Ark The Legend – ตอนที่ 454 : ยุทธการทางทะเล

ตอนที่ 454 : ยุทธการทางทะเล

(เอาแบบนี้แล้วกัน นายก็ช่วยยื้อให้เรือโดยสารต่อไปจนกว่าพวกเราจะไปถึงแล้วช่วยเหลือนายได้พวกเราจะให้เรือรบมุ่งหน้าไปทางสามนาฬิกาเพราะงั้นนายก็มุ่งหน้าไปทางนั้นด้วยตอนนี้นายค่อนข้างห่างพวกมันระยะหนึ่งถ้ารักษาระยะห่างเอาไว้ได้ก็น่าจะเข้าร่วมกองเรือพวกเราได้โดยไม่ได้รับความเสียหายมากมายอะไร]

ก็เป็นดังที่จัสติสแมนกล่าว เพราะความเร็วของเรือโดยสารค่อนข้างนําหน้ากองเรือโจรสลัดอยู่ระดับหนึ่งแผนการของจัสติสแมนคือข้ามกองเรือโจรสลัดและเข้าร่วมกับเรือรบที่มีปืนใหญ่ถึงตอนนั้นพวกเขาจะแสร้งทําเป็นเข้าร่วมกับกองเรือรบซอแทนดาลที่มีปืนใหญ่เพื่อข่มขู่พวกมันก่อนเพราะยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ เรือโจรสลัดลําใหญ่จะใช้วิธีการเดียวกันกับพวกเขาเพื่อเร่งความเร็วเรือ

[ไว้รวมตัวกันแล้ว พวกเราจะคุ้มกันเรือโดยสารกลับไปซอแทนดาล]

[ครับ? ทําไมล่ะ? กองเรือโจรสลัดพวกนั้นโดนกันไปไม่น้อยแล้วนะครับเรือรบสองลําน่าจะพอเผชิญหน้ากับพวกมันนะ แถมซอแทนดาลก็น่าจะเรียกกําลังเสริมจากน่านน้ําใกล้เคียงมาได้ด้วยไม่จัดการให้สิ้นซากไปเลยล่ะครับ?]

(ไม่จุดประสงค์ของพวกเราไม่ใช่กวาดล้างพวกโจรสลัด]

แล้วมันอะไรกันล่ะครับ?]

[พวกเราอยากใช้โอกาสนี้หาตําแหน่งของท่าเรือนอกกฎหมายที่พวกมันใช้เป็นฐาน]

จัสติสแมนอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง ขณะที่จัสติสแมนออกค้นหาท่าเรือนอกกฎหมายไปทั่ว พวกเขาก็พอจะได้เบาะแสตําแหน่งที่ตั้งมาบ้างแต่ท่าเรือนอกกฎหมายไม่สามารถเข้าถึงได้โดยใช้เส้นทางบกหรือก็คือมันต้องมีป้อมปราการกลางทะเลที่ให้เรือเข้าไปเทียบท่าได้อิสซาเบลได้ลงทุนเป็นเม็ดเงินมหาศาลเพื่อจัดสร้างกอง เรือรบขึ้นเพราะเหตุนี้ แต่พวกโจรสลัดก็ตระหนักได้ดีและฉลาดพอ ที่จะซ่อนตําแหน่งเอาไว้ นั่นทําให้จัสติสแมนยังหาไม่พบพวกเขาจึงต้องไปเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวกลางทะเลเพื่อหาร่องรอยการเคลื่อนไหวของพวกโจรสลัด

[กองเรือของพวกเราเตรียมการรออยู่ใกล้น่านน้ําแถบนี้ถ้าหากพวกเราสู้กับมันที่นี่แล้วจากไป กองเรือโจรสลัดก็ต้องกลับไปท่าเรือนอกกฎหมายเพื่อทําการซ่อมแซม ถึงตอนนั้นพวกเราจะเร่งไล่ตามด้วยเรือเร็วแล้วหาตําแหน่งของท่าเรือนอกกฎหมาย เพราะ แบบนั้นตอนนี้นายต้องหนีไปก่อน]

[เข้าใจแล้วครับ)

อาร์คตัดการเชื่อมต่อไปและหันไปสั่งการกับกัปตันโดยทันที

“ไปทางขวาครับ เตรียมวนขวาตัดหน้ากองเรือโจรสลัดแล้วไปเข้าร่วมกับกองเรือรบซอแทนดาล”

“แต่ถ้าพวกเราวนขวาแบบนั้นแล้วจะเข้าระยะยิงของเรือโจรสลัดนะ”

“นี่เป็นวิธีการที่เร็วที่สุดที่จะได้ไปรวมตัวกับกองเรือรบครับถ้าพวกเราเร่งความเร็วโดยใช้เวทมนตร์ แบบนั้นจะช่วยลดทอนความ เสียหายได้และพอพวกเราเข้าใกล้เรือรบได้ ถึงตอนนั้นก็ได้รับกา รสนับสนุนจากเรือรบซอแทนดาลแล้วครับ”

“สนับสนุน? นี่เมื่อครู่เจ้าติดต่อกับเรือรบงั้นหรือ?”

“ใช่ครับ”

อาร์คพยักหน้ารับขณะกัปตันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่

“จากเหตุการณ์เมื่อครู่ แล้วยังติดต่อกับกัปตันของเรือ รบซอแทนดาลได้อีกเจ้าเป็นใครกันแน่?”

“ก็แค่คนผ่านทางมานะครับ”

อาร์คยังคงเขย่าหม้อต่อไปขณะตอบกลับ อย่างไรแล้วเรือโดยสารก็ทําตามคําแนะนําโดยการวนขวาอย่างที่อาร์คว่าจนเข้าระยะยิงของกองเรือโจรสลัด

“ยังครับ นักเวทเตรียมพลังมานาไว้ให้พร้อม พวกเราต้องใช้นักเวทเพื่อสร้างลมให้เรือเคลื่อนตัวไปได้เร็วขึ้น พวกเราต้องอาศัยช่วงจังหวะที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลูกปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกมาเพื่อหาทางลดความเสียหายให้มากที่สุด”

อาร์คเพ่งความสนใจไปยังการเคลื่อนไหวของกองเรือโจรสลัดขณะพูดกล่าว จากนั้น การระเบิดครั้งใหญ่ของเรือโจรสลัดก็พลันระเบิดขึ้นมันเป็นการระเบิดของเวทมนตร์ไฟและน้ําแข็ง! เรือโจรสลัดถึงกับพุ่งพรวดมาทางด้านหน้าประหนึ่งลูกธนูถูกยิงออกมุ่งเข้าหาเรือโดยสาร

“อะไรกัน? ได้ยังไง? นั่นมันเหมือนที่พวกเราใช้? แต่เรือนั่นลูกเรือก็มีแต่พวกนาคูจักนี่นา… อย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นตัวคนเดียว…??

ปากของอาร์คว้าเหวอกว้างขณะมองซ้ําอีกครั้งว่าเรือโจรสลัดนั้นกําลังพุ่งเข้ามาหาจริง ๆ ที่เขาเห็นว่าเป็นนักเวทบนเรือโจรสลัดดังกล่าวก็มีแต่ผู้หญิงคนนั้น เธอถึงกับสามารถยิงเวทมนตร์ไฟและน้ําแข็งออกมาจากมือทั้งสองพร้อมกันขึ้นบนฟ้าแล้วทําให้เกิดการ ระเบิดขึ้นได้เธอใช้วิธีการเดียวกับตอนที่เรือโดยสารใช้หนีเพื่อพุ่ง เข้าหาเรือโดยสาร นอกจากนี้แล้ว ลมกระโชกที่เกิดขึ้นยังทรงพลังอํานาจยิ่งกว่าของเรือโดยสารที่ใช้นักเวทกว่าสิบคน

“บ้าอะไรกันเนี่ย ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? แต่ทําไมถึงเร่งพุ่งเข้ามาล่ะ? พุ่งเข้ามาทางนี้ หรือว่ากัปตันเร่งความเร็วเรือเร็วเข้าครับ!”

อาร์คที่นึกอะไรขึ้นได้ต้องร้องตะโกนบอกออกไป แต่ก่อนที่นักเวทจะทันได้ร่ายคาถา เรือโจรสลัดก็พุ่งชนเข้าที่ด้านข้างของเรือโดย สารเรียบร้อยแล้ว

เรือโดยสารสั่นสะเทือนขณะผู้โดยสารและอาร์คที่อยู่บนดาดฟ้าเรือต้องไปกองอยู่อีกด้านของดาดฟ้าเรือ

“เหวอ หม้อ หม้อ หม้อ!”

“ระ-รอดไปที!”

อาร์คจ้องมองของเหลวสีดําภายในหม้อด้วยสีหน้าซีดเผือดขณะที่เรือสั่นต่อไป อาร์คก็พยายามเขย่าหม้อไปด้วยใช้การร่ายรําแห่งความมืดหลบไปด้วย ทุกอย่างที่เขาทําทั้งหมดนี้ก็เพื่อเม็ดยาเนโครแมนเซอร์อมตะระดับ A!

ว่าแต่ นี่มันไม่บ้าเกินไปหน่อยเหรอ?”

อาร์คจ้องมองไปยังเรือโจรสลัดที่ติดแหงกอยู่ข้างเรือโดยสารเรือโจรสลัดที่พุ่งชนเข้ามาทําให้เรื่องโกลาหลมากขึ้น ผู้โดยสารบนเรือต่างก็โกลาหลกระทั่งว่ายังรอดชีวิต แต่เรือโจรสลัดที่เป็นฝ่ายพุ่ง เข้าชนต้องแบกรับค่าซ่อมแซมมหาศาลแต่แล้วคนทํายังเลือกทํา โดยไม่ลังเลหากไม่ใช่คนที่บ้ามากพอไม่มีทางทําได้อย่างแน่นอน

“นักรบกับนักเวทก่อนหน้านี้เป็นใครกัน? ทําไมถึงกล้าทําเรื่องบ้าบอขนาดนี้…”

“เหอะเหอะเหอะฆ่าพวกมันให้หมด!”

เมื่อเรือโจรสลัดเทียบท่า(?)ก็เริ่มบุกขึ้นเรือโดยสารทันที เรือโดยสารตอนนี้ยิ่งมายิ่งโกลาหลเมื่อโจรสลัดขึ้นเรือโจรสลัดนาคูจักที่ขึ้นเรือมาค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้าที่อาร์คเคยต่อสู้ด้วย เลเวลของพวกมันเฉลี่ย 250-300 กันทั้งสิ้น แน่นอนว่าผู้โดยสารของเรือโดยสารก็เลเวลประมาณเดียวกันนี้ ทว่ากว่าเจ็ดในสิบของผู้โดย สารล้วนเป็นพ่อค้าขณะที่นักรบและนักเวทพยายามค้ํายันไว้ให้พวกพ่อค้าไม่อาจต้านทานอะไรได้จนเริ่มโรยรากันไป

“สถานการณ์นี้มันอะไรกันเนี่ย?”

“รับไป!”

โจรสลัดสองคนพุ่งเข้าหาอาร์ค เขาเร่งร้อนหลบเลี่ยงการโจมตีขณะนําดาบแห่งแลนเซลออกมา มือหนึ่งเขาจําเป็นต้องเขย่าหม้อเพราะงั้นแล้วจึงว่างเพียงแค่มือเดียวจนทําให้ไม่สามารถใช้ดาบสองมืออย่างดาบแห่งกิลซาลได้เขาต้องกระอักกระอ่วนทั้งต้องต่อสู้และต้องห่วงเขย่าหม้อบนเรือที่โคลงไปมาทว่าอาร์คก็สามารถจัดการรักษาสมดุลเอาไว้ได้โดยการเคลื่อนไหวอันน่าทิ้งก่อนจะฟาดฟันพวกนาคูจักไปทีละคน หลังฝึกการใช้เทควันโดกับพวกซอมบี้เชื้อราประสาทสัมผัสโดยรวมของเขาก็สมดุลมากขึ้นจนกลับมาเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง

“เผ่านาคูจักพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไหร่

อาร์คใช้สวนกลับฉับพลันใส่นาคูจักคนหนึ่งก่อนจะกระเด็นตกทะเลไป

ตุ้ม ตูม ตูม ตู้ม!

เรือรบของซอแทนดาลตอนนี้กําลังเปิดศึกกลางทะเลกับเรือโจรสลัดที่เหลืออีกสองลํา มันเป็นการต่อสู้ของกองเรือที่ค่อนข้างคู่นวายเพราะต่างฝ่ายต่างยิ่งกันไปมาไม่หยุดหย่อน! แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจัสติสแมนกําลังโดนกดดันให้ต้องถอยโดยเรือโจรสลัด ทั้งสองลําทว่านั่นก็อยู่ในการคิดอ่านของจัสติสแมนอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่เรือของจัสติสแมนดูเหมือนจะต้องแบกรับการโจมตีแต่เขาก็ใช้ความคล่องแคล่วกับเป้าหมายเพื่อเคลื่อนไปทางด้านหลังของเรือโจรสลัดทีละน้อย เมื่อกองเรือโจรสลัดกลับไปยังท่าเรือนอกกฎหมายพวกเขาจะตามรอยไปได้อย่างง่ายดายอย่างไรแล้วจุดประสงค์ของการโจมตีส่วนใหญ่ก็คือเล็งจุดอ่อนของอีกฝ่าย แต่ตอน นี้เป็นสองปะทะสองเพราะงั้นแล้วกองเรือรบของซอแทนดาลจึงไม่สามารถปลีกตัวมาช่วยเรือโดยสารได้ ด้วยผลลัพธ์ดังกล่าวต่อให้พวกเขาสลัดเรือโจรสลัดออกจากเรือโดยสารได้ เรือโดยสารนี้ก็ไม่มีทางให้หนีอีกต่อไปแล้ว

“เราคาดหวังความช่วยเหลือจากคุณลุงจัสติสแมนไม่ได้!

โชคร้ายนัก ตอนนี้ไม่มีหนทางสําหรับช่วยเหลือผู้โดยสารบนเรือแล้วแต่ผลลัพธ์อย่างนี้ก็ออกจะดีกับอาร์คอยู่บ้าง

“เรือโจรสลัดสองลําพัวพันกับเรือรบซอแทนดาล เรือโจรสลัดอีกลําก็ติดอยู่กับเรือโดยสาร เราสามารถหนีได้โดยไม่มีเรือโจรสลัดมาหยุดแล้ว!”

เหตุผลที่อาร์คไม่เรียกปลาโลมาก็เพราะเขาไม่อยากหลบหนีโดยต้องตกเป็นเป้ายิง แต่ตอนนี้เรือโจรสลัดทั้งหมดไม่สามารถหันมาสนใจเขาได้อีกต่อไป เขาเพียงแค่ต้องหลบหนีไปในช่วงที่พวกโจรสลัดมัวแต่ยุ่งกับกะลาสีเรือและผู้โดยสารคนอื่น อาร์คที่คิดได้แล้วจึงเร่งร้อนตะโกนออก

“บุคซิล อยู่ไหน?”

“ทะ-ทางนี้ครับ!”

เสียงบุคซิลดังขึ้นจากทางด้านบน อีกฝ่ายขึ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่?ช่างน่าเหลือเชื่อไม่น้อยที่บุคซิลปินขึ้นไปบนยอดเสากระโดงเรือได้อะไรก็ดีอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังรอดมาได้

“นายมันโง่ ขึ้นไปทําบ้าอะไร?”

“ก็พวกโจรสลัดมัน… เหวอ!”

“ฮ่าฮ่า ตายซะ!”

บุคซิลร่ําร้องออกมาขณะโจรสลัดสองคนปีนขึ้นไปหา จากนั้นจึงเป็นแบกิวที่กระโดดขึ้นไปบนเสากระโดงเรือเตะคอนาคูจักจนหักแล้วฉีกกระชากเนื้อพวกมันแทน

“บุคซิลอยู่กับแบกิวไม่น่าห่วงเท่าไหร่

“บุคซิลแบกิวเตรียมกระโดดลงทะเลตอนฉันให้สัญญาณ!”

อาร์คกล่าวขณะเร่งนําฟลูตแห่งชาวเงือกออกมา แต่แล้วขณะที่เขากําลังพยายามจะเปา พลังงานอันมหาศาลก็เกิดปะทุตรงหน้าเขาด้วยสัญชาตญาณ อาร์ครู้สึกเย็นเยียบทั่วทั้งตัวแล้วเคลื่อนร่าง

หลบ

ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม!

ดาบปลายปืนขนาดใหญ่พลันปักเข้าที่ดาดฟ้าเรือจนส่งผลให้พื้นเกิดการแตกระเบิดออก พลังทําลายล้างถึงกับเทียบเท่าระเบิดลงชิ้นส่วนไม้จากดาดฟ้าเรือปลิวว่อนไปทั่วขณะร่างชายเลือนลางคนหนึ่งปรากฏขึ้น อีกฝ่ายเป็นชายที่เคยเอ่ยชื่อของ อาร์คบนเรือโจรสลัดจากที่ไกลเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายค่อนข้างตัวใหญ่ กว่าคนทั่วไปอยู่บ้าง แต่พอมองให้ใกล้แล้วก็พบว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงชายคนนี้กล้ามเนื้อกํายําและร่างใหญ่กว่าคนทั่วไปถึงสองเท่าชุดเกราะหนังที่สวมใส่ยิ่งทําให้คล้ายสัตว์อสูรตัวหนึ่ง นับว่าเสริมภาพลักษณ์ให้ดูโหดเหี้ยมไม่น้อย

“เจอตัวจนได้นะอาร์ค”

เสียงที่ดุดันดังขึ้นและหัวเราะใส่อาร์ค

“หลบการโจมตีของฉันได้ด้วย ตอบสนองได้ดีไม่เลวนี่นา?”

“นายเป็นใครกันเนี่ย?”

“ฉันเหรอ? โอ้ ลืมแนะนําตัวไปงั้นสินะ ฉันชื่อเบรด”

ถูกต้องแล้ว ชายร่างใหญ่คนนี้คือเบรดนั่นเอง และนักเวทที่ร่วมทางมาด้วยก็ไม่ใช่ใครอื่นทั้งสองมีเรื่องต้องเคลียร์กับอาร์คไม่น้อยหลังไปที่ซิลวาน่าและรับการสนับสนุนข่าวสารจากไรเด็นพวกเขาก็กลับมายังซอแทนดาลด้วยการช่วยเหลือของไรเด็นพวกเขาจึงหยิบยืมเรือโจรสลัดจากท่าเรือนอกกฎหมายมาใช้ในปฏิบัติการครั้ง นี้ชายอีกคนหนึ่งที่ท่าเรือซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของอาร์คเป็นเครือข่ายข่าวกรองของเฮอร์มีสนั่นเองข่าวนี้ถูกส่งต่อไปยังเบรดและเรเดียนที่รออยู่บริเวณท่าเรือนอกกฎหมายอย่างรวดเร็วทั้งสองไม่รอช้าเร่งนํากองเรือโจรสลัดไล่ล่าเรือโดยสารแทบจะในทันที

“ฉันไม่ได้อยากรู้ว่านายชื่ออะไร ทําไมถึงต้องไล่ล่าฉันด้วย?”

“นายไม่รู้ก็ช่างปะไร รู้แค่ว่าฉันหาตัวนายมาพักหนึ่งแล้วก็พอ”

“หาตัวฉันเนี่ยนะ?”

“ให้อธิบายก็ซับซ้อนนิดหน่อย…”

เบรคเกาตีรษะขณะหัวเราะไปด้วย

“ทําไมนายไม่ให้ฉันคลายความเครียดกับร่างของนายแล้วตายเพื่อฉันสักหน่อยล่ะ?”

“นี่ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?”