เล่ม 10 ตอนที่ 2 : ลวงหลอก (1)
กูรัน โบนา ลาริเอ็ตเต้ และบุคซิลต่างรวมตัวกันอยู่ที่ชั้นสอง กูรันและโบนากำลังพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ ขณะที่บุคซิลกำลังรับชมภาพที่ถ่ายทำผ่านกล้องวิเศษ ทางด้านลาริเอ็ตเต้ยังคงง่วนอยู่กับการพิจารณาทักษะที่เพิ่งได้รับผ่านหน้าต่างข้อมูล
“อาร์คนิม เสร็จธุระแล้ว?”
กูรันลุกขึ้นยืนเมื่ออาร์คเดินกลับมา
“ครับ เรียบร้อยแล้ว”
“ต้องขอขอบคุณอีกครั้ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะอาร์คนิม… โบนานิมก็คง…”
เมื่อกูรันมองมา โบนาจึงเร่งร้อนโค้งศีรษะให้โดยทันที
“…ขอบคุณที่ช่วยเหลือครับ”
แม้เขาจะไม่เคยสังเกตมาก่อน แต่ทว่าโบนานั้นเป็นเด็กชายที่ค่อนข้างน่ารักคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อสวมใส่หมวกสีขาว ช่างดูแล้วคล้ายสเมิร์ฟน้อยผู้น่ารักจริง ๆ
“ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?”
“ครับ”
“เท่านั้นก็ดีแล้ว ฉันดีใจนะที่นายปลอดภัยดี”
อาร์คเผยท่าทีจริงใจขณะเข้าไปลูบศีรษะโบนา เดดริคที่มองอยู่ห่าง ๆ แทบอาเจียนออกเพราะคำพูดของอาร์ค แต่คราวนี้เป็นอาร์คจริงใจ 100% ไม่ได้เสแสร้งแกล้งเดดริค ในเมื่อโบนาปลอดภัยดี แบบนั้นแล้วอาร์คก็จะได้รับรางวัลของภารกิจระดับ B
‘หึหึหึ จะได้ไอเทมอะไรจากสเมิร์ฟพวกนี้กันนะ’
อาร์คแทบน้ำลายไหลขณะมองโบนา ทว่าโบนาไม่ทราบความรู้สึกภายในใจแท้จริงของอาร์คจึงเผยอาการหน้าแดงออกมาจนแทบเข้าใจผิดได้ว่าเป็นชาวนาคูจักเสียแทน
“ผะ… ผม… ผมจะเป็นสุดยอดนักรบอย่างพี่ชาย สักวันผมจะนำพาชนเผ่าของผมโค่นล้มชาวนาคูจักเอง”
อาร์คหาได้สนใจเรื่องนั้น ที่ทำดีกับเอ็นพีซีก็เพราะอาร์คมีเบื้องหลัง อาร์คเพียงพยักหน้ารับราวกับชื่นชมคำพูดของโบนา
“ดี ถ้าแบบนั้นจงภาคภูมิเข้าไว้ เมื่อไหร่ที่นายได้เป็นสุดยอดนักรบเมื่อนั้นจะได้ออกล่าเผ่านาคูจัก แต่พวกเราควรกลับไปให้ปู่ของนายสบายใจก่อนจะดีกว่าจริงไหม?”
“ครับ!”
โบนาพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้นยินดีขณะสวมกอดกูรันเอาไว้แน่น
“ไปกัน ออกจากที่นี่กันเถอะ”
“ได้ ทางนี้ก็พร้อมแล้ว”
บุคซิลที่จัดการกล้องวิเศษเรียบร้อยจึงลุกขึ้นยืน ทว่า ลาริเอ็ตเต้ยังคงรับชมหน้าต่างทักษะอยู่โดยไม่ได้ยินได้ฟังเสียงของอาร์คแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้เธอเป็นนักเวทมาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับต้องเปลี่ยนเป็นอัศวินพิสุทธิ์ เวทมนตร์ทั้งหมดที่เคยมีถูกลบหายจนเกลี้ยง และมีทักษะใหม่เข้ามาแทนที่ และเธอยังได้รับแต้มทักษะเป็นจำนวน 50% ของที่เคยมีกลับคืนมา เพราะแบบนั้นเธอจึงแทบไม่สนใจสภาพรอบด้านเลยสักนิด อาร์คก็ทราบเรื่องราวดีแต่ก็ไม่อาจรอเธอได้
“ลาริเอ็ตเต้นิม?”
อาร์คเข้าไปใกล้ลาริเอ็ตเต้จนกระทั่งเธอสะดุ้งตื่นตกใจ
“เอ่อ อาร์คนิม”
“ยังจัดการทักษะไม่เสร็จเหรอครับ?”
“คงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อตรวจสอบทุกทักษะให้ถี่ถ้วนก่อน แต่สำหรับตอนนี้ถือว่าเรียบร้อยระดับหนึ่งแล้วค่ะ”
ลาริเอ็ตเต้ยิ้มขณะตอบรับคำ
อาร์คก็ไร้คำพูดไปครู่หนึ่ง เป็นเขาวุ่นวายต่อสู้กับบอสโดยไม่สนใจอื่นใด ทว่าพอได้มองดูอีกทีแล้ว ลาริเอ็ตเต้นับว่างดงามนัก แน่นอน หญิงสาวทุกคนในนิวเวิลด์ย่อมยกระดับความงามให้มีเพิ่มมากขึ้น โรโค่เองก็ปรับแต่งตัวละครเช่นเดียวกัน แต่อาร์คก็ทราบดี ลาริเอ็ตเต้ไม่เหมือนผู้เล่นคนอื่น ระหว่างตัวจริงกับในเกมแทบไม่มีความแตกต่างที่เด่นชัดนัก… คนอื่นอาจไม่ทราบ แต่อาร์คทราบดีว่าความงามของเธอนั้นพิเศษเพียงใด
‘นี่พวกเราจะได้อยู่ร่วมกันนับแต่นี้จริงเหรอเนี่ย?’
กระทั่งว่าอาร์คเอ่ยคำสัญญาว่าจะเดินทางร่วมกับเธอไปแล้ว เขาก็ยังคงไม่เชื่อตัวเองอยู่ดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง เขาเป็นพวกชอบทำภารกิจให้สำเร็จและโค่นล้มบอสให้ได้ก็จริง ทว่าอย่างไรแล้วอาร์คก็ยังคงเป็นชายหนุ่มสุขภาพดีแห่งเกาหลีใต้ เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่คิดสานสัมพันธ์กับหญิงงามเช่นนี้ ไม่สิ นั่นเป็นความฝันสำหรับเขาตั้งแต่แรกพบเธอที่แจ๊คสันแล้วต่างหาก กระทั่งว่าได้กลายเป็นเรื่องจริงแบบนี้ มันเหมือนกันฝันไป หัวใจของเขาตอนนี้คล้ายโดนทิ่มแทง
‘แปลกมาก ทำไมเราถึงมีความรู้สึกแบบนี้ตอนอยู่ใกล้เธอกัน?’
แม้จะมีคำถามนี้ผุดขึ้นมา แต่ความรู้สึกนั้นค่อนข้างชัดเจน กว่า 99% ของสมองเขาคือการหาเงินเพราะงั้นแล้วเขาจึงไม่คิดหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างน้อยโลกใบนี้ก็ยังมีอะไรยุติธรรมอยู่บ้าง ถ้าหากใครสักคนที่เก่งเกินไปสักด้านหนึ่ง พวกเขาก็ย่อมต้องมีด้านหนึ่งที่โง่เกินไปเช่นเดียวกัน
‘แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวกับลาริเอ็ตเต้นิมยังไงดี’
อาร์คกำลังเป็นกังวลเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์อยู่ร่วมกับหญิงสาวมาก่อน
‘ไว้ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน’
อาร์คปล่อยวางเรื่องนี้เอาไว้ก่อนขณะหันกลับไปหาเธอ
“เอ่อ… อาชีพใหม่ของลาริเอ็ตเต้นิมเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ตอนนี้ยังไม่มั่นใจเหมือนกันค่ะ โชคยังดีที่ดูเหมือนจะไม่แตกต่างไปจากอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของอลันสักเท่าไหร่ ทักษะส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์นะคะ เอ่อ…”
ลาริเอ็ตเต้พลันชะงักริมฝีปากขณะมองหน้าอาร์ค
อาร์คก็สับสนกับท่าทีของเธอก่อนที่จะเข้าใจและส่ายศีรษะให้
“ไม่ต้องห่วงครับ ความขัดแย้งระหว่างผมกลับอลันจัดการเรียบร้อยแล้ว”
และนั่นคือความจริง เขาฆ่าอลันไปจนพึงพอใจแล้ว และเขายังได้รับกลับคืนมาไม่น้อยจึงไม่คิดหยิบยกเรื่องหมอนั่นมาใส่ใจอีก แม้ว่าอลันจะยังคงมีความขัดแย้งต่ออาร์ค… ไม่สิ มันต้องมี 100% เลยแหละ แต่อาร์คไม่ได้รู้สึกติดค้างหนี้ความแค้นอะไรกับอลันอีกต่อไปแล้ว
ใช่ หลังเรื่องราวเสร็จสิ้นอาร์คก็กลายเป็นคนเรียบง่ายไม่คิดไปก่อร่างสร้างความขัดแย้งกับคนอื่นอีกแล้ว
‘อลันตอนนี้ก็อยู่ในคุก กระทั่งขยับกล้ามเนื้อสักนิดยังไม่ได้ คงต้องรออีกเป็นเดือนเลยทีเดียว เมื่อนั้นระหว่างพวกเราก็เกิดช่องว่างขนาดมหึมาขึ้นแล้ว หึหึหึ นับว่าเป็นอะไรที่วิเศษ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเก็บไอ้หมอนั่นมาใส่ใจอีก’
เกมออนไลน์คือการแข่งขันไร้ที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเลเวลสูงเพียงใด หากหย่อนยานการเล่นก็จะต้องมีผู้อื่นที่ไล่กระชั้นชิดติดตามได้ทัน และครั้งนี้ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองวันที่เป็นระยะห่าง แต่เป็นทั้งเดือนที่ได้แต่อยู่ในคุก มีเพียงเท่านั้นหรือ? แม้ว่าอาร์คจะโง่เรื่องผู้หญิง แต่เรื่องเกมนี้เขารู้เห็นชัดเจนยิ่งกว่าใคร จากบทสนทนาระหว่างโรเนียนและลาริเอ็ตเต้ บทลงโทษสำหรับอาชีพอัศวินศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มีเช่นกัน หนึ่งเดือนในคุกและยังมีบทลงโทษของอาชีพ! โดยสรุปแล้วอลันย่อมต้องถึงจุดจบแล้ว ให้ความสำคัญกับคนแบบนั้นไปออกจะไร้สาระและเสียเวลาชีวิตเกินไป ทว่าในเรื่องนี้ลาริเอ็ตเต้ไม่มีทางรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง
‘ก็พอรู้อยู่บ้างว่าอาร์คนิมโดนอลันเล่นงานไปเยอะ… แต่น่าประหลาดใจจริง ๆ ที่อาร์คนิมยอมปล่อยวางความขัดแย้งลงได้’
ที่จริง… นับว่าเป็นความคิดที่เข้าใจผิดไปไกลมาก ลาริเอ็ตเต้ตอนนี้เผยท่าทีเคารพนับถือเขาอย่างจริงจังเลยทีเดียว
‘อะไรกัน? ทำไมเธอถึงมองเราแบบนั้นกันล่ะ?’
อาร์คเริ่มสับสนเพราะสีหน้าที่เธอแสดงออก
“…ใช่จริงด้วย ข้าจำได้ขอรับ! แม่นี่เป็นผู้หญิงที่อยู่กับอลัน!”
เดดริคพลันตะโกนขึ้นหลังจ้องมองลาริเอ็ตเต้พักหนึ่ง
“ต่อให้เจ้านายโง่เง่าขนาดไหนแต่ดวงตาของข้าไม่มืดบอดแน่ นี่เรื่องอะไรกัน? ทำไมถึงพยายามตีสนิทเจ้านาย? คิดวางแผนชั่วร้ายอะไร หรือได้รับคำสั่งมาจากอลัน!”
กรั่ก กรั่ก? กรั่ก กรั่ก กรั่ก!
ซื่อ ซื่อ ซื่อ ซื่อ!
ราซาคและราดันเองก็มองเธอด้วยสายตาคล้ายบ่งบอกคำเดียวกันกับเดดริค ลาริเอ็ตเต้ถึงกับมึนงงไปวูบไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสมุนปีศาจของอาร์คที่จู่ ๆ ก็ระแวดระวังเธอ ขณะนั้นเอง เดดริคพลันเข้าไปใกล้อาร์คและเริ่มเป่าหู
“เจ้านายไม่รู้ตัวหรือขอรับ? ดูสิ แม่นางคนนี้กำลังยั่วยวน! เมื่อครั้งที่เปิดศึกบุกโจมตี เป็นเธอที่ใช้งานเวทมนตร์เมื่อตอนนั้น!”
อาร์คตอบสนองด้วยการปิดปากของเดดริคเสีย ทว่าคำพูดเหล่านั้นก็พูดออกมาแล้ว ลาริเอ็ตเต้เริ่มสีหน้าซีดเผือดตั้งแต่แรกที่ได้ยินคำเหล่านั้น กูรัน โบนา และบุคซิลเองก็ไม่เข้าใจเรื่องราวว่าเป็นมายังไงจึงเผยสีหน้ากระอักกระอ่วน ขณะนั้นเอง เดดริคผู้ซึ่งไม่เข้าใจเรื่องราวพลันผลักมือที่ปิดปากออกและเริ่มพูดต่ออีกครั้ง
“นี่เจ้านายขอรับ! ทำไมไม่ให้ข้าพูดกันล่ะ? ไม่เข้าใจหรือขอรับ? ข้าบอกว่า…”
“หุบปากแล้วเงียบโอเคไหม?”
อาร์คเอ่ยเสียงเบาด้วยสายตาฆ่าฟัน เหมือนอย่างเคย เดดริคเลือกที่จะหุบปากลง
“ผมต้องขออภัยด้วยนะครับที่มันพูดจาอะไรแบบนั้นไป…”
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ”
ลาริเอ็ตเต้เผยรอยยิ้มเก้กังใบด้วยหน้าแข็งค้าง อาร์คก็เงียบไปครู่ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ เอาเป็นว่าเรากลับหมู่บ้านในหุบเขาก่อนแล้วกันนะครับ”
“ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ ยังไงฉันก็ตามอาร์คนิมไปอยู่แล้ว”
โชคยังดี ที่คำหยาบคายของเดดริคไม่ได้ทำให้เธอเปลี่ยนใจเรื่องร่วมเดินทางไปด้วย
“…ครับ งั้นไปกันเลย”
“ค่ะ”
ด้วยเหตุนี้ อาร์คจึงออกนำคณะเดินกลับขึ้นบันไดไปชั้นบน ทว่าบรรยากาศก็ออกจะค่อนข้างตึงเครียดไปนิดไม่เหมือนก่อนหน้า โดยไม่ต้องพูดกล่าว ที่บรรยากาศมันย่ำแย่ลงถึง -100 ก็เพราะคำพูดของเดดริค
‘บ้าบอที่สุด บรรยากาศกำลังดีอยู่แล้วเชียว เป็นเพราะมันแท้ ๆ เลย…’
อาร์คจ้องมองเดดริค เดดริคก็ดูไปแล้วคล้ายยังไม่ตระหนักได้ว่าทำอะไรผิดไปถึงเผยสีหน้าคล้ายถาม ‘ข้าทำอะไรผิดหรือขอรับ?’ นั่นจึงยิ่งทำให้เดดริคมีท่าทีแย่ยิ่งกว่าเดิม ทว่าก็คล้ายสัมผัสอะไรได้จึงเงียบปากไว้หลังรับรู้ถึงอารมณ์ของอาร์ค ขณะนั้นเองบุคซิลพลันเข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง
“อาร์คนิม ฉากแบบนี้ดูแล้วอาจจะคุ้มค่าเกินกว่าที่คิดนะครับ”
“หมายความว่ายังไง?”
“จะมีเรื่องอื่น? ก็นักรบผู้กล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตกระโดดลงไปท่ามกลางดงศัตรูเพื่อช่วยเหลือแฟนสาวที่โดนจับตัวยังไงล่ะ! ฉากอลังการแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะถ่ายมาได้ง่ายเลยนะครับเนี่ย”
เหมือนเขาฟังอะไรผิดไป? อาร์คครุ่นคิดไปวูบกับคำพูดเหล่านั้นและคล้ายพลันโดนกระบองฟาดใส่