ตอนที่ 324 : อย่าได้แตะหมูตัวนี้! (1)
*มีการแก้ไขชื่อค่าสถานะ เสน่หา > ความรัก*
“หน้าต่างข้อมูลตัวละคร!”
=====
ชื่อตัวละคร : อาร์ค
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
แนวโน้ม : ความดี +400
ชื่อเสียง : 9,125 (+500)
เลเวล : 280
อาชีพ : ผู้เดินทางแห่งความมืด
ฉายา : อัศวินแห่งแมว, ผู้เยียวยาแห่งผู้ถูกทอดทิ้ง, วีรบุรุษแห่งแจ๊คสัน, สุดยอดนักผจญภัย
พลังชีวิต : 4,360 (+150)
พลังมานา : 4,350
พลังจิตวิญญาณ : 200
พละกำลัง : 563 (+28)
ความคล่องตัว : 723 (+55)
ความอดทน : 823 (+20)
สติปัญญา : 107 (+10)
ความฉลาด : 842
โชค : 103 (+30)
ความยืดหยุ่น : 112
ศาสตร์แห่งการสื่อสาร : 46
ความรัก : 152 (+10)
ยืดหด : 305
ค่าสถานะพิเศษ ภูมิความรู้โบราณวัตถุ : 138
ผลจากอุปกรณ์สวมใส่
– ชุดเกราะผู้พิทักษ์แห่งชาวเงือก : ภูมิต้านทานธาตุน้ำ +100%, ขีดจำกัดของน้ำไร้ผล
– อุ้งตีนแมว (ถุงมือ) : ความเร็วโจมตี +10%, ความคล่องตัว +15, อัตราการโจมตีคริติคอล +10%
– หมวกแรคคูน (หมวก) : ความคล่องตัว +10, สติปัญญา +10
*ผลลัพธ์จากเซ็ตไอเทม [ราชัน] : พละกำลัง +10, ความคล่องตัว +10, ความอดทน +10, พลังป้องกัน +20
– บันทึกแห่งนักรบ (เกราะไหล่) : พละกำลัง +3
– รองเท้าจิตวิญญาณวายุ (รองเท้า) : ความคล่องตัว +30, ความเร็วเคลื่อนที่ +30%, ความเร็วโจมตี +10%, สามารถใช้ทักษะ ‘ไถลตัว’
– ชุดขนแกลกาชิ (ผ้าคลุม) : ภูมิต้านทานความหนาว +100%, ความคล่องตัว +20, เมื่อพลังชีวิตน้อยกว่า 50% ‘เวทมนตร์คุ้มกัน’ จะทำงานโดยอัตโนมัติ
– สร้อยคอของอเดเลียน (สร้อยคอ) : พลังป้องกัน +40, เสน่หา +10
– ปลุกวิญญาณ (แหวน) : พละกำลัง +5, ฟื้นฟูพลังมานา +5%
– แหวนแห่งราลูกัน (แหวน) : ความคล่องตัว +10, ความเร็วการโจมตี +10%, โอกาสโจมตีคริติคอล +8%, สามารถใช้งาน ‘การคุ้มครองจากความมืด’
– เครื่องรางแห่งพลัง (กำไล) : พลังชีวิต +50, ฟื้นฟูพลังชีวิต 5 หน่วยทุกระยะเวลา 20 วินาที
– เกียรติยศแห่งนักสู้ (กำไล) : พละกำลัง +10, ความคล่องตัว +10, ความอดทน +10, ชื่อเสียง +500, อัตราเติบโตทักษะทางดาบ +5%
*ทุกความสามารถเพิ่มขึ้น 40% ในความมืด
*ท่านได้รับความสามารถหลบซ่อนตัวตนในความมืด ระยะเวลาส่งผล 20 นาที ยกเลิกเมื่อเข้าสภาวะต่อสู้
*ภูมิต้านทานความกลัว ความมืด ตาบอด และคาถาเสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%
*ท่านสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงออกมาได้จากอุปกรณ์ทุกชนิด
*ดูดซับแรงกระแทกเพิ่มขึ้น 20%
*ภูมิต้านทานพิษเพิ่มขึ้น 50%
*เพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกัน 10%
=====
ตอนจัดการมากาโรได้อาร์คเพิ่มเลเวลมา 7 ระดับ หลังจากนั้นระหว่างทางกลับหมู่บ้านเขาก็ได้มาอีก 4 ระดับ จนตอนนี้เลเวลของเขาคือ 280
‘ดีกว่าออกล่าตัวคนเดียวเยอะเอาเรื่องเลยนะเนี่ย’
อาร์คพยักหน้ารับให้กับข้อมูลอย่างพึงพอใจกับสภาพของปาร์ตี้ตอนนี้ มันไม่จำเป็นต้องอธิบายเลย เพราะประสิทธิภาพการออกล่าระดับปาร์ตี้นั้นทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เหตุผลง่ายดายยิ่ง ก็เหมือนเกมออนไลน์อื่น นิวเวิลด์ก็มีพื้นฐานที่จะมอบค่าประสบการณ์เพิ่มเติมให้เมื่ออยู่กับปาร์ตี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนคนในกลุ่ม ระยะเป็นได้ทั้ง 100%~400% หากมองคราแรกว่าเป็นโบนัสก็ดีอยู่ แต่ปัญหาคือต้องแบ่งปันให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ด้วย กล่าวได้ว่ามอนสเตอร์จะมอบค่าประสบการณ์ให้ในช่วง 1,000~4,000 หน่วย เมื่อแบ่งออกเป็นสิบคนก็จะเหลือแค่ 400 ต่อคนเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าความเร็วในการฆ่านั้นสูงกว่าอยู่โดยลำพังอย่างแน่นอน
นั่นไม่ใช่เรื่องเสียเปรียบเดียวในกรณีที่ออกล่าเป็นปาร์ตี้ ปัญหาใหญ่ที่สุดไม่ใช่ตอนล่า แต่เป็นหลังจากที่มอนสเตอร์ตายไปแล้วต่างหาก
ไม่ว่าใครต่างก็เคยต้องมีประสบการณ์ในเกมออนไลน์ก็ต้องรู้ถึงเรื่องการจัดสรรปันส่วน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดคือ ‘เทิร์นแอนโรล’ ซึ่ง ‘เทิร์น’ นั้นเป็นวิธีการใช้สลับการมอบไอเทมให้ตามลำดับ ขณะที่ ‘โรล’ นั้นเป็นวิธีการส่งมอบไอเทมอีกอย่าง หากเป็นไอเทมระดับวิเศษหรือสูงกว่าดร็อปออกมา การจัดแบ่งลำดับสำคัญขึ้นอยู่กับอาชีพของผู้เล่นและทำการทอยแต้ม ใครได้แต้มมากกว่าก็ได้ไป มันเป็นระบบที่เหมือนจะยุติธรรมแต่ก็ไม่ใช่
หลังจากที่ได้ออกล่ามอนสเตอร์และเคลียร์ดันเจี้ยน ไอเทมที่มอนสเตอร์ดร็อปออกมาย่อมไม่ใช่สุ่ม สิ่งที่เขาจะกล่าวก็คือ… ยกตัวอย่าง ถ้าหากเข้าร่วมปาร์ตี้จัดการหุบเขารังโจร แบบนั้นแล้วไอเทมที่เหมาะกับอาชีพสายโจรก็จะดร็อปออกมาทั้งอาวุธและชุดเกราะ
และถ้าหากมีสายอาชีพโจรเข้าร่วมปาร์ตี้ พวกเขาก็ต้องยกไอเทมเหล่านั้นให้อย่างไม่อาจทำอะไรเพราะเป็นไปตามกฎ อีกทางหนึ่ง อาชีพอื่นจะได้รับเพียงแค่สิ่งของทั่วไปเพียงเท่านั้น พวกเขาได้รับค่าประสบการณ์เท่ากัน เสียค่าเตรียมการซื้อหาโพชั่นและซ่อมแซมอาวุธยุทโธปกรณ์เหมือนกัน แต่ผู้เล่นเหล่านั้นกลับไม่อาจโต้แย้ง ทำได้แค่มองผู้เล่นอื่นที่มีอาชีพเหมาะสมกว่าได้รับไอเทมไป
ไอเทมวิเศษดร็อปก็แย่พอแรงแล้ว ถ้าหากไอเทมหายากดร็อปอีกยิ่งแย่ไปใหญ่ มันทำคนอิจฉาจนแทบตายได้เลยทีเดียว การโยนเหรียญออกหัวหรือก้อยในสถานการณ์แบบนั้นมันค่อนข้างไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
‘แบบนั้นแล้ว ปาร์ตี้นี้ก็ออกจะอุดมคติเกินไป’
อาร์คยิ้มอบอุ่นให้ลาริเอ็ตเต้และบุคซิล แน่นอนว่าช่วงเริ่มต้นมีความไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ลาริเอ็ตเต้ทำหน้าที่ได้ดีขึ้นมากแล้ว อีกทั้งเธอยังตัวคนเดียว เท่านั้นหรือ? กระทั่งว่าบุคซิลไม่ได้ช่วยเหลืออะไรในการต่อสู้ อีกฝ่ายก็ยังมีงานสำคัญอย่างรวบรวมวัตถุดิบ
อย่างไรแล้วเรื่องเหล่านั้นล้วนทำให้อาร์คเริ่มคิดมากเรื่องผลกำไรจากปาร์ตี้ ระหว่างที่ออกล่าเป็นระบบปาร์ตี้ อาร์คได้แบ่งค่าประสบการณ์ระหว่างพวกเขาทั้งสามอยู่แล้ว แต่มันก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง มันมีระบบป้องกันผู้เล่นเลเวลสูงช่วยเหลือผู้เล่นเลเวลต่ำ เมื่อความแตกต่างทางเลเวลในปาร์ตี้มีมากเกินไป ค่าประสบการณ์ส่วนใหญ่จะถูกส่งมอบให้กับผู้เล่นเลเวลสูงกว่า
อย่างปัจจุบัน อาร์คเลเวลสูงกว่าทั้งลาริเอ็ตเต้และบุคซิลกว่า 100 ระดับด้วยกัน หลังจากฆ่ามอนสเตอร์ได้ อาร์คจะได้รับค่าประสบการณ์ 50% ไป อีกทางหนึ่ง ปาร์ตี้จะได้รับค่าประสบการณ์โบนัสอีก 100% ผลลัพธ์ก็คือ เขาจะได้รับ 50% จากทั้งหมด 200% โดยรวมแล้วมันก็มากกว่าตอนเขาออกล่าคนเดียวเล็กน้อย ทำให้ช่วงเวลาสามวันมานี้อาร์คจึงเพิ่มเลเวลมาได้ 4 ระดับด้วยกัน
และพวกเขายังมีข้อตกลงกันว่าอาร์คจะได้รับไอเทมทั้งหมดจากการล่าและเก็บเกี่ยว เพราะแบบนั้นแล้วไอเทมส่วนใหญ่ที่ดร็อปในปาร์ตี้อาร์คจึงถือครองทั้งหมด อาร์คจึงได้รับไอเทมที่เยอะกว่าตอนออกล่าคนเดียว
‘หึหึหึ ไม่มีอะไรจะดีกว่านี้แล้ว!’
ในเมื่อทั้งปาร์ตี้ต้องพึ่งพิงอาร์ค เพราะงั้นจึงสามารถเรียกคณะนี้ได้ว่า อาร์คปาร์ตี้
“เอ่อ อาร์คนิม!”
ขณะที่อาร์คครุ่นคิดถึงผลประกอบการ ลาริเอ็ตเต้และบุคซิลต่างวิ่งออกจากป่าด้วยสีหน้าแตกตื่น
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มะ-มอนสเตอร์ มอนสเตอร์สีแดง!”
บุคซิลโพล่งตะโกนออกด้วยใบหน้าซีดเผือด
“มอนสเตอร์สีแดง?”
อาร์คงุนงงขณะลาริเอ็ตเต้กล่าวเสริม
“เป็นพวกนาคูจักที่พวกเราเจอในหุบเหวแห่งความสิ้นหวังค่ะ”
“นาคูจัก! ในพื้นที่แถบนี้เนี่ยนะ?”
“ใช่ค่ะ พวกมันมีกันราวยี่สิบคนได้”
อาร์คสับสนไปครู่เมื่อลาริเอ็ตเต้กล่าวจบ เผ่านาคูจักส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่บริเวณภูเขาทางเหนือ ตามคำกล่าวของเบซอทิว ภูมิภาคทางเหนือค่อนข้างแร้นแค้น ชาวนาคูจักก็เลยมีบางส่วนที่ลงมาทางใต้ กลุ่มชาวนาคูจักที่เขาพบในป่าฮาเกลก็ลงมาทางใต้ได้เพราะใช้ดราเค็น
‘ในตอนนั้น พวกมันมาออกล่าผู้ตาย แต่ตอนนี้เราจัดการทามูระไปแล้ว เพราะอะไรกันถึงมาทางใต้อีก? นอกจากนี้ ยังมีความขัดแย้งระหว่างเผ่านาคูจักและเผ่าบารัน ทำไมถึงมาอยู่ละแวกใกล้เคียงหมู่บ้าน? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?’
อาร์คกำลังครุ่นคิด แต่แล้วพลันมีสิ่งหนึ่งเข้าขัดขวาง
กรร!
อาร์คได้ยินเสียงสัตว์กรีดร้องจากทางด้านหลัง อาร์คและลาริเอ็ตเต้สะดุ้งตัวโดยสัญชาตญาณพร้อมคว้าดาบเอาไว้แน่น ขณะเดียวกัน พุ่มไม้เริ่มสั่นไหวปรากฏเป็นสุนัขที่มีนัยน์ตาสีแดงฉาน เมื่อเห็นอาร์คจึงนึกออกโดยทันที
‘หือ? ไม่ใช่ว่านี่เป็นมอนสเตอร์ที่ลาดตระเวนรอบหมู่บ้านเหรอ?’
สุนัขที่เรียกว่าเฮลฮาวน์เป็นชาวบารันให้การฝึกสอน เฮลฮาวน์ที่อาร์คเห็นก่อนหน้านี้เป็นสีดำ แต่แล้วตัวที่ปรากฏนี้เป็นสีแดงเพราะมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด ไม่เพียงเท่านั้น เฮลฮาวน์ตัวนี้ยังแบกเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาบนแผ่นหลัง และเด็กชายคนนั้น…!
“บะ-โบนา?”
อาร์คอุทานออกขณะยืนยันได้ว่าร่างนั้นเป็นเด็กชาย เด็กชายส่งเสียงร้องออกอย่างเจ็บปวดขณะพยายามเงยศีรษะขึ้น
“พะ…. พี่ชายอาร์ค?”
“ใช่ ฉันเอง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“พี่ชาย… ช่วยด้วย! หมู่บ้าน… คุณปู่…”
“หมู่บ้าน? ปู่? เกิดอะไรขึ้น? หมายถึงอะไรกัน? ที่หมู่บ้านเป็นอะไรไป?”
“ชะ-ช่วย ได้โปรด ช่วยด้วย…”
โบนาคว้ามือของอาร์คเอาไว้ขณะพึมพำซ้ำไปมาก่อนอาร์คพยักหน้ารับ ขณะนั้นเอง เฮลฮาวน์ที่หมดแรงก็ล้มลง อาร์คเร่งร้อนเข้าหาขณะสำรวจอาการโบนา โชคยังดีที่เฮลฮาวน์และโบนาต่างสิ้นสติไปเพราะบาดแผลเท่านั้น
“อาร์คนิม เกิดอะไรขึ้นกันคะ?”
ลาริเอ็ตเต้เอ่ยถามอย่างสับสน แต่อาร์คเองก็ไม่ทราบเช่นกัน ชาวนาคูจักลาดตระเวนอยู่แถวนี้… ชัดเจนว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว เขาไม่อาจกระทำการบุ่มบ่ามก่อนจะทราบเรื่องราว อาร์คคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยคำ
“รีบพาไปล้างตัวก่อนครับ พวกเราต้องหลบเลี่ยงพวกมันและหาสถานที่ปลอดภัยกันก่อน”
=====
‘เร้นเงา’ ทำงาน ‘ลอบเร้น’ สามารถคงสภาพในเวลากลางวันได้
=====
‘พวกมัน…’
อาร์คซ่อนกายอยู่ด้านหลังก้อนหินขณะมองลงไปยังหมู่บ้าน
เคร้ง เคร้ง
ผู้คนต่างโดนล่ามตรวนเอาไว้ขณะพยายามเคลื่อนย้ายก้อนหินและต้นไม้ และรอบกายพวกเขายังมีผู้คุมคอยจับตามองพร้อมแส้ในมือ ภาพฉากตรงนี้คล้ายเคยพบเห็นได้ในภาพยนตร์หมู่บ้านยุคกลาง ชาวบารันโดนจับเป็นทาส ขณะชาวนาคูจักกระทำตัวเป็นผู้คุม
“เฮ้ย ทำอะไรอยู่?”
“ให้เร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง?”
นาคูจักคนหนึ่งตะโกนขณะหวดแส้ออกไป จากนั้น กระทิงตัวใหญ่ที่แบกหินมาก็ผ่านทางไป กระทิงตัวนั้นเป็นมอนสเตอร์ที่เรียกว่า โบลคานาซู มันถูกฝึกเอาไว้ลากเทียมเกวียนในหมู่บ้าน ไม่เพียงแค่ชาวบารันเท่านั้น แต่มอนสเตอร์ที่ถูกฝึกก็โดนทารุณกรรมด้วย เมื่อโบลคานาซูล้มลง ชาวนาคูจักจึงวิ่งเข้าไปหาอย่างเร็วรี่
“กล้าอู้งั้นรึ! ต้องโดน!”
“มันไม่ไหวแล้ว โปรดรอเดี๋ยว ให้มันได้พักสักครู่!”
ผู้ฝึกวัยกลางคนผู้หนึ่งก้มลงกับพื้นเพื่อร้องขอ ทว่า นาคูจักคนนั้นกลับเตะอีกฝ่ายให้พ้นทางขณะหวดแส้ใส่โบลคานาซูไม่หยุด จากนั้นผู้ฝึกสอนจึงเข้าไปกอดโบลคานาซูเอาไว้
“ว่าอะไร? เป็นแค่ทาสเหิมเกริมต่อต้านงั้นรึ? ดี แกก็ต้องโดนด้วย!”
“อั่ก ดะ-ได้โปรด…!”
แผ่นหลังของผู้ฝึกสอนคนดังกล่าวเริ่มเลือดไหลนองเพราะโดนแส้หวดจนเนื้อหนังหลุดออกจากกัน ทว่านาคูจักคนนั้นคล้ายยังไม่สะใจ ยิ่งเสียงกรีดร้องดังขึ้น แส้ก็ยิ่งหวดหนักขึ้น แผลก็ยิ่งลึกมากขึ้น ไม่ช้าผู้ฝึกสอนคนนั้นก็เข้าอาการวิกฤต
“หยุด!”
เสียงแหลมพอดังขึ้น อาร์คตอบสนองโดยการหันกลับไปมองโดยทันที น่าตื่นตกใจนัก บุคคลที่เข้ามาใกล้นาคูจักคนนั้นกลับเป็นจีเวล
‘เหมือนที่โบนาบอก แต่แล้วทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้ล่ะ?’
อาร์คกลืนน้ำลายขณะนึกย้อนกลับไป เมื่อสามสิบนาทีก่อน อาร์คหลบเลี่ยงพวกนาคูจักในป่าขณะพาโบนาไปหลบซ่อนไว้ในถ้ำเล็กแห่งหนึ่ง ที่จริง อาร์คสามารถรับมือชาวนาคูจักยี่สิบคนด้วยตัวคนเดียวได้
แต่หลังตรวจสอบอาการบาดเจ็บของโบนา สัญชาตญาณของเขาบอกว่าสถานการณ์ครั้งนี้ซับซ้อนเกินกว่าที่คิด นับว่าอาร์คตัดสินใจได้ถูกต้อง หลังลาริเอ็ตเต้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูให้กับโบนาสักพักหนึ่ง อีกฝ่ายก็กล่าวคำที่ชวนตกตะลึงมาให้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน หรือสองวันก่อนในโลกความเป็นจริง หมู่บ้านที่เคยสงบมาโดยตลอดโดนเผ่านาคูจักกว่าสี่ร้อยคนเข้าโจมตี พวกมันบุกเข้าหมู่บ้านโดยทันทีและกวาดต้อนชาวบารันไปเป็นข้าทาส
ตอนนั้นอาร์คยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก อย่างแรกเลย เบซอทิวเคยบอกเอาไว้ว่าพวกนาคูจักอาศัยอยู่แถบภูเขาทางเหนือ และพื้นที่แถบนั้นยังค่อนข้างยากลำบากและซับซ้อน เพราะแบบนั้นพวกนาคูจักจึงไม่อาจผ่านมาได้โดยง่าย แม้ว่าจะมีกลุ่มขนาดเล็กสามารถทะลวงผ่านโดยใช้ดราเค็นมาได้ มันก็ยังเป็นไปไม่ได้อยู่ดีที่จะมีกองกำลังนับร้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกนาคูจักถึงไม่เคยตามล่าชาวบารัน แต่แล้วกองทหารสี่ร้อยชีวิตกลับโผล่พรวดออกมาจากภูเขาทางเหนือ? โบนาส่ายศีรษะอย่างไม่อาจทราบ
“ผมไม่ทราบเลยครับ แต่คุณปู่บอกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับพวกนั้น”
“พวกนั้น?”
“พวกคนต่างถิ่นที่ผ่านมายังโลกใต้พิภพพร้อมพี่ชายน่ะครับ”