หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายตั้งแต่แรกในที่สุดมันก็ค่อยๆเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบ เสี่ยวเมิงชีที่ถูกทำให้ตกใจก็เริ่มใจเย็นลง เธอทำใจได้ว่าการเปิดเผยตัวตนของพวกเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริง เพราะถึงอย่างไรเธอก็ยังคงถือไพ่ในมืออยู่ มันไม่สำคัญว่าตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผยหรือไม่เพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดนั้นก็คือการตอบสนองของเกาช้าวฮุ่ยในตอนนี้ต่างหาก
ไม่เพียงแค่ชูฮันแค่เสี่ยวเมิงชีเองก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้เกาช้าวฮุ่ยไม่ปกติ เขาดูหวาดกลัวอย่างมากและการกระทำของชูฮันก็เหมือนจะยิ่งกระตุ้นความกลัวของเกาช้าวฮุ่ยเพิ่มขึ้นไปอีก
ทันใดนั้นเสี่ยวเมิงชีก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาสายตาจับจ้องไปที่มือของชูฮัน มันเป็นไปไม่ได้ที่เกาช้าวฮุ่ยจะหวาดกลัวขนาดนี้แค่เพราะการกระทำของชูฮัน ดังนั้นแสดงว่าสองคนที่พึ่งมาใหม่นี้จะต้องเป็น…
คนจากตระกูลป่ายแน่!
คนมาใหม่สองคนนี้คือคนที่ตระกูลป่ายส่งมาหรืออาจจะเป็นคนตระกูลป่ายเลย?
ฮ่าฮ่าฮ่า!
รอยยิ้มสะใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสี่ยวเมิงชีเธออดไม่ได้ที่จะกลั้นยิ้ม เพราะชูฮันได้สร้างเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!
หรือนี่คือความตั้งใจที่ถูกนำมาใช้เพื่อเปิดเผยตัวตนพวกเธอ?
เธออยากจะรู้จริงๆว่าสีหน้าของป่ายหยูภายใต้ผ้าคลุมจะเป็นอย่างไร!
ขณะที่เสี่ยวเมิงชีกำลังยิ้มอย่างสะใจอยู่เกาช้าวฮุ่ยก็ยังคงยืนตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างทำอะไรไม่ถูก ส่วนชูฮันก็กำลังคิดจะขี่หลังเสือที่เต็มไปด้วยอันตรายมหาศาล
ชูฮันพยายามสังเกตคนแปลกหน้าที่เขาจับมืออยู่ชายร่างผอมคนนี้มีมือเรียวบางราวกับผู้หญิง ผิวขาวจั๊วะ ส่วนชายร่างอ้วนท้วมด้านหลังนั้นก็ดูเหมือนจะหวาดกลัวต่อชายร่างผอมแห้งคนนี้ไม่น้อย
เฮ้เฮ้!ขอโทษที ฉันจำผิดคนนะ ชูฮันยิ้มและพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบและต้องการจะปล่อยมือที่จับอยู่ออก
สายตาของเกาช้าวฮุ่ยรีบจับจ้องไปที่ชายร่างผอมทันทีแม้ว่าชายคนนี้จะปกปิดใบหน้าแต่ในใจของเกาช้าวฮุ่ยนั้นรู้ดีว่าคนคนนี้คือป่ายหยูเพราะเกาช้าวฮุ่ยจำได้ดีว่าชายร่างอ้วนท้วมด้านหลังนั้นคือคนรับใช้ของตระกูลป่าย
เสี่ยวเมิงชีประหลาดใจกับบรรยากาศแปลกๆที่เกิดขึ้นเธอต้องการจะรู้ว่าป่ายหยูจะรับมือกับชูฮันอย่างไร
แต่ที่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ——
ไม่มีปัญหา เสียงของผู้หญิงที่ดูเย็นชาดังขึ้นมาเบาๆ แต่เป็นเพราะบรรยากาศที่เงียบสนิทดังนั้นทุกคนจึงได้ยินมันชัดเจน เกาช้าวฮุ่ยจะตะลึงเสี่ยวเมิงชีเองก็ไม่ต่าง ชายลึกลับก็ยืนนิ่งงัน
ส่วนชูฮันนั้นช็อคตัวแข็งค้างไปแล้วเรียบร้อย!
มือของชูฮันค้างกลางอากาศ…กลายเป็นว่าคนที่พูดขึ้นเป็นผู้หญิงเป็นเสียงของผู้หญิงที่ชูฮันคุ้นเคยดีมากด้วย!
ทำไมถึงเป็นเสียงผู้หญิงได้? เสี่ยวเมิงชีพึมพำกับตัวเอง จ้องไปที่ผู้หญิงในชุดคลุมปกปิดทั้งตัว…ทำไมเธอถึงไม่ทันคิด?
เกาช้าวฮุ่ยดีดตัวอย่างแรงถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เปิดเผยออกไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทีอีกต่อไป ป่ายหยูไม่ได้มาหรอกเหรอ? หมายความว่ายังไง ตระกูลป่ายดูถูกฉันงั้นเหรอ? พ่อจะสั่งสอนให้ ตระกูลป่ายจะต้องสั่นสะเทือน!
อารมณ์โกรธของเกาช้าวฮุ่ยนั้นไม่ได้เสแสร้งตระกูลลึกลับสามารถรักษาความรุ่งโรจน์และอำนาจมาได้ยาวนานเพราะปฏิบัติตามพื้นฐานที่สำคัญที่สุด…นั่นคือกฏระเบียบ ตระกูลป่ายอะไรกัน? ฟานเจี้ยกระซิบถามซูเฟิง
ฉันไม่รู้แต่ชูฮันรู้ ตอนนี้เราทั้งสองคนควรเงียบปากไว้ก่อน ซูเฟิงมีท่าทีเย็นชา
ฉันก็เป็นคนตระกูลป่าย เสียงของผู้หญิงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความเย็นชาและนิ่งเฉย ราวกับว่าเธอไม่สนใจเรื่องราวๆใดทั้งสิน ขณะเดียวกันภายใต้สายตาของทุกคนที่จับจ้องมา เธอก็ค่อบๆใช้มือเลิกผ้าที่คลุมใบหน้าออกช้าๆ
ในตอนที่หญิงสาวเปิดเผยใบหน้าของเธอออกทุกคนในบริเวณจึงตกใจค้างกันหมด โดยเฉพาะเกาช้าวฮุ่ยที่ทำหน้าราวกับว่าโลกของเขาพึ่งจะถล่ม!
มันเป็นใบหน้าที่มีความคล้ายคลึงกับป่ายหยูแต่ให้ความอึดอัดน้อยกว่าและดูมีความเป็นมนุษย์มากกว่า
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนจากตระกูลป่ายจริงแต่เป็นคนที่ไม่มีสัญลักษณ์พันธุกรรมของตระกูลป่ายเลย! ผมสีดำสนิทรัศมีอันน่าเกรงขาม นอกจากรัศมีอำนาจที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับป่ายหยูแล้ว มันก็ไม่มีส่วนไหนอีกที่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนจากตระกูลป่ายเลย
และผู้หญิงคนนี้ก็คือ…ป่ายหวีเนอนั่นเอง
ฟานเจี้ยนเคยเจอกับป่ายหวีเนอมาแล้วดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตกใจอะไรมาก เขาเพียงแค่มองสลับป่ายหวีเนอและชูฮันไปมา
เธอ? เกาช้าวฮุ่ยจ้องหน้าของป่ายหวีเนอและผมสีดำสนิทของป่ายหวีเนอด้วยความตะลึง เธอ เธอคือใคร?
ฉันชื่อป่ายหวีเนอเป็นคนของตระกูลป่าย แค่นี้มีคุณสมบัติพอมั้ย? ป่ายหวีเนอตอบชัดทีละคำด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ไร้ความรู้สึก
เกาช้าวฮุ่ยกระพริบตาปริบๆอย่างพูดอะไรไม่ออกทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีผู้หญิงอยู่ในตระกูลป่ายด้วย? ตระกูลป่ายมีแค่ป่ายหยูไม่ใช่เหรอ? ตอนแรกเขายังเคยเยาะเย้ายตระกูลป่ายเรื่องนี้อยู่เลย
ชูฮันพึ่งจะหายจากอาการตกใจในตอนนี้เองเขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับป่ายหวีเนอที่นี้ มันเป็นเรื่องน่าตกใจเกินไปและเขามีคำถามมากมายในหัวที่อยากจะถามกับป่ายหวีเนอ
ทำไมจู่ๆเธอพึ่งมาเจอเขาตอนนี้?
แล้วการเจอกับตระกูลป่ายมันเป็นอย่างไรบ้าง?
มีใครรังแกเธอมั้ย?
แล้วความลับของตระกูลป่ายคืออะไร?
อย่างไรก็ตามพอได้เผชิญหน้ากับป่ายหวีเนอจริงๆ แรงกระตือรือร้นที่อยากจะถามคำถามมากมายกลับหายไป ทุกอย่างดูว่างเปล่า ความรู้สึกไร้พลังก่อตัวขึ้นในหัวใจของชูฮัน
แววตาของป่ายหวีเนอตอนนี้ดูว่างเปล่าสายตาที่เธอใช้มองเขารวมถึงเกาช้าวฮุ่ย และแม้แต่เสี่ยวเมิงชีเป็นแววตาเดียวกันหมดราวกับมองดอกไม้ต้นไม้ตามข้างทาง ชูฮันรู้สึกว่าป่ายหวีเนอในตอนนี้เหมือนกับป่ายหวีเนอในชาติที่แล้ว มันเป็นสถานการณ์เดียวกันเลย…
ความจำเสื่อม…
ในชาติที่แล้วหลังจากรู้กันมานานหลายปีจู่ๆวันหนึ่งป่ายหวีเนอก็หายตัวไป แล้วหลังจากนั้นเขาก็ได้บังเอิญเจอกับป่ายหวีเนอที่หุบเขาหยินหยางในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับตอนนี้ ป่ายหวีเนอในตอนนั้นก็ใช้สายตาที่มองมาราวกับไม่รู้จักชูฮันเลยสักนิด
หลังจากนั้นชูฮันก็ได้รู้ว่าเธอได้สูญเสียความทรงจำไปทว่าตอนนั้นชูฮันยังไม่รู้ว่าตระกูลป่ายเอาตัวเธอไปใช้เพื่อผลประโยชน์
ความทรงจำของป่ายหวีเนอหายไปเธอไม่สามารถจำได้แม้กระทั่งตัวเอง เธอไม่รู้ว่าในอดีตมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เธอไม่มีความอบอุ่นในแววตายามที่มองชูฮัน เธอไม่สามารถจำเรื่องราวอะไรได้เลย ลืมความสนิทสนมที่เคยมี เธอจำอะไรไม่ได้สักอย่าง…จำไม่ได้เลย! ชูฮันโมโหและแค้นใจอย่างมากเขาอยากจะรีบเข้าไปในเสาหินพิเศษให้เร็วที่สุด อยากจะฆ่าตระกูลป่ายให้สิ้นซากเพื่อแก้แค้น!
เขาทั้งโกรธหงุดหงิด และรู้สึกไร้อำนาจไปในเวลาเดียวกัน
ความรู้สึกของการล้มเหลวโจมตีเข้าใส่จนตอนนี้ชูฮันต้องการจะระบายอารมณ์ออกไปให้หมด!
พรึบ!
ทันใดนั้นชายร่างอ้วนท้วมที่อยู่ข้างหน้าก็เขยิบมาประชิดด้านข้างของชูฮัน ใช้มือตบไหล่เบาๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความตื่นเต้นแฝงอยู่ เฮ้! ฉันต้องขอพูดเลยเพื่อน นายเท่มาก!
สายตาของชูฮันพลันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวกับพร้อมจะฆ่าใครก็ได้มือของเขาเอื้อมไปจับขวานซิ่วโหลวเอาไว้แล้วเรียบร้อย
แต่ชายร่างอ้วนท้วมดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์เลยสักนิดเขายังคงพูดต่อไป เพื่อน นายรู้จักคุณป่ายหวีเนองั้นเหรอ? เมื่อกี้นายสามารถจับมือคุณป่ายได้โดยไม่ตาย! สุดยอดมากเพื่อน! นายรู้มั้ยว่าแม้แต่คนในตระกูลป่าย แม้กระทั่งท่านป่ายหยูยังไม่สามารถเข้าใกล้คุณป่ายได้ในรัศมีหนึ่งเมตรเลย ใครก็ตามที่กล้าจับตัวเธอ มันจะมีแต่คำว่าตายเท่านั้น!