ตอนที่ 420 : ไปตามเส้นทางของดวงดาว
“คอยจับตาดูรอบข้างให้ดี ฉันจะออกนําหน้าให้”
บุคซิลแทบจะฮัมเพลงด้วยความยินดีเพราะจะได้ออกจาก สภาพแวดล้อมจําเจตรงนี้นับสิบวันเสียที ตามปกติแล้วซอม บี้เชื้อราต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งถึงจะปรากฏตัวออกมาและ เข้าขัดขวางปาร์ตี้ อย่างไรแล้วตอนนี้อาร์คก็ไม่ต่างกับผู้เชี่ย วชาญการรับมือพวกมัน ที่พวกเขาทําก็แค่พยายามฝ่าบึง แห่งนี้ไปให้ได้ เขาพลันพบว่าเชื้อราพวกนั้นจะไม่กระจา ยตัวออกมาหากซอมบี้จมอยู่ภายในน้ําก่อนจะตาย ความจ ริงแล้วมันก็มีอีกเหตุผลที่กว่าอาร์คจะออกจากหลุมฝังศพ เอาก็ปานนี้
ระยะเวลาคงของยาฆ่าเชื้อราจะคงอยู่หนึ่งชั่วโมง หาก เขากินพวกมันอย่างต่อเนื่องจนถึงขีดจํากัดเวลาสามชั่วโมงที่ ใช้ได้ต่อหนึ่งวัน เขาจะอยู่ในสภาพไร้การป้องกันเชื้อราพวก นี้ตลอกระยะเวลาที่เหลือ! หากพิจารณาจากขนาดของบึง มันต้องใช้เวลามากกว่าสามชั่วโมงเป็นอย่างน้อยจึงจะหา เมืองแห่งคนตายพบ ดังนั้นแล้วหลังจากทดลองหลายวิธี เขาก็ได้พบวิธีการสังหารพวกซอมบี้โดยจะไม่ทําให้สปอร์เชื้อรากระจายตัวจากพวกมัน แต่วิธีการนี้ตอนคิดขึ้นได้เขายังไม่ มั่นใจ 100% เขาต้องลองทําอยู่หลายครั้งโดยการผลักกระ เด็นพวกซอมบี้ลงบึงน้ําอยู่หลายครั้งโดยกะจังหวะให้สัมพั นธ์กับที่พวกมันจะตายพอดี แต่วิธีการนี้ก็ใช่ว่าสําเร็จทุกครั้ง บางครั้งหากเกิดความผิดพลาดจนเชื้อราแพร่กระจายออก มา เขาก็ต้องโดนบังคับให้ใช้ยาฆ่าเชื้อราอยู่ดี
ให้ตายสิ คิดว่าไม่มีปัญหาแล้วเชียว แต่นี่มันยากกว่าที่คิดไว้อีก เราใช้ยาฆ่าเชื้อราไปแล้วสองขวด กว่าจะเช้า วันใหม่ก็เหลืออีกสามชั่วโมง ถ้าเราใช้อีกขวดก็หมายความ ว่าจะไร้สภาพป้องกันเป็นเวลาถึงสองชั่วโมงเลย”
ภายในระยะเวลาที่เหลือสามชั่วโมงนี้เขาต้องบริหารจัด การใช้งานยาฆ่าเชื้อราหนึ่งขวดที่เหลือให้ดี! อาร์คพลันรู้สึ กว่าเรื่องราวไม่ง่าย พวกเขาเดินไปทั่วบึงน้ําเป็นระยะเวลา ห้าชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่เจอเมืองแห่งคนตายเลย กับสถาน การณ์แบบนี้บุคซิลเริ่มรู้สึกท้อถอยแล้ว
“อาร์คนิม ถ้าพวกเราไม่เจอเมืองแห่งคนตายก่อนยาขวด สุดท้ายหมดฤทธิ์จะทํายังไงครับ?”
“แบบนั้นก็ช่วยไม่ได้ พวกเราคงต้องออกจากเกมไปแล้วค่อยกลับมาตอนเวลาเริ่มนับใหม่”
นั่นคือวิธีการสุดท้ายที่อาร์คคิดได้ในสถานการณ์นั้นหาก เขาไม่สามารถใช้ยาฆ่าเชื้อราได้อีก เขาจะไม่ยอมแบกรับความเสี่ยง อย่างไรแล้วแผนการนี้มีปัญหาใหญ่อยู่หนึ่ง
“บะ แบบนั้นแล้วแบกิวล่ะครับ?”
กับราคาร์ดเขาสามารถยกเลิกอัญเชิญได้ แต่แบกิวจะต้องถูกทิ้งเอาไว้ในบึงแห่งนี้”
“ต่อให้พวกเรายอมอยู่จนตายผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน ก่อน จะเป็นแบบนั้นฉันต้องหาทางให้ได้”
อาร์คถอนหายใจแล้วตอบกลับ จากนั้นแบกิวจึงมองไปยังบุคซิลแล้วกล่าวด้วยน้ําเสียงเศร้าสร้อย
“นายท่าน! ข้าไม่ชอบเชื้อราพวกนั้น อย่าทิ้งข้าไว้เลย!”
“ไม่ต้องห่วง ต่อให้หาทางไม่ได้ฉันก็จะไม่ทิ้งนายไว้ลําพัง! ดวงตาเอ๋ย จงไปค้นหาเมืองแห่งคนตาย! แบกิวนายต้องช่วยดมกลิ่นด้วย!”
บุคซิลตะโกนร้องด้วยสีหน้าสิ้นหวังขณะปล่อยดวงตาทั้งสองออกไป อาร์คก็มองบุคซิลและแบกิวและเกิดความคิดภายในหัว
“ประหลาดจริง ไม่ใช่ว่าบึงนี่ขนาดไม่ใหญ่มากเหรอตอนดูจากแผนที่? ถ้าเรามุ่งหน้าเป็นเส้นตรงจากหลุมฝังศพก็น่าจะถึงทางออกจากบึงและเจอเมืองแห่งคนตายแล้วสิ
“อาร์คนิม! ทางนั้นมีหลุมฝังศพอีกแห่งที่เรืองแสงอยู่ ด้วยครับ!”
บุคซิลร้องอุทานออกมาหลังสอดแนมพื้นที่ใกล้เคียงผ่านด วงตา เมื่อเคลื่อนตัวไปยังบริเวณที่บุคซิลบอก หลุมฝังศพนักบุญจึงปรากฏให้เห็นตรงหน้า
“หลุมฝังศพนักบุญอีกแห่ง? หรือจะมีหลุมฝังศพนักบุญอ ยู่ในทุกระยะที่กําหนดเอาไว้? จะอะไรก็เถอะ ถือว่าโชค ดีก็แล้วกัน พวกเราพักผ่อนที่นี่ก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้า ค่อยออกเดินทางกันต่อ”
“ดีใจแทนนายจริง ๆ แบกิว”
“ขอรับนายท่าน โชคดีจริง ๆ อีก”
แบกิวแทบจะน้ําตาปริ่มเพราะความยินดีขณะ เร่งร้อนวิ่งไปยังหลุมฝังศพนักบุญ ทว่าแบกิวกลับต้องก้มเงย สํารวจมอบด้วยอาการงงงันเมื่อไปถึง
“นี่มัน? อะไรกัน?”
“หือ? อะไรกันเนี่ย? แคมป์ไฟกับสิ่งของ? มีใครมาตั้ง แคมป์ที่นี่? มีใครเข้ามาที่นี่ด้วยงั้นเหรอเนี่ย?”
บุคซิลพึมพําระหว่างทําการสํารวจ ทว่าแบกิวกลับส่ายศีระ
“ไม่ใช่ กลิ่นของพวกเรายังหลงเหลืออยู่ตรงนี้เลย”
“ว่าอะไรนะ? ยะ-อย่าบอกนะว่า?”
บุคซิลสัมผัสกับหลุมฝังศพและได้ประหลาดใจอีกครั้ง ข้อความที่ฝากไว้ยังคงอยู่ “บุคซิลมาที่นี่” แม้จะเป็นเรื่องน่าอับอายกับการเขียนถ้อยคําลงบนหลุมฝังศพผู้อื่น แต่นั่นไม่ปัญหาที่ต้องสนใจในตอนนี้
เพียงแค่เห็นข้อความที่ตนสลักเอาไว้บุคซิลจึงเข้าใจเรื่องราว
“หลบไปหน่อย!”
อาร์คตามหลังบุคซิลเข้ามาอ่านข้อความบนหลุมฝังศพ
นักบุญ “บีเทลจูส” หลับใหลที่นี่
“บีเทลจูส… ชัดเจนว่านี่เป็นหลุมฝังศพก่อนหน้านี้ เรื่อง บ้าอะไรกันเนี่ย?”
อาร์คเปิดแผนที่ด้วยสีหน้าไม่อาจเข้าใจเรื่องราว นับตั้ง แต่ออกจากหลุมฝังศพนักบุญแห่งนี้เขาก็มุ่งไปเป็นเส้นตรง ทั้งระหว่างเดินยังตรวจสอบแผนที่ตลอด ท้ายที่ สุดมันวนกลับมาที่เดิมได้อย่างไร เมื่อตรวจสอบแผนที่ตอนนี้ อีกครั้ง พื้นที่ที่ยังไม่ได้ทําการสํารวจมันก็ยังคงดํามืดอยู่เช่ นเดิม เรื่องราวบ้าอะไรทําไมพวกเขาจึงวนกลับมาที่เดิม ได้ทั้งที่เดินตรงไปแล้ว?
“อาร์คนิม เกิดอะไรขึ้นกันครับ?”
“ให้ตายสิ ฉันก็อยากถามแบบนั้นเหมือนกันนั่นแหละ”
อาร์คเผยสีหน้ากังวลอยู่สักพักหนึ่งก่อนลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
“ราคาร์ด บินขึ้นไปให้สูงเท่าที่จะทําได้แล้วจับตาดูให้ดี ถ้าพบความเปลี่ยนแปลงอะไรแจ้งฉันทันที”
ครั้งนี้อาร์คเดินตัดผ่านบึงน้ําไปยังอีกด้านหนึ่ง หลังจากวิ่งอยู่กว่าสี่ชั่วโมง หลุมฝังศพเดิมก็ปรากฏตรงหน้าพวกเขาอีกครั้ง
“อีกแล้ว! หลุมฝังศพบีเทลจูส… ราคาร์ด!”
“ข้าไม่ทราบขอรับ ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปเลย ทิศทางก็ไม่คล้ายจะเปลี่ยนแปลงด้วยขอรับ”
ใบหน้าของอาร์คยิ่งกลายเป็นคร่ําเครียดเพ ราะคําตอบของราคาร์ด เขาพยายามเดินไปในเส้นทาง ที่แตกต่างกันถึงสองแต่แล้วยังต้องวนกลับมาที่เดิม นี่ไม่ใช่ เรื่องบังเอิญแล้ว
“พวกเราติดแหงกอยู่ในบึงนี่ สวรรค์โปรด กว่าจะรู้ตัวก็ผ่า นไปแล้วสิบวัน
บึงแห่งนี้ตั้งอยู่ในดินแดนแห่งคนตาย มันคือวงกตขนาดใหญ่ยักษ์ ตอนที่ซอมบี้เชื้อราไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เขากลับต้องประสบพบเจอวงกตไม่อาจหาทางออกหรือเบาะแสใดได้ หนทางหลบหนีเพียงหนึ่งเดียวคือฆ่าตัวตายแล้วไปฟื้นคืนชีพ
“เดี๋ยวนะ? ทําไมต้องวนกลับมาที่นี่กันล่ะ?”
อาร์คกําลังพิจารณาและมองหลุมฝังศพ ภายในบึงมีดแห่งนี้มีเพียงหลุมฝังศพเดียวที่เรืองแสง และเขาก็ต้องบรรจบกลับมาที่นี่ทุกครั้งที่พยายามไปให้พ้น ไม่ใช่นั่นหมายความว่าหลุมฝังศพนี่คือเบาะแสการหลบห นีหรืออย่างไร? ไม่สิ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ความจริงแล้วอาร์คก็สงสัยตั้งแต่แรกที่เห็นหลุมฝังศพนี้แล้ว เขาพยายามครุ่นคิดว่าทําไมถึงมีหลุมฝังศพนักบุญในบึงน้ํา แต่หากเป็นเพราะมีใครสักคนพยายามทําสัญลักษณ์บอกทาง หลบหนีออกจากบึงโดยใช้หลุมฝังศพนี่ล่ะ?
“ไม่ต้องสงสัยเลย หลุมฝังศพนี่เป็นคําอธิบายเพียงหนึ่งเดียว ชัดเจนว่าหลุมฝังศพนี้มีความเกี่ยวข้องซ่อนเร้นอยู่ ปัญหาคือตรงไหนกันที่จะเอามาเชื่อมโยงได้….
อาร์คเดินวนรอบหลุมฝังศพพลางพิจารณา ทว่าเขาไม่อาจหาอะไรพบไม่ว่าจะพยายามจ้องมองสักเท่าไหร่ อาร์คคิดว่ามันแปลกก็เลยตรวจสอบหลุมศพโดยละเอียด แต่เขาก็ไม่คล้ายจะพบเส้นทางลับหรือว่าไอเทมอะไรเลย
บ้าบอจริง ๆ นี่หมายความว่าเราจะไปไม่ถึงเมืองแห่งคนตายถ้าไม่แก้ความลับของหลุมฝังศพนี่? กุญแจสู่เมืองแห่งคนตายคือหลุมฝังศพ แต่เบาะแสมันคืออะไรกันล่ะ? กับดักบ้าบอพวกนี้จะไม่มีที่มาที่ไปไม่ได้ เดี๋ยวนะ? เบาะ แส??
อะไรบางอย่างคล้ายผุดเข้ามาในความคิดของอาร์ค
[สวรรค์และโลก ชีวิตและความตาย จงหาสถานที่ซึ่งสิ่งเหล่านี้พลิกผันและติดตามเส้นทางของผู้กล้าแห่งดวงดาว] 04
มันคือหนึ่งในถ้อยคําที่เขาได้รับมาหลังได้ภารกิจเปลี่ยน อาชีพขั้นที่สอง และสถานที่ซึ่งจะทําให้ภารกิจสําเร็จได้ก็คือ เมืองแห่งคนตายแบบนั้นแล้วไม่ใช่ว่าถ้อยคําพวกนี้คือเบาะ แสการไปถึงเมือง? ปัญหาใหญ่คือเขาจะแก้ไขเรื่องราวตรงหน้านี้อย่างไร สถานที่ซึ่งชีวิตและความตายย้อนกลับ ชัดเจนว่ามันหมายถึงการเปลี่ยนคนเป็นอันเดต และเปลี่ยนอันเดตกลายเป็นคน
ใช่แล้ว เราต้องตามเส้นทางแห่งดวงดาวของผู้กล้าเพื่อหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้
เส้นทางแห่งดวงดาวของผู้กล้า? มันหมายถึงหมู่ดาว? แต่เขาไม่อาจเห็นท้องฟ้าได้จากบึงที่มืดมนแห่งนี้ และก็เพราะ สิ่งนี้เช่นกันจึงทําให้เขาได้รับบัพธาตุความมืดทั้งที่ยังเป็นกลางวัน
“สวรรค์และโลกที่ย้อนกลับ ผู้กล้า ดวงดาว หมายค วามว่ายังไงกันนะ? เอ.. อย่าบอกนะว่า…”
ความคิดของอาร์คคล้ายได้รับการจุดประกายหลังผ่านการไตร่ตรอง
“บุคซิล รู้เรื่องหมู่ดาวหรือเปล่า?”
“ครับ? ไม่เลย…”
“ชิ หัดเรียนบ้างสิ!”
อาร์คบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะออกจากเครื่องเกมไป เขา กําลังนั่งค้นหาข้อมูลตรงหน้าคอมพิวเตอร์โดยอาศัยอินเตอร์เน็ต
“น่าจะใช่นะ นักบุญบีเทลจูส เคยได้ยินชื่อ นี้ตอนเป็นเด็กอยู่ ถ้าจําได้ถูกต้องล่ะก็…”
อาร์คทําการค้นหาในอินเตอร์เน็ตโดยใช้ชื่อบีเทลจูส ไม่ ช้า เขาก็ได้ยินยันว่าข้อสันนิษฐานของตนเองถูกต้องเมื่อได้เห็นข้อมูลที่ปรากฏต่อหน้า
บีเทลจูส (อัลฟาโอไรออน) เป็นดาวยักษ์สีแดงที่สามารถพบเห็นได้ง่าย
ใช่แล้ว บีเทลจูสก็คือชื่อของดวงดาวในหมู่ดาวโอไรออนทุกคําตอบของอาร์คจึงได้รับคําตอบจากข้อมูลที่พบนี้
“ใช่แล้ว หลุมฝังศพของนักบุญคือชื่อของดวงดาวในหมู่ดาวโอไรออน แบบนั้นส่วนที่เหลือก็เข้าใจได้ง่ายแล้ว”
ผู้กล้าที่เอ่ยถึงในภารกิจเปลี่ยนอาชีพขั้นที่สองก็คือโอ ไรออน บุตรแห่งโพเซดอนที่เป็นผู้ขับไล่มอนสเตอร์ออกไปให้พ้นจากเกาะไคออส หากเขาสามารถเปลี่ยนท้องฟ้าเป็นสภาพภูมิประเทศอย่างในแผนที่ แบบนั้นแล้วหลุมฝังศพก็จะเป็นดวงดาวที่ส่องประกายอยู่บนพื้นดิน แบบนั้นปริศนาก็จะกระจ่าง ตอนนี้ที่เหลือคือไปตามเส้นทางแห่งดวงดาวของผู้กล้า และปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไขทันทีเมื่ออ่านข้อมูลส่วนที่เหลือของบีเทลจูส หลุมฝังศพแรกที่อาร์คพบในบึงน้ําก็คือบีเทลจูส จะใช้จุดนั้นเป็นการเริ่มต้น บีเทลจูสคือดาวที่สว่างไสวที่สุดในหมู่ดาวโอไรออน ถ้าเป็นแบบนั้นหลุมฝังศพนักบุญถัดไปที่อาร์คต้องหาก็คือ
“เบต้าโอไรออน ดวงดาวไรเจล!”
โดยทันที อาร์คค้นหาข้อมูลของดาวไรเจล ไรเจลเป็นดวงดาวที่อยู่บริเวณด้านล่างของหมู่ดาวโอไรออน หากเขานําผังหมู่ดาวโอไรออนวางลงบนบึงน้ําโดยใช้บีเทลจูสเป็นสัญลักษณ์ เขาจะพบเส้นทางไปยังไรเจล
“ใช่แล้ว นี่แหละ! ปริศนาของผู้กล้ามาบันกระจ่างแล้ว!”
ในตอนแรกมันก็ทําเอาเขาสับสนไม่น้อย แต่ตอนนี้เขาได้รู้รายละเอียดแล้ว นี่คือเหตุผลว่าทําไมผู้คนถึงยินดีเสมอ ที่แก้ไขปริศนาในเกมได้
“ฮยอนอู วันนี้เสร็จงานแล้วเหรอจ๊ะ?”
ระหว่างที่อาร์คออกจากเกมมาหาข้อมูลในห้อง เสียงของแม่เขาก็ได้ยินจากนอกประตู แม่ของเขาอาศัยอยู่กับเขาแล้ว เพราะงั้นเขาจะไม่ปล่อยแม่ไว้ลําพังโดยเอาแต่เล่นเกมเพียงอ ย่างเดียว นับว่าโชคดีที่แม่ของเขาได้รับการบอกใบ้ จากจีวอนฮวารังเพราะงั้นเลยไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้แต่อย่าง แต่แม่ก็เป็นกังวลว่าเล่นเกมเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบอะไรกับร่างกายไหม ฮยอนอูเร่งร้อนเปิดประตูออกไปและ
ยิ้มให้แม่ของตน
“ยังครับ ผมต้องออกมาหาข้อมูลอ้างอิง คงต้องใช้เวลาอีกสักพักนะครับ”
“อย่าหักโหมเกินไปนะลูก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมออกกําลังกายทุกเช้าเลย”
ฮยอนอูตอบรับคําเป็นอย่างดีก่อนจะกลับเข้าเครื่องเกม อีกครั้ง
“หึหึหึ ผู้กล้ามาบัน ปริศนาแค่นี้กักเราเอาไว้ไม่ได้หรอก จะแก้ทุกปริศนาให้ดูแล้วคว้าเอามรดกทั้งหมดมาไว้ในกํามือให้ได้!”
ดวงตาของอาร์คสุกสกาวทันทีเมื่อกลับเข้านิวเวิลด์ บุคคลที่กลับเข้าเครื่องเกมมานี้ไม่ใช่ฮยอนอูที่โลกภายนอก แต่เป็นอาร์ค..