ตอนที่ 360 : อาเกรอน (1)
หลังพ้นจากถ้ําลาวาปรากฏเป็นเมืองใหญ่ตรงหน้าท่าน ตอนนี้ นี่คือเมืองโบราณภายในโลกใต้พิภพซึ่งเผ่าบาร์นครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรือง อาเกรอน ด้วยความรักธรรมชาติและรักสงบของเผ่าบารันจึงก่อสร้างขึ้นเป็นเมืองที่สวยงามรอบต้นไม้โลกยูซูเรีย แต่ตอนนี้มันกลับพังทลายเพราะเผ่านาคูจัก ความงดงามแต่เดิมของอาเกรอนไม่อาจพบเห็นได้อีก ทั่วทั้งเมืองต่างปกคลุมไปด้วยโลหะขึ้นสนิมและก้อนหินสีเทา ต้นไม้โลกยูซูเรียได้ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของเมืองพร้อมทั้งปลดปล่อยบรรยากาศหมองหม่น
ในที่สุดก็มาถึง
อาร์คมองไปยังเมืองซึ่งห่างไกลออกไป ถ้ําลาวาเสมือนทางตัดตรงข้ามผ่านภูเขาทางตอนเหนือมา หลังจากพ้นถ้ําออกมาได้ด้วยความยากลําบาก พวกเขาก็มาถึงอีกด้านของภูเขาทางเหนือโดยทันที โชคดีที่เผ่านาคูจักไม่ได้กระจายตัวอยู่ทุกส่วนในพื้นที่ทางเหนือ หลังจากเคลื่อนผ่านภูเขาทางเหนือมาได้ พวกเขาก็พบเห็นอาเกรอนที่เป็นเป้าหมายโดยทันที ขณะที่กลุ่มของอาร์คเคลื่อนที่ไปทางเหนือต่อเขา พลันพบเห็นบางสิ่งผิดปกติ เบซอทิวได้กล่าวเอาไว้ว่า ทางเหนือมีปาค่อนข้างรก และเป็นพื้นที่อันสวยงาม แต่ภูมิภาคทางเหนือตอนนี้กลับกลายเป็นแห้งแล้งยิ่งกว่าทางใต้เสียอีก แทบทุกหนแห่งเต็มไปด้วยทะเลทรายและซากต้นไม้แห้ง
“นี่เป็นเพราะต้นไม้โลกล่มสลาย?”
อาร์คนึกย้อนไปถึงรายละเอียดที่โบนาถอดรหัสออกจากตํารา ซึ่งกล่าวไว้ว่าโลกใต้พิภพเดิมที่เป็นสถานที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะทางเหนือหรือทางใต้ แต่เมื่อต้นไม้โลกล่มสลาย พลังที่เคยค้ําจุนก็มลายหายไปด้วย ทางใต้คือส่วนแรกซึ่งอยู่ห่างไกลจากต้นไม้โลกจึงแห้งแล้งก่อน และนั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมเผ่านาคูจักจึงกรีธาทัพไปยังทางเหนือเพื่อยึดครองอาเกรอน
อย่างไรแล้วต้นไม้โลกก็สูญสิ้นพลังมาหลายร้อยปีแล้ว นอกจากนี้ เผ่านาคูจักยังทําการถางป่าเพื่อสร้างกองบัญชาการขึ้นจนทําให้พื้นที่ทางเหนือย่ําแย่ยิ่งกว่าที่เป็น อีกทางหนึ่ง เผ่าบารันอาศัยอยู่กับธรรมชาติ พวกเขาเริ่มปรับเปลี่ยนให้พื้นที่ทางใต้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
“เผ่านาคูจัก… เพราะผลาญทรัพยากรที่เคยอุดมสมบูรณ์หมดแล้วเลยคิดไปทางใต้ที่เพิ่งฟื้นคืน?”
คล้ายวัฏจักรอันวิปริต ถึงกับทําเช่นนี้ได้ ต่อให้เขาทราบเหตุผลของเผ่านาคูจัก เขาก็ยังคงไม่พอใจกับแนวคิดนี้อยู่ดี อย่างไรแล้วอาเกรอนนับเป็นเมืองขนาดใหญ่กว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก มันเหมือนกับปราสาทในยุคกลางที่มีการสร้างกําแพงชั้นนอกรายล้อมเอาไว้แผ่ขยายออกไปเป็นชั้น สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่จะคงอยู่ระหว่างชั้นของกําแพง และศูนย์กลางของเมืองคือต้นไม้โลกยซูเรียที่สูงเสียดฟ้า แน่นอนว่ามันเปลี่ยนไปแล้วเพราะความตาย ต้นไม้เริ่มบิดเบี้ยวและกิ่งไม้ไม่มีทางงอกงามอีก
“พวกเราต้องข้ามผ่านทั้งเมืองเพื่อไปชุบชีวิตยูซูเรียเหรอเนี่ย?”
ทั้งกลุ่มต่างถอนหายใจกันออกมาขณะได้เห็นจํานวนเผ่านาคูจักมากมายภายในอาเกรอน ตอนนี้พวกเขาเหลือกันเพียงแค่แปดคน อาร์ค แชมบาร่า ลาริเอ็ตเต้ บัลคุน ตอกแด จักตู ทัสซ่า และแยปแซบ อย่างไรแล้วจุดประสงค์ของ อาร์คคือฟื้นคืนชีพให้ยูซูเรีย ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทําให้ต้องสู้กับเผ่านาคูจักทั้งหมดภายในอาเกรอน
เขาเพียงแค่คอยรักษาสภาพไม่ให้ถูกพบตัวโดยศัตรูจนถึงตัวยูซูเรียได้ก็เพียงพอแล้ว และงานครั้งนี้จะไม่ง่าย หากมีผู้เล่นอย่างจีเวล แต่ทั้งเมืองตอนนี้ก็มีแต่เอ็นพีซี ก็เหมือนกับเกมสมัยเก่าที่ไม่มีจุดเซฟ แค่ต้องลักลอบผ่านมอนสเตอร์ทั้งหมดตรงไปสู้กับบอสให้ได้เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
“และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทําไมเราถึงเลือกอาชีพหลากหลายร่วมทางมาด้วย
“ทุกคนตอนนี้เติมเต็มความหิวกันก่อนแล้วกันครับ”
ระหว่างช่วงพัก อาร์คได้จัดทําอาหารหลายอย่างให้พวก เขากินกันอย่างสําราญ พวกเขาต่างมองจานอาหารหรูหราและงดงามซึ่งจัดทําจากวัตถุดิบหลากหลายชนิด
“เดินทางกับนายนี่มันดีตรงนี้นี่แหละนะ”
ทั้งกลุ่มที่เหนื่อยล้าจากถ้ําลาวาต่างไม่ลังเลที่จะกินอาหาร ตรงหน้าโดยทันที ช่วงเวลาเดียวกันนั้น อาร์คก็รวบรวมอุปกรณ์ของทั้งกลุ่มมาขณะซ่อมแซมไปด้วย การบริการฟรีเช่นนี้ ทําให้เขาต้องเจ็บปวด! แต่สถานการณ์นี้เขาจําเป็นต้องทําเพื่อเสริมศักยภาพสูงสุดให้คงไว้กับปาร์ตี้ บัพของลาริเอ็ตเต้ก็ช่วยเพิ่มค่าสถานะให้ทั้งกลุ่มได้ดีไม่น้อยเช่นเดียวกัน
“รายการบัพระดับที่สอง”
หน้าต่างข้อมูลรายการบัพระดับที่สอง
* บัพจากอาหาร
[เครื่องดื่มแห่งพลัง] [ตันตันย่าง] [ขนมหวานอมเปรี้ยว] [สลัดสมุนไพร] กุ้งเทมปุระ]
* บัพทั่วไป
[ลมหายใจวายุ (ความเร็วโจมตี +10%) ระยะเวลาส่งผล 30 นาที]
[สมาธิแห่งนักรบ (โอกาสโจมตีคริติคอล +20%) ระยะ เวลาส่งผล 30 นาที)
[จิตวิญญาณแห่งผู้กล้า (พลังโจมตี +10%) ระยะ เวลาส่งผล 1 ชั่วโมง]
* บัพจากทักษะพิเศษ
[ซ่อมบํารุงดาบ (พลังโจมตีดาบ +3%) ระยะเวลาส่งผล 1 ชั่วโมง
]
[ซักล้างขั้นกลาง (พลังป้องกัน +7%) ระยะเวลาส่งผล 4 ชั่วโมง)
[หากอัศวินพิสุทธิ์เป็นหัวหน้าปาร์ตี้ พลังป้องกันและพลังโจมตีของทั้งปาร์ตี้ +7%]
* บัพจากยาชูกําลังในระหว่างดําเนินการ
(ซิบยอลแดโบตั้ง (ซุปเกาหลีชนิดหนึ่ง) (พละกําลัง +1, ค วามอดทน +1) ระยะเวลาที่จะส่งผล : 18 วันถัดไป]
เมื่อได้อ่านรายการบัพที่มีตอนนี้แล้วก็ชวนทึ่ง ทักษะทําอาหารเพื่ออยู่รอดของอาร์คตอนนี้นับว่าดีขึ้นมากเพราะผลจากการทําอาหารชั้นเลิศ แต่ทุกสิ่งเมื่อมีข้อดีมันก็มีข้อเสีย อาหารไม่สามารถกินซ้ํากันได้ และสามารถกินอาหารที่แตกต่างกันได้เพียงแค่สิบอย่างเท่านั้น และยังคงมีข้อจํากัดอีกหนึ่งอย่าง หากค่าความหิวเต็ม 100% แบบนั้นจะหมายความว่าพวกเขาไม่อาจกินอาหารได้อีก ต่อให้ระยะเวลาส่งผลหมดไปแล้ว หากความหิวยังเต็มอยู่ก็หมายความว่าไม่สามารถกินอาหารเพื่อรับบัพอื่นได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้ทําอาหารจํานวนมากมายออกมา จนเป็นผลให้มีวัตถุดิบกองสุมอยู่มาก
นี่คือข้อเสียหลักของการทําอาหารเพื่ออยู่รอด บัพจากอาหารต่อค่าสถานะนั้นดีกว่าก็จริง แต่การเพิ่มบัพเข้าไปก็หมายถึงเพิ่มความอิ่มด้วย อาหารเพียงไม่กี่จานก็ทําให้ค่าความหิวเติมเต็มมาได้ 30% แล้ว เพราะเหตุนั้นอาหารชั้นเลิศจึงสามารถกินพร้อมกันได้แค่สามถึงห้าอย่างเท่านั้น
“การจะทําให้ทั้งค่าความอิ่มและบัพสัมพันธ์กันในระดับสูงได้ มันก็ต้องใช้วัตถุดิบยากได้รับ
อาร์คมองไปยังวัตถุดิบแสนสําคัญที่เขาเหลืออยู่ เพียงน้อยนิดจนเดาะลิ้นออกมา
“อาหารพวกนี้เทียบเท่าเงิน 2 เหรียญทองเป็นอย่างน้อยเลย…”
ในสถานการณ์นี้อาร์คไม่มีเวลาให้มากังวลเรื่องอาหารราคาแพงอีก อย่างไรแล้ว เพราะการทําอาหารของเขาจึงทําให้ค่าสถานะของหน่วยรบพิเศษเพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมาก และยังมีอีก การใช้งานซ่อมบํารุงดาบและการซักล้างขั้นกลางที่ช่วยเพิ่มพลังป้องกันและโจมตี อาร์คได้เรียนรู้ทักษะพิเศษเหล่านี้ซึ่งช่วยเพิ่มบัพในระดับที่ไม่ต่างจากลาริเอตเต้มากนัก แชมบาร่าพอตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลบัพระดับสองแล้วก็ต้องพึมพําออกด้วยความอึ้งทึ่ง
“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย? ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่เห็นอาชีพบ้าบออย่างนาย”
“ฉันก็เคยนึกสงสัยในตัวเองเหมือนกัน หึหึ”
อาร์คเผยรอยยิ้มขณะตอบกลับ เมื่อเสร็จสิ้นงานซ่อมบํารุงทั้งหลายภายในกลุ่ม พวกเขาจึงเริ่มลงจากเนินเขาเริ่มบุกเข้าใกล้อาเกรอน พวกเขาลงจากปลากระเบนบินได้ตั้งแต่ช่วงระยะห่าง ถ้าหากพวกเขายังคงเข้าใกล้อาเกรอนต่อไปด้วยปลากระเบนแบบนั้นคงโดนตรวจพบทันทีทันใดแน่แล้ว นับจากนี้คือการแทรกซึมเข้าสู่เมืองของจริง พวกเขาต้องระวังทุกฝีก้าวและต้องซ่อนตัวให้มิดชิด
“คําถามคือทํายังไงถึงจะไปยังต้นไม้โลกได้โดยไม่ถูกพบเห็น…”
แชมบาร่ามองอาเกรอนด้วยสีหน้าลําบากใจ อาเกรอนเป็นฐานทัพแท้จริงของเผ่านาคูจัก ราวกับอีกฝ่ายเป็นแบคทีเรียที่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว จํานวนเผ่านาคูจักนั้นมีมากมายมหาศาล แม้ว่าพวกนั้นจะเป็นประชากรในเมืองก็ตาม แต่กว่า 70% ท่าทีคล้ายเป็นนักรบกันทั้งนั้น ท้องฟ้าตอนนี้ก็มืดลงแล้วพร้อมปรากฏจันทร์เต็มดวงเด่นบนท้องฟ้า ขณะที่อาร์ค แชมบาร่า และแยปแซบซึ่งเปลี่ยนอาชีพเป็น “ผู้พิทักษ์หน่วยสอดแนม” นั้นสามารถใช้งานลอบเร้นได้ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่จะช่วยยืนยันได้ว่าจะไม่ถูกพบเห็น เพราะระยะเวลาการทํางานมีเพียงแค่ยี่สิบนาที ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าพวกเขาจะคงสภาพไม่โดนพบตัวได้ตลอด
“หึหึหึ ได้เวลาแสดงฝีมือพวกเราแล้ว”
สมาชิกกลุ่มทัณฑ์บนยิ้มออกขณะเดินออกไปด้านหน้า
“แยปแซบ ลอบเข้าไปในอาเกรอนแล้วสํารวจมาว่าพบเห็นไอเทมอะไรบ่อยสุด”
แยปแซบใช้ลอบเร้นออกตระเวนทั่วทั้งอาเกรอนจากนั้นจึงค่อยกลับมาหาทัสซ่า จากนั้นพวกเขาก็เริ่มขีดเขียนอะไรบนพื้นก่อนจะอธิบาย
“พวกนี้คือถัง น่าจะเอาไว้เก็บไวน์ละมั้ง พวกมันมีอยู่ทั่วทุกที่เลย”
“ถัง? ดูดีนี่”
ทัสซ่าพยักหน้ารับก่อนจะนําเอาเศษไม้หลายชิ้นและเครื่องมือออกจากกระเป๋า จากนั้นจึงเริ่มทําการเลื่อยไม้และ ตอกด้วยค้อนจนกระทั่งสร้างถังขึ้นมาได้แปดใบ
“เอาล่ะ รบกวนทุกคนเข้าไปในถังด้วย”
อาร์คจับถังเก็บไวน์ไว้ขณะหน้าต่างข้อความปรากฏโดยทันที
ถังเก็บไวน์เผ่านาคูจักซึ่งถูกจัดสร้างใหม่โดยการใช้ “ลอกเลียน”
เมื่อใช้สิ่งของทั่วไปซึ่งสามารถพบเห็นได้ในกองกําลังของศัตรู บัพการพลางตัวจะทํางาน เมื่อการพลางตัวทํางานแล้ว ท่านจะไม่เป็นที่สงสัยของกองกําลังเจ้าถิ่นอีกต่อไป
หากฝ่ายตรงข้ามเผยความสงสัยต่อท่าน ค่าสถานะ “เสี่ยง” จะเพิ่มขึ้น โดยค่าสถานะเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากท่านทําพิรุธใดให้ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้ทัสซ่าเคยใช้ทักษะปลอมแปลงมาก่อน หลังจากเปลี่ยนอาชีพเป็น “ผู้พิทักษ์หน่วยวิศวกรรม” เขาก็สามารถใช้ทักษะลอกเลียนได้
“ฮวงจุ้ย!”
หลังจักตูเอ่ยคํา หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏอีกครั้ง
บัพฮวงจุ้ยทํางาน ทั้งปาร์ตี้ได้รับบัพ
ฮวงจุ้ยเป็นทักษะเฉพาะทางของผู้พิทักษ์หน่วยยุทธศาสตร์ เมื่อใช้ฮวงจุ้ยจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อทุกสภาพแวดล้อมและทุกสภาพภูมิประเทศ การโจมตีศัตรูจากที่สูงจะช่วยเสริมความเสียหาย ขณะที่การโจมตีจากที่ต่ําจะถูกลดทอนพลังลงครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ หากซ่อนกายในความมืด โอกาสที่ศัตรูสามารถพบเห็นจะลดน้อยลง
“เป็นการผสมผสานทางอาชีพที่เหลือเชื่อมาก”
เป็นอีกครั้งที่อาร์คเผยความนับถือต่อทักษะทั้งหลายภายในนิวเวิลด์ แต่อาร์คเองก็ไม่คิดน้อยหน้าขณะเริ่มใช้ความสามารถที่มีเช่นกัน