เล่ม 9 ตอนที่ 8 : อาร์คที่ทิ่มแทงจนตาย (4)
อาร์คเริ่มแตกตื่นขณะหันมองโดยรอบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“อย่างที่คิดไว้ สัมผัสที่หกยกเลิกมันได้”
“อาร์ค… ไม่ใช่สิ นั่นไม่ใช่ดาร์ควูล์ฟหรือ?”
“ในเมื่ออยู่ตัวคนเดียว เพื่อนที่ร่วมทางมาด้วยตายหมดแล้วสิ? น่าเวทนาจังนะ หลบซ่อนตัวดีแล้วยังโดนเจอตัวอีก…”
อาร์คกลายเป็นสับสนมากยิ่งขึ้น
“พะ-พวกนาย… มาทำบ้าอะไรกันที่นี่?”
“คิดว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วงั้นสิ?”
ด้วยความประหลาดใจ ถึงกับเป็นดุ๊ค จีเวล และพวกคนจากกิลด์เฮอร์มีสเรียงแถวกันอยู่เบื้องหลังอาร์ค แน่นอน อาร์คตระหนักได้ว่าคนพวกนี้ต้องตามรอยเขาเข้าสักวัน แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเขาก็คงข้ามไปยังอาณาจักรแห่งอื่นแล้ว เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะเจออีกฝ่ายเร็วขนาดนี้ จีเวลไม่ให้เวลาเขาคิดแม้เพียงนิดขณะพูดขึ้นมา
“นายจบสิ้นแล้ว!”
“ฉันจะสอนนายเองถึงมูลค่าของสิ่งที่กระทำไว้กับเฮอร์มีส! เป้าหมายอาร์ค!”
จีเวลพลันเรียกใช้งานม้วนคัมภีร์ทั้งหมดในคราเดียว
=====
ม้วนคัมภีร์ [อับโชค] ทำงาน
ม้วนคัมภีร์ [ปล้น] ทำงาน…
=====
หน้าต่างข้อความแจ้งเตือนถึงสิบหน้าต่างปรากฏขึ้นพร้อมกัน
‘สวรรค์! คอมโบม้วนคัมภีร์!’
อาร์คพลันรู้สึกเย็นเยียบไปถึงไขกระดูก อาร์คเข้าใจดีถึงพลังอำนาจของการผสมผสานม้วนคัมภีร์เข้าด้วยกันยิ่งกว่าใคร เขาแทบเคยกลายเป็นขอทานเพราะอันเดลใช้งานกับเขา ถ้าหากเขาโดนจับ แบบนั้นแล้วภารกิจก็จะล้มเหลวไปด้วย แต่ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ต่อหน้าจีเวล ดุ๊ค และสมาชิกเฮอร์มีสอีกแปดคนเขาไม่มีทางยืนหยัดได้แน่
‘เราไม่ใช่คนเดิมก่อนหน้านี้ ถ้าหากมีสมาชิกเฮอร์มีสสักห้าคน เราน่าจะพอรับมือได้ไหว แต่สิบคนนี่รับมือไม่ไหวแน่ แถมยังมีจีเวลกับดุ๊คร่วมอยู่ด้วย ต้องหนีก่อน!’
ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้น ร่างของเขาจึงเคลื่อนไหวโดยทันที อาร์คยืนอยู่ที่ระเบียง ถ้าหากเขาเคลื่อนร่างผิดแม้เพียงนิดเขาจะต้องตกไปอยู่ท่ามกลางชาวนาคูจักทั้งสองร้อยและบอสแน่ หนทางเดียวที่จะออกไปได้คือทางเดินที่จีเวลขวางไว้!
“ร่ายรำแห่งความมืด!”
โดยทันที อาร์คใช้งานทักษะขณะคิดโผล่ออกไปให้พ้นด้วยช่องว่าง แม้ว่าการใช้งานจรัสแสงจะช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมหาศาล แต่ร่ายรำแห่งความมืดก็ดีกว่าหากต้องป้องกันไปด้วย
“อย่าได้ฝัน!”
ดุ๊คลดการตั้งป้องกันลงขณะใช้ ‘ยิงเร่งด่วน’ ออกมา
“ไถลตัว!”
“บัดซบ!”
อาร์คใช้งานไถลตัวเพื่อหลบเลี่ยงลูกธนู ใบหน้าของดุ๊คถึงกับโพล่งความโกรธไม่อาจปิดบัง ขณะที่อาร์คหลบหลีกการโจมตีไปได้ จีเวลได้เร่งการใช้ ‘ระเบิดมานา’ ออกมาและยิงลูกไฟออกโดยทันที
“ตอนนี้แหละ จรัสแสง!”
อาร์คพลันกระชับผ้าคลุมไว้รอบกายขณะพุ่งตรงเข้าใส่ลูกไฟ
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
จีเวลได้คาดคำนวณไว้แล้วถึงช่องว่างที่เกิดขึ้นและใช้งานลูกไฟยิงออกไป เธอใช้เวทมนตร์ไฟก็เพราะความเสียหายค่อนข้างสมดุล ทว่าเมื่ออาร์คพุ่งผ่านไปโดยใช้ ‘จรัสแสง’ ลูกไฟกลับระเบิดขึ้นตรงหน้าของจีเวล ด้วยความแคบของทางเดินจึงทำให้เปลวเพลิงกลืนกินทั้งจีเวลและพันธมิตรจนโดนความเสียหายกันถ้วนหน้า กระทั่งว่าอาร์คมีภูมิต้านทานธาตุไฟ 75% เขาก็ยังได้รับความเสียหายถึง 400 หน่วย กับพวกที่ไม่มีภูมิต้านทานธาตุไฟคงได้รับความเสียหายเป็นสองเท่า เพราะความเสียหายนี้เองจึงเกิดจังหวะให้อาร์คใช้งานจรัสแสงได้อีกครั้ง อีกฝ่ายตอนนี้ก็เสียพลังชีวิตกันไปถึง 30% โดยทันที ทว่าหนึ่งในกลุ่มคนก็พลันใช้งานเวทมนตร์ฟื้นฟูจนได้รับพลังชีวิตคืนมา 10% อย่างทันทีทันใด
‘บัดซบ มากันทั้งนักเวท เรนเจอร์ นักรบ แล้วก็นักบวช นี่มันเตรียมมาพร้อมเลย’
“เหอะ ช่างบังอาจ… ฆ่ามัน!”
จีเวลออกคำสั่งขณะกลุ่มคนเริ่มเคลื่อนตัวพุ่งออกเป็นรูปขบวน ทว่าอาร์คกลับทำได้เพียงแค่ใช้งานทักษะอย่างหน้ามืดตามัวเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เข้ามาใกล้ เขาทำการเจาะวงล้อมไปและเริ่มคิดหาเส้นทางหลบหนี อาร์คนำเอาผลนาดิงกะออกมาจากกระเป๋าขณะโยนเข้าใส่อีกฝ่าย เมื่อผลไม้โดนร่างกายเข้า เถาวัลย์จึงกระจายตัวออกขณะรัดพันจีเวลและคณะเอาไว้
“หือ? อะไรเนี่ย?”
“วิ่งเร็ว!”
ช่วงเวลานั้นเอง อาร์คเริ่มวิ่งหนีไปอีกด้านโดยไม่คิดหันกลับมามองแต่อย่างใด
“จับตัวมัน!”
“บัดซบ ห่วงโซ่คลายตัว!”
ชาร์แมนเริ่มทำการปลดพันธนาการ ทว่าอาร์คก็ใช้วิ่งเร็วจากไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่เห็นอีกฝ่ายในระยะสายตาแล้ว โชคร้ายนักสำหรับพวกเขา อาร์คได้จัดการมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ไปแล้ว และชาวนาคูจักที่เหลือต่างก็ไปรวมตัวกันที่แท่นบูชา เพราะงั้นแล้วจึงไม่มีใครขวางทางอาร์คไว้ได้ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ไม่กี่ชั่วอึดใจเท่านั้น แม้ว่าเขาจะใช้งานวิ่งเร็วได้ อีกทั้งยังรู้จักดันเจี้ยนแห่งนี้ดี เขาก็ไม่อาจวิ่งหนีได้พ้น ไม่ว่าเส้นทางจะซับซ้อนเพียงใด จีเวลสามารถตามติดเขาได้เสมอ
‘เราใช้แผนที่ที่สร้างขึ้นผ่านทักษะ ‘วาดแผนที่’ แต่แล้ว…. ทำไมพวกนั้นถึงรู้ทางจนตามมาได้? แถมยังตามมาได้อย่างแม่นยำราวรู้ทิศทางเสียด้วย ไม่สิ ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงตามเรามายังดันเจี้ยนในโลกใต้พิภพได้กันล่ะ?’
กระทั่งว่าตามติดมา แต่สามพี่น้องหมูน้อยนั่นก็คลาดกันกับอาร์คตอนที่เข้ามายังโลกใต้พิภพ แต่แล้วทำไมกลุ่มคนเหล่านี้ถึงสามารถหาตัวอาร์คพบได้อย่างรวดเร็ว? กระทั่งว่ามาที่โลกใต้พิภพก่อนหน้าอาร์ค แต่นั่นก็ยังไม่อาจอธิบายได้ว่าเพราะอะไรถึงหาตัวเขาเจอ
‘ชัดเจนว่าเจ้าพวกนี้มีวิธีการที่เราไม่รู้ บางอย่างที่สามารถล่วงรู้ถึงตำแหน่งของเรา… อะไรกันล่ะ? ม้วนคัมภีร์ [ตามรอย] ไม่สามารถตรวจพบได้หากอยู่นอกระยะ… ไม่สิ พวกมันต้องมีอะไรที่ทำไว้กับตัวเราแน่… เดี๋ยวนะ หรือว่า?’
อาร์คที่เริ่มสรุปความเป็นไปได้แล้วพลันถอดรองเท้าออก
‘ถ้าจะมีก็ต้องมีกับรองเท้านี่!’
“เนตรหยั่งรู้!’
เขาใช้งานเนตรหยั่งรู้เพื่อตรวจดูหน้าต่างข้อมูล
=====
รองเท้าจิตวิญญาณวายุต้องคำสาป ‘น้ำหอมมานา’
=====
‘ใช่จริงด้วย!’
ถ้าหากจะมีอะไรอย่างหนึ่งที่ยากเกินเข้าใจและพบพานได้ในนิวเวิลด์ มันก็ต้องเป็นทักษะอย่างแน่นอน
‘ไม่ใช่แค่ตรวจสอบไอเทมยังไม่วินิจฉัยได้ แต่เรายังสามารถตรวจสอบไอเทมที่ได้รับมาจากคนอื่นได้ด้วย บัดซบ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีทักษะลงเอาไว้ แต่เราน่าจะลบล้างคำสาปด้วยการใช้ฟื้นฟูชำระล้างได้อยู่’
แต่อาร์คก็ตระหนักได้ดี การปลดคำสาปตอนนี้ก็ไม่ช่วยให้เขาพ้นวิกฤตได้ แต่มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันป่าวประกาศตำแหน่งที่อยู่ของเขาไปด้วยขณะวิ่งหนี แต่ขณะที่เขากำลังจะใช้งานทักษะลบล้างอยู่นั้น ความคิดหนึ่งพลันนึกขึ้นมาได้
‘เดี๋ยวนะ เจ้าพวกนี้รู้ตำแหน่งของเราผ่านทางรองเท้า ถ้างั้น… นี่หมายความว่ายังมีโอกาส ดี พลังมานาก็เหลือน้อยแล้วด้วย จะเอาแต่ใช้วิ่งเร็วเพื่อหนีและหลบเลี่ยงก็ยากแล้ว นี่เป็นเพียงทางเดียวที่จะพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้’
อาร์คใช้งานวิ่งเร็วอีกครั้งเพื่อกลับไปยังห้องที่กูรันซ่อนตัวอยู่
“อาร์คนิม ปลอดภัยดีสินะ”
“พวกเรากำลังกังวลอยู่เลยตอนได้ยินเสียงกลองประหลาดนั่น!”
“ไม่มีเวลาอธิบายรายละเอียดเท่าไหร่ แซบจิล เขียนหนังสือสัญญาด้วย!”
อย่างรวดเร็ว อาร์ครีบส่งมอบไอเทมให้ขณะรับหนังสือสัญญาเอาไว้ จากนั้นเขาจึงมองสภาพรอบด้านพลางพิจารณาและค่อยกล่าวว่า
“ไม่มีเวลาแล้ว ให้วิ่งไปยังตำแหน่งที่บอก!”
“ได้ ว่าแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน…”
“ไม่มีเวลาอธิบายไง ไว้ค่อยบอกให้ฟังทีหลัง ตอนนี้วิ่งก่อน!”
เมื่ออาร์คเปล่งเสียงดังออกมา แซบจิลถึงกับประหลาดใจขณะออกวิ่งโดยทันที เมื่ออาร์คยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายวิ่งไปแล้ว อาร์คจึงเผยรอยยิ้มชั่วช้าและส่งรองเท้าให้เดดริค
“เดดริค ตามแซบจิลไปแล้วหิ้วไอ้นี่ไปด้วย”
* * *
“ทางนี้!”
จีเวลตรวจสอบเรดาห์แล้ววิ่งตามไป
“บัดซบ เร็วอะไรขนาดนั้น!”
“แต่ความเร็วเท่านี้รักษาต่อไว้ได้ไม่นานแน่”
“หมอนั่นยังไม่รู้ถึงเวทมนตร์ที่ลงไว้ ช่างโง่เง่านัก น่าจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง ในเมื่อก่อนหน้านี้จุดสีแดงไม่ได้เคลื่อนไหว หมอนั่นน่าจะคิดว่าพวกเราจะหาไม่เจอเพียงเพราะแค่ซ่อนตัว?”
จีเวลพึมพำคนเดียวขณะเผยรอยยิ้มชั่วร้าย อาร์คหยุดอยู่กับที่พักหนึ่ง ทว่าตอนนี้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้ว แต่ความเร็วนั้นไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างก่อนหน้า
“พลังมานามันหมดแล้ว อีกไม่ช้าพวกเราตามมันทันแน่!”
จีเวลและคณะเริ่มออกไล่ล่าจุดสีแดงในแผนที่อีกครั้งหนึ่ง หลังผ่านการวิ่งไล่ล่าอยู่พักใหญ่ พอพ้นหัวมุมหนึ่ง พวกเขาพลันได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งห่างไกลออกไป ชาวนาคูจักทั้งหมดก็ไปรวมตัวกัน ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งนี้ต้องเป็นอาร์คแล้ว จีเวลตามรอยของจุดสีแดงไปอย่างต่อเนื่องจนเริ่มเข้าไปใกล้ และจึงได้เห็นว่ามันย้อนกลับมายังระเบียงที่พวกเขาได้เจอกันครั้งแรก
“หือ คิดหลบซ่อนในความมืดงั้นสิ? อย่าคิดว่าจะหลอกฉันได้เลยอาร์ค!”
“เฮือก!”
อาร์คที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดสุดปลายระเบียงพลันหันกลับด้วยความแตกตื่น ไม่สิ บุคคลตรงหน้ามีใบหน้าอ้วนท้วน นี่ย่อมไม่ใช่อาร์ค แต่เป็นพ่อค้าชาวคนแคระแซบจิลต่างหาก
“อะไรกัน? แกคือ?”
“ไม่น่าใช่… เรดาห์ก็แสดงผลชัดเจนนี่…”
จากนั้น ดวงตาของจีเวลจึงมองไปเห็นค้างคาวที่กระพือปีกอยู่หลับแซบจิล เป็นค้างคาวตัวนั้นกำลังหิ้วรองเท้าเอาไว้… รองเท้าจิตวิญญาณแห่งวายุที่มีน้ำหอมมานาติดอยู่
“สวรรค์ มันรู้ตัวแล้ว? ถ้างั้นอาร์คอยู่ไหนกัน?”
“ทางนี้ไงไอ้พวกสารเลว!”
เสียงของอาร์คพลันดังขึ้นจากทางด้านหลัง จีเวลและดุ๊คถึงกับหันควับกลับไปมองพร้อมกัน
“กล้ามากนะมาสร้างปัญหาให้ฉันได้ ราดัน ไปเลย!”
ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
“อะไรกัน? ไอ้กิ้งก่านั่นคือ?”
ราดันเปลี่ยนร่างเป็นราดันม่าขณะพุ่งเข้าใส่คณะของจีเวล จีเวลและพรรคพวกที่รวมตัวกันอยู่ตอนนี้แทบจะล้นทางเดินที่แคบยิ่งแห่งนี้ เพราะขวางกั้นเส้นทางเอาไว้ พวกเขาจึงโดนผลักดันไปในทิศทางเดียวกัน นักรบพยายามเหวี่ยงดาบเข้าใส่… ทว่ากลับกลายเป็นความคิดที่โง่เขลา
“สวนกลับฉับพลัน!”
อาร์คใช้งานสวนกลับฉับพลันเข้าใส่ ทั้งคณะจึงโดนพัดพาไปหาแซบจิลที่อยู่สุดปลายทางของระเบียงพร้อมร่วงหล่นลงไป ในเมื่อมันสูงแค่สามชั้น ความเสียหายจากการร่วงหล่นจึงไม่มากอะไร ทว่า… พวกเขาตกมาท่ามกลางสายตาสองร้อยคู่ของชาวนาคูจักและทามูระที่จ้องมองอยู่
“พวกมันเป็นใคร?”
ใบหน้าของทามูระมืดมน
“บังอาจนักกล้าขัดขวางพิธีกรรม… สังหารพวกมัน! ฉีกพวกมันให้เป็นชิ้นแล้วโยนเป็นเครื่องสังเวย!”
“โอ้ โอ้ โอ้!”
ชาวนาคูจักลุกขึ้นยืนขณะพุ่งเข้าใส่
“หนีก่อน!”
“โดนล้อมไว้หมดแล้ว ไม่มีที่ให้หนี!”
“อดทนไว้! ถ้ายังไม่ได้ฆ่าอาร์คพวกเราจะตายไม่ได้!”
จีเวลและคณะเริ่มใช้งานเวทมนตร์และทักษะโจมตีทั้งหลายเข้าใส่ชาวนาคูจัก เช่นนั้นจึงเกิดการเปิดศึกขึ้นระหว่างคณะชาวเฮอร์มีสสิบคน กับชาวนาคูจักจำนวนมาก และในเมื่อแซบจิลก็ตกลงมาเช่นเดียวกันจึงโดนชาวนาคูจักฆ่าไปตั้งแต่ที่การต่อสู้เริ่มต้นแล้ว
“ฮึก แซบจิล…”
บุคซิลหันกล้องวิเศษมาพร้อมบันทึกจุดจบอันน่ายกย่อง(?)
‘ตอนนี้ก็เหลือพี่น้องหมูสามตัวอีกแค่หนึ่งเท่านั้น’
เขาจำเป็นต้องทำการเสียสละเพื่อจัดการจีเวล
“เจ้านาย นี่ขอรับ!”
เดดริคบินกลับมาพร้อมส่งรองเท้าคืนให้
“หึหึหึ วิธีการโหดเหี้ยมแบบนี้เหมาะสมกับพวกแกแล้ว”
อาร์คชำระล้างรองเท้าด้วยฟื้นคืนชำระล้าง ทักษะนี้เป็นการจบเรื่องราวที่ทำเอาเขายากลำบาก ถ้าหากอีกฝ่ายตามล่าอาร์คมาโดยใช้ทักษะ [ตามรอย] แบบนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ เป็นเพราะหาเรื่องใส่ตัวจึงต้องโดนชาวนาคูจักทั้งสองร้อยรุมจิกทึ้งจนไม่เหลือความหวังในการรอดชีวิตใดอีก
“โชคยังดี โบนากับลาริเอ็ตเต้ยังปลอดภัย กูรัน บุคซิล ตามมาทางนี้”
อาร์คออกนำคณะของตนเริ่มลงไปยังแท่นบูชา