ตราทั้งแปดชิ้นรวมกันประตูเสาหินประเมิณจะถูกเปิดออก…
เสียงจากระบบกลไกของเสาหินดังขึ้นขณะที่ทุกคนก็เดินเข้าไปด้านในพื้นที่ปิดมืดสนิท มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง ไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียงแค่เสียงกลไกของเสาหินที่พูดรายละเอียดกฏระเบียบของเสาหินดังขึ้น
กฏระเบียบของทั้งแปดคนในการเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควรทำให้บางคนอย่างเจียงหลิงโหลวและซูเฟิงที่ไม่หันมาฟังตั้งแต่แรกจึงยังไม่ค่อยเข้าใจเต็มที่
คนที่เหลือต่างเพ่งสมาธิและให้ความสนใจอย่างเต็มที่พวกเขาค่อนข้างประหลาดใจไม่เบาและไม่เข้าใจเท่าไหร่กับกฏที่พึ่งได้รับรู้อย่างกระทันหันนี้ แน่นอนว่าท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ ชูฮันเป็นข้อยกเว้น เขาเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดอันดับมากกว่าใครในที่นี้
สิ่งที่พิเศษที่สุดคือหนึ่งในเสาหินประเมิณพิเศษที่ทำให้มันไม่เหมือนกับเสาหินอื่นๆก็คือเสาหินพิเศษนี้เป็นการทดสอบแบบกลุ่ม และเงื่อนไขของแต่ละกลุ่มที่เข้ามาทำการประเมิณในแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกันไป
ความแตกต่างของการประเมิณเป็นเรื่องที่รู้กันดีสำหรับทุกคนในชาติที่แล้วมันจึงไม่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรที่ชูฮันจะรู้รายละเอียดดีอยู่แล้ว
เสียงกลไกของเสาหินยังคงร่ายทวนกฏระเบียบต่อไปมันเป็นครั้งแรกที่ชูฮันตั้งใจฟังอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่ามันแตกต่างจากข้อมูลที่เขารู้จากในชาติที่แล้วหรือไม่
กฏของการทดสอบแปดคนที่เข้าทดสอบด้วยกันนั้นค่อนข้างจะพูดเลยว่ามันง่ายหรือยากในความเข้าใจของชูฮันคือ ทั้งแปดคนจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ทีม ทีมละสองคน และจะต้องสู้กับทั้งสามทีมที่เหลือเพื่อช่วงชิงตราของคนอื่นมา ทีมที่ชนะคือทีมที่ต้องมีตราทั้งหกชิ้นในครอบครองโดยไม่นับรวมตราของตัวเอง
กฏระเบียบมันค่อนข้างรุนแรงไม่เบาและเป็นปัญหายุ่งยากอย่างมากในการจัดกลุ่มและดำเนินการ
สำหรับชูฮันแล้วเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ยากมากเท่าไหร่เพราะเขารู้จักคนจากห้าในเจ็ดไปแล้ว โดยเฉพาะฟานเจี้ยนและซูเฟิง ส่วนอู๋เติงและเจียงหลิงโหลวชูฮันเชื่อว่าเขาสามารถใช้เงินมาจัดการได้ไม่ยาก
ส่วนต้านฮวงนั้นแม้จะไม่รู้จักอีกฝ่ายแต่ชูฮันเชื่อว่าเขาสามารถเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายได้ในที่สุด
ดังนั้นไม่ว่าจะจัดทีมแบบไหนชูฮันก็มีโอกาสสูงมากที่จะได้อยู่ทีมเดียวกับคนที่เขารู้จัก ซึ่งมันก็อาจจะเป็นปัญหาเหมือนกันในตอนที่ตั้งทีมขึ้น เพราะถึงอย่างไรชูฮันก็เคยชินกับการออกคำสั่งมาตลอดและครั้งนี้เพื่อที่จะทำให้เส้นทางสู่หุบเขาหยินหยางเปิดออก ไม่มีใครไม่มีความทะเยอทะยาน ไม่มีใครไม่มีความตั้งใจ
แต่ก็เหมือนเดิมชูฮันอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ ทั้งฟานเจี้ยน ซูเฟิง เจียงหลิงโหลว อู๋เติง ถ้าเขาได้อยู่ทีมเดียวกับใครก็ตามในสี่คนนี้ มันก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
ดังนั้นครั้งนี้สามารถพูดได้ว่าชูฮันถือคะแนนนำทุกคนไปแล้ว
นี้คือผลประโยชน์ของการรู้จักผู้คนอย่างกว้างขวาง!
สิ่งเดียวที่ชูฮันสนใจคือชายลึกลับที่ปรากฏตัวตั้งแต่ต้นผู้ชายคนนี้เป็นคนลักษณะเงียบ เห็นได้ชัดว่ามีความมั่นใจในพละกำลังของตัวเอง ชูฮันเกรงว่าการชิงตรามาจากชายลึกลับคนนี้อาจจะไม่ง่าย
ขณะที่ชูฮันกำลังทำการวิเคราะห์อยู่ในหัวเสียงกลไกของเสาหินก็ยังคงดังไปเรื่อยๆจนกระทั่งจบและเสียงก็เงียบหายไป ทันใดนั้นทั้งแปดคนจู่ก็พลันรู้สึกว่าร่างกายเบาหวิว ไม่มีแรงโน้มถ่วง จากนั้นเท้าของพวกเขาก็ลอยขึ้นจากพื้นและภาพตรงหน้าที่เคยมืดสนิทก็ค่อยๆเริ่มมีแสงสว่างจ้าขึ้นเรื่อยๆ
ชูฮันเริ่มมีท่าทีตื่นตระหนกทว่าไม่ได้ตื่นตระหนกมากเกินไป เขามักจะเป็นคนที่โชคดีอยู่เสมอและครั้งนี้เขามากับซูเฟิงและฟานเจี้ยน ดังนั้นมันจึงยื่งเพิ่มโอกาสในการได้อยู่ร่วมทีมกับคนรู้จักได้ขึ้นไปอีก
ดูจากความน่าจะเป็นที่เขาคำนวณด้วยสมองอัจฉริยะของเขาโอกาสที่เขาจะได้อยู่ทีมเดียวกับฟานเจี้ยนและซูเฟิงนั้นมีสูงมากถึง 80 %
ชูฮันอมยิ้มก่อนจะค่อยๆเปิดตาขึ้นเพื่อปรับตัวเข้ากับแสงสว่าง จากนั้นก็รีบกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อมองหาเพื่อนร่วมทีม
และเพียงแค่สองวินาทีต่อมา…หน้าของชูฮันก็กลายเป็นดำทมึงถึงทันที!
ภาพตรงหน้าเขาคือถ้ำที่เป็นสถานที่ประเมิณการต่อสู้จำลองของเสาหินสถานที่ต่อสู้ถูกจำลองออกมาได้เสมือนจริงมาก ชูฮันได้กลิ่นแม้กระทั่งความชื้นภายในถ้ำ น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมทีมที่ปรากฏต่อหน้าชูฮันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่เขาคาดไว้หรือแม้แต่คนที่เขารู้จักที่เขาพยายามหาเหตุผลและทำการคำนวณมาตลอด ไม่ใช่แม้กระทั่งต้านฮวง!
แต่กลายเป็น…
สวัสดีชูฮัน
เมื่อร่างของอีกฝ่ายปรากฏขึ้นมันกลายเป็นร่างของคนที่ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิด หากครั้งนี้ชายลึกลับดึงผ้าที่ปิดหน้าออกท่ามกลางแสงเลือนรางภายในถ้ำ ชูฮันมองเห็นได้ลางๆว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มอยู่
ขณะเดียวกันมันก็มีคำพูดยางอย่างที่ฟังดูให้ความรู้สึกคุ้นเคยสนิทสนม นายน่าจะจำฉันได้ทันทีที่เห็น? ตอนครั้งแรกที่ฉันเห็นนาย ฉันตกใจมาก นายควรจะอยู่ที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าแล้วก็ยุ่งอยู่กับงานก่อตั้งเมืองอันโรสิ แล้วก็เรื่องสารล่อซอมบี้ที่ตอนนี้มันร้อนระอุไปทั่วทั้งจีน ฉันไม่คิดว่านายจะเก็บตัวเงียบแล้วมาปรากฏตัวที่นี้แทน ผู้ชายคนนี้คือคนที่เดินทางมาพร้อมกับเจียงหลิงโหลวตอนนี้ชูฮันกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์คำพูดของอีกฝ่าย เขานึกย้อนไปตอนที่เจอเจียงหลิงโหลว ตอนนั้นเขากำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องรายชื่อของเสาหินและเพื่อนร่วมทีมจนไม่ได้ให้ความสนใจกับคนมาใหม่ล่าสุดเท่าไหร่ เขาไม่แม้แต่จะคาดเดาตัวตนของชายลึกลับด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายถอดผ้าคลุมหน้าออกสัมผัสคุ้นเคยบางอย่างก็กระแทกเข้าใส่ชูฮัน ความตกใจมหาศาลถล่มทับเข้าใส่
เป็นชายหนุ่มที่ดูจะรุ่นเดียวกับชูฮันเสื้อผ้าสีดำสนิททั้งตัวอย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน ดาบยาวเรียวสง่างามถูกห่อไว้ในผ้าหนาและห้อยอยู่ตรงเอว
แม่งเอ๊ย!คือ…ตวนเจียงเหว่ย!