ตอนที่ 344 : มุ่งหน้าสู่โลกใต้พิภพ! (1)
กริ๊ง กริ๊ง
“เชิญครับ”
“ต้องการซื้อหาสิ่งใดกันครับ? ถ้าหากไม่รังเกียจรับรายการสินค้าไปชมก่อนได้”
พ่อค้าสามคนส่งเสียงพร้อมกันเมื่อกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น ชีวิตการเล่นเกมของพวกเขาล้วนแตกต่างออกไปเมื่อได้พบเจออาร์ค และเพราะพี่ใหญ่ของพวกเขาต้องมีสภาพกลายเป็นฆาตกรด้วย พี่น้องหมูน้อยทั้งสามตอนนี้กลายเป็นพนักงานขายสินค้าให้ร้านค้าของอาร์คพร้อมทั้งเป็นแรงงาน แม้ว่าพวกเขาจะยอมรับงานนี้อยู่กลาย ๆ แต่ทั้งสามก็ไม่ได้เกลียดอะไรนัก อันที่จริงทั้งสามค่อนข้างตั้งใจพอสมควรเพราะระบบของเกมที่ช่วยให้พ่อค้าเลเวลและทักษะเพิ่มขึ้นผ่านการทำธุรกรรมอันหลากหลาย ถ้าหากพวกเขาขายสิ่งของได้หลายอย่างในคราวเดียว อัตราการเติบโตก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมาก
เมื่อเลเวลของพวกเขาเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งสามารถซื้อหาไอเทมในราคาที่ถูกได้มากเท่านั้น และการขายก็จะยิ่งทำให้แพงยิ่งขึ้น พ่อค้าหมูน้อยทั้งสามเริ่มต้นกันโดยมีบุคซิลนำขายสินค้าหายาก ดังนั้นแล้วบุคซิลจึงมีเลเวลเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าอีกสองคนที่เหลือ นั่นทำให้เขาสามารถซื้อหาไอเทมราคาถูกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องอย่างแซบจิลและอัลเมออคให้เลเวลเพิ่มขึ้นได้ แม้ว่าวิธีนี้ไม่ดีเลิศอะไร แต่อย่างน้อยมันก็คือทางลัดที่ดีกว่าพ่อค้าคนอื่นหลายเท่านัก แต่แล้วพอบุคซิลต้องติดตามอาร์คไป ทั้งสองจึงไม่อาจใช้วิธีดังกล่าวได้อีก หลังจากตายและกลับสู่โลกกลาง เป็นเรื่องปกติที่ต้องสูญเสียค่าประสบการณ์ไป ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงยินดีพอสมควรที่อาร์คเสนองานครั้งนี้ให้
‘อย่างน้อยทำงานอยู่ที่นี่ก็ไม่สูญเสียค่าประสบการณ์ แถมยังได้เงินเดือนด้วย ใช่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรที่จะเป็นพนักงานขายต่อไปจนกระทั่งลูกพี่ดำเนินแผนการเสร็จ แม้ไม่อาจทำงานได้ตลอดไป แต่ร้านนี้ก็ดีเอาเรื่องเลย’
เจตจำนงแต่เดิมของพี่น้องหมูน้อยทั้งสามยังคงมี ในตอนแรกพวกเขาก็ไม่ค่อยเชื่อใจร้านแห่งนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้เรื่องราวเรียบร้อยดีแล้ว อัตราลูกค้าเข้าร้านค่อนข้างมากกว่าร้านอื่นในหมู่บ้านแลนเซลหนึ่งหรือสองเท่าตัวด้วยซ้ำ เพราะเหตุนั้น พี่น้องหมูน้อยทั้งสามจึงต้องทำงานกันมือระวิงจนแทบไม่มีเวลาพักออกไปกินข้าวในโลกจริง อย่างไรแล้วที่พี่น้องทั้งสามคนนี้อดทนทำงานต่อไปก็เพื่อรอโอกาส
‘ไอ้เจ้าอาร์คนั่นไม่ใช่พ่อค้า หมอนั่นเตรียมร้านไว้ก็จริงแต่คงไม่คิดอยู่ที่ร้านตลอด’
‘สุดท้ายหมอนั่นก็ต้องออกไปที่ไหนสักแห่ง! ระหว่างนั้นพวกเราก็เสียเวลาที่นี่ช่วยเพิ่มเลเวลตัวเองไปด้วย!’
‘ช่วงที่แผนการหยุดชะงัก สถานการณ์นี้นับว่าได้รับกันทั้งคู่’
แต่แล้วก็มีเรื่องอยู่บ้างเมื่อผู้จัดการร้านอย่างโรโค่ออกนิ้วชี้สั่งการ
‘เหอะ ทำไมพวกเราต้องมาฟังคำสั่งแม่หนูนี่ด้วย?’
‘หึหึหึ ไว้รออาร์คไปก่อนเถอะ จะทำให้ร้องไห้เลยคอยดู’
‘อย่าได้คิดว่าพวกเราเป็นพี่น้องหมูน้อยอ่อนต่อโลกเชียว’
หมูน้อยทั้งสามยิ้มอย่างชั่วร้ายขณะนึกถึงแผนการอันโหดเหี้ยม โรโค่ย่อมมีประสบการณ์ครั้งทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ เธอจึงสามารถจัดการเรื่องคลังสินค้าและการเงินได้อย่างดี รวมทั้งการรับลูกค้าด้วย ทว่า อย่างไรแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ย่อมไม่อาจเทียบกับอาร์คที่ใจแข็งกว่า ดังนั้นแล้วพี่น้องหมูน้อยทั้งสามจึงแสร้งทำเป็นยอมเชื่อฟังอาร์คไป ไว้พออาร์คไม่อยู่ที่ร้านพวกเขาค่อยเผยธาตุแท้ออกมา นี่คือแผนการที่วางไว้! พวกเขาไม่ทำทั้งจัดเรียงสินค้าหรือว่าทำความสะอาด ชั่วโมงเร่งด่วนก็ออกไปกินข้าวแล้วปล่อยให้ลูกค้ารอต่อไป
“หึหึหึ เป็นไง? เห็นหรือยังว่าพวกเราทำได้”
“ลูกพี่ ทำเรื่องแบบนี้ผมว่าไม่ดีเท่าไหร่นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก คิดเสียว่าได้แก้แค้นไอ้เจ้าอาร์คแล้วกัน นอกจากนี้ พวกเรายังจะได้รับเงินค่าจ้างสิบสองชั่วโมงต่อวันโดยไม่ต้องลงแรงอะไรมาก หรือก็คือ 60 เหรียญทองต่อเดือน หากต้องทำงานเต็มที่นั่นไม่คุ้มเลยสักนิด!”
ความเป็นจริงคือ จะเรียกว่าเงินเดือนก็ไม่ถูกนัก หนึ่งเดือนในนิวเวิลด์เทียบเท่ากับสิบวันในโลกจริงเท่านั้น เพราะงั้นรายได้ต่อเดือนแท้จริงของพวกเขาคือ 180 เหรียญทอง นับว่าค่อนข้างสูงแล้วกับการทำงานพาร์ทไทม์ภายในเกม แต่นี่คือกลลวงของอาร์ค ก่อนหน้านี้อาร์คได้ทำสัญญาเอาไว้ว่าทั้งสามจะได้รับ 50 เหรียญทองต่อเดือน
แต่ด้วยสภาพการเงินของทั้งสามที่แทบดิ่งลงเหวเพราะทำธุรกรรมผิดพลาดจนต้องออกเงินแทนเสียเอง ด้วยเหตุนี้เงินเดือนของแซบจิลและอัลเมออคจึงต้องนำไปจ่ายให้กับอาร์คเพื่อทดแทนส่วนต่าง ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองจึงได้รับเงินเดือนเพียงแค่ 10 เหรียญทองเท่านั้น ด้วยเงินจำนวนเท่านี้ซื้อหาอาหารก็แทบหมดสิ้นแล้ว และต่อให้จะเหลือสัก 1 เหรียญทอง มันก็ไม่อาจพูดได้ว่าสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้
“เฮ้อ พวกเราน่าเวทนาขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ”
“อย่าร้องไห้ไป ความหวังยังมี พวกเราจะให้ไอ้เจ้าอาร์คได้สำนึกเสียบ้าง”
บุคซิล แซบจิล และอัลเมออคต่างได้รับแรงใจขณะทำท่าทีแย่ยิ่งขึ้น ต่อหน้าโรโค่ทั้งสามทำงานเป็นอย่างดี แต่พอโรโค่ออกไปจากร้านพวกเขาก็จะต้อนรับลูกค้าด้วยสีหน้าบุญไม่รับ จากยอดขายที่พุ่งทะยานฟ้าจึงกลายเป็นดิ่งลงฮวบฮาบเพียงผ่านไปไม่กี่วัน
“ราคาเท่าไหร่งั้นเหรอ? จะไปรู้ได้ยังไงกัน”
พ่อค้าหมูน้อยทั้งสามตอบกลับโดยไม่คิดมองหน้าลูกค้าด้วยซ้ำ เมื่อได้รับการตอบกลับเช่นนี้ ลูกค้าจึงทำได้เพียงแค่ถอนตัวกลับไป ทว่า ครั้งนี้ลูกค้ากลับมีท่าทีตอบรับผิดแผก
“…เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”
“คงต้องสั่งสอนบทเรียนกันหน่อยแล้วมั้ง?”
กลุ่มลูกค้ากระซิบกระซาบกันพักหนึ่งก่อนที่ชายคนหนึ่งภายในกลุ่มจะเดินเข้ามาใกล้เคาน์เตอร์ อีกฝ่ายเป็นชายร่างใหญ่ ไหล่กว้าง และดวงตากำลังเป็นประกาย เขาจ้องมองแซบจิลและอัลเมออคที่กำลังเล่นไพ่กันอยู่หลังร้านขณะทุบเคาน์เตอร์อย่างแรงและตะโกนดังก้อง
“เฮ้ย!”
“เฮือก ทะ-ทำบ้าอะไรเนี่ย?”
“ทำบ้าอะไร? โฮ่ เป็นคำถามที่ดี”
ชายตรงหน้าหัวเราะให้ก่อนที่จะคว้าคอเสื้อของบุคซิลเอาไว้ขณะยกร่างขึ้นมา
“พอเห็นพนักงานขายทำท่าทีไม่ดีใส่ลูกค้าก็เลยอยากจะอัดสักยกสองยก”
“หา? อะไรกันเนี่ย…?”
“อย่าพูดมาก!”
ตึก ตุบ ตับ ตึง!
เสียงความรุนแรงทั้งหลายพลันดังขึ้นโดยทันทีภายในร้าน หมูน้อยทั้งสามถึงกับใจเสียขณะโดนกระทำดั่งกระสอบทราย แน่นอนว่าผู้เล่นไม่มีทางรู้สึกเจ็บปวดจากภายในเกมแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย มันจะมีระบบส่งกระแสไฟฟ้าสถิตเล็กน้อยออกมาทุกครั้งที่โดนโจมตี แม้ไม่อาจเรียกได้ว่าความเจ็บปวด แต่นั่นก็ทำให้ตื่นตกใจได้ นอกจากนี้ การโจมตีคริติคอลที่กระหน่ำมาสามถึงสี่ครั้งก็ทำเอาพวกเขาแทบตายตก
“จะ-โจรปล้นร้าน!”
“ทะ-ทหารรักษาการณ์ ช่วยด้วย มีคนกำลังพยายามฆ่าพวกเรา!”
หมูน้อยทั้งสามพยายามส่งเสียงร้องตะโกนขณะตะเกียกตะกายไปเปิดประตูออกจากร้าน ทหารรักษาการณ์จำนวนหนึ่งที่ลาดตระเวนอยู่หันศีรษะควับกลับมาโดยทันทีเมื่อได้รับเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่างกล้ากระทำเรื่องไร้ยางอายในเมืองแห่งนี้…”
“หุบปากเงียบกันได้แล้ว”
ทว่า พอคณะในร้านค้าโผล่พรวดออกมาก็เหยียบหมูน้อยทั้งสามไว้แทบจมดิน เกิดเรื่องอะไรกัน? ทำไมคนพวกนี้ถึงกล้าเผชิญหน้ากับทหารรักษาการณ์ในหมู่บ้าน? แต่แล้วท่าทีตอบสนองของพวกทหารรักษาการณ์กลับยิ่งน่าประหลาดใจยิ่งกว่า
“อ้าว หัวหน้านี่นา กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ?”
“อ้าว พวกนายเองเรอะ ก็เพิ่งมาถึงเมื่อกี้แหละนะ”
“ทำไมหัวหน้าถึงทำร้ายหมูสามตัวนั่นกันล่ะครับ?”
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร งานเล็กน้อย”
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็เรียกพวกเราได้เสมอนะครับ”
ทหารรักษาการณ์ทำท่าแสดงความเคารพขณะหันกายเดินจากไป นี่เรื่องบ้าบออะไรกัน? ทำไมพนักงานขายของร้านค้าในหมู่บ้านโดนกระทำขนาดนี้แต่แล้วทหารพวกนั้นไม่คิดช่วย? นอกจากนี้ ไม่ใช่เมื่อกี้โจรตรงหน้าว่ามีอะไรให้ช่วยก็เรียก? แล้วก็เดินลอยหน้าลอยตาไปเฉย ประชาชนโดยรอบต่างมุงมองแต่คล้ายไม่ใส่ใจ กระทั่งผู้เฒ่าชาวเหมียวอย่างฮัสซันยังโบกไม้โบกมือให้ชายที่เป็นหัวหน้าก่อนที่จะกลับไปนอนต่อ
‘เรื่องอะไรกัน? นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?’
‘หรือพวกเรากลายประชากรล่องหนในหมู่บ้าน?’
สามพี่น้องหมูน้อยยังไม่เข้าใจเรื่องราวว่าเป็นมายังไง ทำไมพวกเขาถึงโดนทำร้ายทั้งไม่มีสาเหตุ แถมยังไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเลยสักคน ทำไมเรื่องราวอยุติธรรมเช่นนี้ถึงเกิดขึ้น? หมูน้อยทั้งสามแทบร้องไห้ออกขณะกรีดร้องเพราะโดนลากไป…
“ทำไมถึงทำแบบนี้กันเนี่ย?”
“อั่ก ได้โปรดหยุดทุบตีพวกเรา พวกเราเป็นหมูน้อยที่ดีนะ!”
ขณะใกล้จะเป็นบ้าอยู่นั้นเอง พวกเขากลับได้ยินเสียงคล้ายพระผู้ช่วย
“โอ้? นี่…?”
โรโค่เดินออกมาจากศูนย์ฝึกฝนเพื่อมารับวัตถุดิบที่ชาวบารันออกไปเก็บเกี่ยวและกำลังจะกลับเข้าเมือง หมูน้อยทั้งสามเข้าไปเกาะแข้งเกาะขาโรโค่เป็นการใหญ่
“ผะ-ผู้จัดการร้าน!”
“ช่วยพวกเราด้วย พวกเรายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่แล้วคนพวกนี้คิดอยากฆ่าเรา!”
หมูน้อยทั้งสามร้องแหกปากตะโกนขณะชี้ไม้ชี้มือไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ แม้ทั้งสามจะทำเรื่องไม่ดีกับโรโค่ตอนอาร์คไม่อยู่ร้าน แต่สถานการณ์นี้ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องร้องขอความช่วยเหลือ โรโค่เพียงเผยสีหน้าเสียใจขณะช่วยเช็ดคราบเลือดที่จมูกให้หมูน้อยทั้งสามขณะเดินเข้าไปหากลุ่มชายฉกรรจ์…
“พวกพี่ชายคะ นี่อะไรกัน? บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าทำร้ายที่ใบหน้า แล้วทำไมใบหน้าพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ล่ะคะ?”
“หือ บอกเหรอ? โทษที คงเผลอตัวไปหน่อย”
“แล้วหลังจากนี้จะขายของยังไงทั้งที่มีใบหน้าแบบนี้ล่ะคะ?”
โรโค่ยังคงยิ้มขณะชี้ไปที่ใบหน้าของหมูน้อยทั้งสามก่อนที่จะเงียบไป
“เอาเถอะค่ะ เป็นไปแล้วก็ให้เป็นไป”
…เธอพูดว่าอะไรนะ?
บุคซิลเผยสีหน้าโง่งมมองระหว่างโรโค่และกลุ่มชายฉกรรจ์ คล้ายอะไรทำให้นึกขึ้นได้… เขาเคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน พวกนี้คือคนทั้งสิบเอ็ดที่อยู่กับอาร์คตอนเซเลบริด! ใช่แล้ว เป็นจัสติสแมนและกลุ่มทัณฑ์บนนั่นเอง ท้ายที่สุดคล้ายนึกเรื่องราวขึ้นมาได้ บุคซิลเข้าใจกระจ่าง ขณะนี้ใบหน้าของโรโค่ยังคงเผยรอยยิ้มเล็กน้อยออกมา… และนั่นมันยิ่งทำให้บุคซิลคล้ายเห็นฉากอันน่าสะพรึงของหนังสยองขวัญก็ไม่ปาน
‘สวรรค์… นี่มัน… เรื่องนี้สินะที่ซิดเคยพูดถึง!’
เขาเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแทบจะทันทีที่เห็นโรโค่เผยรอยยิ้มออกมา ตอนที่อาร์คไปจากหมู่บ้านแลนเซล ซิดก็ต้องกลับซิลวาน่า ตอนนั้นซิดและบุคซิลได้แลกเปลี่ยนชะตากรรมซึ่งกันและกัน และซิดก็คล้ายเดาได้ว่าเขามีแผนการอะไรอยู่ เพราะเมื่ออาร์คจากไปแล้ว พี่น้องหมูน้อยทั้งสามได้วางแผนทำทีเป็นไม่สนใจโรโค่ขณะเตรียมทำให้ร้านวุ่นวาย… แต่แล้วซิดกลับเอามือตบเข้าที่ไหล่ของบุคซิลขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ว่าจะคิดอะไรอยู่ก็ตาม ทางที่ดีหยุดเสีย นายยังไม่รู้ว่าโรโค่นิมน่ากลัวได้ขนาดไหน คิดเหรอว่าไม่มีอาร์คนิมแล้วนายจะทำอะไรได้ตามใจ?”
แต่แล้ว บุคซิลคล้ายลืมเลือนทันทีที่ซิดจากไป เมื่ออาร์คไม่อยู่ เหลือเพียงแค่โรโค่เฝ้าร้าน หมูน้อยทั้งสามจึงใจกล้าขึ้น โรโค่เพียงแค่คอยช่วยจัดการร้านจนกว่าอาร์คจะกลับมาก็เท่านั้น ดังนั้นแล้วพี่น้องหมูน้อยทั้งสามจึงคิดว่าโรโค่ก็แค่เด็กแสนดีคอยเฝ้าร้านให้ แต่แล้วพวกเขากลับต้องนำคำพูดของซิดกลับมาคิดใหม่
‘โรโค่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้… ปีศาจ ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นปีศาจเช่นกัน!’
บุคซิลรู้สึกคล้ายดวงตาพบเห็นปีกสีดำที่โบกสะบัดอยู่ด้านหลังโรโค่ แฟนสาวของปีศาจร้ายย่อมต้องเป็นปีศาจร้ายเช่นเดียวกัน กว่าจะตระหนักเรื่องนี้ได้ก็สายเกินไป หลังจากพี่น้องหมูน้อยทั้งสามโดนทุบตีจนแทบเป็นเนื้อบด โรโค่จึงพาทั้งจัสติสแมนและกลุ่มทัณฑ์บนไปที่ชั้นสอง จัสติสแมนและกลุ่มทัณฑ์บนกำลังสำรวจร้านค้าแห่งนี้
“โห ได้ยินมาเหมือนกัน แต่เจ้าอาร์คกลับเปิดร้านขึ้นมาจริงด้วย”
“ทั้งหมดนี่เป็นสินค้าที่อาร์คหาและจัดทำขึ้นเองเหรอเนี่ย?”
“ไม่ใช่ว่ามีของมากมายเอาเรื่องเลยหรือไงกัน?”
“ว่าแต่… เธอเป็นผู้จัดการร้านชั่วคราวงั้นเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ทั้งหมดก็ประมาณนั้น”
โรโค่ยิ้มให้พร้อมเผยท่าทีคล้ายเป็นกังวล
“ไม่ใช่ว่าพวกพี่ชายทำเกินไปเหรอคะนั่น?”
ตอนนี้ยังคงมีเสียงครางต่ำจากหมูน้อยทั้งสามดังจากชั้นล่าง ความจริงแล้วโรโค่ค่อนข้างลำบากพอสมควรเพราะหมูสามตัวนั่น เธอทำงานอย่างหนักเพื่อได้รับเหรียญทองตระเตรียมสร้างทุ่งหญ้าเขียวขจีเพื่อวิ่งเล่นกับอาร์ค… แต่แล้วเรื่องราวกลับแย่ลงตั้งแต่อาร์คออกจากร้านไป ต่อให้อาร์คไม่อยู่แต่มันก็ไม่ได้กระทบกับยอดขายแต่อย่างใด ทั้งหมดก็เพราะโรโค่คือผู้มีประสบการณ์ในร้านค้าจากงานพาร์ทไทม์ บ่อยครั้งที่เพื่อนร่วมงานผู้ชายในร้านจะเย้าแหย่โรโค่ตอนหัวหน้าไม่อยู่ และมันก็ไม่ได้จบที่เท่านั้น บางครั้งถึงขั้นเริ่มพูดจาต่ำช้า แน่นอนว่าสามพี่น้องพวกนี้ไม่ได้กระทำเกินเลยถึงเพียงนั้น แต่พวกเขาก็คล้ายมองว่าผู้หญิงล้วนอยู่ต่ำกว่าวันยังค่ำ
‘ถ้าเราบอกพี่ชายแต่แรกเรื่องราวคงเรียบร้อยไปแล้ว…’
แต่เธอไม่คิดอยากแสดงด้านอ่อนแอให้อาร์คที่เชื่อใจฝากฝังร้านกับตำแหน่งผู้จัดการไว้ให้เธอ เพราะแบบนั้นเธอจึงนึกถึงกลุ่มทัณฑ์บนขึ้นมาได้ เพราะพวกเขากำลังออกจากแจ๊คสันเตรียมมายังหมู่บ้านแลนเซล เธออธิบายเรื่องราวให้จัสติสแมนฟังจนเกิดแผนการขึ้น ระหว่างที่สามพี่น้องหมูน้อยโดนจัสติสแมนสั่งสอน โรโค่จะปรากฏตัวเพื่อฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดกลัวทางอ้อมให้