Ark The Legend – ตอนที่ 400 : แวมไพร์ปะทะแวมไพร์

ตอนที่ 400 : แวมไพร์ปะทะแวมไพร์

 

“ พร้อมนะครับ?”

 

“ พวกเราพร้อมแล้ว”

 

ผู้อาวุโสเผ่าวูล์แรงพยักหน้ารับคําถามของอาร์ค ในป่าที่มืดมิดเบื้องหน้าปราสาทของคารากุล มนุษย์หมาป่าสีเงินนับร้อยกําลังรวมตัวกันอยู่ พวกเขาสวมใส่สร้อยคอที่มีหินดวงจันทร์กําลังส่องประกายอยู่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อาร์คมอบให้

 

“เวลาจํากัดแค่สามสิบนาทีเท่านั้นนะครับ”

 

“พวกเรารู้ดี”

 

แม้หินดวงจันทร์จะมีพลังเปลี่ยนร่างให้พวกเขา แต่พลังของหินดวงจันทร์ก็เหมือนถ่านไฟฉาย มันสามารถแห้งเหือดได้ ดังนั้นแล้วจึงมีการทดสอบเวลาที่สามารถใช้งานอาร์คได้ ทดสอบตั้งแต่ก่อนออกมาเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์คือเขาสามารถทําให้เผ่าวูล์แรงคงสภาพร่างกายเอาไว้ได้แค่สามสิบนาทีเท่านั้น

 

“สามสิบนาทีนับว่าไม่มากนัก แต่เป้าหมายของเราก็ไม่ใช่การกําจัดศัตรูทั้งหมด แค่เข้าถึงตัวคาราคุลภายในสามสิบนาทีก็พอ

 

“ครั้งนี้ไม่ใช่การศึกที่ง่าย”

 

“พวกเราต่างเตรียมตัวกันมาแล้ว พวกเรายินยอมพร้อมใจตาย แต่ว่า…”

 

ผู้อาวุโสเช็ดคราบออกจากจมูกเล็กน้อยก่อนเอ่ยคําถามอย่างรวดเร็ว

 

่ “ ไอ้นั่น” จะใช้ได้จริงเหรอ?”

 

“เชื่อผมเถอะครับ”

 

อาร์คยิ้มรับขณะเริ่มอธิบายแผนการ

 

“นอกจากผู้อาวุโสและชั้นหัวกะทิสิบคน กองกําลังที่เหลือให้กระจายตัวไปยังพื้นที่สําคัญภายในปราสาท แต่อย่ากระทําอะไรอย่างไร้เหตุผลนะครับ เหมือนที่ผมบอกไปแล้ว เป้าหมายของเราไม่ใช่จัดการศัตรูทั้งหมด ถ้าหากเห็นว่ามันอันตรายก็ให้ถอนตัว”

 

“แต่ถ้าหากยุทธการครั้งนี้ล้มเหลว มันจะไม่อันตรายหรือที่เส้นทางถอยของเจ้าถูกปิด?”

 

“ผมไม่คิดถอยต่อให้แผนการนี้ล้มเหลวก็ตามครับ”

 

“แบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นผู้สืบทอดผู้กล้ามาบัน”

 

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้กําลังลุกโชนอยู่ภายในดวงตาของชาววูล์ฟแรงเมื่อได้รับคําตอบจากอาร์ค ถ้าหากผู้บัญชาการเผยความแน่วแน่ไม่คิดยอมแพ้แม้เผชิญหน้ากับความตาย ย่อมเป็นธรรมดาที่ขวัญกําลังของทัพทหารจะเพิ่มสูงขึ้น

 

“เวลาไม่คอยท่า ไปกันเถอะครับ”

 

“เข้าใจแล้ว นักรบวูล์แรงทั้งหมดเตรียมตัวพร้อมรบ! จงเตรียมเขี้ยวและกรงเล็บให้พร้อม!”

 

“โอ้!”

 

ชาววูล์แรงพลันร้องตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน

 

“ราดัน ไป!”

 

ซื่อ ซื่อ ซื่อ !

 

ราดันเปลี่ยนร่างขณะพุ่งตัวออกไปฝุ่นตลบนาพาอาร์คมุ่งสู่ปราสาทตามคําสั่ง นักรบวูล์แรงอีกหนึ่งร้อยชีวิตก็ตามติดมาพร้อมขนสีเงินที่พลิ้วไหวไปกับสายลม เหล่าทหารยามที่เฝ้าระวังอยู่ร้องตะโกนออกด้วยความแตกตื่นเมื่อพบเห็น ชาววูล์แรงเข้ามาใกล้เนิน

่ 

“พะ-พวกมัน?”

 

“เป็นปีศาจเลือดอาณาเขตแห่งอื่นเข้าบุกรุก?”

“ไม่ถูกต้อง พวกมันคือวูล์แรงจากหมู่บ้านใกล้ชายหาด แต่ไม่ใช่ว่าความสามารถพวกมันโดนผนึกไว้? พวกมันเปลี่ยนร่างกลับคืนได้ยังไงกัน?”

 

“เร็วเข้า! ไปแจ้งต่อท่านเอิร์ล! เข้าขวางพวกมันไว้!”

 

เหล่าทหารยามปลดผิวหนังมนุษย์ออกขณะเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจเลือดร้องตะโกนกันไม่ขาดสาย

 

“ช้าไป คมดาบแห่งความมืด!”

 

ครืน ครืน ครืน!

 

ราดันเร่งความเร็วพุ่งเข้ามาปะทะเข้ากับปีศาจเลือด ขณะเดียวกันนั้นเอง อาร์คพลันกระโดดข้ามผ่านปีศาจเลือดพุ่งเข้าสู่พื้นที่ปราสาทขณะหันกลับมาฟันด้วยคมดาบแห่งความมืด การโจมตีในระดับนี้ การตอบสนองช้าไม่ต่างกับรอคอยความตายเข้าถึงตัว การโจมตีจากทางด้านหลังนั้นสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล อีกทั้งเขายังใช้งานสกัดกั้น XX เข้าไป ปีศาจเลือดพลันร่างสันขณะโดนความเจ็บปวด เข้าที่มแทงจุดที่ไม่เคยเจ็บปวดเป็นครั้งแรก

 

“อั่ก มะ มัน!”

 

ฟบ พี่บ!

 

ปีศาจเลือดพยายามเหวี่ยงง้าวเข้าใส่อาร์ค ทว่าชาววูล์แรงพลันเข้ามาขวางและโจมตีเข้าใส่ปีศาจเลือดได้อย่างทันท่วงที การต่อสู้ไปด้วยหลบไปด้วยตามแบบชาวเหมียวนั้นช่วยให้การโจมตีสวนกลับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทว่ารูปแบบการต่อสู้ของชาววูล์แรงนั้นเรียบง่าย พวกเขาเรียกรุกเข้าทางด้านหน้าโดยใช้พละกําลังและร่างกายอัน แข็งแกร่งเข้าขยี้ปีศาจเลือดจนกลายเป็นก้อนเนื้อด้วยเขี้ยวเล็บปีศาจเลือดพยายามตอบโต้ด้วยง้าว ทว่าเหล็กกล้านั้นหาได้นับเป็นอะไรกับพลังอํานาจการป้องกันของชาววูล์แรง พละกําลังและพลังชีวิตของพวกเขาเป็นที่หนึ่งในเผ่าพันธุ์ ปีศาจเลือดต่างร่างกายฉีกเป็นชิ้นภายใต้การโจมตีร่วมของเผ่าวูล์แรง

 

เสียงหอนดังขึ้นจากปากของชาววูล์แรง ครั้งอดีต ชาววูล์แรงได้เข้าน้ํานั่นปีศาจเลือดและต้อนคาราคุลเข้าจนมุมมาแล้ว

 

“นี่ไม่ใช่เวลามาหอนนะครับ!”

 

เมื่อพวกเขาคล้ายสติกลับคืนจึงเริ่มดําเนินแผนการต่อ

 

“ผู้บุกรุก!”

 

เมื่อเข้ามาภายในปราสาท เหล่าทหารยามต่างก็เตรียมพร้อมแปลงกายเป็นปีศาจเลือดรออยู่ก่อนแล้ว ด้วยภาพลักษณ์ของปีศาจเลือดและจํานวน หากพบเห็นเป็นครั้งแรกย่อมต้องหวาดกลัว ทว่าอาร์คกลับเมินเฉย เขาต้องเข้าถึงตัวคาราคุลที่อยู่ชันสิบให้ได้ก่อนเวลาสามสิบนาที่จะหมดลง ตอนนี้ไม่มีเวลาให้เขาสนใจสิ่งอื่นใดอีกต่อไปแล้ว

 

“หน่วยหนึ่ง ฝากจัดการชั้นหนึ่งด้วยครับ!”

่ ่

ชาววูล์แรงสิบคนกระจายตัวออกไปตามคําสั่งของอาร์ค สิบเมตรที่ชาววูล์แรงพุ่งกายผ่าน มันจะเกิดขึ้นเป็นหยาดโลหิตและเศษเนื้อกระเซ็นไปทั่วทุกที่ พวกเขาที่โดนสะกดพลัง และเกียรติยศเอาไว้นานจึงปล่อยมันออกอย่างไม่คิดถ่วงรั้ง ทว่าเรื่องราวนี้กลุ่มอาร์คและชาววูล์แรงที่เหลือหาได้ หันกลับมามองเพราะต้องมุ่งหน้าไปต่อ

 

“ชั้นนี้ หน่วยที่สองฝากจัดการด้วย!”

 

เป็นอีกครั้ง ชาววูล์แรงสิบคนกระจายตัวออกเข้าควบคุมพื้นที่ อาร์คออกคําสั่งให้ชาวล์แรงสิบคนกระจายตัวออกในทุกชั้นที่ต้องผ่านเพื่อให้ขึ้นไปยังชั้นถัดไปได้โดยไม่ต้องหยุด จํานวนของปีศาจเลือดที่ชั้นห้ากลับกลายเป็นมากถึงสองเท่า มันเป็นจํานวนที่หน่วยเพียงหนึ่งซึ่งจัดเตรียมไว้สิบคนไม่อาจรับมือ แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังต้องไปต่อ พวกเขาจะทิ้งชาววูล์แรงไว้สิบคนในแต่ละชั้น เมื่อจํานวนศัตรูมากขึ้นยิ่งรับมือได้ยาก กลุ่มหลักตอนนี้จํานวนยิ่งมายิ่งน้อยลง ระหว่างที่ขึ้นผ่านบันไดฝากลุ่มปีศาจเลือดไป หากคิดเป็นห่วงจะกลายเป็นพวกเขาที่อยู่ด้านหลังคือภาระ พวกเขาไม่มีเวลาให้ห่วงหา หากพวกเขาหยุดตรงนี้เพียงครู่เดียว พวกเขาจะโดนปีศาจเลือดปิดล้อมเอาไว้

 

อย่างไรแล้วไม่ใช่ว่าพวกเขาก็เป็นเผ่าวูล์แรงหรือไร? ต่อให้โดนศัตรูเข้าปิดล้อม ก็ไม่มีชาววูล์แรงคนใดร้องขอความช่วยเหลือ กลับกัน พวกเขายิ่งมายิ่งตั้งใจโจมตีใส่ปีศาจเลือดแม้ลมหายใจสุดท้าย เพราะเหตุนั้น อาร์คจึงสามารถทะลวงผ่านกลุ่มปีศาจเลือดมาได้จนกระทั่งถึงชั้นที่สิบ แต่หลังผ่านชั้นที่เก้ามา ก็เหลือชาววูล์แรงเพียงแค่สิบคนกับกลุ่มหลัก อีกทางหนึ่ง โถงตรงหน้าคือปีศาจเลือดนับห้าสิบชีวิต

 

“พวกมันมาได้ถึงนี่เชียว!”

 

“ขวางพวกมันไว้! อย่าให้พวกมันได้เข้าถึงห้องท่านเอิร์ล คาราคูล!”

 

“ไสหัวไปไอ้ด!”

 

อาร์คใช้ทักษะข่มขู่ขั้นสูงเข้าใส่ เหล่าปีศาจเลือดที่รวมตัวกันอยู่พลันชะงักตัวแข็งค้าง

 

“เป้าหมายอยู่ตรงหน้าพวกเราแล้ว พวกเรา สู้”

 

เขายังใช้การเยียวยาขั้นสูงเพื่อฟื้นคืนความเหนื่อยล้า ของชาววูล์แรงอีกด้วย

 

“โอ้! ถึงเวลาแล้ว! แสดงให้พวกมันได้เห็นพละกําลังของ เผ่าวูล์แรง!”

 

“จงอย่าเกรงความตาย บดขยี้พวกมัน!”

 

“อยู่เฉยไม่ต่างกับตายเปล่า! จงตายอย่างมีเกียรติ!”

 

อาร์คและชาววูล์แรงต่างโบกสะบัดดาบเพื่อทะลวงผ่านกลุ่มปีศาจเลือด คมดาบที่ตอนนี้ต่างฟาดฟันออกทุกหนแห่ง! ชาววูล์แรงได้ออกนําพุ่งเข้าใส่กลุ่มปีศาจเลือด โดยทันที จากนั้น พวกเขาถึงกับอ้าแขนออกกว้างเข้าคว้าปีศาจเลือดสี่ถึงห้าตัวเอาไว้ก่อนกระโดดออกหน้าต่างไป

 

“พวกเราไม่ใช่อาหารแวมไพร์! แค่วูล์แรง!”

 

“ผู้ค้นหาความจริงจงรับชมให้ดี พวกเราคือวูล์แรง!”

 

สถานการณ์กลายเป็นยุ่งเหยิงเมื่อพวกวูล์แรงที่เหลือต่างกระทําตามโดยการกระโดดออกนอกหน้าต่าง มันเป็นภาพที่ประทับใจจนอดไม่ได้ที่จะต้องหลั่งน้ําตา เพราะการเสียสละชีวิตของชาววูล์แรง จํานวนของปีศาจเลือดตอนนี้ลดลงกว่าครึ่งแทบจะในทันที

 

“สวนกลับฉับพลัน!”

่ 

ขณะเดียวกันนั้น อาร์คก็ทะลวงออกจากการปิดล้อมของปีศาจเลือด เขาใช้งานพุ่งตัวออกไปประดุจลูกธนูผ่านประตูเข้าไป อาร์คกลิ้งตัวก่อนจะลุกขึ้นยืนและมองไปรอบห้อง

 

ฟู ฟู ฟู

 

ภายในห้องอันมืดมิด มีเพียงแสงจากเทียนจํานวนเล็กน้อย คาราศุลกําลังเล่นไปป์ออร์แกนโดยไม่ห่วงหาถึงเรื่องอื่นใด เพราะอาร์คและชาววูล์แรงเปิดประตูออก กระทั่งปีศาจเลือดยังต้องรับชมเหตุการณ์ภายในด้วยอาการโง่งม

 

“แวมไพร์ของแท้

 

คําสาปแช่งคล้ายหลุดออกจากปากของเขา

 

“คาราศุล!”

 

คาราคุลหยุดเล่นไปป์ออร์แกนเมื่ออาร์คร้องตะโกนอย่างโกรธแค้น มันค่อยบรรจงลุกขึ้นขณะหันกลับมามองพร้อมเสียงหัวเราะและเผยเขี้ยวให้เห็น

 

“เหอะเหอะ อาหารที่เพิ่งหนีไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะอะไรถึงกลับมาอย่างไร้ความกลัวเกรง? แล้วนั้นไม่ใช่พวกสุนัขที่โดนข้าขังไว้หรือยังไง? เหอะ สิ่งมีชีวิตน่าสมเพชถึงกับกล้าเผชิญหน้ากับข้าทั้งที่ไว้ชีวิตแล้วครั้งหนึ่ง? สมแล้วที่เป็นสุนัขไร้เจ้าของ ถ้าไม่ใช่เพราะอัลเบิร์ตขอไว้ ข้าคงสังหารพวกเจ้าทั้งหมดไปแล้ว”

 

คาราคุลมองไปรอบด้วยดวงตาผ่อนคลายก่อนจะเดินเข้ามา

 

“คิดกันจริงหรือว่าจะฆ่าข้าได้?”

 

“ลองไหมล่ะ? ไม่ลองไม่รู้หรอกนะ”

 

“ช่างเขลานัก ฆ่าพวกมันให้หมด!”

 

คล้ายปัญหานี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวคาราคุล เมื่อออกคําสั่งเสร็จมันก็หันกลับคิดจากไป ปีศาจเลือดที่ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่งกลับมาเอื้ออาวุธในมืออีกครั้ง

 

“คารากุล แกคิดจะหนีไปไหน?”

 

“ว่าอะไรนะ?”

คาราคุลขมวดคิ้วขณะหันกลับมา

 

“อัญเชิญสมุนปีศาจ เดดริค!

 

“โอ้ พุ่งปะทะความมืด!”

 

เดดริคหลับตาแน่นขณะพุ่งเข้าใส่คาราคุล เสียงคล้ายฟืนในกองไฟแตกหักพลันดังขึ้นขณะคาราคุลต้องก้าวเท้าถอยกลับ

 

“อั่ก อะไรกัน แกคือใคร?”

 

“อะ-อะ-เอิร์ลคาราศุล ตะ-ตามกฎของแวมไพร์ ข้าขอท้าดวลกับแก!”

 

“ว่าอะไรนะ? แกเป็นใครกันแน่?”

 

“ข้าคือผู้สืบทอดของดันพิล เดดริค!”

 

เดดริคส่งเสียงตะโกนดังตอบกลับ

 

“หยุด!”

 

เสียงของคาราคุลดังผ่านทั้งห้องไป ปีศาจเลือดทั้งหมดในปราสาทที่กําลังต่อสู้กับชาววูล์แรงจึงชะงักงัน คาราศุลก้มศีรษะลงมองเดดริค ความโกรธเกรี้ยวกําลังปะทุในดวงตาสีแดงฉานอย่างลึกล้ํา

 

“ดันพิล… ไอ้ตัวขลาดเขลาต่อข้าจนวิ่งหนีหาย… ผู้สืบทอดของมันย่อมเป็นแวมไพร์ชั้นต่ําไม่ต่างกัน… เจ้ากล้าท้าดวลกับข้า?”

 

“เอ่อ… ก็ไม่…”

 

เดดริคพลันร่างสั้นก่อนจะหลับตาแน่นแล้วตะโกนออกไปอีกครั้ง

 

“ชะ ใช่แล้ว!”

 

“เจ้ารู้ไหมมันหมายถึงสิ่งใด? จิตสํานึกของท่านลอร์ดแห่งมวลแวมไพร์ได้สอดส่องทั่วทั้งโลกมืด ต่อให้เจ้าคิดร้องบอกยอมแพ้ เจ้าก็ต้องตาย หมายความการดับสูญชั่วนิรันดร์”

 

“ข้ารู้น่า! ข้ารู้นั่นแหละโว้ย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้ารู้ด้วย! แต่แล้วยังกล้าท้าทายข้า?” คาราคุลหัวเราะออกมาเสียงดัง

 

“คิดว่าจะชนะข้าได้ยังไง!”

 

ขณะเดียวกันนั้น หน้าต่างทุกบานในห้องพลันแตกกระจาย ลมพายุหอบใหญ่ม้วนตัวเข้ามาขณะคาราคุลเข้าไปใกล้เดดริค

 

“ก็ดี ข้าหาได้สนใจพื้นที่เล็กจ้อยของเจ้า แต่ข้าจะฆ่าเจ้า!”

 

ขณะเดียวกันนั้น วงเวทสีแดงฉานพลันปรากฏขึ้นเป็นรัศมีสิบเมตรล้อมรอบทั้งคาราคุลและเดดริคเอาไว้พร้อมกัน หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอาร์ค

 

การประลองแวมไพร์เริ่มต้น

 

เวทมนตร์ที่ลอร์ดแห่งแวมไพร์ซึ่งปกครองโลกมืดเริ่มต้นการทํางาน เมื่อการประลองแวมไพร์เริ่มต้น ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรจะเป็นเขตปลอดการต่อสู้

 

นอกจากนี้ แวมไพร์ตัวอื่นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ทุกการโจมตีกายภาพและเวทมนตร์จากภายนอกจะถูกปิดกั้น เอาไว้โดยวงเวท เมื่อการประลองเสร็จสิ้น ผู้พ่ายแพ้จะสูญสิ้นทุกสิ่งอย่างแด่ผู้ชนะ เมื่อพ่ายแพ้ อาณาเขตและปราสาทจะถูกยึดครอง และดวงวิญญาณต้องถูกทําลาย

 

แผนการสําเร็จแล้ว!”

 

อาร์คกําหมัดแน่นเมื่อได้เห็นหน้าต่างข้อมูล หากเดดริคที่มีอาณาเขตเป็นของตนเองท้าทายคาราคุล แบบนั้นมันจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลว่าทําไมอาร์คจึงเน้นการบุกฝ่าทะลวงเพื่อมาถึงที่นี่ เมื่อได้รับการท้าทายภายในโลกมืด แวมไพร์ทั้งสองจะไม่สามารถปฏิเสธ และเมื่อการต่อสู้เริ่มต้น ผู้ใต้บัญชาของแวมไพร์ทั้งสองจะไม่สามารถต่อสู้กันได้อีก แม้ว่าอาร์คและชาววูล์แรงจะเป็นคนละเรื่อง แต่พวกเขาอย่างไรก็ถูกนับว่าเป็นลูกน้องของเดดริค ดังนั้นแล้วจึงไม่มีการต่อสู้ภายนอกวงเวทเกิดขึ้น

 

“เรียกสัตว์อัญเชิญออกมาท้าทายข้า คิดเหรอว่าลูกไม้ต่ําช้าเช่นนี้จะได้ผล ข้าจะทําให้พวกแกต้องเสียใจ ข้าจะฆ่ามัน เพื่อให้เจ้าได้เจ็บปวด!”

 

“เหอะ ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง มันจะง่ายเหมือนที่แกคิดจริงหรือเปล่าน้า?”

 

อาร์คเผยน้ําเสียงหยอกล้อตอบโต้

 

“จะปากดีได้ก็แค่ตอนนี้แหละเจ้ามนุษย์”

 

Ark The Legend

Ark The Legend

Ark The Legend
Status: Ongoing
บทนำ คิมฮยอนอู เด็กหนุ่มที่ชีวิตเกิดความผลิกผันตั้งแต่ยังวัยรุ่น ชีวิตของเขาประสบความยากลำบากต้องหาเงินเพื่อจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลสุดแพงของแม่ ขณะที่เขากำลังกัดฟันสู้ชีวิตอยู่ เขาได้รับข้อเสนองานหนึ่งจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่แล้วเมื่อไปสัมภาษณ์ เขากลับพบว่ามันคือการทดสอบคัดเลือกพนักงานโดยการเล่นเกม แม้จะแปลกไปบ้างแต่เงินก็ดีไม่น้อยเขาจึงตกลงรับมา เมื่อเข้าเกม อาร์คคือตัวละครที่เขาเลือกสร้าง แรกเริ่มผจญภัยก็ต้องประสบพบเจอความยากลำบากไม่น้อย ผู้เล่นอื่นก็แทบไม่อาจเชื่อใจได้ เขาต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง ยิ่งเล่นเกมไปเขาจึงได้พบว่า เกมแห่งนี้หาได้มีอะไรที่เหมือนเกมไม่ ทั้งเอ็นพีซีในเกมที่แทบจะเหมือนมนุษย์จริง ภารกิจที่มีเนื้อเรื่องน่าติดตามอีกทั้งยังยากลำบาก รวมถึงเนื้อเรื่องหลักภายในเกมที่ส่งผลกระทบต่อทั้งเกมก็คล้ายมีความลับอยู่ไม่น้อย และด้วยความที่แทบไม่เชื่อใจผู้อื่นในเกม เขาต้องพยายามฟันฝ่ามันให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset