หลังจากนั้นชูฮันและคนอื่นๆก็รอคอยให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านประมงสงบลงต่อไปอีกสองวันเจียงหลินเทียนและอู๋กงนั้นกระตือรือร้นที่จะไปจากที่นี้ สำหรับพวกเขาทั้งคู่ที่ตอนนี้เป็นเพียงแค่พรสวรรค์ระยะ 2 นั้นยังห่างไกลจากการเข้าถึงความลับของท่าเรือหนานช้าได้ ดังนั้นมันเป็นการดีกว่าถ้าทั้งคู่ไปเข้าร่วมกับองค์กรนักล่าก่อน
ในกรณีนี้ทำให้ฟานเจี้ยนมีโอกาสเชิดหน้าขึ้นฟ้าทำท่าทางหยิ่งยโสใส่ชูฮันได้อยู่สองวัน
ตลอดสองวันที่ผ่านมามันมีผู้รอดชีวิตคนอื่นๆปรากฏตัวขึ้นอยู่เป็นพักๆ บางคนก็เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีพละกำลังการต่อสู้ บางคนก็เป็นแค่คนสันจรที่หากินในพื้นที่นี้และแค่ผ่านมาเท่านั้น
ทว่าที่ชูฮันและเกาช้าวฮุ่ยต้องการคือมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะสูงซึ่งไม่มีคนจำพวกนั้นผ่านทางมาเลย
ในหมู่บ้านประมงอันแสนโกลาหลพายุเริ่มบรรเทาแรงลงหลังจากผ่านไปสองวัน ฝุ่นควันหนาที่ปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านจนมองอะไรไม่เห็นเริ่มค่อยๆตกลงพื้นและจางลง บรรยกาศเริ่มเข้าสู่ความสงบราวกับว่าก่อนหน้านี้มันไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ภาพของหมู่บ้านประมงที่ปรากฏสู่สายตาตอนนี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
จากเดิมที่มีต้นไม่พืชพันธุ์เติบโตอย่างบ้าคลั่งเต็มไปหมดตอนนี้พวกมันได้หายไปอย่างไร้ร่องรองเดิมและถูกแทนที่ด้วยแนวประการังขนาดใหญ่โตเต็มพื้นที่ไปหมด ราวกับว่ามันพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลและก็ปักตัวเองฝังลงดินทันที
พวกมันมีรูปทรงแปลกประหลาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นสีฟ้าเดียวเหมือนกัน
แต่สิ่งที่ควรค่าแก่ความสนใจมากกว่าอะไรทั้งหมดคือด้านหลังของแนวประการังขนาดใหญ่ส่วนที่ลึกที่สุดของหมู่บ้านแห่งนี้ มันมีเสาหินยักษ์ตั้งสูงเทียมฟ้าอยู่
เสาหินยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬาร!
เปรียบเทียบกับเสาหินที่อื่นเสาหินยักษ์นี่ก็เหมือนกับเสาหินอื่นๆเพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า รวมถึงเสาหินยักษ์ต้นนี้ยังปรากฏตัวในตำแหน่งที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นแท่นแผ่นหินประหลาดที่ชาวบ้านหมู่บ้านประมงกรายสักการะบูชากัน มันจึงยิ่งทำให้ชูฮันและคนอื่นๆงุนงงกันอย่างมาก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชูฮันยืนจ้องเสาหินแต่มันเป็นครั้งแรกที่เขามีอารมณ์แตกต่างไปเดิม
เขาจำได้ว่าผู้อาวุโสของชาวบ้านหมู่บ้านประมงได้พูดไว้ว่า…แท่นหินยักษ์ถูกซ่อนอยู่ใต้ดินมาตลอดและเมื่อเกิดคลื่นยักษ์มันจึงถูกซัดขึ้นมายังชายฝั่งหลังจากนั้นแท่นแผ่นหินประหลาดนั่นก็ได้กลายมาเป็นเสาหินยักษ์ในตอนนี้?!
ชูฮันพยายามมองขึ้นไปบนยอดของเสาหินยักษ์ทว่าไม่สามารถทำได้เพราะมันสูงเกินไปเขาจึงไม่สามารถมองเห็นได้ว่าบนพื้นผิวของเสาหินนี่มีสัญลักษณ์เดียวกับแท่นแผ่นหินก่อนหน้านี้รึเปล่า
ถ้าแท่นแผ่นหินนั้นได้กลายเป็นเสาหินจริงๆเราจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง? ชูฮันพูดกับหวังไคในหัวตัวเอง เสาหินทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆมาตลอด แม้กระทั่งเสาหินที่สามารถเคลื่อนที่ได้ก็ยังเคลื่อนที่แบบเงียบๆ แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงเคลื่อนไหวอย่างใหญ่โตเสียงดังแบบนี้ ทำไมพึ่งมาเกิดขึ้นตอนนี้? มันมีอะไรแตกต่างออกไป?
นายถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร? หวังไคแอบกรอกตากับตัวเอง
นายต้องการอะไรแลกเปลี่ยน?! ชูฮันเองก็กรอกตาเหมือนกัน
เพียงแค่ในใจชูฮันนั้นมีลางสังหรณ์แปลกๆคึอยเตือนเขาอยู่ตลอดถ้าแท่นแผ่นหินนั้นได้กลายเป็นเสาหินจริงๆตามที่ผู้อาวุโสบอก มันก็หมายความว่าเสาหินมีอยู่มานานก่อนการมาถึงของโลกาวินาศ เพียงแค่ว่าที่ผ่านมามันถูกฝึกลึกอยู่ใต้ดิน…
มนุษยชาติได้ตั้งรกรากบนผืนโลกนี้มาเป็นเวลายาวนานแล้วแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการค้นพบเสาหินเลยทั้งๆที่โลกมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ทำการสำรวจทุกพื้นผิวบนโลกมาหมดแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครค้นพบแท่นแผ่นนั้น จะอธิบายประเด็นนี้ยังไง?
มีเรื่องลึกลับเกิดขึ้นรอบตัวมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ชูฮันลืมไปแล้วว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงไหน
ชูฮันไปกัน เกาช้าวฮุ่ยตบไหล่ชูฮันเบาๆ
ซูเฟิงและฟานเจี้ยนเองก็เตรียมพร้อมแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่แน่ใจว่ากำลังจะทำอะไรกันแน่
ชูฮันมองไปรอบๆปัดมือเกาช้าวฮุ่ยออกและออกเดินนำแทน ตำแหน่งที่ตั้งของเสาหินนั้นไม่ได้อยู่ใกล้เลยเพราะตอนที่พวกเขาออกมาจากหมู่บ้านประมงนั้นพวกเขาวิ่งกันด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อเอาตัวรอด อีกทั้งตอนนี้ทั้งหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยแนวปะการังขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนสิ่งกีดขวางเต็มไปหมด ความเร็วในการเดินของพวกเขาจึงถูกจำกัด ดังนั้นในตอนนี้มันจึงเหมือนว่าทุกคนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกตที่ซับซ้อน
ทั้งสี่คนเดินไปข้างหน้าท่ามกลางพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังยักษ์ ทุกคนดูสงสัยใคร่รู้กันมากและใช้เวลาไปนานกับการสำรวจ และเมื่อชูฮันเดินทางมาถึงตรงหน้าของเสาหินยักษ์ ฟ้าก็ได้เปลี่ยนสีเข้าสู่ช่วงเวลาเย็นใกล้ค่ำแล้ว
เมื่อไม่มีแสงทุกอย่างจึงยากที่จะเข้าถึง ในใจของทุกคนเกิดความตื่นตระหนกผสมความกลัวขึ้นมา
มีบางคนกำลังมา เกาช้าวฮุ่ยกระซิบบอกขณะอยู่ตรงหน้าเสาหิน สายตาของทุกคนรวมถึงชูฮันหันไปมองทางฝั่งซ้ายทันที
ขณะนี้วิสัยทัศน์การมองเห็นของทุกคนต่ำลงกว่าเดิมหากพวกเขาก็ยังสามารถมองเห็นโครงร่างของคนสองคนจากที่ไกล จากจุดที่มองอยู่ทำให้พวกเขาสามารถมองออกได้ว่าโครงร่างที่เห็นนั้นคือร่างของผู้ชายและผู้หญิง แต่ทั้งสองคนจงใจแต่งตัวปกปิดรูปร่างและหน้าตาจนมิดชิด อาศัยความมืดของค่ำคืนทำให้ฝั่งชูฮันมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ขาดอีกสามคน เกาช้าวฮุ่ยจ้องมองสองคนที่กำลังมุ่งหน้าและแอบกระซิบคุยกับชูฮัน
นายไม่ได้เอาตรามา? ชูฮันถามคำถามที่เขายังคงคิดไม่ตก
ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้เกาช้าวฮุ่ยพึ่งจะบอกว่ามีเพียงแค่พวกเขาสามคนเท่านั้นที่มีตราและก็ตัดตัวเองออกไปจากรายชื่อทันทีโดยไม่บอกเหตุผล แล้วตอนนี้จู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็ตัดสินใจว่าสองคนมาใหม่นี้มีตราประหลาดนั้น
ทำไม?
ฉันเข้าไปไม่ได้ เกาช้าวฮุ่ยตอบสั้นๆ ไม่คิดอธิบายอะไรเพิ่มเติม
แววตาของชูฮันเป็นประกายคำพูดหนึ่งเกี่ยวกับตระกูลลึกลับย้อนกลับเข้ามาในหัว ความแปลกประหลาดเกี่ยวกับเกาช้าวฮุ่ยที่มากเกินไปทำให้เขาระลึกข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลลึกลับขึ้นมาได้
ฆ่าไม่ได้…เข้าไปในเสาหินไม่ได้?
แล้วทำไมป่ายหวีเนอถึงเข้าไปได้
หรือว่าเป็นแค่ตระกูลเกาเท่านั้น?
ชูฮันคิดไม่ตกสักทีจนสุดท้ายเขาจำเป็นต้องพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้มีคนที่มีตราทั้งหมดห้าคนแล้ว พวกเขาต้องการคนเพิ่มอีกสามคนเท่านั้น
อีกด้านหนึ่งชายและหญิงยืนอยู่ในตำแหน่งไม่ไกลจากชูฮันและคนอื่น ๆ คนแปลกหน้าสองคนที่มาใหม่ไม่คิดจะทักทายหรือเผชิญหน้ากับฝ่ายชูฮัน ราวกับว่าระหว่าวพวกเขามันมีกฏระเบียบที่เข้าใจกันเองอยู่
แน่นอนว่าชายหญิงคู่นี้จะต้องอยู่ที่นี้มาหลายวันแล้วเพียงแค่รอโอกาสที่จะแสดงตัว
ท่านหญิงเสี่ยวเมิงชียังเหลืออีกสองคนไม่ใช่หรือครับ? ต้านฮวงกระซิบถาม…เขาเข้าใจว่าตอนนี้มีคนแล้วทั้งหมดหกคน
เดี๋ยวก็มา เสี่ยวเมิงชีตอบสั้นๆ
การรับมือกับคนฉลาดแบบท่านผมว่าผมสนใจแต่พละกำลังด้านการต่อสู้จะดีกว่า ต้านฮวงยิ้ม
ท่ามกลางเสียงกระซิบพูดคุยของเสี่ยวเมิงชีและต้านฮวงชูฮันคอยสำรวจทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ไปด้วย นอกจากคนของเขาอย่างซูเฟิงและฟานเจี้ยนแล้ว ก็มีเกาช้าวฮุ่ยที่แสนจะลึกลับ และคนมาใหม่สองคนที่ดูจะเป็นปัญหาไม่เบา
จำนวนคนที่ได้เห็นก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการประเมิณของเสาหินพิเศษระยะ 2 มันยากมากแค่ไหน?!
ไม่นานหลังจากเสี่ยวเมิงชีและต้านฮวงปรากฏตัวก็มีคนแปลกหน้ามาใหม่อีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเร็วซะจนไม่มีร่องรอยของความเร็วให้ชูฮันจับสัมผัสได้เลย คนมาใหม่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมยืนเอนตัวพิงแนวปะการังขนาดใหญ่ด้วยท่าทีสบายๆ
ทันใดนั้นชูฮันก็ตะลึงค้างและอดไม่ได้ที่จะขนลุกขึ้นมาคนคนนี้สามารถฝ่าความมืดและผ่านประสาทสัมผัสของเขาไปได้ โดยที่ตัวเขาไม่รู้อะไรเลยจนกระทั่งอีกฝ่ายปรากฏตัวแล้ว
คนคนนี้คือใครกัน?!