Ark The Legend – ตอนที่ 329 : ภารกิจช่วยเหลือเผ่าบารัน (3)

ตอนที่ 329 : ภารกิจช่วยเหลือเผ่าบารัน (3)

 

นับแต่นี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่บุคซิลจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้หากปราศจากซึ่งความคุ้มครองจากอาร์ค แม้ว่าก่อนหน้านี้จะทำตัวน่าสงสัย อีกฝ่ายถึงกับไม่คิดเกรงกลัวเป็นผู้เล่นฆาตกรขณะคิดมุ่งร้ายต่ออาร์คอย่างไม่ลังเล? แบบนั้นแล้วเขาก็จำเป็นต้องหามาตรการป้องกันการทรยศจนกว่าสถานะฆาตกรของบุคซิลจะหลุดพ้น นี่เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่สิ สามตัวเลยต่างหาก!

‘ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมเราถึงฉลาดแบบนี้กันนะ?’

อาร์คยิ้มอบอุ่นขณะเดินเข้าไปใกล้บุคซิล

“บุคซิล นายทำได้ดีมาก สมแล้วที่เป็นลูกผู้ชายตัวจริง!”

“ครับ? ผะ-ผม…”

“ถึงกับอาจหาญล้างแค้นให้พี่น้องได้! หึหึหึ ไม่ใช่ควรยินดีหรอกหรือไง? แต่ก็อย่าได้ลืมเลือนไปว่าใครคุ้มหัวนายอยู่ นายติดหนี้ฉันครั้งหนึ่งแล้ว เข้าใจไหม?”

พ่อค้าผู้น่างสารถึงกับไร้ซึ่งความหวังไม่อาจตุกติกใดได้ระหว่างที่อาร์คคุ้มกะลาหัว

‘แผนที่ดี! จะยังไงไอ้เจ้านี่ก็คิดไม่ซื่อตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว! เราถึงกับรู้สึกถูกชะตาไปวูบตอนปกป้องเรา… เป็นเราโง่ไปเอง!’

บุคซิลก่นด่าสาปแช่งอยู่ภายใน แต่กระสุนยิงออกไปแล้วไม่อาจนำกลับคืน เขาต้องกล้ำกลืนรับสภาพนี้ไว้

“อาร์คนิม ตอนนี้ยังไงต่อดีคะ?”

ลาริเอ็ตเต้และโบนาที่หลบซ่อนอยู่เอ่ยถามขึ้น

“นั่นสินะครับ…”

อาร์คถอนหายใจและส่ายศีรษะ ปัญหาเรื่องดุ๊คก็คลี่คลายได้แล้ว

‘คงต้องเริ่มจัดเรียงกระบวนการความคิด’

เป้าหมายหลักของอาร์คคือช่วยเหลือเบซอทิวเพื่อหาเบาะแสต่อไปของภารกิจ แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ สภาวะพลังอำนาจในมืออาร์คตอนนี้ มีกำลังเพียงแค่ลาริเอ็ตเต้ หมูน้อย เด็ก และก็สมุนปีศาจ การต่อกรคณะของจีเวลและชาวนาคูจักสี่ร้อยชีวิต เท่านี้ไม่เพียงพอที่จะช่วยเบซอทิวออกมาได้

‘ถ้าเป็นแบบนั้น ก็เหลือเพียงทางเดียวแล้ว…’

อาร์คหันมองโบนา

“โบนา ไม่ใช่นายบอกเหรอว่าเบซอทิวต้องการให้ไปขอความช่วยเหลือจากหมู่บ้านอื่น? ทางใต้นี้มีเผ่าบารันกระจายตัวกันอยู่เท่าไหร่กัน?”

“ใช่ครับ ค่อนข้างมากพอสมควรเลย จำนวนเผ่าบารันที่กระจายตัวเยอะกว่าที่อาศัยในหมู่บ้านมากครับ”

“งั้นถ้าไปหาพวกเขาก็คงช่วยพวกเราได้?”

นั่นเป็นวิธีการที่อาร์คคิด ลำพังตัวเขายากลำบากเกินไปที่จะช่วยเหลือเบซอทิว นอกจากนี้ เขายังไม่มีพลังพอที่จะต้านทานไม่ให้ทั้งเผ่านาคูจักเข้ายึดครองทั้งโลกใต้พิภพ หลังเผ่าบารันโดนกระทำ พวกเขาย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องต่อต้านเผ่านาคูจักแล้ว ทว่าโบนากลับส่ายศีรษะและถอนหายใจให้

“ตั้งแต่ที่เผ่าบารันกระจายตัวกันไป มันก็ไม่ง่ายที่จะพบเจอพวกเขาครับ และการไปขอให้พวกเขาช่วยก็ไม่อาจส่งผลอะไร ชาวบารันไม่รู้วิธีการต่อสู้”

“ว่าอะไรนะ? เมื่อกี้ฉันหูฝาด? พูดอีกทีสิ…”

“ที่จริง ผู้สืบเชื้อสายนักรบของเผ่าพันธุ์มิวทัลก็คือเผ่าบารัน เมื่อตอนที่บารันยังเรืองอำนาจทางเหนือ พวกเขาล้วนต่อสู้กับมอนสเตอร์และเผ่านาคูจัก พวกเขามักยกทัพออกไปต่อสู้กับเผ่านาคูจักบ่อยครั้ง แต่แล้วท้ายที่สุด เผ่าบารันกลับโดนขับไล่จากทางเหนือโดยพวกนาคูจักและต้องกระจายตัวกันอยู่ในพื้นที่ทางใต้ เผ่าบารันในตอนนี้จะไม่เคลื่อนไหวเว้นก็แต่ทั้งเผ่าจะเห็นพ้องต้องกัน”

“งั้นนั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ควรไปหาพวกเขาหรือยังไง?”

“ยากครับ เป็นเพราะแต่ละเผ่าที่แยกกันอยู่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรต่อกันนานมาก มันมีวิธีเรียกพวกเขาอยู่… โดยต้องใช้ประภาคารแห่งคำมั่น”

“ประภาคารแห่งคำมั่น?”

“ครับ มันเป็นประภาคารที่อยู่บนยอดเขาโกลคิ แต่มีเพียงคนเดียวที่จะทำให้ประภาคารนั้นส่องแสงได้ นั่นก็คือผู้เฒ่าของเผ่าบารัน และคุณปู่ก็เป็นผู้เฒ่าเพียงคนเดียวภายในหมู่บ้าน”

ท้ายที่สุดก็ต้องจบลงที่การช่วยเหลือเบซอทิวออกมา

‘ไม่อยากจะเชื่อ ทำไมถึงซับซ้อนแบบนี้?’

อาร์ครู้สึกคล้ายภายในโดนแผดเผา อีกไม่ช้าจีเวลต้องรู้แน่ว่าดุ๊คตายแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อถึงเวลานั้นเพลิงพิโรธของจีเวลย่อมต้องท่วมท้นหมู่บ้านเพื่อหาตัวอาร์คให้เจอ ด้วยสภาพพละกำลังของอาร์คในตอนนี้ ไม่มีทางเลยที่เขาจะรับมือไหว แต่เขาก็ไม่อาจวิ่งหนีอย่างหน้ามืดตามัวโดยไร้แผนการ…

‘เดี๋ยวนะ? พวกจีเวลงั้นเหรอ…?’

ขณะนั้นเอง จุดประกายแสงคล้ายสว่างวาบขึ้นมาภายในความคิด

‘ยังมีทาง!’

อาร์คเงยหน้าขึ้นขณะมองไปยังร่างศพของดุ๊คที่อยู่บนพื้น รอยยิ้มชั่วร้ายเริ่มปรากฏที่มุมปาก

“ลองดูก็ไม่เลวนี่นะ?”

* * *

 

“หึหึหึ นี่มันเร็วกว่าที่คิดไว้อีก”

จีเวลมองหอคอยที่ถูกก่อสร้างด้วยความอิ่มเอม ท้ายที่สุดจีเวลก็คล้ายได้รับรางวัลหลังสูญเสียเพราะความตายก่อนหน้านี้เสียที

‘ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้โชคลาภมหาศาลผ่านโลกใต้พิภพแห่งนี้’

จีเวลเริ่มนึกย้อนถึงเรื่องราวช่วงหลายวันที่ผ่านมา ไม่นานมานี้ พวกเขาโดนปิดล้อมโดยเผ่านาคูจักเพราะไล่ตามอาร์ค ช่วงที่คณะของจีเวลกำลังจะสู้จนตัวตายกับเผ่านาคูจัก พวกเขากลับได้พบเจอผู้เล่นผมสีแดงอย่างเหนือความคาดคิด และนั่นก็นำพามาซึ่งโชคชะตาเกินคาดคิด

หากพันธมิตรเฮอร์มีสสามารถช่วยเผ่านาคูจักปกครองโลกใต้พิภพ ส่วนแบ่งของพื้นที่ทางใต้จะถูกส่งมอบให้ โดยทันที จีเวลแจ้งต่อไรเด็นถึงเรื่องราวครั้งนี้ ในเมื่อพวกเขามีวิธีการติดต่อไรเด็นที่โลกความจริง จีเวลจึงไม่เคยมีห่วงใดตั้งแต่เข้ามายังโลกใต้พิภพ

“ไม่มีเหตุให้ต้องปฏิเสธ เพราะพันธมิตรงี่เง่าแบบนั้นฉันสามารถทำลายได้ทุกเมื่อผ่านทักษะลวงหลอก”

ไรเด็นมอบอำนาจการควบคุมโลกใต้พิภพอย่างเต็มรูปให้จีเวล ด้วยเหตุนี้ พันธมิตรเฮอร์มีสจึงร่วมมือกับเผ่านาคูจัก หลังเป็นพันธมิตรกัน สมาชิกกิลด์เฮอร์มีสและเผ่านาคูจักต่างเริ่มออกเดินทางจากหมู่บ้านโดยทันที เผ่านาคูจักไม่อาจยึดครองโลกใต้พิภพได้เพราะพวกเขาไม่อาจผ่านภูเขาทางเหนือ ที่ทำได้ก็มีเพียงแค่ใช้ดราเค็นลำเลียงไพร่พลข้ามมา แต่ชาวบารันต่างก็ลาดตระเวนบริเวณท้องฟ้าอยู่ตลอดผ่านปลากระเบนบินได้ พวกเขาไม่มีทางข้ามผ่านมาได้โดยมีจำนวนคนเพียงพอเพื่อรุกรานทางใต้

เหตุผลที่เผ่านาคูจักทั้งสี่ร้อยสามารถเคลื่อนพลมาทางใต้ได้ก็เพราะจีเวล เพื่อเคลื่อนกำลังพล จีเวลใช้งาน ‘เทเลพอตมวลรวม’ ซึ่งเป็นทักษะขั้นสูงของอาชีพสตอล์คเกอร์ แน่นอนว่าการเคลื่อนย้ายไม่อาจทำได้ระยะไกล มันต้องเป็นการใช้งานหลายช่วง แต่ทักษะนี้ก็ช่วยให้กำลังพลเคลื่อนย้ายสู่ทางใต้ได้อย่างปลอดภัย ท้ายที่สุดพวกเขาก็สามารถรุกรานหมู่บ้านในหุบเขาได้สำเร็จ

“เมื่อหอคอยที่เป็นด่านหน้าเสร็จสิ้น พวกเราจะเริ่มบุกยึดครองโลกใต้พิภพ พวกเราจะปกครองโลกใต้พิภพอย่างง่ายดายหากมีหอคอยนี้!”

จีเวลเริ่มนึกไปถึงแผนการบุกโจมตีพื้นที่ทั้งหลาย เป็นความจริงที่อาร์คคาดเดาได้อย่างถูกต้องว่าจีเวลสร้างหอคอยนี้ก็เพื่อใช้งานจดหมายเคลื่อนย้าย และหอคอยนี้ในพื้นที่ทางเหนือก็สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อใดที่หอคอยแห่งนี้สำเร็จเสร็จสิ้น เผ่านาคูจักนับพันชีวิตจะหลั่งไหลสู่พื้นที่ทางใต้โดยมุ่งตรงมาจากบ้านเกิด

“หมอนั่นไปได้รับแบบแปลนแบบนี้มาได้ยังไงกัน?”

เป็นอีกครั้งที่จีเวลยังคงรู้สึกตื่นตกใจกับแบบแปลนที่ถือภายในมือ

 

=====

แบบแปลนหอคอยรับส่งจดหมายเคลื่อนย้าย (ผู้ออกแบบ : มากาโร)

ท่านสามารถสร้างหอคอยรับส่งจดหมายเคลื่อนย้ายได้

เมื่อท่านก่อสร้างหอคอยรับส่ง ท่านจะสามารถเทเลพอตจากอีกหอคอยที่เชื่อมต่อกันผ่าน ‘ลูกแก้วจดหมายเคลื่อนย้าย’ นอกจากนี้ เทคโนโลยีในแบบแปลนนี้ยังเหนือล้ำกว่าหอคอยที่ถูกสร้างขึ้นภายในโลกกลาง เป็นเพราะนักเล่นแร่แปรธาตุอัจฉริยะคือผู้ออกแบบดั้งเดิมของแบบแปลนนี้

=====

 

แบบแปลนนี้เป็นเธอได้รับมาจากผู้ชายสีแดง

จีเวลมีเวทมนตร์ขั้นสูง ขณะที่นักรบมีการใช้ดาบขั้นสูง นักเล่นแร่แปรธาตุก็มีความเป็นสถาปนิกขั้นสูงเช่นกัน พวกเขาจึงสามารถก่อสร้างหอคอยแห่งนี้ขึ้นได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ชายสีแดงจึงร้องขอให้จีเวลช่วยเหลือ อีกฝ่ายสามารถควบคุมเผ่านาคูจักได้ แถมยังมีแบบแปลนหายากเช่นนี้ และยังกล้าส่งมอบให้ผู้เล่นที่ไม่รู้จัก ทว่าจีเวลหาได้คิดมากแต่อย่างใด

‘ไม่รู้หรอกนะว่ามีจุดหมายหรือแอบแฝงอะไรไว้ แต่ยังไงมันก็ตัวคนเดียว หากคิดจัดการก็ไม่ยากแล้วหลังพวกเราได้ยึดครองทั้งโลกใต้พิภพ และเมื่อไหร่ที่นาการันตกอยู่ในความควบคุม…’

ไรเด็นและจีเวลต่างพึงพอใจกับสิ่งที่ผู้ชายสีแดงมอบให้ เมื่อทั้งโลกใต้พิภพและนาการันถูกปกครองอย่างเต็มระบบ เมื่อนั้นพวกเขาจะมีเวลาได้ขุดคุ้ยหาสมบัติในโลกใต้พิภพ

‘ไรเด็นฝากฝังโลกใต้พิภพให้เราแล้ว แบบนั้นเราก็ต้องยึดครองมาให้ได้!’

จีเวลเริ่มวาดฝันถึงอนาคตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฉับพลันใครคนหนึ่งได้เข้ามาใกล้จากที่ไกลออกไปด้วยท่าเดินประหลาด จีเวลขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างสับสน

“ว่าอะไร? ดุ๊ค? เป็นยังไงบ้าง? เด็กนั่นล่ะ?”

ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากดุ๊คที่ไล่ล่าโบนาไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน แต่แล้วทำไมดุ๊คถึงมีสภาพแปลกประหลาดนัก? ใบหน้าของอีกฝ่ายดำมืดพร้อมรอยฟกช้ำ และดวงตานั้นยังเลื่อนลอย แถมยังไม่เหลือชาวนาคูจักข้างกายเลยสักคน

“ทำไมกลับมาคนเดียวล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับหน้านายกัน?”

ขณะนั้น ดุ๊คคล้ายลังเลก่อนที่จะโค้งกายลงเขียนบางสิ่งบางอย่างลงไป

[ไม่มีเวลาแล้ว อาร์คโผล่มาแล้ว]

“ว่าอะไรนะ? อะ-อาร์ค?”

จีเวลถามด้วยอาการแตกตื่น ดุ๊คพยักหน้ารับ

“ที่ไหน? มันอยู่ที่ไหนกัน?”

[ป่าทางตะวันออก พวกเราต้องรีบแล้ว มันกลับมายังหมู่บ้าน พอเห็นพวกเราก็หนีไปทันที]

“ว่าอะไรนะ? งั้นอย่าบอกนะว่า!”

[ปัญหาคือมันไม่ได้อยู่โดยลำพัง เหตุผลที่มันกลับมาเพราะคิดล้างแค้นพวกเรา ยังจำเพื่อนร่วมรบของมันที่เจอในการบุกโจมตีได้ไหม? พวกมันมาพร้อมกัน]

“มันเรียกรวมพลแล้ว? ได้ยังไงกัน?”

[ไม่รู้ แต่ชาวนาคูจักทั้งหมดโดนพวกมันฆ่าตายหมด ฉันรอดพ้นมาได้อย่างทุลักทุเล เพราะแบบนั้น พวกมันจึงรู้แล้วว่าพวกเราเป็นพันธมิตรกับชาวนาคูจัก และนั่นทำให้พวกมันต้องวิ่งหนีไปอีกครั้ง ถ้าพวกเราไม่ไล่ตามไปโดยเร็ว พวกเราได้เสร็จมันแน่]

หัวใจของจีเวลสั่นสะท้านเพราะคำอธิบายของดุ๊ค โอกาสที่จะจับตัวอาร์คมาถึงปลายเท้าจีเวลแล้ว หากเริ่มการสยบโลกใต้พิภพเมื่อใด เมื่อนั้นก็ไม่มีเวลาให้ไปไล่ล่าอาร์ค พวกเขาจะต้องทวงคืนและล้างแค้นเมื่อยังมีโอกาส ด้วยเหตุนั้น จีเวลจึงเร่งร้อนเรียกรวมพล

“ถ้ามันเรียกรวมพลสหายเก่าก็คงมีกันห้าสิบคนได้ ฉันจะทิ้งกองกำลังจำนวนหนึ่งไว้ที่หมู่บ้าน ทุกคนที่เหลือไล่ล่าอาร์คโดยด่วน!”

จีเวลทิ้งกำลังคนไว้หนึ่งร้อยห้าสิบคนเฝ้าผู้คนในหมู่บ้านขณะเริ่มออกไล่ล่าอาร์คพร้อมเผ่านาคูจักทั้งหมดที่เหลือและสมาชิกกิลด์เฮอร์มีส แต่แล้วจีเวลกลับถามบางสิ่งกลับดุ๊คขึ้นมา

“ว่าไป ทำไมนายถึงเอาแต่เขียนกันล่ะ?”

ดุ๊คสะดุ้ง แต่เพียงครู่เดียวก็พยักหน้าและเขียนเพิ่มเติมไป

[เป็นไข้หวัดคอเลยบวมน่ะ]

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset