เล่ม 10 ตอนที่ 1 : อาชีพของดีมอส? (1)
=====
สมุนปีศาจของผู้เล่น ‘ดีมอส’ ได้จัดสร้างทุกส่วนของร่างกายขึ้นใหม่!
โดยปกติแล้วอันเดตก่อร่างขึ้นมาได้ก็เพราะความขุ่นแค้นอันใหญ่หลวงหรือคำสาป สิ่งเหล่านั้นคือขุมพลังของพวกมัน และทำให้พวกมันเกิดความริษยาต่อสิ่งมีชีวิต อันเดตไม่อาจมีชีวิตอยู่ที่ใดก็ได้เพราะความเป็นปรปักษ์ต่อทุกสรรพชีวิต โชคร้ายนัก วิวัฒนาการของดีมอสไม่เสร็จสมบูรณ์เพราะการประกอบอย่างไม่ใส่ใจและร่างกายส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยกระดูกไร้คุณภาพ ทว่าตอนนี้เมื่อสับเปลี่ยนกระดูกทั้ง 208 ชิ้นแล้วและยังได้รับ ‘กะโหลกที่สมบูรณ์’
ตอนนี้ทุกส่วนได้ผสมผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมกับร่างกายจนได้รับศักยภาพเพิ่ม ดีมอสจึงมีโอกาสได้วิวัฒนาการอีกครั้ง
=====
‘ประกอบอย่างไม่ใส่ใจ? กระดูกไร้คุณภาพ?’
ใบหน้าของอาร์คบิดเบี้ยว มีคำกล่าวโบราณว่าคนเรากัดนิ้วตัวเองไม่เจ็บ แต่อาร์ครู้สึกถึงคำนี้ได้เพราะสมุนปีศาจของตัวเอง เขานั้นมีความรักและความห่วงใยมอบให้สมุนปีศาจอยู่เสมอ เขามักจะมอบอาหารที่ดีเพื่อช่วยให้พวกมันสร้างร่างกายที่สมบูรณ์ขึ้นมา อีกทั้งยังดูแลเหมือนบุตรหลานคนหนึ่ง…
แต่กระทั่งว่าเขาดูแลพวกมันเป็นอย่างดี บุตรหลานของเขาเหล่านี้กลับไม่ได้ตอบสนองเช่นเดียวกัน ในฐานะผู้ปกครอง เขาจึงต้องใส่ใจการเติบโตของบุตรหลานให้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าเดดริคออกจะไม่ค่อยแยแสอะไรสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ฝึกมันจนกลายเป็นค้างคาวที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้ ราดันก็มักจะพันอยู่รอบเอวของเขาจึงไม่เคยก่อเรื่องใดขึ้น อีกทางหนึ่ง ดีมอสเป็นเพียงแค่กะโหลกในตอนที่พบเจอกันครั้งแรก อีกฝ่ายไม่มีความสามารถอื่นใดนอกจากกลิ้งไปมากับพื้น ไม่ใช่ว่าเขาใช้งานมันโดยการขว้างปาเข้าใส่มอนสเตอร์เพื่อสร้างความเสียหายสักหน่อยหรือ? อาร์คเป็นคนที่ทำให้ร่างกายโครงกระดูกเสร็จสมบูรณ์ขึ้นมาได้
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่งานที่ง่ายนัก เขาจดจำได้ดีถึงหนังสือที่จัสติสแมนให้ยืมเพื่อศึกษาร่างกายมนุษย์อยู่หลายต่อหลายวัน แต่มีเพียงเท่านั้นหรือ? เขาต้องคุ้ยหาท่ามกลางกองกระดูกนับร้อยนับพันเพื่อแยกชิ้นส่วน หาความเหมาะสมเข้าด้วยกันเหมือนต่อจิ๊กซอว์อันลึกล้ำเพื่อสร้างร่างให้ดีมอส กล่าวได้เต็มปากเต็มคำว่าดีมอสนั้นเป็นอาร์คสร้างขึ้น
‘จะมีผู้อัญเชิญคนไหนยอมบากบั่นขนาดนี้เพื่อสมุนอัญเชิญกันบ้าง? แต่ก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว เราก็ได้รับความภาคภูมิใจยามได้มองสิ่งที่สร้างขึ้นกับมือ’
เขาลอบภาคภูมิใจทุกครั้งที่มองดีมอส ทว่าตอนนี้เขากลับโดนทำร้ายอย่างรุนแรง ความพยายามอย่างหนักหนาของเขากลับกลายเป็นโดนเรียกว่าประกอบอย่างไม่ใส่ใจ? เขารู้สึกโกรธแค้นต่อหน้าต่างข้อมูลนี้ทันทีที่เห็นครั้งแรก ไม่สิ มันไม่ใช่แค่หน้าต่างข้อมูล กระทั่งว่าอาร์คสร้างมันด้วยความยากลำบาก ดีมอสก็ยังคล้ายไม่ชอบและตัดสินใจจนก่อเกิดขึ้นเป็นทักษะสะสมกระดูกหรือไม่ใช่? และคราวนี้คือเปลี่ยนกระดูกครบทั้ง 208 ชิ้นเลย? เขายอมรับว่าการเปลี่ยนกระดูกหมายถึงค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้อาร์คคล้ายรู้สึกโดนทรยศน้ำใจเข้าอย่างจัง
“ดีมอส ดีแล้วที่แกวิวัฒนาการมาได้… แต่แกเป็นทุกข์มากเสียจนต้องเปลี่ยนกระดูกทั้งหมดเลย?”
“โอ้ ในที่สุดเจ้านายก็ตระหนักได้แล้วหรือขอรับ?”
เดดริคสัมผัสถึงอารมณ์ได้ขณะเข้าไปใกล้เพื่อกระตุ้น
“ข้าบอกเจ้านายแต่แรกแล้วขอรับ ตั้งแต่แรกเลย ไอ้เจ้านี่ไม่ชอบร่างกายเจ้านายอุตส่าห์บากบั่นสร้างขึ้น เพื่อได้รับร่างกายที่แข็งแกร่งมากขึ้น มันถึงกับยอมทำเช่นนี้กับร่างที่เจ้านายช่วยเหลือสร้างขึ้นมา หมอนี่ก็เป็นแบบนี้แหละขอรับ เป็นเด็กไม่ดี! แม้ว่าจะดูภักดีต่อเจ้านายก็จริง แต่เจ้านายจะเชื่อใจอันเดตไม่ได้หรอกนะขอรับ เจ้านายควรทราบว่าพวกมันคิดถึงเพียงแค่กระดูกนะขอรับ”
เดดริคเผยรอยยิ้มขณะพล่ามกล่าวเรื่องไม่ดีทับถมดีมอส
“ข้าก็ไม่อยากกล่าวถึงหรอกนะขอรับ แต่เจ้านายรู้ไหมว่ากี่ครั้งกันที่ข้าได้ยินหมอนี่มันสบถถึงเจ้านาย?”
กรั่ก กรั่ก? กรั่ก กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ดีมอสเร่งร้อนวิ่งพุ่งเข้าใส่เดดริค ทว่าเดดริคคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้วจึงหนีหลบไปที่แผ่นหลังของอาร์ค
“ดูสิขอรับ มันเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว! หมอนี่มันพยายามปกปิดความจริงนะขอรับ! มันบอกว่าเจ้านายเป็นพวกเผด็จการทำเหมือนกับพวกเราเป็นขยะ… แค่ก จะ-เจ้านาย?”
“ไอ้หนู คิดเหรอว่าพูดแค่นี้ก็ได้แล้ว?”
อาร์คคว้าเข้าที่คอของเดดริคที่กำลังกรีดร้องออกมา
“คะ-แค่ก! ทำไมกันล่ะขอรับ? ข้าก็แค่ทวนคำที่เจ้ากระดูกนั่นพูดนะขอรับ!”
“คิดว่าฉันโง่? ถ้าแกต้องการถึงขนาดนั้นฉันจะโยนแกใส่ถังขยะให้ไปเป็นอาหารหมาเอง!”
“เอ่อ? ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะขอรับ?”
เดดริคเริ่มแตกตื่นขณะหลบสายตาของอาร์ค
“อ้าว กลัวอะไรกันล่ะ? ฉันแค่ยกตัวเองให้ฟังเอง”
“โอ้ จริงหรือขอรับ?”
“เจ้านายไม่โกรธใช่ไหมขอรับ? จิตใจของเจ้านายกว้างดั่งทะเลยิ่งนักขอรับ”
“ไม่หรอก ฉันนี่แหละเผด็จการตัวจริงที่ทำกับแกเหมือนขยะเปียกชิ้นหนึ่ง”
“…จะ-เจ้านาย รู้แล้วหรือขอรับ?”
เดดริคเริ่มแสร้งเผยสีหน้าน่าเวทนาออกมา
ทว่า อาร์คเพียงพยักหน้ารับด้วยความเย็นเยียบ
“ฉันรู้ดีกว่าใครเลยแหละ”
“บ้าบอที่สุด! พอข้ามีโอกาสได้พูดทีไรทำไมต้องจบแบบนี้ด้วย!”
เดดริคตัดสินใจนอนนิ่งกับพื้นหลับตาลง คล้ายไม่สนแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เมื่ออาร์คเผยอาการไม่พอใจขึ้น เดดริคจึงใช้โอกาสเข้ายุแหย่ให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างอาร์คและดีมอสโดยทันที แต่แล้วตอนนี้กลับเข้าตัวเสียเอง
ซื่อ ซื่อ ซื่อ ซื่อ! กรั่ก กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ด้วยความที่อาร์คเปรียบเสมือนพ่อ(?)ของราดัน ราดันจึงเกิดอาการโมโหต่อคำพูดของเดดริคขณะเลื้อยเข้าไปเหยียบย่ำ นอกจากนี้ ดีมอสยังจัดการอีกฝ่ายด้วยโล่ปะทะที่เพิ่งเรียนมาได้เมื่อไม่นานนี้ เพราะเหตุนี้ทั้งอาร์คและสมุนปีศาจทั้งสองจึงต่อยตีเดดริคโดยทันทีเมื่ออีกฝ่ายรับกรรมอยู่กับพื้น
“หวา ก็ได้ ข้ามันแย่เอง”
เมื่อเดดริคเมื่อเจอความรุนแรงรุมประชาทัณฑ์จึงเผยใบหน้านองน้ำตาขณะไปนั่งหลบมุมแล้วตะโกนเสียงดังออกมา
“หึ ดีมอส ดีใจสิที่ตบตีข้าได้? พอวิวัฒนาการได้แล้วก็เลยเหิมเกริมขนาดนี้เลยงั้นสิ? รอก่อนเถอะ พวกเราจะได้เห็นดีกันในอนาคต! ฉันจะวิวัฒนาการเป็นสมุนปีศาจที่ดี ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะแกหรือว่าเจ้านายก็จะไม่ทำแบบนี้กับข้า!”
“เกินเยียวยาจริง ๆ …”
อาร์คเผยรอยยิ้มหน่ายใจขณะสั่นศีรษะ ก่อนหน้านี้ความสามารถของเดดริคไม่เคยเป็นรองดีมอสแต่อย่างใด ในเมื่อวิวัฒนาการขึ้นเป็นตัวแรกจึงโดนลงโทษบ่อยกว่าใครเพื่อน จนสุดท้ายแล้วหากนับรวมก็ถือว่าได้กินอาหารเยอะกว่าดีมอสมากโข ที่จริงเดดริคมักเป็นฝ่ายนำหน้าอยู่เสมอ แต่แล้วตอนนี้สถานการณ์พลิกกลับเมื่อดีมอสมีการวิวัฒนาการในขณะที่เดดริคไม่อาจ เดดริคอิจฉาก็ใช่ แต่ก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เพราะงั้นแล้วพฤติกรรมที่แสดงออกจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
“เอาเถอะ ดีมอสวิวัฒนาการได้แล้วก็ดีแล้ว”
อาร์คจ้องมองดีมอส
ในเมื่อเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขากำลังทำความเข้าใจอยู่ ตอนแรกอาร์คคิดว่าการวิวัฒนาการสมุนปีศาจของตนได้นั้นต้องทำผ่านดาบวิเศษ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมบ่อยครั้งเขาจึงเข้าเว็บไซต์ประมูลสินค้าเพื่อซื้อหาดาบวิเศษมาสักเล่ม ถ้าหากเขาสามารถวิวัฒนาการสมุนปีศาจได้ผ่านไอเทมที่ซื้อมาก็นับว่าคุ้มค่า เพราะสมุนปีศาจสำหรับเขาแล้วคือสิ่งสำคัญ อาร์คตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะวิวัฒนาการมันไปเรื่อย ๆ เท่าที่ทำได้
‘แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะวิวัฒนาการโดยวิธีการที่คาดไม่ถึงแบบนี้ก็ได้ด้วย… ก็หมายความว่ามีวิธีการอื่นเพื่อวิวัฒนาการนอกจากดาบวิเศษงั้นสินะ? หรือไม่ก็ต้องวิวัฒนาการผ่านดาบวิเศษก่อนแล้วจึงค่อยวิวัฒนาการอีกครั้งด้วยวิธีการอื่น? แล้วก็น่าจะเป็นไปได้ว่าค่าสถานะ ทักษะ และแนวโน้มของสมุนปีศาจก็มีความเกี่ยวข้องด้วย?’
เรื่องนี้ สำหรับตอนนี้เขาก็ยังไม่มั่นใจเช่นเดียวกัน มันคืออีกข้อด้อยหนึ่งของอาชีพลับ อาชีพลับนั้นแตกต่างจากสายอาชีพอื่น ข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาชีพคือสิ่งไม่รู้และต้องสำรวจตรวจพบด้วยมือของตัวเอง อาร์คไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเล่นเกมไปด้วยและเรียนรู้มันไปด้วย เรื่องสมุนปีศาจของเขา ก็เป็นเขาต้องศึกษาและทดลองด้วยตัวเอง แน่นอน นิวเวิลด์มีอาชีพอื่นที่มีความสามารถในการอัญเชิญเช่นเดียวกัน อาชีพหลักสายนี้ก็คือพวกเนโครแมนเซอร์หรือไม่ก็ชาแมน ในตอนแรกอาร์คก็ไปตรวจสอบข้อมูลของสองอาชีพดังกล่าวมาเช่นเดียวกัน
แต่แล้วอาชีพทั้งสองนั้นกลับมีสมุนอัญเชิญที่แตกต่างจากอาร์คอย่างแทบจะสิ้นเชิง อย่างพวกเนโครแมนเซอร์นั้นสามารถเรียกออกมาเป็นจำนวนมากได้ในครั้งเดียว และจะมีระยะเวลาคงอยู่ก่อนที่จะหายไป แนวคิดเรื่องวิวัฒนาการสมุนอัญเชิญให้เติบโตนั้นไม่เคยมีกับอาชีพนี้ หากต้องการให้สมุนอัญเชิญแข็งแกร่งขึ้นคือเพิ่มค่าสถานะและทักษะ
และทางด้านชาแมน พวกเขาก็คล้ายกับอาร์ค แต่จะเป็นการอัญเชิญจิตวิญญาณออกมา ทว่าจิตวิญญาณเติบโตขึ้นตามทักษะที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นอย่างเข้าใจได้ง่าย หรือก็คือ ถ้าทักษะอัญเชิญของชาแมนเลื่อนขึ้นเป็นระดับกลาง จิตวิญญาณที่พวกเขาเรียกมาก็เป็นระดับกลางเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วข้อมูลของทั้งเนโครแมนเซอร์และชาแมนจึงไม่มีประโยชน์ใดกับอาร์คเลยสักนิด อย่างไรแล้วสายอาชีพของอาร์คก็ไม่ได้มีจำกัดเพียงแค่ต้องสนใจแต่สมุนอัญเชิญ เป็นผู้เดินทางแห่งความมืดนั้นแสนซับซ้อน มีทั้งความสามารถของตัวเองและสมุนปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่แล้วไม่ช้าเขาก็ได้ทราบกับตัวเองว่าเรื่องนี้ก็มีดีอยู่บ้าง
‘ถือว่าคิดถูกที่เราสอนสมุนปีศาจให้ฝึกการต่อสู้…’
กรณีนี้ค่อนข้างไม่ปกติ ทั้งเนโครแมนเซอร์และชาแมน สิ่งที่ถูกอัญเชิญออกมาจะไม่มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง หากเจ้านายไม่ออกคำสั่ง พวกมันก็จะไม่เคลื่อนไหวแม้สักนิด เมื่อใดที่ค่าสถานะของพวกมันสูงขึ้น พวกมันก็พอที่จะเรียนรู้รูปแบบง่าย ๆ ได้อยู่บ้าง แต่พวกมันไม่อาจเข้าร่วมการศึกได้ด้วยตัวเองเหมือนดั่งดีมอสและเดดริค นอกจากนี้ อาหารยังไม่ช่วยให้พวกมันเพิ่มค่าสถานะขึ้นได้แต่อย่างใด
‘ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เราได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น’
อาร์คหัวเราะขณะมองเดดริคที่ยังบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุด ช่างเป็นสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย ตอนแรกที่เขาคิดว่าความวุ่นวายค่อนข้างน่ารำคาญ แต่ตอนนี้เขาไม่อาจคิดได้เลยว่าหากเล่นนิวเวิลด์ต่อไปโดยปราศจากสมุนปีศาจจะเป็นอย่างไร เขาใช้เวลาทั้งวันและคืนเล่นเกมฉายเดี่ยวได้ก็เพราะสมุนปีศาจพวกนี้ที่อยู่ร่วมมาโดยตลอด
‘อา นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้สักหน่อย’
เขาวอกแวกไปเพราะเดดริค อาร์คพลันส่ายศีรษะก่อนที่จะมองหน้าต่างข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง คำถามเรื่องการวิวัฒนาการยังคงค้างคาอยู่ตรงหน้าของเขา
“ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดขึ้นได้ยังไง แต่วิวัฒนาการแล้วก็ดีแล้ว!”