ตอนที่ 318 : เมืองที่ไร้ซึ่งหัวใจ (3)
กระทั่งว่าเป็นพ่อค้าเลเวลสูงแล้ว แต่อย่างไรพ่อค้าก็คือพ่อค้า ไม่มีทักษะการต่อสู้ติดตัวแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นพ่อค้าเลเวล 300 ก็ไม่อาจจัดการได้แม้กระทั่งโนลระดับต่ำ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพ่อค้าต้องคอยจ้างวานทหารรับจ้างยามต้องออกเดินทางระยะไกล
แต่การจ้างทหารรับจ้างเพื่อเดินทางผ่านพื้นที่เลเวลต่ำก็ออกจะเกินไป ถ้าหากมันเป็นสินค้าที่ทำกำไรไม่มาก จ้างทหารรับจ้างไปมีแต่จะขาดทุน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกิลด์ไมดัสจึงพัฒนาม้วนคัมภีร์พิเศษอย่าง [เดินทางปลอดภัย] ขึ้นมา ผลลัพธ์ของมันคงอยู่นานสองชั่วโมงและทำให้โอกาสเข้าโจมตีของพวกมอนสเตอร์ลดน้อยลงมาก
ซึ่งต่อให้อยู่ห่างกันเพียงแค่หัวมุมเดียว ต่อให้มอนสเตอร์ตัวนั้นมีสัมผัสด้านกลิ่นดีเพียงใดก็จะไม่มีทางพบตัว เพราะเหตุนั้นเอง พ่อค้าจึงสามารถเลือกที่จะจ้างวานทหารรับจ้างเฉพาะการไปพื้นที่เลเวลสูงได้ หากเป็นพื้นที่เลเวลต่ำเพียงใช้แค่ม้วนคัมภีร์ [เดินทางปลอดภัย] ก็พอแล้ว
ซิดตอนนี้เลเวล 200 เมื่อใช้งานม้วนคัมภีร์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนโนลเลเวลเพียงแค่ 100 พบตัวเข้า อย่างไรแล้วระยะเวลามันก็แค่สองชั่วโมง ถ้าหากเผลอเรอก็อาจจะประสบกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้
‘เราต้องรีบใช้ม้วนคัมภีร์ก่อนจะโดนเจอตัว!’
ซิดเร่งร้อนเปิดกระเป๋า แต่แล้วกลับไม่พบเจอม้วนคัมภีร์ที่ต้องการแม้ว่าจะแทบเทกระเป๋าแล้วก็ตาม
‘บะ-บ้าน่า… นี่เรามัวแต่ยุ่งกับเรื่องกู้ยืมในเซเลบริดจนลืมซื้อม้วนคัมภีร์เนี่ยนะ!’
“กรร ซ่อนอยู่ตรงนี้เอง!”
“โฮ่ ฮอบบิทน้อยซ่อนอยู่ตรงนี้เอง?”
“หึหึหึ เยี่ยมไปเลย”
น้ำเสียงน่าขนลุกพลันล้อมฮอบบิทน้อยที่ดวงตาปริ่มน้ำตาเอาไว้ ซิดลุกขึ้นยืน กรีดร้อง และพยายามที่จะวิ่งหนี
“กรร คิดว่าจะรอดไปได้?”
“รับไป!”
โนลตัวหนึ่งขว้างกระบองออก ตึก ตุบ! กระบองฟาดเข้าที่หลังศีรษะของซิดอย่างหนักหน่วง
====
ท่านได้รับความเสียหายคริติคอลที่ศีรษะ ความเสียหาย 400 หน่วย!
=====
ครึก ครึก ครึก ครึก!
ร่างของพ่อค้าไร้ภูมิต้านทานใดจึงติดอาการมึนงง เขาไม่อาจเห็นได้ว่ามอนสเตอร์เข้ามาใกล้หรือยัง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็ชัดเจนแล้ว โนลพวกนี้ปิดล้อมซิดที่มึนงงเอาไว้ขณะคิดฉีกกระชากเป็นอาหารสักมื้อ อาการมึนงงคงอยู่อย่างน้อยสิบวินาที และซิดก็ไม่มีทางยืนหยัดรับมือกับพวกโนลได้แม้ว่าจะแค่สิบวินาทีก็ตาม
‘บ้าจริง… จุดเกิดใหม่อยู่ที่เซเลบริดด้วย…’
ซิดได้แต่กล้ำกลืนความขมขื่นแล้ว การที่พ่อค้าจะเลื่อนเลเวลเป็นสองร้อยได้นั้นเป็นเรื่องยากเย็น เขาย่อมไม่อยากตายอยู่แล้ว
‘เลือกพ่อค้าไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ตอนแรกก็โดนอาร์คนิมใช้งานต่างกระเป๋า แล้วก็ไปสร้างหนี้สร้างสินจนต้องย่ำแย่ ตอนนี้ต้องมากลายเป็นอาหารสุนัขอีก…’
ซิดเริ่มนึกย้อนถึงความน่าเวทนาของตัวเองจนแทบร้องออก และช่วงเวลาที่เข้าสู่อาการวิกฤต เสียงร้องเพลงที่ไม่น่าฟังเสียงหนึ่งได้ดังเข้ากระทบโสดประสาทการได้ยินเข้า
“เจ้าอยู่หนใด~ ใครสักคน~ เมื่อไหร่เรื่องราวจะเกิด~”
“…?”
ซิดหันไปมองด้วยความสับสน ชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้พร้อมท่าทีกอดอกจ้องมองมา
‘หือ? ชายคนนี้…’
ทั้งโนลและซิดต่างรู้จักบุคคลตรงหน้า ซิดเคยเห็นเขามาก่อน เป็นอิสยูรัมที่บากบั่นออกกำลังกายภายใต้แสงจันทร์ ซิดมองอย่างหน่ายเหนื่อยขณะถอนหายใจออกด้วยความผิดหวัง
‘บ้าจริง นึกว่านักรบสักคนผ่านทางมา… แต่แล้วกลับเป็นชายประหลาดคนนี้? อยากจะบ้า เป็นพ่อค้าเหมือนกัน โดนจับกินเหมือนกันแหง…’
ถูกต้อง คนทั้งสองหากตามสถานการณ์ปกติคงได้เป็นอาหารสุนัขอย่างแน่นอน ทว่า อิสยูรัมก็ยังคงฮัมเพลงไปเรื่อยคล้ายไม่สนใจเรื่องราว
“นี่ นี่ นี่ อิสยูรัม~ ผู้พลังมากล้น~”
ในสถานการณ์แบบนี้ ยังจะมีอารมณ์มาร้องเพลงได้… สมแล้วที่โดนมองว่าเป็นคนบ้า แต่ท่าทีของพวกโนลกลับตื่นตะลึง พวกโนลเริ่มปล่อยวางขณะถอยห่างออกจากพ่อค้าตรงหน้า
“กรร ไอ้เจ้านั่น…?”
“พ่อค้าคลั่ง! มันคือพ่อค้าคลั่ง!”
“บัดซบ ไม่เจอหลายวันนึกว่ามันไปที่อื่นแล้ว…”
“จะยังไงมันก็เป็นพ่อค้า ฆ่ามัน!”
ตึก ตึก ตึก ตึก!
ซิดแม้ไม่เข้าใจเรื่องราว แต่นี่ก็สบโอกาสให้หนีได้พอดี พวกโนลกำลังสนใจอิสยูรัมขณะเริ่มฟาดกระบองเข้าใส่ อิสยูรัมเพียงเม้มริมฝีปากและกล่าวออก
“เหอะ เจ้าพวกนี้ไม่หนีงั้นสินะ ดี มาดูผลลัพธ์การฝึกกันหน่อย!”
จากนั้น… ซิดก็ได้เห็นภาพอันน่าตื่นตะลึง
“ฮ่า โชริวเคน! โอ๊ะ กระโดดเตะ! ลูกเตะคาราเต้!”
พ่อค้าหรือ… ไม่ว่าซิดจะมองยังไงอีกฝ่ายก็เป็นพ่อค้าอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังสามารถมีฝีมือทัดเทียมกับพวกโนล! ไม่สิ เขาเหนือกว่าด้วยซ้ำ ด้วยความที่เป็นพ่อค้าเลยขาดทั้งพลังป้องกันและพลังโจมตี แต่เขากลับสามารถหลบเลี่ยงการโจมตีได้อย่างเหนือชั้นขณะสวนกลับการโจมตีไปด้วย และบ่อยครั้งมันก็เป็นการโจมตีคริติคอล! ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือเทคนิคที่เขาใช้ มันเหมือนท่าโชริวเคนและกระโดดหมุนตัวเตะมาก
“รับไป ท่าจับทุ่ม!” (ท่าหนึ่งของมวยปล้ำ)
อึก!
ตอนนี้เขาถึงกับจับตัวโนลเอาไว้ จากนั้นจึงกระโดดแล้วทุ่มลงกับพื้นอย่างจัง ผ่านไปเพียงแค่สามนาที อิสยูรัมจัดการโนลทั้งสี่ตัวเรียบร้อย จากนั้นอิสยูรัมจึงเดินเข้ามาหาซิดที่กำลังเผยสีหน้าสับสนกับเรื่องราวอยู่
“เจ้าหนู เป็นไรไหม?”
“ครับ? เอ่อ คือ…”
ซิดยังคงมองอีกฝ่ายด้วยความมึนงงก่อนจะถามออกไป
“ไม่ใช่ว่าคุณเป็นพ่อค้าเหรอครับ?”
“ก็นะ โชคร้ายไปนิดเลยต้องมาอยู่ร่างนี้”
“แต่พ่อค้าสู้กับโนล… แถมยังสี่ต่อหนึ่ง?”
“หึหึหึ ริวกับเค็น และพวกชุนหลีต่างเป็นอาจารย์สอนให้กับฉัน โนลพวกนี้ไม่นับเป็นอะไรเลยสักนิด”
อิสยูรัมไหวไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างของอิสยูรัมเริ่มสั่นขณะสีหน้าซีดเผือด ไม่ช้าเขาเริ่มลงไปชักดิ้นกับพื้นขณะเหงื่อไหลท่วมใบหน้า
“อึก บะ-บ้าจริง… ความเจ็บนี่… ยังไม่พออีกเหรอเนี่ย…”
“อะ-เอ่อ เกิดอะไรขึ้นครับ?”
“มะ-ไม่เป็นไร… เท่านี้… ยังพอไหว…”
อิสยูรัมกัดฟันขณะส่ายศีรษะให้ ไม่ว่าจะมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นยังไง เรื่องตรงหน้านี้ก็ไม่ปกติเลยสักนิด ปรากฏตัวพร้อมฮัมเพลงประหลาด พูดถึงริวกับเค็นว่าเป็นอาจารย์สอน จากนั้นก็ล้มลงไปด้วยอาการเจ็บปวด? ซิดไม่คิดอยากอยู่ร่วมกับคนแบบนี้แน่นอนอยู่แล้ว แต่อีกฝ่ายช่วยเขาไว้ จะเมินเฉยก็ไม่ได้ ซิดลังเลก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเพื่อรอ โชคยังดี เพียงแค่สิบนาทีอิสยูรัมก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
“เฮ้อ… รอดเสียที เพิ่งเจอกันครั้งแรกไม่อยากให้นายเห็นสภาพนี้เลย”
“อา ไม่เป็นไรครับ”
ซิดเพียงส่ายศีรษะให้ขณะเอ่ยถามด้วยความกังวล
“ว่าแต่ เป็นอะไรหรือครับ?”
“ภาระของฮีโร่น่ะ”
อิสยูรัมตอบรับด้วยรอยยิ้ม และคำตอบที่ได้มาก็ไม่ได้ทำให้เข้าใจมากขึ้นเลย ซิดจึงไม่ถามอะไรอีก เขากลัวว่าจะได้รับคำตอบบ้า ๆ บอ ๆ กลับมา ดังนั้นจึงถามเรื่องอื่นออกไปแทน
“ว่าแต่คุณสามารถจัดการพวกมันได้ยังไงทั้งที่เป็นพ่อค้าน่ะครับ?”
“บอกแล้วไง ริว เค็น และชุนหลีเป็นครูฝึกสอนให้ฉัน…”
“เอ่อ พวกเขาคือใครกันครับ?”
“หือ? นี่นายไม่รู้จักชื่อพวกนี้งั้นเหรอ?”
ซิดเพียงส่ายศีรษะ อิสยูรัมถอนหายใจขณะเกาหัว
“อา เด็กน้อยในวันนี้ไม่รู้จักพวกเขากันเสียแล้ว? เฮ้อ… เอาซะรู้สึกแก่เลยทีเดียว พูดให้เข้าใจง่าย ๆ พวกเขาคือผู้ที่ผลาญไหม้ศิลปะการต่อสู้หลอมรวมกับวิญญาณของฉันตั้งแต่ยังเด็ก”
“…?”
“ที่โค่นล้มโนลพวกนั้นได้ก็เพราะฉันนึกภาพถึงอาจารย์ผู้สอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กระดูกของฉันถึงกับหักไปหลายท่อนเพราะเป็นพ่อค้า”
อิสยูรัมนึกย้อนถึงความทรงจำช่วงหลายวันที่ผ่านมา ถูกต้อง เขาไม่ได้ลืมเลือนความเจ็บปวดเกินมนุษย์มนาที่ต้องรับอยู่ทุกวี่วัน ตอนที่อิสยูรัมได้กลายเป็นอาหารสุนัขไปครั้งหนึ่ง เขาเริ่มฝึกฝนตัวเอง ทว่า อิสยูรัมอย่างไรแล้วก็เป็นพ่อค้า แขนและขาไม่อาจรองรับการฝึกฝนจึงแตกหักเรื่อยมา ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น บางครั้งที่ต่อสู้กับพวกโนลเพื่อยืนยันผลการฝึก ท้ายที่สุดเขากลับต้องแบกรับความรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย ในเมื่อเครื่องของสำนักงานตำรวจถูกตั้งค่าระบบเอาไว้ให้ ‘สมจริง’ เขาจึงได้รับความเจ็บปวด 100% ผ่านทางตัวละคร
‘อึก… นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ทำไมเกมที่เจ็บปวดเหมือนจริงแบบนี้ถึงมีคนเล่นเยอะขนาดนี้ได้? ไม่ว่าจะเป็นเกมที่สนุกยังไง แต่มันไม่เกินไปหรือไง? แถมระหว่างต่อสู้ยังต้องเจ็บตัวอย่างแน่นอน… หรือทุกคนจะโรคจิตชอบความรุนแรงกัน?’
อิสยูรัมไม่อาจเข้าใจเรื่องนี้ได้จริง ๆ
‘ยังไงก็ตาม เราจะยอมแพ้ไม่ได้ ให้ตายสิ นี่มันเรื่องของความภาคภูมิใจแล้ว เมื่อไหร่ที่ร่างนี้จะดีพอล้มโนลแบบไม่เจ็บปวดกัน?’
แน่นอนว่าปัญหานี้อาจแก้ไขได้ไปแล้วถ้าเขาถามใครสักคน ทว่า อิสยูรัมเป็นใคร? ในเกมเขาคือพ่อค้าก็ใช่ แต่ความเป็นจริงเขาคือหัวหน้าทีม SWAT ที่หนึ่งเลยเชียวนะ เขาจะบอกว่าโอยไม่ไหวแล้ว เจ็บเหลือเกินกับเกมที่กระทั่งเด็กน้อยยังเล่นได้เนี่ยนะ? นี่มันเรื่องของความภาคภูมิที่ไม่อาจดูหมิ่นได้
‘เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อค้าเลย! มีแต่ต้องลองไปเรื่อยจนตายเท่านั้น!’
ทุกครั้งที่เขาโดนโนลโจมตีเข้าใส่ ดวงตาของเขาก็แทบปรากฏเมฆหมอกบดบัง หากเล่นเกมนี้ต่อไปเขาอาจได้กลายเป็นบ้าแน่ แต่แล้ววันหนึ่งปาฏิหาริย์ก็บังเกิด เป็นอีกครั้งที่เขาทดลองต่อสู้กับพวกโนลจนกระดูกเอวและเข่าแตกหัก ความภาคภูมิของอิสยูรัมโดนกระทำชำเราอย่างหนัก จนท้ายที่สุดเขาตัดสินใจมองขาพวกมันและกัดเข้าไป
“เฮือก! ไอ้คนคลั่งนี่ หยุดกัดนะโว้ย!”
“อึก นี่มันมีเชื้อสุนัขบ้าหรือเปล่าเนี่ย?”
เรื่องราวตลกอะไรกัน? หมาถึงกับพูดเรื่องไร้สาระอย่างพิษสุนัขบ้าเพราะโดนคนกัดเนี่ยนะ แต่แล้วหน้าต่างข้อความพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าอิสยูรัม
=====
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่
ป้องกันตัว : ท่านได้เสริมสร้างร่างกายโดยวิธีการฝึกพื้นฐาน
ป้องกันตัวเป็นทักษะเฉพาะของอาชีพที่ไม่มีความสามารถทางการต่อสู้สามารถเรียนรู้ และมันจะทำให้ผู้เล่นได้เผยความสามารถทางการต่อสู้อันเล็กน้อย เป็นไปได้ที่จะลดความเสี่ยงเสียหายและบาดเจ็บระหว่างใช้งานป้องกันตัว [ข้อจำกัดของอาชีพที่ไม่สามารถต่อสู้ถูกยกเลิก โอกาสที่ได้รับบาดเจ็บลดลง 30%]
=====
ท่านได้เรียนรู้ทักษะใหม่
จิตวิญญาณอมตะ : ท่านคือผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ต่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณอมตะได้รับอาการบาดเจ็บ อาการเหล่านั้นจะไม่ปรากฏขึ้นระหว่างการต่อสู้ นอกจากนี้ หากพลังชีวิตของท่านลดน้อยลงกว่า 50% ท่านจะสามารถเข้าสู่ ‘สภาวะอมตะ’ และได้รับโบนัสเพิ่มพลังการต่อสู้ ทว่า ทุกความเสียหายที่ได้รับระหว่างการต่อสู้จะทำงานเมื่อการต่อสู้จบลง
สภาวะอมตะ : ทำงานเมื่อพลังชีวิตน้อยกว่า 50%
=====
‘หือ? อะไรกันเนี่ย?’
อิสยูรัมที่แทบไม่เคยเล่นเกมจึงไม่เข้าใจว่าข้อมูลในหน้าต่างข้อความนี้หมายถึงอะไร แต่ก็ไม่จำเป็นที่เขาต้องเข้าใจแต่อย่างใด เพราะต่อให้ไม่เข้าใจ เขาก็สามารถเรียนรู้ผ่านร่างกายได้