เล่ม 9 ตอนที่ 6 : โศกนาฏกรรมของสามพี่น้องหมูน้อย (2)
เมื่ออาร์ครับคำว่าใช่ จากนั้นใบหน้าของเบซอทิวพลันเปลี่ยนไป เบซอทิวโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรขึ้นมา
“อา แกลกาชินับว่าชื่อฉาวโฉ่ เจ้าต้องเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยมมากจึงสามารถจัดการมันได้ ใช่แล้ว มีเพียงนักรบที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นที่จะทำได้ นั่งลงก่อน ว่าแต่เจ้ามาที่นี่ทำไมนะ? เหมือนจะมาหาใครหรือเปล่า?”
นี่อีกฝ่ายมีอาการทางจิตอะไรพวกนี้หรือไง? อารมณ์ถึงกับพลิกกลับได้ขนาดนี้… พอชายชราเปลี่ยนท่าทีเขาถึงกับปรับอารมณ์ตามไม่ทัน อย่างไรแล้วก็ถือว่าโชคดีที่บรรยากาศดูดีกว่าก่อนหน้า อาร์คพยักหน้ารับและกล่าวถามออกไป
“ใช่ครับ ผมมาหาใครคนหนึ่งที่ชื่อมากาโร เคยได้ยินชื่อบ้างไหมครับ?”
“มากาโร… เป็นคนที่มาจากโลกกลางดังเช่นเจ้า?”
“รู้ด้วยเหรอครับว่าผมมาจากที่ไหน?”
“ข้าไม่ใช่คนแก่ไร้เหตุผล ข้ารู้มากกว่าเจ้าเยอะนัก”
เบซอทิวหัวเราะออกมาขณะตอบกลับ ดังคาด อีกฝ่ายเป็นผู้อาวุโสที่ทราบเรื่องราวไม่น้อยเลยทีเดียว
“ใช่ครับ ผมมาที่นี่เพื่อหาตัวเขา”
“แล้วอีกฝ่ายข้ามมาทางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”
“ผมได้ยินมาว่าหลายร้อยปีก่อนครับ”
“เช่นนั้นข้าก็คงไม่เคยเจอเขามาก่อน แต่ก็มีวิธีอยู่”
เบซอทิวคุ้ยหาม้วนคัมภีร์ที่กองสุมอยู่
“ตระกูลของข้าจดบันทึกทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นและส่งผ่านมารุ่นสู่รุ่น ใช่แล้ว ม้วนคัมภีร์พวกนี้ต่างบันทึกประวัติศาสตร์ของโลกใต้พิภพเอาไว้ ยอดเลยใช่ไหม? ถ้าหากชายคนนั้นผ่านมายังบริเวณนี้ก็หมายความว่าต้องมีบันทึกหลงเหลืออยู่ เจ้าน่าจะได้ข้อมูลที่ต้องการผ่านช่องทางนี้นะ”
“พอจะช่วยผมได้ไหมครับ?”
อาร์คกล่าวถามด้วยน้ำเสียงเร่งร้อน แต่เขาก็รอให้เบซอทิวตอบกลับ
“แน่นอนหากเจ้ารับคำขอของข้า”
“ครับ? คำขอ?”
บุคคลตรงหน้าเป็นเขาพบเจอครั้งแรกก็ขอความช่วยเหลือแล้ว? อาร์คเผยอาการสับสนขณะที่เบซอทิวถอนหายใจกล่าวขึ้นว่า
“ที่จริง ข้าตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งใหญ่เลยทีเดียว”
“สถานการณ์ฉุกเฉิน…?”
“เจ้าคงได้เห็นแล้วว่ามีพวกคนตายตลอดทางที่เดินผ่านมา”
“ครับ เห็นหลายครั้งเลยทีเดียว”
“คนอื่นอาจไม่รู้ แต่คนตายเหล่านั้นมีหน้าที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อโลกใต้พิภพ พวกเขามีหน้าที่คอยรักษาสมดุลของพลังในโลกใต้พิภพให้ไหลเวียน… อย่างไรแล้ว จำนวนของพวกเขาที่คงอยู่ในโลกแห่งนี้กลับลดน้อยลง และไม่นานมานี้ จำนวนคนตายในพื้นที่แถบนี้ก็เริ่มลดน้อยลงแล้ว”
เบซอทิวกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะลูบหนวดเคราไปมา
“ข้าขอบอกต่อเจ้า ก่อนหน้านี้ข้าได้จดบันทึกทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่แถบนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าข่าวลือเป็นจริงหรือไม่ ข้าส่งผู้ช่วยไปยังป่าฮาเกลที่ซึ่งคนตายมักหายไป ทว่าหลานชายของข้าเพราะด้วยความสงสัยจึงลอบตามไป ข้าก็เข้าใจอยู่หรอก แต่ว่า…”
“เขายังไม่กลับมาสินะครับ”
“ถูกต้อง เขายังไม่กลับมา นั่นหมายความว่าต้องเกิดเรื่องขึ้น ทางด้านผู้ช่วยของข้านั้นเพราะมีประสบการณ์มากจึงโล่งใจได้ อา โบนา… ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับโบนาล่ะก็… ข้ากังวลถึงเรื่องของหลานคนนี้จนไม่อาจทำงานทำการอื่นได้ แต่ข้าก็ไม่อาจออกไปตามด้วยตัวเองได้เช่นกัน”
เบซอทิวคว้ามือของอาร์คไว้ขณะร้องขอ
“นั่นแหละคำร้องขอจากข้า ได้โปรดหาตัวหลานชายข้าด้วย ถ้าหากเป็นเจ้าที่ล้มแกลกาชิได้ เรื่องนี้ก็คงไม่ยากสินะ ใช่ไหม? ข้าจะทำตามที่เจ้าร้องขอตราบเท่าที่รับปากคำร้องขอนี้จากข้า”
‘ภารกิจ!’
ดวงตาของอาร์คเบิกกว้าง นี่คือภารกิจแรกตั้งแต่ที่เขามาเยือนโลกใต้พิภพแห่งนี้ ใครจะรู้กันว่าเขาจะได้รับรางวัลอะไร อีกทั้งเขายังจะได้เบาะแสของมากาโรเป็นโบนัสเพิ่มเติมอีก ไม่มีเหตุผลที่ต้องให้ปฏิเสธเลยสักนิด
“เข้าใจแล้วครับ”
เขาพยักหน้ารับพร้อมหน้าต่างข้อมูลที่ปรากฏขึ้น
=====
ความกังวลของเบซอทิว
ท่านได้รับคำร้องขอจากชายชราในหมู่บ้าน
เบซอทิวได้จดบันทึกทุกเหตุการณ์ในละแวกใกล้เคียง ไม่นานมานี้เขาได้ส่งผู้ช่วยและหลานไปยังป่าฮาเกลเพื่อตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทว่าผ่านไปนานแล้วพวกเขายังไม่กลับมาหรือได้รับการติดต่อ จงไปสืบหาพวกเขาที่ป่าฮาเกลและนำพากลับมาอย่างปลอดภัย
=====
‘นานแล้วเหมือนกันนะเนี่ยที่ไม่ได้รับภารกิจ’
อาร์คจ้องมองหน้าต่างข้อมูลอยู่พักหนึ่ง เขานึกย้อนไปถึงตอนการบุกโจมตี การฆ่าอลัน และเรื่องราวที่สมาคมแห่งความมืด… เขาไม่เคยได้รับภารกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนับตั้งแต่นั้น ทว่าจุดขายของเกมยังไงก็คือภารกิจ ความซับซ้อนของภารกิจคือสิ่งที่จะเปลี่ยนโฉมเกมให้มีเสน่ห์ขึ้นมาได้
“งั้นผมขอตัวเลยนะครับ”
อาร์คออกจากบ้านของเบซอทิวขณะมุ่งตรงไปยังทางเข้าหมู่บ้าน ทว่าก็ยังมีบางสิ่งที่เขาต้องทำก่อนออกจากหมู่บ้าน ภารกิจนี้ระดับความยากคือ C พอพิจารณาจากเลเวลของอาร์คแล้ว ระดับความยากนี้ก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก แต่เขาไม่รู้ว่ากฎเกณฑ์ของมิติแห่งนี้แท้จริงเป็นอย่างไร ดังนั้นแล้วเขาต้องอัพเดทจุดเกิดใหม่ไว้ที่นี่เผื่อกรณีตายตก
‘จุดเกิดใหม่ของเราตอนนี้คือป่าสีแดงที่โลกกลาง ในเมื่อประตูปิดไปแล้ว ถ้าหากเราอัพเดทจุดเกิดใหม่เป็นที่นี่ นั่นก็หมายความว่าเราจะไม่มีทางกลับไปโลกกลางได้’
ตอนที่เขามาถึงหมู่บ้านครั้งแรก เขาก็ลังเลอยู่ว่าควรทำยังไงดี แต่ในเมื่อภารกิจของมากาโรเริ่มต้นไปแล้ว และเรื่องราวก็ต้องดำเนินที่โลกใต้พิภพ เขาไม่อาจดำเนินภารกิจไปทั้งที่มีความเสี่ยงได้ เสาที่ทำขึ้นจากกระดูกและแผ่นหนังได้ปักเอาไว้ที่ทางเข้าหมู่บ้าน เขาเคยเห็นเสาคล้ายกันนี้ในป่าใกล้ไคโร้ทเช่นกัน แม้ว่าจุดเกิดใหม่จะเป็นศูนย์พลาธิการของหมู่บ้านมนุษย์ แต่การมีเสาพวกนี้ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านก็สามารถใช้แทนศูนย์พลาธิการได้ หน้าต่างข้อความพลันปรากฏขึ้นทันทีที่เขาสัมผัสกับเสา
=====
ท่านต้องการลงทะเบียน ‘หมู่บ้านในหุบเขา’ ในโลกใต้พิภพเป็นฐานหรือไม่?
=====
อาร์คตัดสินใจลงทะเบียนขณะเริ่มสำรวจแผนที่ จุดสีแดงได้ปรากฏขึ้นและกระพริบอยู่ มันคือสถานที่ที่เบซอทิวต้องการให้เขาไป และมันก็ไม่ได้อยู่ไกลนัก หากใช้ราดันคงไปถึงที่นั่นได้ภายในสิบหรือยี่สิบนาที
“ออกเดินทางกันเลยแล้วกัน ราดันเปลี่ยนร่าง… หือ?”
ขณะที่อาร์คออกคำสั่งให้ราดันเปลี่ยนร่าง เขาพลันมองเข้าไปยังหุบเขาก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านด้วยสายตาตื่นตะลึง ร่างเงาทั้งสามกำลังปรากฏขึ้นจากจุดที่พายุทรายกำลังพัดโหม
“เดี๋ยวนะ… ร่างอ้วนพวกนี้หรือว่า…?”
* * *
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก มีหมู่บ้าน!”
“ฮึก นึกว่าจะต้องแข็งตายแล้ว”
“พวกเราแทบไม่ได้หลับได้นอนเลยหลังโดนมอนสเตอร์นั่นไล่ล่า…”
“ลูกพี่ หิวจัง”
“อดทนไว้ พวกเราจะได้พักตราบเท่าที่เข้าหมู่บ้านได้”
พ่อค้าทั้งสามคนเริ่มโผล่พ้นตัวออกจากพายุทรายขณะเข้ามาใกล้หมู่บ้าน ใช่แล้ว เป็นหมูน้อยทั้งสามที่ไล่ตามอาร์คมาจนต้องเข้ามายังโลกใต้พิภพแห่งนี้ พวกเขาเหล่านี้ดิ่งเข้าใส่รูปภาพด้วยภาพฝันที่เปี่ยมล้น พวกเขาคิดฝันว่าจะได้รับสมบัติกองเท่าภูเขา
“หึหึหึ ตอนนี้พวกเราไม่ต้องทุกข์ทรมานแล้ว อีกไม่ช้าพวกเราจะมีโอกาสได้จัดการตบหลังหัวไอ้เจ้าอาร์คนั่นและแย่งชิงสมบัติมา!”
พวกเขาไม่ได้ไล่ตามอาร์คมาอย่างไร้ซึ่งแผนการ ถ้าหากพวกเขาทั้งสามรุมอาร์คก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสชนะ นั่นเป็นเพราะพวกเขาตระเวนไปมาทั่วงานประมูลตลอดระยะเวลาหลายวันจนกระเป๋าในมือเต็มไปด้วยอาวุธและลูกไม้ต่ำช้า มีน้อยคนนักที่จะตระหนักได้ว่าอาวุธพวกนี้สามารทำอะไรได้บ้าง และตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าจะกระหน่ำใส่อาร์คได้เมื่อไหร่
“ความทุกข์ยากของพวกเราจบแล้ว ต่อจากนี้คือความสุข!”
ตึก ตึก ตึก!
พี่น้องหมูน้อยทั้งสามพลันโดนฝังร่างท่ามกลางหิมะ หลังออกจากประตูมาได้พวกเขาไม่ได้พบเจอสมบัติดังที่คาดหวังเอาไว้ ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นหิมะ! มีเพียงความหนาวเย็นต้อนรับพวกเขา อีกทั้งพวกเขายังไม่เห็นอาร์คที่มาก่อนหน้าเพียงนิดเดียวด้วยซ้ำ ที่จริง ประตูมิติที่ส่งมายังโลกใต้พิภพผ่านทางกระท่อมนั้นจะเปลี่ยนตำแหน่งทุกครั้งที่มีการข้ามมิติ หรือก็คือ พี่น้องทั้งสามคนนี้ใช้ประตูเดียวกันกับอาร์คแต่กลับมาโผล่คนละตำแหน่ง จากนั้นพวกเขาจึงต้องทุกข์ยากกับการเอาชีวิตรอด พวกเขาเป็นพ่อค้า เพราะงั้นแล้วส่วนใหญ่จึงมักถือเงินมากกว่าอาวุธ
เพราะเหตุนั้นพวกเขาจึงแทบเอาชีวิตไปทิ้งในภูเขาหิมะที่มีแต่หิมะและน้ำแข็งปกคลุม โชคยังดีที่พวกเราเตรียมการก่อนไล่ตามอาร์คมาจึงทำให้ในกระเป๋ามีสิ่งของพร้อมเดินทางอยู่หลายอย่าง พวกเขามีทั้งเสื้อผ้าที่หนาอีกทั้งยังนำอาหารมาเพียงพอ และในเมื่อพวกเขาต่างก็มีทักษะตั้งแคมป์ จึงทำให้มีสถานภาพดีกว่าอาร์คค่อนข้างเยอะ ทว่าอย่างไรแล้วพวกเขาก็ยังเป็นพ่อค้าอยู่ดี
หลังออกจากภูเขาหิมะมาได้ พื้นที่รกร้างกว้างใหญ่พลันปรากฏและอันตรายกับพวกเขายิ่งนัก ยังไม่พูดถึงระยะทางว่าไกลเพียงใด พวกเขาต่างหลบหนีมอนสเตอร์หลายต่อหลายครั้งที่พบพาน ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ในตอนนี้เสบียงใกล้หมด ขณะเดียวกันนั้นเอง เป็นอาร์คที่มีราดันช่วยเหลือจึงมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ก่อนพวกเขา
“เข้าไปในเมืองแล้วถามถึงไอ้เจ้าอาร์คนั่นกันดีกว่า”
“หมอนั่นคงมาถึงล่วงหน้าพวกเราแล้ว”
“บางทีอาจคว้าสมบัติและกลับบ้านไปแล้วก็เป็นไปได้”
อัลเมออคกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ที่จริง นั่นเป็นสิ่งที่บุคซิลกังวลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากอาร์คคว้าสมบัติไว้ในมือได้เรียบร้อย เช่นนั้นความทุกข์ยากของพวกเขาก็กลายเป็นสูญเปล่าแล้ว และหลังผ่านไปกว่าสองสัปดาห์ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะตามรอยอาร์คต่อไปได้ในเมื่อไม่รู้ถึงตำแหน่งที่แน่ชัด
“พวกเราเมื่อมาที่นี่แล้วก็ไม่มีทางให้กลับ พวกเราต้องอยู่จนถึงที่สุด”
“นั่นก็ใช่ แต่ว่า…”
เพราะเหตุนั้น พี่น้องหมูน้อยทั้งสามจึงมายังหมู่บ้านแห่งนี้
“ดีใจจังถึงกับเจอพวกนายที่นี่ด้วย”
ขณะนั้นเอง เสียงอันคุ้นเคยพลันดังขึ้น บุคซิลถึงกับเงยหน้าขึ้นมองและแทบกลืนเสียงกรีดร้องภายในกลับไป ช่างน่าตื่นตระหนกยิ่งนัก เป็นอาร์คกำลังรับชมพวกเขาเดินทางมาขณะยืนกอดอก อัลเมออคก็กล้ำกลืนเสียงร้องขณะกล่าวกับพี่น้องของตนด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง
“เฮือก อะ-อาร์ค ลูกพี่ครับ นั่นมันอาร์ค”
“ฉันมีตาให้เห็นน่า บัดซบ ถึงพวกเราจะหาตัวหมอนี่อยู่ แต่เผชิญหน้าแบบนี้มันก็…”
“ทำยังไงกันดี? หรือพวกเราควรวิ่งหนี?”
บุคซิลเริ่มพึมพำออกมา
“ไม่ นี่ไม่นับเป็นอะไร ยังไงแล้วถ้าพวกเราหาตัวหมอนี่ไม่เจอก็จบเห่เหมือนกัน อีกทั้งตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ที่จะหนีแล้วเพราะหมอนั่นเห็นพวกเราแล้ว ถ้าหากหมอนั่นสงสัยขึ้นมา เรื่องราวจะยิ่งยากต่อการตามรอยหมอนั่นต่อ หมอนั่นต้องสงสัยแน่ อีกทั้งยังเป็นไปไม่ได้อีกแล้วที่จะหาทางลอบตีข้างหลัง”
“ได้แต่จำยอมแล้ว?”
“หึหึหึ มีแผนที่ดีอยู่เหมือนกัน หมอนี่หลอกง่าย มันเชื่อว่าพวกเราเป็นแฟนคลับของมันตั้งแต่ครั้งโน้น หมอนี่ต้องเผยจุดอ่อนอะไรออกมาบ้างแน่ ถ้าหากพวกเราเยินยอมันสักหน่อยก็คงง่ายเป็นปลอกกล้วยแล้ว คอยดูแล้วกัน”