เล่ม 9 ตอนที่ 1 : มีชีวิต (3)
นักปีนเขาคนหนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ ภูเขาในตอนกลางวันและกลางคืนต่างกันเป็นหน้ามือและหลังมือ
และมันก็เป็นจริง แม้ว่าภูเขาหิมะจะเต็มไปด้วยทุ่งน้ำแข็งสุดสายตา เขาก็ยังสามารถอดทนช่วงกลางวันมาได้ ทว่า เมื่อความมืดเข้าปกคลุมภูเขา มันคล้ายกับโดนเปลี่ยนให้กลายเป็นภูเขาแห่งความตาย อุณหภูมิเริ่มลดน้อยลงจนกระทั่งทุกสิ่งถูกแช่แข็ง เพราะงกค่าแก๊ส อาร์คไม่เคยคิดเปิดใช้เครื่องทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวปลายปีเลยสักครั้ง เพราะเหตุนั้น เขาจึงไม่เคยเตรียมสิ่งของเอาไว้ต้านความหนาวแต่อย่างใด แต่อุณหภูมิที่โซลช่วงเดือนธันวามันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าพายุหิมะที่เกิดขึ้นบนภูเขาหิมะ แทนที่จะมีแต่ความเย็น ความรู้สึกเจ็บปวดเพราะความหนาวกลับรวมเข้ามาด้วย นอกจากนี้ ความเย็นของนิวเวิลด์ยังเชื่อมต่อตรงถึงสมองของเขาจนทำให้รู้สึกเย็นเยียบขึ้นมาได้
“นะ-นี่มันบ้าชัด ๆ …”
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาเลยที่เขารู้สึกหนาวถึงขนาดนี้
“หวา นะ-หนาวขอรับ… จะ-เจ้านาย ข้า… ข้าจะตายแล้ว!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ซื่อ ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
เดดริค ดีมอส และเจ้างูต่างตัวสั่นเทิ้มขณะเข้ามาแนบชิดกับอาร์ค ขณะเดียวกัน หน้าต่างข้อความแจ้งเตือนก็ปรากฏหลายต่อหลายครั้งต่อหน้าอาร์ค
=====
เพราะความหนาว อุณหภูมิของท่านจึงลดต่ำลง 10%!
=====
‘สวรรค์!’
ดวงตาของเขาแทบมืดหม่นขณะรับชมข้อความสีแดง
“จะ-เจ้านายขอรับ… อะ-เอายังไงดี?”
เดดริคซุกจมูกเอาไว้ใต้ผ้าคลุมของอาร์คขณะมองด้วยสายตาน่าเวทนา
“กระทั่งว่ามีเสื้อคลุม… ร่างของข้าก็กำลังแข็ง… ใช่แล้ว… เจ้านายควรซื้อเสื้อกันหนาวให้พวกเราตอนอยู่ที่หมู่บ้าน… ข้าบอกแล้วนะขอรับ!”
ระยะเวลาของนิวเวิลด์ผ่านมาได้สามปีแล้ว ตอนนี้ฤดูหนาวเพิ่งวนมาอีกครั้ง เพราะเหตุนั้น ทุกหมู่บ้านจึงมีร้านค้าที่ขายเสื้อผ้าหนาเตอะกันอยู่หลากหลาย ทว่า เป็นเพราะอาร์คไม่คิดต้องการสิ้นเปลืองซื้อหาเสื้อผ้าที่ช่วยได้แค่ภูมิต้านทานความหนาวไม่ได้เสริมค่าสถานะใด เขาจึงคิดว่าทนหนาวเอาหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นไร การเคลื่อนไหวร่างกายช่วงออกล่าก็จะทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ ครั้งนี้เป็นอาร์คประมาทธรรมชาติเกินไป
‘จะเดินต่อในภูเขาแบบนี้ไม่ได้แล้ว’
อาร์คยอมปล่อยวางเรื่องหาทางลงจากเขาไปก่อน ตอนนี้เขาต้องหาสถานที่สำหรับหลบลี้ภัยหนาวนี้ให้ได้ ต้องมีพื้นที่ที่ดูมั่นคงสำหรับการตั้งแคมป์ แต่เขาไม่มีเต็นท์หรือว่าเชื้อเพลิงที่จะใช้เพื่อตั้งแคมป์ได้ สิ่งที่อาร์คทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือแบ่งปันผ้าคลุมให้กับสมุนปีศาจและกอดกันให้แน่นเพื่อความอบอุ่น ขณะนั้นเองหน้าต่างข้อความจึงปรากฏขึ้นหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
=====
ภูมิต้านทานความหนาวของท่านเพิ่มขึ้น 0.1%
ท่านที่อยู่ร่วมกับสมุนปีศาจ จึงทำให้ค่าเสน่หาเพิ่มขึ้น 1
=====
‘บ้าบอ… หนาวสั่นเป็นลูกหมาตกน้ำกว่าชั่วโมงแต่ได้ภูมิต้านทานความหนาวมาแค่ 0.1% เนี่ยนะ? เสน่หาอะไร? ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย?’
เขาเริ่มก่นด่าสาปแช่งหน้าต่างข้อความ
‘อดทนไว้! แค่อดทนไว้จนกว่าจะถึงกลางวันอีกครั้ง’
ทว่า แม้จะเป็นกลางวันแล้วเขาก็ไม่อาจมีทัศนวิสัยดีขึ้นได้เพราะหิมะ
‘อย่างน้อยมันก็ดีกว่ากลางคืน เราต้องหาทางออกให้ได้ก่อนจะสายเกินแก้’
อาร์คทำซุปอุ่นร้อนขณะเดินไปทั่วภูเขาอีกครั้ง เมื่อพายุหิมะเริ่มกลับมาโหมพัดแรงกระหน่ำอีกครั้ง เขาจึงกระทำเช่นเดิมเพื่อหลบซ่อนตัวจากความหนาวอีกครั้ง การกระทำเช่นนี้ผ่านไปทั้งสิ้นสิบหกชั่วโมง หรือเป็นเวลาสองวันในเกม ตามปกติแล้วต้องใช้เวลาราวสี่วันกว่าอาหารจะหมด แต่เขาต้องใช้วัตถุดิบที่มีทำอาหารตลอดทุกสามสิบนาทีเพื่อคงสภาพร่างกายให้อุ่นไว้
‘ตอนนี้จะทำอาหารก็ไม่ได้แล้ว ต้องคงสภาพอุณหภูมิร่างกายขั้นต่ำไว้…’
อาร์คถอนหายใจขณะมองออกไปยังพายุหิมะที่ไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง
‘เดี๋ยวนะ? จะเป็นยังไงถ้าเราไม่จำเป็นต้องทำอาหารเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย?’
อาร์คเริ่มขุดคุ้ยหิมะออกมาและใส่ลงไปในหม้อ เป็นเพราะอาร์คแทบไม่เคยใช้น้ำกับการทำอาหารเพื่ออยู่รอด ไม่ใช่ว่าปกติแล้วมันก็สมควรจะต้มน้ำได้หรอกเหรอ? ความคิดนี้ที่ผุดขึ้นมาทำเอาเขาตื่นเต้นยินดี น้ำร้อนจะช่วยในสถานการณ์แบบนี้ได้มาก อย่างรวดเร็ว เขาพยายามทำอาหารเพื่ออยู่รอดโดยการต้มน้ำ
‘ดีเลย!’
=====
ทำอาหารเพื่ออยู่รอด ‘น้ำกลั่น’
สามารถนำหิมะมาละลายเพื่อทำน้ำกลั่นบริสุทธิ์โดยไม่มีสิ่งปนเปื้อน ถ้าหากท่านใช้น้ำกลั่นเมื่อทำอาหารร่วมกับวัตถุดิบทั่วไป เป็นไปได้ที่จะเพิ่มค่าสถานะบางอย่าง
=====
พอเขาดื่มน้ำกลั่นลงไป อุณหภูมิในร่างกายจึงเพิ่มขึ้นถึง 20% นี่ก็เป็นการทำอาหารเพื่ออยู่รอด!
‘สถานการณ์เร่งด่วนแบบนี้ นี่ก็เป็นวิธีแก้ไขชั่วคราวแหละนะ’
เมื่อกินอาหารเข้าไปแล้ว การจะกินอาหารชนิดเดิมเข้าไปอีกครั้งในระยะเวลาสามสิบนาทีไม่อาจเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาสามารถเพิ่มอุณหภูมิได้ 20% ทุกระยะเวลาสามสิบนาที มันพอจะช่วยให้ช่วงเวลาที่ยากลำบากผ่านพ้นไปได้มากยิ่งขึ้น
‘น้ำกลั่นไม่ได้ช่วยเพิ่มค่าความหิว ยังไงเราก็ต้องหาอาหารเพื่ออยู่รอดต่อไป’
ท่ามกลางความมืด ความหนาวเย็นยิ่งมายิ่งมาก ตอนนี้การซุกตัวของพวกเขาแทบไม่อาจต้านทานความหนาวได้อีกต่อไปแล้ว วัตถุดิบที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็เพียงพอแค่สำหรับอาร์คและสมุนปีศาจครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ใช่พวกเขาต้องหิวจนตาย ก็ต้องเป็นแข็งตายอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนแน่นอน
‘เราจะตายที่นี่ไม่ได้!’
อาร์คพยายามคิดหาหนทางค้นหาอาหารท่ามกลางพายุหิมะ
‘ต่อให้เป็นภูเขาหิมะ มันก็ต้องมีอะไรบ้างสิ ถ้าเรามองไม่เห็นมัน… ใช่แล้ว!’
“สัมผัสวิเศษ!”
ดวงตาของอาร์คลุกโชนด้วยแสงสีน้ำเงิน เมื่อใช้สัมผัสวิเศษ แสงสว่างจะเริ่มปรากฏท่ามกลางหิมะ แสงเหล่านั้นค่อนข้างเล็กน้อย หากเป็นตอนกลางวันคงไม่มีทางเห็น แต่ตอนนี้เพราะพายุหิมะ แม้จะเป็นกลางวันก็สามารถมองเห็น
‘ตรงนั้นมีอะไรอยู่!’
=====
เศษภูเขาน้ำแข็ง (วัตถุดิบวิเศษ)
คริสตัลที่หาพบได้ยากยิ่งแถบภูเขาน้ำแข็ง ด้วยพายุหนาวเย็นโหมพัดตลอดหลายล้านปี สิ่งที่กลั่นกรองจนเกิดแข็งตัวขึ้นเป็นคริสตัลนี้
=====
ซอลโมโช (วัตถุดิบวิเศษ)
สมุนไพรลึกลับที่เติบโตเพียงแต่ในภูเขาน้ำแข็ง สมุนไพรนี้เติบโตคล้ายต้นมอสบริเวณก้อนหินที่โดนหิมะปกคลุมจึงยากต่อการพบเจอ สามารถนำไปใช้ลดไข้ได้ บ่อยครั้งมักใช้นำไปรักษาผู้ป่วย
=====
“อะไรกันล่ะเนี่ย?”
อาร์คขมวดคิ้ว ตามปกติแล้วเขาสามารถค้นหาวัตถุดิบวิเศษที่ทำเงินได้ แต่ครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่มีชีวิตและความตายเป็นเดิมพัน วัตถุดิบอาหารมูลค่า 1 เหรียญทองแดงยังมีความสำคัญยิ่งกว่าวัตถุดิบวิเศษ 1 เหรียญทองมากมายนัก
‘แต่เก็บมันเอาไว้หน่อยก็ดี’
อาร์คอย่างไรแล้วก็เป็นอาร์ค กระทั่งว่าในสถานการณ์แบบนี้ เขายังไม่คิดปล่อยปละละเลยไอเทมพวกนี้ที่น่าจะทำเงินให้ได้ อาร์คพยายามสู้กับความหนาวและออกไปค้นหาวัตถุดิบอย่างไม่หยุดหย่อน ระหว่างการเดินทางผ่านหิมะเช่นนี้ อุณหภูมิร่างกายของเขาจึงลดต่ำลงแทบถึงจุดต่ำสุด เมื่อสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ มันก็คล้ายกับเป็นการบังคับให้เขาต้องใช้วัตถุดิบที่เหลืออยู่เพื่อทำอาหารมื้อสุดท้าย
“นี่อาหารมื้อสุดท้ายแล้ว เข้าใจกันใช่ไหม? ถ้าพวกเราหาอาหารไม่เจอก่อนความหิวจะวิกฤต พวกเราก็จบเห่กันแล้ว”
เป็นอีกครั้งที่อาร์คถอนหายใจและลุกขึ้นยืน
* * *
“จะหลับไม่ได้นะ! อยู่ด้วยกันก่อน!”
หลังผ่านสถานการณ์ดังกล่าวไปหลายชั่วโมงก็เป็นเช่นนี้ เป็นเวลานานมากแล้วที่พวกเขาต้องอดทนต่อความหนาวเย็นและความหิว! อาร์คและสมุนปีศาจเกิดความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ทางด้านอาร์คและดีมอสนั้นมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 60% ทว่าเดดริคนั้นมีความอ่อนไหวต่อความเย็นมากกว่าจึงลดต่ำเหลือแค่ 50% พลังชีวิตก็เริ่มลดน้อยลงจนเริ่มพูดออกมาคล้ายเพ้อไปแล้ว
“ข้าอยาก… หลับ…”
“ถ้าหลับก็ตายเลยนะ! ถ้าแกตายค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นมามากมายด้วยความยากลำบากจะสูญหายนะ! นั่นดีแล้ว? คิดเข้าสิ วันคืนที่โหดร้ายกว่าจะเพิ่มค่าสถานะขึ้นมาได้ คิดถึงความทรงจำที่พวกเราผ่านมันมาด้วยกันสิ!”
“ความทรงจำ… ความทรงจำกับเจ้านาย…”
เดดริคเริ่มนึกย้อนถึงอดีตด้วยดวงตาพร่าเลือน
การพบกันครั้งแรก? ด้วยฐานะค้างคาวผู้เกลียดชัง มันเมินเฉยต่ออาร์ค แล้วมันพูดได้เมื่อไหร่กัน? ก็ตอนที่อาหารน่ารังเกียจโดนยัดเยียดเข้าเต็มปากจนกระทั่งต้องฝืนกลืนลงไป แล้วการวิวัฒนาการล่ะ? ตอนนั้นมันโค่นล้มดันพิลได้จึงได้สิทธิ์การเป็นมนุษย์ ทักษะแวมไพร์ที่เรียนรู้มา? นั่นก็เพราะโดนตบตีไปเรื่อยเพื่อให้ควบคุมการดูดเลือดได้ มองย้อนกลับไปยังความทรงจำเหล่านั้นแล้ว ความรู้สึกอันหลากหลายพลันสุมอยู่ในอก
“…ข้าตายดีกว่า”
เดดริคพึมพำพร้อมหันหน้าโกรธเคืองมาให้
“หือ? อะไร? สีหน้าแบบนั้นคือ?”
“ไม่ทราบขอรับ ข้าเพียงตระหนักได้อีกครั้งว่าเป็นสมุนปีศาจของเจ้านายน่าเวทนาขนาดไหน”
“ว่าอะไร? ไอ้เด็กนี่ ทั้งที่ฉันเป็นห่วงขนาดนี้แล้วแท้ ๆ …”
“เจ้านายเป็นห่วง?”
“ก็ต้องห่วงแหละ ไม่ได้หรือไง?”
เดดริคที่ต้องทนหนาวแทบแข็งตายและหิวเช่นนี้ก็เพราะเจ้านาย เดดริครู้ดีว่าจะยังไงก็ต้องตาย เพราะงั้นความโกรธจึงเริ่มลุกโชนคิดลองสักตั้ง
“บัดซบที่สุด ใช่ขอรับ มันเป็นความผิดของเจ้านายที่ทำให้ข้าเป็นแบบนี้ ก็ได้ ข้าก็ผิด แต่ข้าทนความหิวไม่ไหวแล้วนี่ ตรงนั้นน่ะมีสัตว์น้อยที่น่าจะทำเป็นเนื้อได้… ดูน่าอร่อยชะมัด ร่างก็อ้วนท้วน… สงสัยนักว่าเลือดมันจะอร่อยขนาดไหนกัน? หือ อาหาร?”
เดดริคที่มองออกไปยังหิมะพลันเผยสีหน้าแตกตื่นตกใจ เมื่อหันกลับไป ดวงตาของอาร์คก็เบิกกว้างเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างเห็นวัตถุขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวอยู่ไกลออกไป
ท่ามกลางทุ่งหิมะ มันมีสัตว์ตัวน้อยกำลังทำจมูกกระดิกไปมา… ช่างน่าประหลาดใจนัก มันคือหนูที่อาศัยอยู่ได้ท่ามกลางหิมะ
“เจ้านาย!”
อาร์คและเดดริคต่างมองตากัน จากนั้นพวกเขาจึงมองหนูตัวนั้นเป็นตาเดียวพร้อมตะโกนขึ้น
“เนื้อ!”
อาร์ค เดดริค และดีมอสต่างพุ่งตัวเข้าใส่หนูตัวนั้น ด้วยความตื่นตกใจหนูตัวดังกล่าวจึงพยายามหลบหนี เป็นเพราะหิมะสูงแทบถึงขา เขาจึงไม่อาจเคลื่อนไหวเพื่อจับหนูตัวนั้นได้ ทว่าอาร์คเป็นใคร? เขาคือผู้เชี่ยวชาญการจับหนู ผู้ที่มีฉายาว่าอัศวินแมวยังไงล่ะ!
“อย่าได้หวัง! จิตวิญญาณแห่งแมว!”
เมี๊ยว~!
กึก!
ขณะนั้นเอง ร่างแมวได้ปรากฏขึ้นเปรียบดั่งราชสีห์บริเวณบนศีรษะของอาร์ค ดวงตานั้นทอประกายแสงสีทองจนร่างของหนูตัวดังกล่าวแข็งค้าง
“ฮ่าฮ่าฮ่า จับได้แล้ว จับได้แล้ว!”
“โอ้ เจ้านายช่างแสนวิเศษ นี่ช่างวิเศษยิ่งนัก!”
เมื่ออาร์คจับตัวหนูเอาไว้ได้ เดดริคจึงเริ่มโห่ร้องตะโกนออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า เล็กน้อย ฉันคืออาร์คนะ!”
ผู้เล่นเลเวล 190 สามารถจับหนูตัวน้อยได้ถึงกับยินดียกใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าห้วงเวลานี้สมควรเป็นเวลาที่ควรยินดีที่สุดหรือไร? อาร์คดึงดาบออกขณะกวัดแกว่งเชือดเฉือนหนูตัวดังกล่าวโดยทันที หนูตัวนี้จึงโดนถลกหนังออกเผยซึ่งเนื้อภายใน จากนั้นเขาจึงนำพวกมันมาทำเป็นซุปหนูที่พอจะฟื้นคืนค่าความอิ่มได้ 20% กระทั่งว่านำน้ำกลั่นมาช่วยเสริมศักยภาพ เดดริค ดีมอส และเจ้างูก็ฟื้นคืนความอิ่มมาได้แค่ 6~7% เท่านั้นเอง แม้ไม่มากแต่ก็ทำให้อาร์คยินดีได้แล้ว
“หึหึหึ เจ้านายขอรับ เร็วเลย… ต้มมันเลยขอรับ”
“ไม่นาน ใจเย็น ๆ”
อาร์คหัวเราะขณะนำเอาหม้อออกมา และขณะที่เขากำลังเทน้ำกลั่นและเนื้อหนูลงไปนั้นเอง
ตึง ครืน ครืน!
อย่างกะทันหัน เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตกหักจากใต้พื้นที่เหยียบอยู่ อาร์คพลันกระโดดขึ้นด้วยสีหน้าซีดเผือด
‘สวรรค์… รอยยาวแบบนี้… หรือว่า?’
ภาพฉากเช่นนี้ช่างคล้ายภาพยนตร์ที่เขาเคยดูเมื่อนานมาแล้ว ภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นความพยายามของกลุ่มคนที่คิดอยากพิชิตภูเขาหิมาลัย รอยแยกเช่นนี้เขาจดจำได้เป็นอย่างดี มันคือรอยแยกน้ำแข็ง เป็นเพราะหิมะทับถมบนรอยแยกเป็นเวลานานมันจึงดูคล้ายพื้นเรียบทั่วไป หากมองเพียงครั้งแรกมันก็คือทุ่งหิมะที่ไม่มีอะไร แต่พอเหยียบย่างลงตรงจุดเท่านั้น พวกเขาจึงค่อยพบว่าตนต้องร่วงหล่น หลายผู้คนต่างโดนพื้นลักษณะนี้ลวงจนต้องตายตกท่ามกลางภูเขาหิมะเพราะรอยแยกน้ำแข็งพวกนี้
‘โชคดีที่มันยังไม่ยุบตัว ถ้าเราเคลื่อนอีกสักหน่อยน่าจะพอหนีออกไปได้…’
ลมหายใจของอาร์คกระชั้นชิดขณะพยายามทรงตัวไม่ให้ลื่นไถลขณะเริ่มก้าวเท้า ขณะนั้นเอง ดีมอสที่ข้อต่อเริ่มแข็งพลันเสียการทรงตัวขึ้นมา
อาร์คตะโกนออกมาด้วยความตื่นตกใจ
“ไม่! ดีมอส… หยุดก่อน!”
กรั่ก กรั่ก กรั่ก?
ดีมอสได้ยินแต่กลับหยุดชะงักหลังเท้าเซมาทางนี้ และ… ดีมอสได้เหยียบลงไปบนรอยแยกดังกล่าวเข้าเสียแล้ว
ครืน ครืน ครืน!
‘บัดซบ… บ้าบอที่สุด!’
อาร์คได้ยินเสียงอะไรถล่มดังขึ้นในโสดประสาท ขณะเดียวกัน เท้าของเขาก็ลื่นไถลจนร่วงหล่นลงไปในรอยแยกน้ำแข็ง