ตอนที่ 410 : นักบุกเบิกในตํานาน!
จีเวลตอนนี้อ้าปากเหวอกว้างและวิ่งออกไปดูที่ประตูใหญ่ อีกฝ่ายเป็นคนเพียงแค่สองกําลังโจมตีอยู่จริงด้วย เป็นคนเถื่อนที่สวมใส่ชุดหนังและนักเวทเอลฟ์ที่สวมใส่ชุดเกราะสีเงิน ทว่าท่าทีของพวกเขาเกินกว่าที่จีเวลจะเข้าใจ ทุกครั้งที่คนเถื่อนเหวี่ยงอาวุธออก ความทนทานของประตูจะลดน้อยลงราวกับโดนโจมตีด้วยเครื่องยิงหิน แน่นอนว่ามีเอ็นพีซีทหารยามอยู่บริเวณประตู แม้พวกนั้นจะไม่เคยเข้าร่วมการบุกโจมตี แต่เอ็นพีซีทหารยามที่เป็นข้าทาสของปราสาทย่อมต้องป้องกัน แต่แล้วทหารยามเหล่านั้นกลับไม่แม้แต่จะเข้าไปใกล้คนเถื่อนนั่น
“น่ารําคาญจริง”
นักเวทชาวเอลฟ์ที่อยู่ด้านหลังคนเถื่อนพลันโบกไม้มือไปมาและร้องตะโกน ทุกครั้งที่เธอกระทํา ทหารยามจะโดนผลักดันถอยไปด้านหลังหลายสิบเมตร
“เรเดียน อย่าฆ่าพวกนั้นนะ ถ้าฆ่าเอ็นพีซีในนาการัน ได้เป็นเรื่องแน่”
“ฉันต้องให้นายมาสอนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? รู้หรอกน่า”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“สวรรค์ คนพวกนี้มัน!”
จีเวลรับชมพร้อมฟังการสนทนาของคนทั้งสองด้วยดวงตาเบิกออกกว้าง
“ทําไมเจ้าพวกนี้อยู่ที่นี่กัน? ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เวลามาสงสัยแล้ว”
“ดะ เดี๋ยวก่อน! ลูกพี่เบรด พี่เรเดียน หยุดมือก่อน!”
“หือ? อะไรกันหมอนี?”
คนเถื่อนนั้นหยุดเหวี่ยงดาบปลายปืนขณะจีเวลวิ่งเข้ามา ถูกต้องแล้ว นักรบคนเถื่อนและนักเวทเอลฟ์คือเบรดกับเรเดียนนั้นเอง พวกเขาซ่อนตัวและหนีมากบดานแถวนี้เพราะฆ่านักท่องเที่ยวหลายสิบคนในซอแทนดาลไป
“รู้จักพวกเราด้วย?”
เบรดเกาศีรษะขณะที่เรเดียนตบเข้าให้หนึ่งที่จนต้องเดาะลิ้นเพราะความโง่เขลานั้น
“นี่นายเป็นปลาทองสมองเสื่อมหรือยังไง? นั่นจีเวลที่ติดตามพวกเราสมัยก่อนไง”
“โอ้โอ้ จริงด้วย ทําไมหมอนี่มาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
“ก็นะ เดิมที่หมอนก็สนิทกับไรเด็นอยู่แล้ว”
“เหอะ เรื่องตามต้อยชาวบ้านนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
ระหว่างที่เบรดกับเรเดียนพูดคุยกันเอง จีเวลก็เข้ามาเจรจา
“ลูกพี่ พี่สาว ไม่เจอกันนานนะครับ ว่าแต่มาทําอะไรที่นี่กัน? ไม่ใช่สิ ทําไมถึงโจมตีประตูปราสาทล่ะ? หรืออารมณ์ไม่ดีแล้วไม่มีที่ระบายกัน?”
“ไม่นี้ ไม่เห็นจะอารมณ์ไม่ดีตรงไหน…”
เบรดเกาศีรษะแกรกๆ ก่อนที่เรเดียนจะตอบอย่างเป็นงาน
“ทหารยามพวกนั้นบอกพวกเราต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงจะเข้ากิลด์เฮอร์มีสได้ พวกเรารําคาญพวกมากพิธีก็เลยเคาะประตูเรียก”
“คะ-เคาะประตู? นั่นเรียกเคาะ?”
จีเวลหันมองไปยังประตูด้วยความโง่งม แม้ประตูจะสามารถทนต่อเครื่องยิงหินได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทว่าแค่เมื่อครู่ความทนทานของมันก็หายไป 10% แล้ว
“บ้าบอ ค่าซ่อมประตูแพงมหาศาลด้วย…”
ความโกรธสุมภายในอกจีเวล แต่นั่นก็ไม่ใช่อะไรที่แสดงออกต่อหน้าคนทั้งสองได้ และเรเดียนกับเบรดก็คล้ายไม่ใส่ใจนัก
“นายออกมาก็ดีแล้ว ไรเด็นอยู่ที่ไหน? มีเรื่องอยากคุยกับหมอนั่นหน่อย”
“อยู่ในปราสาทลอร์ดครับ ว่าแต่ต้องการอะไรเหรอครับ”
“ต้องให้พวกเราอธิบายนายที่แล้วไปอธิบายให้ไรเด็นที่?”
“ไม่แน่นอนครับ ตามมาทางนี้ดีกว่า”
จีเวลเลือกยอมอ่อนน้อมและนําพวกเขาเข้าปราสาทไป ท้ายที่สุดพวกเขาก็เข้ามายังห้องทํางานของไรเด็นพร้อมเสียงตะโกนถามดังตั้งแต่ประตูเปิดเข้าไป
“เกิดเรื่องบ้าอะไรกันจีเวล? ทําไมเสียงหนวกหูขนาดนี้กัน?”
“ไงไรเด็น ไม่เจอกันนาน”
ไรเด็นเงยหน้าขึ้นจึงพบว่าเป็นเสียงเบรด
“เบรด? เรเดียน? ได้ยังไงกัน? หรือเปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”
“เปลี่ยนใจ? พูดเรื่องอะไรกัน”
“ก็เรื่องที่ขอให้เข้าร่วมกิลด์ไง”
“เคยพูดด้วย?”
เบรดตอบกลับอย่างมึนงงก่อนจะโดนเรเดียนกล่าวขัดคํา
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
“ฉันให้สิทธิพิเศษได้เลยนะ”
“เงียบ! อย่าให้เราต้องพูดอะไรหลายครั้ง พวกเราไม่เข้าร่วม!”
เบรดตะโกนขณะกระแทกดาบปลายปืนกับพื้น
“มีเรื่องอยากคุยกับนายก็เท่านั้น ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นายเคยพูดถึงหมอนั่นหรือไง?”
“เคยพูดถึงใครกัน?”
“นายก็รู้ ไอ้คนที่นายอยากให้พวกเราไปจัดการไง ไอ้คนที่มันเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าสีดํา รู้หรือยังล่ะว่าใคร?”
“หมาป่าสีดํา… อาร์ค?”
ไรเด็นขุดคุ้ยความทรงจําชั่วครู่ก่อนนึกออก หลังจีเวลโดนอาร์คจัดการที่ซอแทนดาลจนไม่เหลือชิ้นดี ไรเด็นได้ตัดสินใจว่าอีกฝ่ายเกินมือจีเวลและดุ๊คไปแล้ว ดังนั้นแล้วจึงส่งเรื่องไปขอให้คนที่มีฝีมือช่วยจัดการอาร์ค คนแรกที่พวกเขาติดต่อไปคือเบรดและเรเดียน ทว่าทั้งสองยังยุ่งกับภารกิจอัสยูเบลอยู่จึงปฏิเสธ
เรเดียนพยักหน้ารับคําไรเด็น
“ชื่อมันคืออาร์คสินะ? ทําเอานึกขึ้นมาได้ เคยได้ยินชื่อมันจากเอ็นพีซีที่ป้อมปราการฮามานหลายคนอยู่เหมือนกัน”
“ไปมีเรื่องอะไรกับอาร์คมากัน?”
“ให้เล่าคงยาว”
เบรดและเรเดียนถอนหายใจก่อนเริ่มบอกเล่า หลังจากติดแหงกอยู่กับภารกิจของอัสยูเบลหลายเดือน พวกเขากลับล้มเหลวเพราะนักท่องเที่ยวไม่ดูตาม้าตาเรือจนต้องคิดล้างแค้น ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใด พวกเขาพยายามรวบรวมข้อมูล ไม่มีใครเอ่ยชื่ออาร์คออกมาสักคนว่าเป็นผู้กอบกู้ซอแทนดาล นั่นเป็นเพราะอาร์คกล่าวอย่างเป็นมั่นเหมาะกับเอ็นพีซีในซอแทนดาลว่าอย่าได้ปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาออกไป และหลังการทําลายสํานักงานท่องเที่ยวที่ป้อมปราการฮามาน พวกเขาจึงได้ทราบว่าเป้าหมายออกจากซอแทนดาลไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไล่ล่าเป้าหมายกลับมายังทวีปเดิม ทว่าทวีปนี้กว้างใหญ่ หากเทียบกับซอแทนดาล การจะหาผู้เล่นสักคนไม่ต่างอะไรกับงมเข็มในมหาสมุทร
“ช่วงที่ออกเดินทางไปเรื่อย พวกเขาก็ได้เห็นวิดีโอเรื่องซอแทนดาลในโทรทัศน์
มันเป็นวิดีโอที่บุคซิลขายให้กับช่องโทรทัศน์ ผู้เล่นที่ทําให้ซอแทนดาลปรากฏในโลกกลางคือหมาปาสีดํา! พวกเขาจําเรื่องนี้ขึ้นมาได้เพราะไรเด็นเคยเอ่ยถึงมาก่อน ด้วยเหตุนี้ไรเด็นจึงยิ้มให้ขณะพยักหน้ารับ
“เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น”
“ถึงคราวนายแล้ว รู้ไหมว่ามันอยู่ที่ไหน?”
“รายละเอียดไม่ทราบ แต่พอจะคาดเดาที่อยู่ของมันได้ เมื่อกี้บอกว่าไล่ตามข้ามทวีปมางั้นสินะ? แต่หมอนั่นกลับไปซอแทนดาลเมื่อหลายวันก่อนแล้ว”
“อะไรนะ? ข้อมูลนี้นายมั่นใจ?”
“ถูกต้อง นี่เป็นข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากสายข่าวในป้อมปราการฮามาน”
“สายข่าว? นี่นายยังเล่นเกมด้วยวิธีน่าเบื่อแบบนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย?”
“ก็สไตล์นี้แหละ”
ไรเด็นยิ้มขณะตอบรับคํา อันที่จริงไรเด็นไม่ได้คิดจะทิ้งซอแทนดาลเสียทั้งหมด แม้สถานการณ์ในนาการันจะทําให้เขาต้องถอยไปชั่วครู่ชั่วคราว แต่เขาก็ยังคงรักษาการเป็นพันธมิตรกับเผ่านาคูจักเอาไว้ ขณะรอคอยโอกาสให้เปิดศึกอีกครั้ง กระทั่งว่าเผ่าบารันได้รับป้อมปราการฮามานไปแล้ว สถานการณ์ก็สามารถพลิกผันได้ทุกเมื่อ ดังนั้นแล้วไรเด็นจึงคิดสืบเสาะหาข้อมูลรั่วไหลจากป้อมปราการฮามานและใช้งานพวกนาคูจักถ่วงเวลาออกไปก่อน
“ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป แม้เผ่าบารันจะเป็นผู้ครองซอแทนดาลในตอนนี้ แต่เผ่านาคูจักอย่างไรก็ทรงพลัง ถ้าหากเราหาทางแลกเปลี่ยนเพิ่มอํานาจอันไร้กฎหมายและสร้างท่าเรือได้ นั่นจะเป็นโอกาสให้พลิกสถานการณ์ ปัญหาคืออาร์ค มันต้องเข้าขัดขวางแน่”
ไรเด็นเป็นกังวลว่าอาร์คจะเข้ารบกวน แน่นอนว่าไรเด็นไม่คิดว่าอาร์คคนเดียวจะทําอะไรทั้งพันธมิตรเฮอร์มีสได้ แต่อาร์คมีวิธีประหลาดเสมอที่พร้อมทําให้เรื่องราวยุ่งเหยิงมากขึ้น
“อะไรก็ดี เราได้ปิดบังข้อมูลเรื่องอาร์คจากพันธมิตรเฮอร์มีส ตอนนี้สองคนนี้มีปัญหากับอาร์คพอดี นี่แหละโอกาสทอง”
ไรเด็นทําการเรียบเรียงความคิดก่อนกล่าวต่อไป
“อยากเข้าร่วมกองกําลังไหม?”
“ว่าไงนะ?”
“ตอนนี้อาร์คอยู่ที่ไหนสักแห่งในซอแทนดาล แล้วก็อย่างที่ทราบ พวกเรายังมีข้อเบาะแว้งกับอาร์คในทางตรง หากทั้งสองคนต้องการ ฉันจะช่วยสืบเสาะเรื่องนี้จากซอแทนดาลให้ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงื่อนไขไม่มีอะไรมาก ทั้งหมดที่ฉันต้องการก็แค่ฆ่าอาร์คให้ได้เท่านั้น”
“ยากจะเชื่อนะว่าแท้จริงนายคิดอะไรอยู่กันแน่”
“แล้วยังไงดีล่ะ? รับข้อตกลงไหม?”
“ก็ได้ แม้จะไม่เชื่อใจนายได้เต็มร้อย แต่ก็ไม่อยากเสียแหล่งข่าวของนายเหมือนกัน”
“เยี่ยมไปเลย งั้นมาทําสัญญานอกกฎหมายก็แล้วกัน”
“เอาตามนั้น พวกเราขอตัวก่อน”
เบรดและเรเดียนมุ่งหน้าตรงกลับไปยังซอแทนดาลโดยทันที จีเวลตามไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูก่อนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
“หึหึหึ คราวนี้แหละมันเสร็จแน่”
“แต่จีเวลนิมและคนิมยังทําอะไรมันไม่ได้ ทั้งสองคนนั้นจะจัดการไหวหรือครับ? หรือสองคนนั้นแข็งแกร่งมาก?”
สมาชิกกิลด์ที่รับชมเรื่องราวอยู่ไม่ไกลนักพลันเอ่ยถามด้วยความกังวล ทว่าจีเวลเพียงหัวเราะ
“รู้จักนักบุกเบิกใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ก็เหมือนกับจีเวลนิมที่เข้าร่วมเบต้าเทสหรือไม่ใช่? เพราะความรู้ที่ได้รับมาก่อนหน้า จึงสามารถจัดการตัวละครให้พัฒนาไปได้รวดเร็วกว่า”
“ใช่ ฉันเป็นนักบุกเบิก แต่สองคนนั้นน่ะอยู่คนละระดับ พวกเขาน่ะเป็นสุดยอดนักบุกเบิก”
“สุดยอดนักบุกเบิก?”
“หีหีห์ เป็นตํานานของนักบุกเบิกเกมนี้เลยเชียวล่ะ”
จีเวลทําตัวเสมือนพ่อมดเฒ่ากําลังสอนนักเรียนให้รู้ถึงโลกอันเหี้ยมโหด
“หลายเดือนก่อนหน้าที่การทดสอบเบต้าจะสิ้นสุด มีการประกาศอย่างเป็นทางการให้ผู้เล่นทุกคนไปรวมตัวกันที่เกาะในบริสทาเนียในช่วงวันสุดท้ายของการทดสอบ ตอนนั้นข้อมูลอะไรยังมีไม่มากนักแม้แต่การใช้ทักษะในการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นด้วยกัน ระหว่างที่เตรียมการทักษะและอุปกรณ์การสวมใส่อยู่นั้น การต่อสู้เอาชีวิตรอดก็เริ่มต้นขึ้น”
“ต่อสู้เอาชีวิตรอด?”
“ใช่ มันคือการฆ่าผู้เข้าร่วมให้หมดทั้งเกาะ!”
จีเวลกล่าวไปพลางหัวเราะ
“ต่อให้เป็นเอ็นพีซี หากพบเห็นก็ฆ่าได้เลย”
การต่อสู้เอาชีวิตรอดดําเนินเป็นระยะเวลาหนึ่งวันก่อน การทดสอบเบต้าสิ้นสุด ผู้เล่นที่ตายไปจะต้องรอฟื้นคืนชีพสิบสี่ชั่วโมง ซึ่งก็หมายความว่าไม่อาจเข้าเกมได้อีก
“มันเป็นงานที่โหดหิน ผู้คนกว่าหนึ่งพันไปรวมตัวกันที่เกาะและเริ่มเข่นฆ่ากันเอง ไม่ว่าฉันกับดุ๊คจะพยายามต่อสู้หนักขนาดไหน แค่สองชั่วโมงก็หลุดโผแล้ว ไรเด็นที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของเราก็อยู่มาได้เจ็ดชั่วโมง และคนที่อยู่รอดจนท้าย ที่สุดของการทดสอบขั้นเบต้าก็มีเพียงแค่สอง พวกเขาคือเบรดกับเรเดียนยังไงล่ะ”
“เพราะแบบนั้นถึงเรียกว่าสุดยอดนักบุกเบิก?”
“ใช่ แล้วก็น่าประหลาดใจด้วย ทั้งเบรดและเรเดียนไม่ได้มีการจับมือร่วมทีมแต่อย่างใด ทั้งสองคนที่เหลือต่อสู้กันเอง แต่ก็ไม่มีใครสังหารอีกฝ่ายลงได้ จนกระทั่งถึงช่วงสิ้นสุดการทดสอบก็เลยจบลงทั้งแบบนั้น แล้วท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้กลายเป็นเพื่อนกันเสียอย่างนั้น”
“งั้นเจ้าอาร์คนั่นก็จบเห่แล้วสินะครับ”
“จบเห่? ไม่หรอก นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น”
จีเวลเผยรอยยิ้มชั่วร้าย อันที่จริงผู้เล่นสามารถถูกฆ่าในเกมได้หลายครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทําไมอาร์คจึงต้องหาช่องทางสํารองในเกมเพื่อเอาไว้
“เราจะฉีกกระชากช่องทางสํารองของมัน”
จีเวลได้ตระหนักแล้วว่าอาร์คมีฐานสนับสนุนอยู่สองแห่งหนึ่งคือเผ่าบารันในแคว้นตะวันออกที่ซอแทนดาล สองคือหมู่บ้านแลนเซลในเทือกเขาอากัส ช่วงการศึกในซอแทนดาล ประชากรชาวหมู่บ้านแลนเซลได้ปรากฏตัวผ่านประตูมิติ หลังไปสํารวจที่หมู่บ้านนั่น เขาก็ได้พบว่าอาร์คได้เปิดร้านค้าอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว
“พันธมิตรเฮอร์มีสต้องเอาซอแทนดาลกลับคืนมา หลังจากนั้นค่อยไปชําระความกับหมู่บ้านแลนเซล แต่นั่นต้องหลังจากเรื่องที่นาการันสงบลงก่อน”
จีเวลก็กังวลอยู่ว่าจะรับมืออาร์คอย่างไร ทว่าอาร์คตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเพราะโดนเรเดียนและเบรดเข้าพัวพันเรียบร้อย
“ท้ายที่สุดเราค่อยเป็นคนปิดฉาก ฮ่าฮ่าฮ่า! อดใจรอเห็นสีหน้ามันตอนโดนเรเดียนกับเบรดฆ่ากับตอนที่เสียฐานสนับสนุนไม่ไหวแล้ว! เราจะได้เห็นดีกัน แกจะต้องเสียใจที่มาหาเรื่อง! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
จีเวลหัวเราะออกอย่างบ้าคลั่งทั้งยังเงยหน้าขึ้นฟ้า จีเวลตอนนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรกับพ่อมดเฒ่าผู้ชั่วร้ายกําลังก่อการชั่วร้ายตัวจริงเสียงจริง