หลังจากเข้าสู่วันใหม่พระอาทิตย์เริ่มสาดทอแสง ข่าวคราวเรื่องชัยชนะของกองทัพเขี้ยวหมาป่าแพร่กระจายไปทั่วค่ายเขี้ยวหมาป่า ผู้คนทั่วทั้งค่ายต่างตกอยู่ในความบ้าคลั่ง ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีชีวิตชีวาเท่านี้มาก่อน ภายใต้การนำส่งข้อความในยุคโลกาวินาศ ดังนั้นรูปที่ผู้คนตอบรับต่อเรื่องน่ายินดีคือการเฉลิมฉลอก็คือการส่งเสียงร้องเพลงอย่างมีความสุขส่งต่อกันจนดังสนั่นไปทั่วค่าย!
ค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่ในช่วงต้นแบบของการเป็นค่ายทหารทุกอย่างตกอยู่ภายใต้การก่อสร้าง ทว่าวันนี้เมื่อบรรยากาศภายในค่ายกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นรมย์ เด็กๆวิ่งเล่นกันไปตามท้องถนนอย่างสนุกสนาน ร้องเพลงเฮฮาสร้างสีสันให้กับค่าย ผู้คนไม่สนใจทำงานของตนอีกต่อไป
หัวหน้าชูฮันฮีโร่ของพวกเรา ใครจะกล้าสู้กับเขี้ยวหมาป่า!
ไล่เป็นทอดๆคำพูดส่งต่อผ่านกันปากต่อปากกระจายไปทั่วทั้งค่ายภายในเวลารวดเร็ว
แม้แต่ทุกคนที่กำลังยุ่งอยู่กับการก่อสร้างทั้งหลายภายในค่ายก็ต่างหยุดงานในมือลงซูชิงรีบเดินนำออกไปจากห้องวิจัยในสถานบันวิจัยทันทีอย่างไม่สนใจงานตรงหน้า เช่นเดียวกับทุกคนในค่าย ทุกคนต่างวางงานในมือตัวเองลงและออกไปรวมตัวกันที่ลานกว้างเพื่อเฉลิมฉลองให้กับข่าวอันน่ายินดี
หน่วยรักษาความปลอดภัยซึ่งมีหยางเทียนเป็นกัปตันต้องวิ่งวุ่นทั้งวันอย่างแสนเหนื่อยล้าเพื่อคอยคุมดูแลสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกจนแทบจะไม่มีแรงเหลือแล้ว
ชาวบ้านของค่ายกระตือรือล้นกันมากเกินไปทุกคนต่างทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ อย่างเช่นอยู่ดีๆดอกไม้ไฟก็ถูกจุดขึ้นมาทางทิศตะวันออกของค่ายจนไหม้บ้านพักบางหลัง ทางทิศวันตกก็เต็มไปด้วยภาพวาดตามท้องถนนและตึกอาคาร ภายในช่วงเวลาสั้นๆทุกคนต่างเฉลิมฉลองกันอย่างบ้าคลั่งโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาเลย
ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคนมีเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่รู้ดีว่าการเฉลิมฉลองอย่างเกินหน้าเกินตานี้เกิดขึ้นจากฝีมือของซางจิ่วตี้และหยางเทียนที่มีจุดประสงค์ซ่อนเร้น
และขณะนี้ภายในห้องทำงานของซางจิ่วตี้ติงเซวรีบเปิดประตูเข้ามารายงานอย่างเร่งรีบจนเหงื่อตก ข่าวกระจายไปทั่วแล้วค่ะ และพวกที่คอยสังเกตอย่างลับๆก็ดูเหมือนจะทนรอที่จะกลับไปรายงานให้หัวหน้าของพวกมันได้รู้แทบไม่ไหวแล้วค่ะ
ดี ซางจิ่วตี้ไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ยิ่งผู้คนเฉลิมฉลอง เป้าหมายของเราก็จะเดินตามเกมส์เร็วขึ้น ยิ่งมันวุ่นวายมากเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะพวกมันจะใช้จังหวะนั้นแอบลอบออกไปส่งข่าว
นั่นมัน… ติงเซวชะงักก่อนจะพูดต่อ แบบนั้นมันจะดีเหรอคะ? หัวหน้าชูฮันเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอว่าหลังจากสงครามจบลงห้ามลดการระวังตัวเด็ดขาด เราควรล้มเลิกการเฉลิมฉลองและตรึงกำลังเพื่อคอยป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นกระทันหันสิคะ? ยิ่งไปกว่านั้น แค่เท่านี้มันก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายมากพอแล้ว ถ้ากองทัพเขี้ยวหมาป่าที่กลับมาแล้วเจอความสภาพนี้ขึ้นมาละก็? เวลานี้เราควรจะเตรียมตัวรอการกลับมาของเหล่าทหารไม่ใช่เหรอคะ?
เตรียมตัวก็ส่วนเตรียมตัวส่วนสำหรับคำพูดของชูฮันฉันรู้ดีและก็ทำตามทุกอย่าง ตอนนี้กองทัพเขี้ยวหมาป่าอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ซางจิ่วตี้กระพริบตา ทันใดนั้นแววตาของเธอก็เปลี่ยนไป ยังไงหัวหน้าชูฮันก็อยู่ที่นี้ แล้วพวกเราจะต้องกลัวอะไร? ในเมื่อตอนนี้เขี้ยวหมาป่าได้ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่กลับมา จะไม่ให้พวกเขาเฉลิมฉลองกันได้ยังไง?
เอ่อ…เข้าใจแล้วค่ะ!ฉันจะรีบไปสั่งการให้ทุกคนเตรียมตัวพร้อมสำหรับการต้อนรับการกลับมาของกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเร็วที่สุด! ซางจิ่วตี้มีสีหน้าพอใจและกลับไปสนใจทำงานต่อ
ทันทีหลังจากติงเซวออกไปจากห้องทำงานซางจิ่วตี้ก็มองไปบนโต๊ะที่มีเอกสารเร่งด่วนทั้งหลายวางกองอยู่ด้วยสายตาหม่นๆ เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ขณะบังคับตัวเองให้ทำงานต่อไปอย่างยากลำบาก
เวลานี้ยังไม่มีใครรู้ว่าชูฮันตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงร้ายแรงเธอจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเฉลิมฉลองอย่างเกินจริงเพื่อดึงความสนใจของทุกคนและเพื่อไม่ปล่อยให้ใครได้รับรู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริง…
ข่าวชัยชนะของเขี้ยวหมาป่าแพร่ไปอย่างรวดเร็วตามความตั้งใจของซางจิ่วตี้ภายในบ่ายวันเดียวกัน ค่ายทั้งหลายในจีนต่างได้รับข่าวสารนี้กันถ้วนหน้า ค่ายใหญ่ๆทั้งหลายมีการเรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อปรึกษาหารือและยืนยันข่าวที่รั่วไหลออกมา
ดังนั้นภายในเวลาแค่วันเดียวข่าวชัยชนะของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ถูกล่ำลือไปทั่วทั้งจีน มีแต่คำว่าชูฮันและเขี้ยวหมาป่าติดปากทุกคนไปหมด
มันไม่ใช่การชนะแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้งทว่าเป็นการชนะซ้อนติดต่อกันถึงสองครั้งในทีเดียว ส่วนสงครามครั้งที่สามที่มีกองกำลังศัตรูที่ไม่รู้จักโผล่นั้นถูกปิดเป็นความลับ เมื่อได้รับรู้เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ คำว่าเขี้ยวหมาป่าจึงแทบจะใกล้เคียงกับคำว่าอมตะสำหรับทุกคนไปเลย
ซอมบี้หลายแสนตัวลูกผสมอีกหนึ่งพันห้าร้อยตัว ทั้งหมดถูกฆ่าล้างจนหมด!
นี้คือความสำเร็จแห่งศตวรรษ….คือความภาคภูมิใจของมนุษยชาติทั้งหมด!
ยิ่งโดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของเขี้ยวหมาป่าอย่างพลเอกชูฮันที่ถูกตีตราไว้ในใจของทุกคนว่าคือเทพเจ้าเดินดิน!
ฉางกวนยวีซินที่ตอนนี้เป็นผู้นำของค่ายหนานตู้ซึ่งเป็นค่ายที่มีการเจริญเติบโตที่เร็วที่สุดในจีนทันทีที่เธอได้รับรู้ข่าวนี้ในครั้งแรกเฮลิคอปเตอร์สิบกว่าลำซึ่งลำเลียงเสบียงและความช่วยเหลือมากมายถูกส่งไปยังค่ายเขี้ยวหมาป่าแทบจะในทันทีเพื่อเป็นการแสดงความยินดีแก่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่พร้อมเอกสารการแสดงความเป็นพันธมิตรของทั้งสองค่ายอย่างเป็นทางการ
ฉางกวนหลงทำได้เพียงมองสีหน้ามีความสุขอย่างสุดขีดของลูกสาวอย่างไม่สามารถห้ามปรามอะไรได้
ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะชนะได้ มู๋หรงยู่เฉิงซึ่งยืนอยู่ข้างกายฉางกวนหลงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงซับซ้อน
ฉางกวนหลงเองก็ไม่ต่างกัน ถึงแม้จะมีลางสังหรณ์ แต่จริงๆแล้วก็ไม่มีใครคิดว่าชูฮันจะเอาชนะได้เหมือนกัน ซอมบี้หลายแสนตัว กลุ่มลูกผสมระยะสูงทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยตัวถูกกวาดล้างหมด…ใครจะคาดถึง
มู๋หรงยู่เฉิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ ถ้าเปรียบเทียบกับคลื่นซอมบี้ที่โจมตีค่ายหนานตู้ของเราในตอนแรกกับที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าเจอ ดูเหมือนว่าพวกลูกผสมน่าจะไม่ได้เล็งเป้าหมายไว้ที่เราตั้งแต่แรก
ฉางกวนหลงเมื่อได้ยินก็พลันชะงักตัวเขาเองก็รู้ดีว่ามันเป็นเช่นไรแต่ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ได้
ผมจะไปค่ายเขี้ยวหมาป่าในฐานะทูตเพื่อหาความจริงเรื่องนี้ มู๋หรงยู่เฉิงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เขามองสบตาฉางกวนหลงอย่างมุ่งมั่น
ลูกสาวฉันอยากจะทุ่มทุกอย่างให้ชูฮันแล้วครั้งนี้แม้แต่มู๋หรงยู่เฉิวยังต้องการจะจัดการเรื่องที่ผ่านไปแล้วจากชูฮันอีก?
ฉางกวนหลงอยากจะเป็นบ้าซะจริงๆ!