Ark The Legend – ตอนที่ 296

เล่ม 10 ตอนที่ 4 : งานพิเศษที่หมู่บ้านในหุบเขา (2)

 

“ว่าแต่ เรื่องข้อมูลที่ผมอยากให้ช่วยตรวจสอบ…”

“โอ้ เรื่องของคนที่ชื่อมากาโรนั่นน่ะหรือ?”

บุคซิลพลันกระโดดผึงเมื่อได้ยินชื่อมากาโร ทว่า อาร์คแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นขณะเอ่ยคำถัดไป

“ใช่ครับ ได้เรื่องอะไรบ้างไหม?”

“ต้องขออภัย ข้าเป็นกังวลเรื่องโบนามากจนเกินไปเลยยังไม่ได้ตรวจสอบอะไรให้”

เบซอทิวพลันชี้มือไปยังกองม้วนคัมภีร์ขนาดใหญ่

“ตั้งแต่ตอนนี้ข้าจะเริ่มตรวจสอบให้ แต่สิ่งที่เจ้าเห็นตรงหน้านี้คือบันทึกเรื่องราวตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ถ้าหากมีอะไรบางสิ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พิเศษ แบบนั้นน่าจะช่วยให้คัดแยกออกมาได้ และข้าจะได้หาเจอได้เร็วขึ้น แต่การจะค้นหาโดยอาศัยเพียงแค่ชื่อออกจะเป็นเรื่องยาก น่าจะต้องใช้เวลาสักสามวันได้”

‘สามวัน… ให้รอก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่…’

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจีเวลต้องอัพเดทจุดเกิดใหม่เป็นสถานที่แห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ก็ผ่านไปแล้วสิบเอ็ดชั่วโมงนับตั้งแต่ที่พวกนั้นตายในหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง เพราะงั้นยังคงมีเวลาเหลืออีกกว่าสิบสามชั่วโมงกว่าจะฟื้นคืนชีพกลับมา ทว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงในความเป็นจริงเท่ากับสามวันในเกม ท้ายที่สุดยังไงจีเวลก็ต้องฟื้นคืนชีพกลับมาที่นี่ อาร์คจึงเป็นกังวลว่าจะทำอย่างไรดีก่อนที่จะนึกวิธีการบางอย่างขึ้นมาได้

“เข้าใจแล้วครับ สามวันนะครับ แต่ผมมีคำขออย่างหนึ่ง”

“คำขอหรือ? อะไรกันล่ะ? บอกมาได้เลย”

ค่าความสัมพันธ์ของเขากับเบซอทิวนับว่าเพิ่มขึ้นมากจากการช่วยเหลือโบนา อีกฝ่ายพลันยิ้มขณะพยักหน้ารับคำขอของอาร์ค

“ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เข้าใจแล้ว สองวันหลังจากนี้สินะ? ข้าจะจัดการให้”

“แล้วก็มีบางเรื่องที่ผมอยากให้ตรวจสอบด้วย”

อาร์คอธิบายโดยสรุปออกไปถึงชายสีแดงที่ปรากฏขึ้นหลังปราบทามูระลงได้

“ชายผมสีแดงที่สวมใส่หน้ากากสีขาว แถมยังข้ามมาที่โลกใต้พิภพจากโลกกลาง เป็นไปได้สูงว่าจะเข้ามายังโลกใต้พิภพก่อนหน้านี้ครับ อย่างไรแล้วถ้าเป็นไปได้ช่วยสืบค้นเรื่องของชายคนนั้นให้ด้วย”

อีกฝ่ายเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โลกบาดาล เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องผ่านโลกกลางก่อนจึงค่อยมายังโลกแห่งนี้ ถ้าหากอีกฝ่ายเข้ามายังโลกใต้พิภพทันทีหลังจากนั้นก็หมายความว่าน่าจะเป็นช่วงหลายเดือนก่อน อาร์คคิดว่าชายสีแดงคนนั้นคือกุญแจการผ่านทดสอบเข้าทำงาน และอีกฝ่ายต้องมีแรงจูงใจบางอย่างเพราะหนีไปทั้งที่ยังไม่ทำอะไร เขาจำเป็นต้องคอยสืบหาข้อมูลเรื่องชายคนนั้นระหว่างที่ทำภารกิจของมากาโรไปด้วย

“เข้าใจแล้ว อย่าได้ห่วง ไปพักผ่อนให้สบายเถอะ”

เบซอทิวยกแขนขึ้นขณะเริ่มขุดคุ้ยกองม้วนคัมภีร์ หลังดูเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง อาร์คจึงออกไปด้านนอก

“อาร์คนิมจะรออยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับข้อมูลใช่ไหมคะ? ฉันคิดว่าจะออกจากเกมไปสักพักหนึ่ง เพราะเรื่องการบินเมื่อครู่นี้…”

ลาริเอ็ตเต้กล่าวออกด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“ใช่ครับ ไว้พรุ่งนี้ค่อยเข้าเกมมาก็ได้”

“ผมก็ด้วย… นี่ก็เล่นเกมมาเกินสิบห้าชั่วโมงจนแทบจะหลับอยู่แล้ว…”

บุคซิลอยู่โยงทั้งคืนเพื่อตามติดอาร์ค เพราะงั้นตอนนี้จึงคิดไปพักบ้างเช่นกัน

“หลังจากนี้ทำอะไรดีนะ?”

อาร์คพูดคุยกับตัวเองขณะเดินทอดน่องผ่านถนนในหมู่บ้าน เขาอยู่ทั้งคืนจนถึงเช้าในโลกความเป็นจริงจนชินแล้ว ตามปกติแล้วตอนนี้สมควรเป็นเวลาที่ต้องไปยิม ทว่าเมื่อวานอาร์คได้รับสายโทรศัพท์แจ้งเรื่องเหนือความคาดคิดจากลีมย็องลง

“ฮยอนอู ช่วงนี้ฉันคงไม่เข้ายิมหลายวันนะเพราะมีหลายเรื่อง ก็ ช่วงนี้ไม่ต้องมายิมจนกว่าฉันจะติดต่อไปแล้วกัน อย่าไปเดินเล่นที่ไหนแล้วก็หมั่นออกกำลังกายด้วย ไว้อีกหลายเดือนให้หลังตอนกลับมาค่อยรื้อฟื้นกัน อย่าได้เข้าใกล้ยิม เข้าใจไหม?”

สำนักงานตำรวจได้แพร่ข่าวลือไปทั่วแล้ว ว่าลีมย็องลงโดนย้ายไปหน่วยตอบโต้อาชญากรรมพิเศษ ลีมย็องลงไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูฮยอนอูจากในยิม เพราะเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งเวลาปลุก เวลานอน หรือว่าเวลาที่ต้องไปออกกำลังกายอีกแต่อย่างใด

‘จะรอเฉย ๆ ก็ไม่ดี… จะไปนอนดีหรือว่าจะออกไปล่าแถวนี้ดี? โอ้ ก่อนหน้านั้น…’

อาร์คนำแหวนของราลูกันออกจากกระเป๋า เขาไม่ได้สวมใส่มันตอนลาริเอ็ตเต้ยังอยู่ อาร์คครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะถอดเนตรแห่งจิตออก

‘เนตรแห่งจิต’ เป็นแหวนหายาก แต่ก็มีเพียงแค่ทักษะที่ให้ใช้งานไม่มีออพชั่นอื่น อีกวงหนึ่ง ‘ปลุกวิญญาณ’ นั้นช่วยเพิ่มค่าพละกำลังและอัตราการฟื้นฟูพลังมานาให้ มันเป็นแหวนวิเศษก็จริงแต่การใช้งานค่อนข้างดีกว่า

‘จะยังไงเราก็ไม่ค่อยได้ใช้เนตรแห่งจิตบ่อยอยู่แล้ว เอาไว้สวมมันตอนที่จำเป็นต้องใช้ก็แล้วกัน’

ด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี อาร์คถอดแหวนเดิมออกจากนิ้ว และขณะที่เขากำลังจะสวมใส่อีกวงเข้ากับนิ้วนั้นเอง…!

“อาร์คนิม!”

อาร์คที่ได้ยินเสียงอย่างกะทันหันจากทางด้านหลังถึงกับทำแหวนหล่นกับพื้น

“เฮือก แหวนล่ะ! แหวนอยู่ไหน! โอ้ตรงนี้เอง แหวนที่รัก!”

อาร์คถึงกับกรีดร้องขณะควานหาแหวนกับพื้นและคว้าเอาไว้แน่น เขามองด้วยความหิวกระหายราวคนจรจัดอดอยากมาสามวันกำลังจ้องมองก้อนขนมปังเก่า ๆ นับว่าเป็นการกระทำตามสัญชาตญาณ เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเขาจึงตระหนักได้ว่าเป็นโบนาที่ตามเขามา

“แค่ก แค่ก แค่ก พื้นดินแถวนี้ไม่เลวเลย”

“ชอบแหวนวงนั้นไหมครับ?”

โบนากล่าวถามขึ้นขณะอาร์คยิ้มเก้กังตอบกลับ ใบหน้าของอาร์คแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำขณะมองโบนาด้วยใบหน้าเป็นมิตร

“อา… ในฐานะเบอร์สองแล้ว ข้าอับอายยิ่งนัก”

เดดริคถอนหายใจออกมา

อาร์คเริ่มยิ้มกระอักกระอ่วนขณะพยักหน้ารับ

“ดีมาก ก็นะ…”

“อาร์คนิมตามมาทางนี้หน่อยครับ ผมจะพาเดินเล่นรอบหมู่บ้านเอง”

“เดินชมหมู่บ้าน?”

อาร์คเผยสีหน้าไม่สู้ดีนัก อาร์คอย่างไรก็เป็นมนุษย์ จะมีใครกันที่เล่นเกมตลอดยี่สิบชั่วโมงได้โดยไม่เหนื่อยบ้าง? แต่ตอนนี้เขากลับต้องไปเดินชมหมู่บ้านแทนที่การออกไปล่าเก็บเกี่ยวเนี่ยนะ? แต่โบนากลับคว้าแขนของอาร์คเอาไว้แล้วขณะฉุดกระชากลากให้ตามไป อาร์คก็ไม่กล้าปฏิเสธโบนาเพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ตัวเองต่ออีกฝ่ายแย่ลง เขาจึงคิดว่ามันคงไม่ใช่ทางเลือกที่แย่อะไรเลยตามไป

‘หือ? มีอะไรอย่างนี้ในหมู่บ้านนี้ด้วยเหรอเนี่ย?’

ที่จริงอาร์คยังสำรวจหมู่บ้านแห่งนี้ได้ไม่ถึงครึ่งเลย

“นี่คือสถานที่สกัดยางไม้ เป็นเพราะมีต้นไม้ซึ่งมีผลิตผลพิเศษอยู่ในป่าใกล้ที่นี่ พวกเราจึงแยกยางไม้ออก สกัดมัน และค่อยส่งต่อไปยังหมู่บ้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเรา นอกจากนี้ พวกเรายังมีพืชพรรณอีกหลายอย่างในพื้นที่เพาะปลูกด้วย”

โบนาเริ่มแนะนำโรงงานทั้งหลายในหมู่บ้านซึ่งเขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ในเมื่อนี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่หมู่บ้านจัดทำขึ้น คนนอกจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม อย่างไรแล้วเขากลับสามารถเข้าชมได้เมื่อโบนาเดินไปด้วย หลังการเดินชมรอบแล้ว อาร์คจึงมีมุมมองต่อชาวมิวทัลเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชาวมิวทัล… ไม่สิ เผ่าบารันนั้นไม่ได้เจริญอย่างที่อาร์คคิด ยางไม้อุมม่าและผลนาดิงกะที่อาร์คซื้อหาจากร้านนั้นเป็นไอเทมซึ่งผลิตขึ้นในหมู่บ้าน ในเมื่อผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนกับเผ่าอื่น พวกเขาจึงมีพวกมันเหลือใช้เพียงแค่น้อยนิด

‘เป็นเพราะการซื้อขายเป็นไปอย่างจำกัดแบบนี้เงินเลยไม่จำเป็น?’

ถ้าหากใครสักคนต้องการซื้อขายไอเทมหลายอย่างจากหลายสถานที่ แบบนั้นแล้วจึงค่อยเป็นที่มาของเงินตรา ทว่า ถ้าหากการซื้อขายถูกจำกัดเอาไว้เพียงแค่ชนเผ่า การแลกเปลี่ยนก็จะเป็นไปแบบหนึ่งต่อหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าไม่มีเหตุผลต้องเกิดเงินตรา

‘พวกเขาไม่ได้มีปัญหากับผลิตภัณฑ์ ทว่าพวกเขาไม่มีวิธีการทำให้วงจรการผลิตเกิดขึ้นเป็นระบบใหญ่ นั่นจึงทำให้ระบบหมุนเวียนไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้น ถ้าหากพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระเหมือนอย่างโลกกลางได้ แบบนั้นผลกำไรของพวกเขาอาจจะพัฒนาขึ้นอย่างมหาศาล…’

อาร์คเริ่มเชื่อมโยงทุกสิ่งอย่างเพื่อนำพามาซึ่งเงิน และแน่นอนว่าที่แห่งนี้มันมีวัตถุดิบมากมายกระจายตัวอยู่รอบซึ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินทองได้ ชาวบารันนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่หมู่บ้านในหุบเขา แต่ยังมีพวกเขาเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในพื้นที่อื่นอีกมาก ถ้าหากเขาสามารถเป็นตัวกลางระหว่างหมู่บ้านที่สร้างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ หรือหากเขาสร้างเงินตราเพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างชาวมิวทิลได้ แบบนั้นแล้วค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น ก็จะเป็นเขาสามารถเก็บรวบรวมมาได้ มันอาจจะมากกว่าตอนเขาได้รับปราสาทสักสามหรือสี่เท่าเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นเป็นเพียงแค่ในกรณีที่เขาสามารถเดินทางไปมาอย่างอิสระระหว่างโลกกลางและโลกใต้พิภพได้ ในเมื่อตอนนี้เขาต้องติดแหงกอยู่ในโลกใต้พิภพ เขาจึงตัดสินใจว่าเรื่องนี้ไว้ค่อยคิดทีหลังน่าจะดีกว่า

‘ก็นะ ตอนนี้เรื่องนี้ยังทำไม่ได้ ตอนนี้เอาดีเรื่องยึดครองดันเจี้ยนกับภารกิจก่อนจะดีกว่า’

“ตรงนี้เป็นบ้านพักมอนสเตอร์”

โบนากล่าวแนะนำกับอาร์คขณะเดินไปยังถ้ำแห่งหนึ่ง

ที่จริง จุดเด่นที่สุดของหมู่บ้านแห่งนี้คือการฝึกสอนมอนสเตอร์นี่แหละ

“อา อาร์คนิม มาเดินเล่นเหรอครับ?”

กูรันพลันโบกมือให้จากภายในถ้ำดังกล่าว

“กูรันคอยช่วยดูแลปลากระเบนบินได้ให้คุณปู่น่ะครับ”

“นั่นแทบจะเป็นงานหลักเลยทีเดียว”

กูรันหัวเราะขณะพยักหน้าให้

“มีมอนสเตอร์อยู่เยอะจริง ๆ”

“ถูกต้อง พวกเรามีผู้ฝึกสอนกว่ายี่สิบคนรวมอาจารย์ด้วย ผู้ฝึกสอนแต่ละคนจะรับผิดชอบมอนสเตอร์ประมาณสิบตัว นั่นจึงทำให้รวมกันแล้วมีกว่าสองร้อยตัวเลยทีเดียว”

“ให้จัดการเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสินะครับ”

“แต่ถ้าหากไม่มีมอนสเตอร์พวกนี้ พวกเราก็ไม่อาจที่จะอยู่รอดในสถานที่แบบนี้ได้”

กูรันมองมอนสเตอร์เหล่านี้ด้วยดวงตาภาคภูมิ แน่นอน การฝึกสอนมอนสเตอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจ

“เจ้าคงได้เห็นแล้ว พวกเราใช้ปลากระเบนบินได้เพื่อไปหมู่บ้านแห่งอื่น มอนสเตอร์พวกนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก”

กูรันเริ่มอธิบายวิธีการที่ชาวบารันใช้งานมอนสเตอร์เหล่านี้ พวกพรีเดเตอร์ที่อาร์คจัดการไประหว่างข้ามทุ่งรกร้างก็มีนำมาใช้เป็นมอนสเตอร์ปฏิบัติการเช่นกัน มอนสเตอร์เหล่านี้จะถูกนับเป็นพวกหนอนชนิดหนึ่ง สิ่งปฏิกูลของพวกมันนับเป็นปุ๋ยที่ดีสำหรับพืชพรรณ พรีเดเตอร์จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวบารันจึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตในท้องทุ่งได้ดี นอกจากนี้ ยังมีมอนสเตอร์ชื่อว่าเฮลฮาวน์ที่ทำหน้าที่เหมือนสุนัขเฝ้ายามคอยคุ้มกันหมู่บ้าน ในเมื่อชาวบารันมีความสามารถทางการต่อสู้ต่ำ เฮลฮาวน์จึงกลายเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงอยู่รอดจากการโจมตีของมอนสเตอร์อื่นได้

“ความสัมพันธ์ระหว่างชาวบารันกับมอนสเตอร์เหล่านี้แทบไม่อาจแยกห่างกันได้”

ทว่าอาร์คกลับเต็มไปด้วยแนวคิดมากมายระหว่างมองไปยังมอนสเตอร์ในถ้ำแห่งนี้

‘มอนสเตอร์พวกนี้เหมาะสำหรับการทำซาฟารี… ผู้เล่นเลเวลต่ำสามารถฝึกฝนฝีมือกับพวกมันได้… พวกปลากระเบนบินได้ก็สามารถใช้เพื่อนำเที่ยวในโลกใต้พิภพได้…’

เขาเริ่มคิดแผนอันเจิดจรัสในการทำธุรกิจขึ้นมา ทว่า ไม่ช้าอาร์คก็ถอนหายใจขณะส่ายศีรษะ

‘เราควรสนใจเรื่องตัวเองก่อน’

แนวคิดการทำธุรกิจเช่นนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้คนสามารถไปมาระหว่างโลกกลางและโลกใต้พิภพได้อย่างอิสระ และในการลงทุนเริ่มต้นเพื่อทำธุรกิจจำพวกนั้น อย่างน้อยมันก็ต้องใช้เงินของอาร์คไม่น้อยไปกว่า 4,000 เหรียญทองอย่างแน่นอน…

‘ถ้าให้ลงทุนเป็นเงินมากขนาดนั้นเราก็คง…’

อาร์คถอนหายใจอีกครั้งขณะยืนอยู่ภายในถ้ำ ขณะนั้นเองโบนาจึงตรงมาหาเขา

“อาร์คนิม เป็นอะไรไปหรือครับ?”

“เด็กยังไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset