ครึ่งทางจากหนานตู้มาอันลู อาจจะสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ไม่รู้กว่าจะถึง ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แถมชูฮันก็ไม่มีความสามารถที่จะสื่อสารและควบคุมสัตว์ได้เหมือนหลูปิงเซ่อที่เป็นพรสวรรค์ ดังนั้นยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้
นัยน์ตาสีเลือดของอู๋หลิงฉิงเปล่งประกายความเย็นชาอย่างน่ากลัว ไม่ว่านายจะสามารถหาตำแหน่งของชูฮันได้หรือไม่ แต่ฉันจะไม่ไปที่ฐานจนกว่าจะตรวจสอบทุกบริเวณเรียบร้อยแล้ว
อะไรนะ? ตี่ตงไม่พอใจสุดๆ เรามัวแต่วนอยู่ในบริเวณนี้มาสองวันแล้ว เธอยังสำรวจไม่เสร็จอีกเหรอ? หรือต้องรอจนกว่ากองทัพใหญ่ของชูฮันมาไล่เอา ให้โดนทหารหลายพันคนของมันล้อมเอาไว้ถึงจะพอใจใช่มั้ย? อย่าลืมบทเรียนของสงครามกลางภูเขา กองทัพเขี้ยวหมาป่าของชูฮันไม่ใช่ธรรมดา แม้แต่คนทั่วไปที่ไม่ใช่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ก็สามารถฆ่าลูกผสมอย่างเราได้
ตี่ตงต้องการจะให้ฉันพูดเรื่องลำดับอำนาจนักใช่มั้ย? อู๋หลิงฉิงขี้เกียจเกินกว่าจะเถียงกับตี่ตงต่ออีก
ตี่ตงที่ได้ยินก็ระเบิดอารมณ์เดือดดาลออกมาทันทีมันตะคอกใส่อู๋หลิงฉิงดังลั่น ได้ งั้นเธอก็เอาคนของเธอกระจายสำรวจให้ทั่วเสียเวลาทิ้งอยู่ที่นี้ไปละกัน ฉันจะพาคนของฉันไปก่อนเอง!
หลังจากนั้นตี่ตงก็จากไปทันทีอย่างไม่มีความลังเลนำกลุ่มลูกผสม 300 ตัวไปกับตัวเองและทิ้งที่เหลือเอาไว้กับอู๋หลิงฉิง
แววตาของอู๋หลิงฉิงอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารรุนแรงแต่ท้ายที่สุดเธอก็เลือกหันไปกวาดตามองลูกผสม 700 ตัวที่เหลืออยู่ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา