Ark The Legend – ตอนที่ 334 : เกือบพลาด! (2)

อ่านโดจิน doujinza.com


ตอนที่ 334 : เกือบพลาด! (2)

“ตอนนี้ไม่ใช่แค่การช่วยพวกเด็ก ๆ พวกเรายังคิดถึงหนทางอื่น ปลากระเบนบินได้เหลืออยู่เจ็ดตัว ถ้าหากข้าอยู่โยง พวกกูรันและผู้ฝึกคนอื่นสามารถใช้ปลากระเบนบินได้ พวกนาคูจักย่อมไม่อาจตามพวกเขาได้ทัน ดังนั้นแล้วพวกเขาจะสามารถไปแจ้งข่าวคราวกับเครือญาติของพวกเราได้โดยเร็ว”

แน่นอน อาร์คก็สามารถอยู่ในหมู่บ้านต่อได้จนกระทั่งพบตำรา แต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหา ตำราพวกนี้ล้วนถูกป้องกันเอาไว้โดยต้องใช้ระบบการถอดรหัสที่สืบทอดผ่านตระกูลของเบซอทิว ถ้าหากเบซอทิวไม่ร่วมทางไปด้วย ใครจะถอดรหัสตำราพวกนี้ให้? แต่ชายชราผู้ปราดเปรื่องคนนี้ก็คล้ายคิดไว้อยู่ก่อนแล้ว

“แม้ว่าโบนายังเด็ก แต่เขาก็สามารถถอดรหัสตำราพวกนี้ได้”

“คุณปู่!”

โบนาจ้องมองเบซอทิวอย่างไม่เชื่อสายตา เบซอทิวเพียงลูบหัวโบนาขณะหัวเราะ

“ไม่ต้องห่วง อาร์คเป็นคนที่เชื่อใจได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาย่อมพาพวกหลานไปยังสถานที่ปลอดภัย เพียงแค่เฝ้ารออย่างปลอดภัยจนกว่าพวกเราจะไปรับกลับเท่านั้นเอง”

โบนาร่ำร้องออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้น เบซอทิวเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อและพยักหน้าให้หลานชาย

“ปู่สัญญา ปู่จะไปรับหลานแน่”

“ครับ”

เบซอทิวพยักหน้าให้โบนาอีกครั้งก่อนเดินไปยังปลากระเบนบินได้พร้อมกูรันและผู้ฝึกบางคน จากนั้น ลาริเอ็ตเต้ที่ลังเลอยู่ก็ตะโกนขึ้น

“ฉัน… ฉันจะไปด้วยค่ะ!”

“ลาริเอ็ตเต้นิม?”

ดวงตาของอาร์คเบิกออกกว้าง

“ไม่ใช่ว่าอาร์คนิมยังไงก็ต้องกลับมาโลกใต้พิภพเหรอคะ?”

แน่นอน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องการตำรา

“อาร์คนิมพาเด็กพวกนี้ไปยังโลกกลาง และก็ต้องมีคนคอยอยู่โยงที่นี่ด้วย มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของโลกใต้พิภพ ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะปลอดภัยแม้จะโดยสารปลากระเบนไป แต่… ฉัน… ฉันจะปกป้องพวกเขาให้ได้ค่ะ”

อาร์คมองลาริเอ็ตเต้โดยไม่รู้จะพูดกล่าวสิ่งใด คำแนะนำของเธอช่างเหนือความคาดคิด ไม่ใช่ว่าเธอลั่นวาจาเอาไว้แล้วหรือว่าจะไม่ขึ้นขี่ปลากระเบนอีกครั้ง? เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงคิดอยู่โยงในโลกใต้พิภพต่อ แต่การให้ลาริเอ็ตเต้อยู่ต่อก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร อาร์คจะยังไงก็ไม่มีทางทอดทิ้งโลกใต้พิภพอยู่แล้ว ถ้าหากคณะของจีเวลยึดครองโลกใต้พิภพ แบบนั้นก็จะไม่มีที่ให้อาร์คได้หลบซ่อนอีก เขาต้องทำทุกหนทางเพื่อหยุดยั้งเรื่องนี้ พลังอำนาจของชาวบารันจำเป็นต้องรวมกันและหยุดยั้งภัยครั้งนี้ ในสงคราม ลาริเอ็ตเต้จะช่วยเหลือชาวบารันได้อย่างมหาศาล

“เข้าใจแล้วครับ”

อาร์คพยักหน้ารับ ลาริเอ็ตเต้จึงเอ่ยคำหนึ่งออกมา

“งั้น… ช่วยบอกเบอร์โทรศัพท์ให้ด้วยค่ะ”

“ครับ? เบอร์โทรศัพท์?”

“อาร์คนิมต้องไปโลกกลาง แต่ก็ต้องคอยรับรู้เรื่องของโลกใต้พิภพด้วย และระหว่างมิติก็ไม่สามารถใช้งานขนนกเสียงกระซิบได้…”

“จริงด้วย…”

อาร์คพยักหน้ารับก่อนจะบอกเบอร์โทรศัพท์ไป ลาริเอ็ตเต้พลันหน้าแดงก่อนจะกำหมัดเอาไว้แน่น หลังจากเบซอทิวเรียกปลากระเบนมา เธอก็จับบังเหียนเอาไว้แน่นพร้อมสีหน้าซีดเผือดก่อนที่จะกรีดร้องบินออกไป

‘ถึงจะกลัวแต่ก็ยังขันอาสา… ลาริเอ็ตเต้นิมมีความรับผิดชอบมากจริง ๆ’

อาร์คคิดว่าลาริเอ็ตเต้อยากอยู่ต่อก็เพราะรู้สึกต้องรับผิดชอบต่อชาวบารัน ทว่า ที่ลาริเอ็ตเต้แยกตัวไปนั้นมีแรงจูงใจส่วนตัวซ่อนเร้น ความรู้สึกของเธอที่มีต่ออาร์คยังคงไม่แน่ชัด ลาริเอ็ตเต้จึงอยากยืนยันความรู้สึกตัวเองว่าอาร์คจะเป็นสหายร่วมงานที่ดีหรืออย่างอื่นที่มากกว่า ทุกครั้งที่เธออยู่ร่วมกับอาร์คตามลำพัง… เธอจะยิ่งมีอาการสับสนขณะต้องเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเรื่อยไป อย่างไรแล้วถ้าหากเธอกลับไปโลกกลาง เธอก็จะหมดสิทธิ์ติดตามอาร์ค แต่ถ้าหากเธอเลือกอยู่โลกใต้พิภพต่อไป อาร์คย่อมต้องติดต่อเธออย่างแน่นอน นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าเธอยังจะสามารถขอเบอร์โทรศัพท์ของอาร์คอย่างเป็นธรรมชาติได้ด้วยหรือ? ลาริเอ็ตเต้คิดแผนการอันปราดเปรื่องนี้ขึ้นในฉับพลันขึ้นมา

อย่างไรแล้ว พอกลุ่มของเบซอทิวจากไป อาร์คก็กลับเข้ามายังภายในบ้านอีกครั้ง

‘ผงเคลื่อนย้ายมิติสิบกรัมสามารถใช้ได้สำหรับหนึ่งคน ตอนนี้เหลือผู้ใหญ่และเด็กห้าสิบคน เราต้องสร้างวงเวทโดยใช้ผงห้าร้อยกรัม’

อาร์คเริ่มจัดการพื้นที่สำหรับการสร้างวงเวท

“พี่ชาย พวกเราเจออีกเล่มแล้ว!”

‘ดี ระหว่างที่วาดวงเวทก็ยังหาต่อไปได้!’

ขณะเดียวกัน ชาวบารันต่างง่วนกับการหาตำรา พอเขาวาดวงเวทเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็พบตำราแล้วเก้าเล่ม ตอนนี้เหลืออีกเพียงแค่เล่มเดียว และมันก็คล้ายจะเป็นปัญหาใหญ่ด้วย

“พี่ชาย พวกเราหาทั่วแล้ว แต่เล่มสุดท้ายยังไงก็ไม่เจอครับ”

ชาวบารันทั้งสิ้นห้าสิบคนดื่มชาสมุนไพรเข้าไปเพื่อออกค้นหาทั่วทั้งบ้าน ถึงกระนั้นแล้ว ชิ้นส่วนสุดท้ายยังไม่อาจหาพบ คณะของจีเวลก็เข้ามาภายในหมู่บ้านเรียบร้อยและกำลังมุ่งมาทางนี้ เบซอทิวบอกเอาไว้ว่าบทความเรื่องใต้บาดาลนั้นถูกเขียนอยู่ภายในตำราเล่มหนึ่ง คงไม่ใช่ว่ามันจะเขียนอยู่ในเล่มที่หาไม่เจอหรอกนะ?

‘ตำราเก้าเล่ม โอกาสกว่าเก้าในสิบ ขึ้นอยู่กับโชคของเราแล้วสินะว่ามันจะเป็นเล่มที่เหลือหรือเปล่า…’

มันก็เหมือนซื้อสลากกินแบ่งแล้วต้องมาลุ้นว่าเลขจะไม่ตรงสักหลักหรือไม่ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเวลาแล้ว อาร์คกัดฟันแน่นขณะชี้ไปยังประตูมิติที่เริ่มเรืองแสง

“ช่วยไม่ได้ ปล่อยเล่มนั้นไป ทุกคนให้เข้าไปยังประตู พวกเด็ก ๆ ไปก่อน! จากนั้นค่อยเป็นผู้ใหญ่นะครับ เจ้าพวกนั้นคงใกล้มาถึงแล้ว”

ชาวบารันต่างเดินเรียงกันไปที่ประตูกันทีละคนตามอาร์คสั่ง แต่แล้วไม่ช้า โบนาที่อยู่เป็นคนสุดท้ายเคียงข้างอาร์คหน้าประตูกำลังมองโดยรอบ ดวงตาของโบนาทอแสงสว่างวูบร้องอุทานออก

“พี่ชาย! ตรงนั้น! A-4! ตำราเล่มสุดท้าย!”            อ่านโดจิน doujinza.com

“ว่าอะไรนะ?”

อาร์คหันกลับไป มองเพียงชั่วครู่เขาจึงพบตำราเล่มดังกล่าว เล่มสุดท้ายที่มีความเป็นไปได้ มันหล่นอยู่ตรงชั้นหนังสือบริเวณใกล้ทางเข้า และคณะของจีเวลก็มาถึงพร้อมกับตอนที่เขาเจอตำราเล่มนั้น

“อาร์ค!”

“หือ ประตู? พวกบารันหนีไปแล้ว!”

“บัดซบ มาได้จังหวะจริงนะ!”

อาร์คก่นด่าสาปแช่ง

“เดดริค พาโบนาเข้าประตูไปก่อน ราซาคเปลี่ยนร่าง!”

กรั่ก กรั่ก กรั่ก!

ราซาคที่รออยู่ข้างกายเปลี่ยนเป็นซอว์เบลด อาร์คคว้าซอว์เบลดไว้แน่นขณะใช้การพุ่งตัววิ่งเข้าหาคณะของจีเวล จีเวลที่เห็นว่าอาร์คกำลังจะวิ่งหนีสวนไปพลันเร่งร้อนเข้าหยุดยั้ง แต่อาร์คกลับมีทีเด็ดกว่า เขาพ่นคำหยาบคายออกมา

“เหอะ… ไอ้พวกสวะ พวกแกมัน -ตี๊ด- ฉันจะ -ตี๊ด- ให้รู้ถึงทรวง!”

ถ้อยคำต่ำช้าถูกพ่นออกมาอย่างรวดเร็วจนสีหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำ และด้วยผลของ ‘ข่มขู่’ คณะของจีเวลจึงตัวแข็งทื่อ ขณะเดียวกันนั้น อาร์คที่วิ่งเข้าใส่ก็กระโดดผ่านพ้นพุ่งปะทะเข้าหานักรบที่ยืนขวาง เขาตัดสินใจใช้ใบหน้าอีกฝ่ายต่างหินรองเท้าขณะเหวี่ยงดาบออกไป ทว่าดาบเล่มนี้แปรเปลี่ยนเป็นแส้เข้าไปคว้าตำราเล่มนั้นเอาไว้ จากนั้นแส้จึงหดกลับพร้อมตำราที่อยู่ในมืออาร์คเรียบร้อย

‘ได้แล้ว!’

อาร์คที่ได้ตำราไว้ในมือจึงเร่งร้อนพุ่งไปที่ประตู ขณะนั้นเอง นักรบคนที่แข็งทื่อพลันอาการคลายและคว้าเข้าที่เข่าของอาร์ค เพราะเหตุนั้นอาร์คจึงล้มลงหน้ากระแทกพื้น พลังชีวิตของเขาย่อมลดลงตาม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา

“เหอะ จับตัวได้แล้ว!”

“นี่แหละโอกาส จัดการมันเลย!”

“ทำให้มันมึนงง ลดพลังชีวิตมัน!”

ต้องสู้กับผู้เล่นที่รายล้อม? ไม่ใช่ว่าสถานการณ์นี้หากเป็นในภาพยนตร์หรือการ์ตูนตัวเอกย่อมต้องสามารถจัดการได้ง่ายดายหรือ? แต่นั่นก็แค่ละครฉากหนึ่ง ความเป็นจริงไม่ต้องอธิบาย ด้วยสภาพตอนนี้ ทักษะอันหลากหลายได้ถาโถมเข้าใส่เขาอย่างหนักหน่วง! คณะของจีเวลและนาคูจักต่างปิดล้อมเขาเอาไว้ขณะพลังชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว

‘ถ้าเราตายทุกอย่างก็จบ!’

อาร์คกลิ้งกับพื้นพยายามหลบเลี่ยงการโจมตี ทว่าเพียงพริบตาอาการก็วิกฤตแล้ว แต่ก็โชคดีอยู่บ้างที่เข้าอาการวิกฤต เพราะมันทำให้อะดรีนาลีนของเขาทำงานเพื่อเสริมพลังป้องกันและอัตราการตอบสนองอย่างมหาศาล อาร์คใช้ร่ายรำแห่งความมืดหลบเลี่ยงการโจมตีขณะมุ่งหน้าไปยังประตูพร้อมกัน และขณะที่ร่างของเขากำลังจะเข้าประตู… ฉับพลัน ห่วงโซ่หลายสิบได้ปรากฏขึ้นจากพื้นรัดพันรอบตัวเขาเอาไว้ หน้าต่างข้อความสีแดงปรากฏแจ้งเตือนแก่สายตา

=====

ท่านโดนจับตัวไว้ด้วยคาถา ผูกมัด ขั้นสูง

=====

มันคือทักษะโซ่ตรวนของนักเวท เป็นทักษะที่จำกัดการเคลื่อนไหว แต่เมื่อใดก็ตามที่โดนโจมตีมันจะถูกคลายออก มันคือทักษะที่มีประโยชน์ยามต้องสู้กับมอนสเตอร์จำนวนมาก ทว่าสภาพของอาร์คตอนนี้ก็วิกฤตเรียบร้อยแล้ว เพียงการโจมตีอย่างเต็มที่สักครั้งก็เพียงพอจะสังหารเขาได้

“อย่าแตะต้องมัน ฉันจัดการเอง!”

จีเวลเคลื่อนเข้าหาพร้อมเริ่มบริกรรมคาถา จีเวลใช้งานเวทมนตร์ร้อยเรียงเพื่อผสานคาถาอันแข็งแกร่งสองบทเข้าด้วยกัน การร่ายเวทเป็นไปอย่างยาวนาน หากเป็นสถานการณ์ปกติย่อมไม่อาจใช้ แต่หากใช้งานออกได้ มันก็แข็งแกร่งมากพอที่จะลดพลังชีวิตนักรบที่มีเลือดมหาศาลได้ถึง 40%

‘อึก… แค่ก้าวเดียวแท้ ๆ … ไม่ยอมเด็ดขาด!”

“นี่สำหรับที่ปั่นหัวพวกเรา! พายุหิมะ! เพลิงโลกันต์!”

เวทมนตร์ที่ต่างขั้วกันสองบทถูกใช้งานออกผ่านมือของจีเวลพุ่งเข้าใส่อาร์คทั้งน้ำแข็งและไฟ ร่างของเขาโดนอุณหภูมิที่ต่างขั้วกันอย่างถึงที่สุดเข้าลดทอนพลังชีวิตอย่างรวดเร็ว และ… หน้าต่างข้อความที่เขาไม่อยากเห็นที่สุดก็ปรากฏขึ้น

=====

ท่านโดนผู้เล่นจีเวลโจมตีและเสียชีวิต!

=====

“ทำได้แล้ว!”

อาร์คล้มลงขณะที่คณะของจีเวลหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาล้วนพยายามหลบเลี่ยงการเป็นฆาตกรในช่วงยึดครองหมู่บ้าน แต่สำหรับการฆ่าอาร์ค หากต้องเป็นฆาตกรก็ไม่นับเป็นอะไร

“จุดเกิดใหม่ของมันคือหมู่บ้านแห่งนี้ ตอนนี้มันก็เหมือนหนูในกำมือแล้ว!”

ทว่าจีเวลไม่ได้ตระหนักถึงบางสิ่ง อาร์คที่ตายไปแล้วกลับมีรอยยิ้มตรงมุมปาก…

‘หึ ได้เวลาแล้ว!’

อาร์คกล่าวขึ้นภายในใจ ฉับพลันซอว์เบลดในมือของอาร์คเริ่มสั่นไหว เสียงกระดูกที่เชื่อมต่อกันเริ่มก่อเกิดขึ้นเป็นร่าง มันช่วยให้พลังชีวิตของอาร์คฟื้นคืนกลับมา

=====

ทักษะ คำมั่นแห่งความตาย ของราซาคทำงาน

=====

อาร์คแลกเปลี่ยนพลังชีวิตกับราซาค…

ถูกต้องแล้ว มันคือทักษะพิเศษของจ้าวแห่งความตาย ‘คำมั่นแห่งความตาย!’ เมื่อใดที่เจ้านายเสียชีวิต สมุนปีศาจของเขาจะสามารถแสดงความภักดีเพื่อแลกเปลี่ยนพลังชีวิตกับเจ้านายได้ เพราะเหตุนั้น บทลงโทษค่าสถานะทั้งหมด -1 ของอาร์คจึงโอนย้ายไปที่ราซาค และอาร์คก็สามารถฟื้นคืนพลังชีวิตมาได้ 3,000 หน่วย

‘ไม่เคยคิดเลยว่าทักษะนี้จะช่วยได้มากขนาดนี้!’

“แม้จะเร่งด่วนไปบ้าง แต่ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่สาแก่ใจ เรียกปีศาจ!”

“อั่ก!”

อาร์คเงื้อดาบแห่งกิลซาลออก ดาบพลันทิ่มแทงเข้าใส่ X ของจีเวล มันคือท่าพิเศษที่อาร์คใช้งานตอนรับมือกับคาลจาเปย์ ยุทธการจู่โจม X แถมเขายังใช้เรียกปีศาจควบคู่ไปด้วย การโจมตีนี้จึงยิ่งสร้างความเจ็บปวดยิ่งกว่า จีเวลถึงกับระเบิดเสียงร้องดังลั่นอย่างตื่นตกใจขณะล้มพับลงกับพื้น

“แก้แค้นสำเร็จ!”

อาร์คเอ่ยขณะเผยรอยยิ้มเย็นเยียบก่อนจะวิ่งเข้าไปในประตู แม้จีเวลจะตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นและตอบสนอง ทว่าไม่ทันการ ประตูมิติหายวับไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาจนต้องหน้าทิ่มพื้นกันระนาว คณะชาวเฮอร์มีสต่างมอบกันด้วยสีหน้าโง่งมขณะหันไปเอ่ยถามกับจีเวล

“ตรงนั้น… ยังอยู่ดีใช่ไหม?”

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset