จากรูปร่างความสูงและความกว้างของไหล่เห็นได้ชัดว่าคนมาใหม่ล่าสุดคนนี้คือผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าอีกฝ่ายมีผ้าคลุมปิดบังตัวตนและหน้าตาอย่างมิดชิด ประกอบกับความมืดมันจึงยิ่งทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดาตัวตนของชายคนนี้ได้ออก มันไม่มีรายละเอียดภายนอกใดๆที่สามารถนำมาวิเคราะห์ที่มาของชายคนนี้ได้เลย ไม่มีแม้แต่อาวุธให้เห็น
ขณะที่ชูฮันกำลังสำรวจอีกฝ่ายอยู่ชายลึกลับก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย กวาดสายตามองเสี่ยวเมิงชี เกาช้าวฮุ่ยและคนอื่นๆไล่ไปเรื่อยๆจนครบโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆให้เห็นเลย ทุกคนมองไม่ออกว่าชายลึกลับคนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่ จนกระทั่งเมื่อสายตาของชายลึกลับหยุดลงที่ชูฮัน
การกระทำนี้มันชัดเจนทั้งเกาช้าวฮุ่ยและเสี่ยวเมิงชีต่างตะลึงงัน ในใจรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย
คนคนนี้คือใครกันครับ? ต้านฮวงกระซิบถามเสี่ยวเมิงชี
เสี่ยวเมิงชีนิ่วหน้า ฉันไม่รู้
ต้านฮวงยืนนิ่งงัน หรือว่าจะคือคนที่เกาช้าวฮุ่ยรออยู่ครับ?
เสี่ยวเมิงชีเริ่มสับสน ฉันคิดว่าเกาช้าวฮุ่ยเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนคนนี้โผล่มาจากไหน ผู้ชายคนนี้ปิดบังตัวตนได้ดีมาก
ใช่คนของชูฮันรึเปล่าเขาปกปิดตัวตนขนาดนี้ได้ยังไง? ต้านฮวงสำรวจชูฮันที่ใช้ผ้าห่อขวานซิ่วโหลวเอาไว้ด้านหลัง แต่ถึงอย่างนั้นโครงร่างของขวานซิ่วโหลวก็ยังเห็นได้ชัดเจนอยู่ดี
แล้วถ้าพวกเขาไม่ได้ปรึกษากันละเป็นไปได้มั้ยว่าเกาช้าวฮุ่ยมั่นใจมากเกินไป เสี่ยวเมิงชีพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง แต่สำหรับฉัน มันไม่จำเป็นต้องปิดบังกัน ไม่ว่าในตอนท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ ตราบใดที่ประตูถูกเปิดออก จุดประสงค์ของเราก็คือการสู้เพื่อแย่งชิงอันดับกันอยู่ดี
ขณะพูดเสี่ยวเมิงชีก็เปลี่ยนความสนใจไปที่ชายลึกลับ คนคนนี้คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางคนทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้
ต้านฮวงตาโตด้วยความตกใจ แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ?
ปล่อยเรื่องนั้นไปก่อนเป้าหมายของเราตอนนี้คือไม่ว่าต้องทำอย่างไรก็ตามเราต้องเปิดประตูให้ได้ เสี่ยวเมิงชีพูดอย่างมุ่งมั่น
ชูฮันมีสามคนเกาช้าวฮุ่ย และคนที่พึ่งมาใหม่ มีผมและท่านเสี่ยวเมิงชีอีกสอง ต้านฮวงไล่นับจำนวนคน ทั้งเป็นเจ็ด ยังขาดอยู่อีกหนึ่งคนครับ?
เสี่ยวเมิงชีชะงักจากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธ ฉันเข้าไปไม่ได้
อ่า… ต้านฮวงไม่คิดอะไรมาก เพียงแค่คิดว่าเสี่ยวเมิงชีคงไม่มีตราประหลาดๆที่เป็นเหมือนบัตรผ่าน ดังนั้นเขาจึงถามต่อ แต่เราต้องมีทั้งแปดคนที่ฝีมือเก่งกาจ
ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของตระกูลป่ายเลย เสี่ยวเมิงชีหรี่ตาลงอย่างสงสัย แม้ว่าครั้งนี้ประตูเส้นทางสู่หุบเขาหยินหยางจะเปิดออก แต่การที่ตระกูลป่ายและกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งๆที่เกาช้าวฮุ่ยก็ลงมือเอง รอดูเถอะหลังจากนี้ทางตระกูลป่ายจะต้องส่งคนที่สถานะเทียบเท่ากับเกาช้าวฮุ่ยมาจัดการกับเรื่องนี้เป็นแน่ แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเป็นใคร
คนที่ตระกูลป่ายส่งมาจะเป็นใครกันครับ? ต้านฮวงถามด้วยความสงสัย
หึ! เสี่ยวเมิงชีตาเป็นประกายจ้า ป่ายหยู
ต้านฮวงประหลาดใจ นั่นคือทายาทตระกูลป่ายใช่มั้ยครับ? สถานะของเขากับเกาช้าวฮุ่ยนั้นคนละระดับกันเลย ถึงแม้ว่าเกาช้าวฮุ่ยจะเป็นที่ชื่นชอบมากแค่ไหนในตระกูลเกาแต่เขาก็ยังเป็นแค่นายน้อยเท่านั้น! ในตระกูลเกายังมีพี่สาวและพี่ชายที่มีความสามารถมากมายรายล้อมอยู่อีก!
แต่ตระกูลป่ายนั้นมีแค่ป่ายหยูที่เป็นที่หนึ่ง! เสี่ยวเมิงชีหัวเราะในลำคอ
และป่ายหยูก็เป็นคนที่แข็งแกร่งและเก่งกาจเกินกว่าคนอื่นๆและถ้าคนที่มีคุณสมบัติรวมกันมีมากกว่าแปดคนละก็ เรื่องนี้มันก็คงจะสนุกไม่น้อยเลย ทันใดนั้นต้านฮวงก็ยกยิ้มมุมปาก สีหน้าเริ่มนึกถึงความสุขที่กำลังจะเกิดขึ้น
เสี่ยวเมิงชีเองก็ยิ้มอย่างสะใจ ใช่ มันน่าสนใจใช่มั้ยละ
ขณะที่เสี่ยวเมิงชีและต้านฮวงกระซิบพูดคุยกันอยู่นั้นมันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากที่ไกลและกำลังเข้ามาใกล้พวกเขาขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็มีร่างของคนสองคนปรากฏขึ้นต่อสายตาทุกคน คนหนึ่งมีรูปร่างอ้วนท้วม อีกคนผอมบาง แถมยังมีผ้าคลุมปกปิดทั้งตัวไว้อย่างมิดชิดทั้งคู่
การปรากฏตัวของผู้มาใหม่สองคนได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที มิตรหรือศัตรู?
ชูฮันเองก็ไม่แน่ใจเลยสักนิด!
ชูฮันเข้าใจดีว่าครั้งนี้เขาจะต้องดำเนินการบางอย่างจะนิ่งเฉยอีกไม่ได้แล้ว!
ดังนั้นเมื่อคนมาใหม่เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ——
พรึบ!
โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใดๆจู่ๆชูฮันก็ก้าวไปข้างหน้า มือข้างหน้ายื่นมือออกไปจับคนที่ร่างผอมแห้งซึ่งเดินมาตรงหน้าเอาไว้ เฮ้! ในที่สุดก็มาซะที!
!!!
ทุกคนตะลึงงันกันหมดแต่ได้ยินมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก คนที่ถูกชูฮันจับเอาไว้นั้นตัวสั่นเทิ้ม เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังช็อคอย่างแรง
เสี่ยวเมิงชีและต้านฮวงมองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ทำไม? ชูฮันเองก็นัดคนไว้เหมือนกันงั้นเหรอ?
แต่แล้วจู่ๆเกาช้าวฮุ่ยก็นตัวแข็งทื่อเหงื่อเริ่มแตก สายตามีความหวาดกลัวขึ้นมาทันที ชูฮัน! ถอยกลับมาเร็ว!
เกาช้าวฮุ่ยสัมผัสได้ถึงหายนะ!
ไม่เพียงแค่ชูฮันแต่ทุกคนเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำเสียงตึงเครียดและความอันตรายจากน้ำเสียงของเกาช้าวฮุ่ยได้เหมือนกัน และทันใดนั้นเอง—–
ฉึก!
อาวุธของซูเฟิงและฟานเจี้ยนถูกชักออกมาทันทีอย่างพร้อมต่อสู้!
ต้านฮวงเองก็ตกใจเหมือนกันดาบลำแสงสีฟ้าของเขาถูกชักออกมา มือกำด้ามจับไว้แน่น ลำแสงสีฟ้าเปล่งประกายรอบตัวต้านฮวงอย่างพร้อมจะต่อสู้เช่นกัน
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมเกาช้าวฮุ่ยถึงตื่นตระหนกขนาดนั้น? เสี่ยวเมิงชีนิ่วหน้าเอื้อมไปจับมือต้านฮวงเอาไว้เพื่อห้ามไม่ให้อีกฝ่ายทำอะไรหุนหันพลันแล่น หากสายตาของเธอกลับจ้องไปที่ชูฮันด้วยแววตาคมกริบ
ผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไร?!
คนคนเดียวที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลยคือชายลึกลับที่ปรากฏตัวหลังจากเสี่ยวเมิงชีและต้านฮวงเขายังคงยืนพิงแนวปะกงรังเหมือนเดิม มองการเผชิญหน้าที่เกิดขึ้นและจู่ๆก็หัวเราะในลำคอตัวเอง
เสี่ยวเมิงชีเกิดความสับสนวุ่นวายอยู่ในใจเธอตัดสินใจถามชายลึกลับทันทีด้วยความไม่เข้าใจ คุณกำลังหัวเราะอะไร?
ก็หัวเราะที่พวกคุณกำลังเปิดเผยตัวเองกันหมด มันเป็นครั้งแรกที่ชายลึกลับเปิดปากพูดและมันก็ชัดเจนว่าอีกฝ่ายจงใจใช้เสียงทุ้มต่ำปิดบังเสียงที่แท้จริงของตัวเอง
เสี่ยวเมิงชีพลันตกใจทันทีต้านฮวงเองก็รีบเก็บดาบยาวของตัวเองไป ตอนนี้ทั้งคู่กำลังหัวเสียอย่างมากที่ตกหลุมแผนการของชูฮันจนไม่ทันได้ตั้งสติ
ตอนที่ลำแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นมันก็หมายความว่าตัวตนของต้านฮวงก็ถูกเปิดเผยไปแล้วเช่นกัน และความตั้งใจที่จะซ่อนตัวอยู่ที่มืดก็พังทลายไปทันที!
ตลอดกระบวนการชูฮันยังคงจับมือของคนร่างผอมในชุดคลุมสนิททั้งตัวตรงหน้าเอาไว้ หูและสัมผัสส่วนอื่นก็เปิดการทำงานเต็มที่ ชูฮันเองก็คอยสังเกตคนแปลกหน้าทั้งห้าคนที่ปกปิดตัวตนอยู่ตลอด
ชูฮันจำต้านฮวงได้ทันทีจากลำแสงประกายสีฟ้าที่สว่างวาบขึ้นมาเมื่อครู่และเขาก็ยีงได้ยินเสียงแว่วของผู้หญิงที่เขามั่นใจว่าขจะต้องเป็นเสี่ยวเมิงชีดังนั้นมันจึงทำให้ชูฮันค่อนข้างประหลาดใจไม่น้อย
แต่สำหรับชายลึกลับที่จงใจใช้เสียงต่ำเพื่อกลบเสียงตัวเองนั้นชูฮันเองก็ยังคงไม่รู้ว่าชายลึกลับคนนี้คือใครกันแน่
และที่สำคัญที่สุดก็คือ… ชูฮันจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ดึงความสนใจเขามากที่สุดที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้คนมาใหม่สองคนดูเหมือนจะสร้างปัญหาใหญ่ให้พวกเขาเป็นแน่ ดูได้จากตึงเครียดของเกาช้าวฮุ่ยที่ไม่ใช่ของปลอม แม้กระทั่งตอนนี้สายตาของเกาช้าวฮุ่ยก็ยังมองคนมาใหม่ด้วยแววตาหวาดกลัวและไม่เป็นตัวของตัวเอง
��