ตอนที่ 468 : ไอ้หมอนี่เนี่ยนะ!?
“พร้อมไหม?”
“ครับ!”
รอนนี่หัวเราะออกขณะพยักหน้ารับ อาร์คและรอนนี่ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ซิเอล เมื่อข้ามพื้นที่การค้า อากาเต้ก็กำลังยืนรอตรงหน้าประตูโรงงานเซรัน
“มาได้เสียที ?”
“ครับ ช้าไปหน่อย”
“แล้วท่าที่นั้นมันอะไร? คำอธิบายล่ะ?”
อากาเต้ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจสุด ๆ
“บอกแล้วไงว่ารีบ! ถ้าพวกเรามีวัตถุดิบไม่พอสำหรับหนึ่งวัน เจ้ารู้หรือเปล่าว่าโรงงานเซรันต้องแบกรับความเสียหายมากมายขนาดไหน? กับคนธรรมดาเช่นเจ้านั้นคงไม่มีทางจินตนาการถึงแน่! ให้ตายสิ ข้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ควรเชื่อใจพวกคนต่างถิ่น ช่างมัน แล้วเจ้าเจอหรือเปล่าล่ะ?”
“ก็เจอนะครับ”
“งั้นก็ดี รีบส่งมันมาเร็วเข้า”
“ถ้าผมไม่อยากส่งให้ล่ะ?”
อาร์คเกาด้านหลังคอขณะพิมพ์ออกมา ไม่ช้า ใบหน้าของอากาเต้ก็เริ่มบิดเบี้ยวเผยสีหน้าน่ารังเกียจ
“ว่าอะไรนะ? ไม่อยากส่งให้? เมื่อกี้เจ้าพูดว่ายังไงนะ?”
“ก็ได้ยินนี่ ไม่อยากส่งให้ไง”
“เจ้าทำบ้าอะไร? นี่เจ้าแหกสัญญากลับมาในเวลาที่กำหนดเพราะเหตุผลไร้สาระพวกนี้? อา เข้าใจแล้ว ไอ้พวกคนต่างถิ่น ข้ากำลังยุ่งแต่ก็ไม่น่าไปจ้างไอ้พวกไร้หัวนอนปลายเท้า!”
“เป็นงั้น?”
อาร์คแค่นเสียงแล้วพึมพำออกมา เป็นผลให้อากาเต้แค่นลมออกจมูกก่อนจะโพล่งออกด้วยความเกรี้ยวกราด
“ส่งกล่องที่มีสัญลักษณ์ทางการค้าของเซรันมา ต่อให้เจ้าเป็นคนต่างถิ่นของบริสทาเนีย เจ้าจะเอามันไปไม่ได้! ถ้าไม่ส่งมาให้ข้าจะเรียกทหารรักษาการณ์มาจับเจ้าไป!”
“ทหารรักษาการณ์ ไม่เลวเหมือนกัน เรียกเลย”
“วะ…ว่ายังไงนะ?”
อากาเต้สะดุ้งกับท่าทีของอาร์คจนชะงักปากไป อาร์คพลันยิ้มให้แล้วเอ่ยคำ
“เป็นอะไรไปล่ะ? ไหนว่าจะเรียกทหารรักษาการณ์มาไง?”
“นี่ เจ้าคิดทำอะไร?”
“ทำไมกัน? อยากเรียกก็เรียกมาสิ! ทำไมไม่เรียกมาล่ะ? หรือถ้าเรียกทหารรักษาการณ์มาแล้วจะมีปัญหา? หรือถ้าหากทหารรักษาการณ์มาจะเกิดเรื่องยุ่งยากเพราะต้องตรวจของในกล่อง…”
“มะ ไม่ใช่!”
“โห จริงเหรอ?”
อาร์คแสยะยิ้มให้ อากาเต้มีนงงไปวูบก่อนจะมีท่าที่เปลี่ยนไป
“เจ้าเปิดกล่องแล้ว?”
“แล้ว?”
“นั่นมันผิดสัญญาอย่างร้ายแรง!”
“ใช่ ก็ผิด อย่างน้อยผมก็ยอมรับเรื่องที่ตัวเองก่อ ผมทำผิดสัญญาก็เลยต้องโดนลงโทษ…. เพราะงั้นก็เรียกทหารรักษาการณ์มาสิ เรียกพวกเขามาให้ตัดสินกันว่าใครผิดใครถูกกันแน่!”
“อย่าพูดให้ขำ นี่เจ้าคิดว่าพบเจอจุดอ่อนเพียงเพราะเห็นของในกล่อง? สิ่งของในกล่องปลอดภัย 100% ไม่มีข้อผิดพลาด พวกเราจัดทำโพชั่นและส่งไปทั่วทั้งภูมิภาคทางใต้ของบริสทาเนียกระทั่งราชวงศ์ยังพิจารณาใช้สินค้าของเรา…”
“เงียบไปเลยไอ้ตัวบัดซบ!”
อาร์คพลันเปลี่ยนท่าที่อย่างพลิกกลับ ใบหน้าของอาร์คตอนนี้แทบกลายเป็นปีศาจร้ายก่อนจะพ่นคำก่นด่าสาปแช่งออกจากปากพอโดนการข่มขู่ของผู้เล่นเลเวล 366 เข้าไป ใบหน้าของอากาเต้งกับต้องซีดเผือดเป็นกระดาษ อาร์คเริ่มเดินเข้าไปใกล้แล้วพูดเสียงเบาลง
“ก็ได้ ผมยอมรับ ผมตรวจสอบของในกล่องนั่นแล้ว โพชั่นที่เซรันจัดทำขึ้นปลอดภัย 100% แต่มันปลอดภัยแค่กับคนที่ใช้งานไม่ได้ปลอดภัยสำหรับคนที่จัดทำโพชั่นนั่นขึ้นมา!”
อากาเต้เงียบไปเพราะคำพูดของอาร์ค ถูกต้องแล้ว อาร์คทราบถึงความลับเบื้องหลังโรงงานเซรันเป็นที่เรียบร้อย
ก้ามคาราดาราส
ก้ามคาราดาราสเป็นสมุนไพรมีพิษร้ายแรงที่พบได้บริเวณโกรกธารคาราดาราส รูปลักษณ์ของมันคล้ายก้าม สมุนไพรนี้มีพิษขนาดที่โทรลสามารถตายได้เพียงสูดดมภายในหนึ่งวัน
ข้อมูลเพิ่มเติมขั้นสูง : เมื่อทำการสกัดก้ามคาราดาราสผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง มันสามารถนำไปใช้งานร่วมกับสมุนไพรได้หลายชนิดทั้งยังมีประโยชน์มาก ทว่าหากท่านสูดดมกลิ่นหรือสัมผัสอาจทำให้เกิดอาการร้ายแรงต่อร่างกายได้
หากอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้นเป็นเวลานาน ผู้คนจะเกิดอาการร้ายแรงเพราะพิษดังกล่าว อาการส่วนใหญ่จะมีทั้งไข้สูง ปวดตามเนื้อตัว และจุดแดงดำ หากจุดตามร่างกายเป็นสีแดงทั้งหมดจะนำไปสู่ความตาย
ทั้งหมดนั่นเป็นข้อมูลที่อาร์คได้รับมาหลังจากทำการตรวจสอบสิ่งของภายในกล่อง วัตถุดิบลับที่ทำให้โพชั่นได้รับความนิยมขายได้อย่างล้นหลามในภูมิภาคทางใต้ของบริสทาเสียก็คือก้ามคาราดาราส แน่นอนว่าอาร์คทราบเรื่องพิษของสมุนไพรนี้จากอาชีพผู้บูชาอาหาร และก็เป็นความจริงที่ก้ามคาราดาราสภายในโพชั่นนั้นผ่า นการสกัดอย่างสมบูรณ์แบบแล้วจึงมีความปลอดภัย ก็เหมือนกับความรู้ทั่วไปเรื่องการจัดทำผลิตภัณฑ์บรรจุกระป๋องว่าต้องมีการกำจัดกรดไฮโดรคลอริกในระหว่างกระบวนการจัดทำ ทว่า คนงานที่ต้องใช้ก้ามคาราดาราสเหล่านั้นไม่ได้รับความปลอดภัยในส่วนนี้ เพราะเหตุนั้นอาร์คจึงเกิดความสงสัยตอนที่ทราบข้อมูลเรื่องพิษของสมุนไพร เมื่อตรวจสอบถึงต้นตอโรคลึกลับได้แล้ว เขาจึงค่อยทราบว่ามันเกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่มีมาตรฐาน
และเมื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งโดยการนำไปแยกสารสกัดออกมา เขาก็ยิ่งมั่นใจมากยิ่งขึ้น คนงานจะค่อย ๆ สูดดมพิษจากก้ามคาราดาราสเข้าไปที่ละน้อย! อากาเต้ที่เป็นเจ้าของโรงงานเซรันย่อมต้องทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีแน่นอน ถ้าหากมีความผิดพลาดในขั้นตอนการผสมสมุนไพร แบบนั้นก็ต้องเกิดสารพิษให้สูดดมเข้าไป! มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ทราบว่าพืชมีพิษนั้นอันตราย และผู้คนที่ทำงานในโรงงานต่างก็โดนพิษของก้ามคาราดาราสกันอย่างถ้วนหน้า ถ้าหากมีการนำมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมมาใช้งาน อย่างน้อยประชากรที่เจ็บไข้ของสลัมก็ต้องได้รับยาถอนพิษเพื่อบรรเทาอาการ ทว่า อากาเต้ไม่คล้ายจะคิดเช่นนั้น
“หมอนี่มันไม่สนด้วยซ้ำว่าประชากรของสลัมจะตายหรืออยู่”
ประกายไฟเริ่มลุกโชนในดวงตาของอาร์คเพราะความคิดอันบ้าคลั่งของอีกฝ่าย เรื่องนี้เขาไม่อาจให้อภัยได้!
“เจ้ากำลังเข้าใจผิด…”
เหงื่อเริ่มหลั่งเต็มใบหน้าของอากาเต้ทั้งร่างยังสั่นเทา
“จะ-เจ้าต้องการอะไร? เงินอย่างนั้นเหรอ? ได้ ข้าจะให้ ถ้าเจ้าเงียบปากไว้ข้าจะให้ 500 เหรียญทอง ไม่สิ 1,000 เหรียญทองเลยว่ายังไงล่ะ? เงินจำนวนมากขนาดนี้คนธรรมดาอย่างเจ้าคงไม่มีทางได้รับในชั่วชีวิตแน่ นี่ใช่ไหมล่ะเหตุผลที่มาพูดเรื่องนี้กับข้า? นั่งลงแล้วหุบปากเจ้าไว้ แล้ว 1,000 เหรียญทองจะได้เป็นของเจ้า”
“เงียบไปเลยไอ้สารเลว!”
อาร์คตะโกนเสียงดังจนอากาเต้สะดุ้งและถอยกลับเพราะคิดว่ากำลังจะโดนต่อยตี ทว่าอาร์คเพียงถอนหายใจแล้วส่ายศีรษะความจริงแล้วประชากรของสลัมคิดอยากมาฆ่าอากาเต้ทันทีเมื่อทราบเรื่องนี้ บุคคลที่หยุดเรื่องนี้เอาไว้คืออาร์ค เขาทราบดีว่าหากประชากรของสลัมสังหารอากาเต้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะแบบนั้นเขาถึงเกลี้ยกล่อมโดยขอให้ตัวเองได้เจรจากับอากาเต้ก่อน
“ได้ ผมจะไม่บอกทหารรักษาการณ์”
“จะ-จริงรึ?”
“กลับกัน ผมมีเงื่อนไขสามข้อ”
“เงื่อนไข?”
“ผู้คนที่ได้รับอาการเจ็บป่วยในช่วงที่ผ่านมาต้องได้รับ 1,000 เหรียญทองเป็นค่าปลอบขวัญ ขณะที่คนซึ่งโดนไล่ออกอย่างไม่เป็นธรรมต้องได้รับค่าจ้างสามเดือน แน่นอนว่าหลังจากนี้ต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่รัดกุมกว่านี้ นี่คือเงื่อนไขแรก”
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมอาร์คถึงหยุดยั้งคนของสลัมเอาไว้แม้ผู้คนของสลัมจะรอดพ้นอาการเจ็บปวยเพราะอาร์ค แต่ชีวิตของพวกเขาต้องทุกข์ยากเพราะค่ายารักษาไม่ใช่น้อย กระทั่งว่าสุขภาพของพวกเขากลับคืน มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่อากาเต้จะรับพวกเขากลับเข้าทำงานอีก เพราะแบบนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจหาทางใช้ชีวิต ให้ประชากรเหล่านั้น
“วะ-ว่ายังไงนะ? เจ้าพูดอะไรออกมา? ถ้าหากข้าต้องจ่ายค่าทำขวัญปริมาณมากขนาดนั้น โรงงานเซรันได้พินาศกันพอดี!”
“ใช่ ก็ควรเป็นแบบนั้น ก่อนหน้านี้คุณยังไม่เคยคิดถึงพวกเขาเลยว่าจะตายหรือไม่”
“ระ-เรื่องนั้น”
อาการเต้เผยสีหน้าแน่วแน่ก่อนจะส่ายศีรษะ
“เงื่อนไขนี้ไม่ยอมรับ! ข้าจะไม่ยอมให้เซรันต้องพินาศ!”
“เหอะ คนเราพอมีอำนาจที่ทางใต้ของบริสทาเนียแล้วก็ยากจะคิดว่าตัวเองต้องพังพินาศแบบนั้นงั้นสินะ”
“ว่าอะไรนะ?”
“โรงงานเซรันสำคัญกับซิเอลนั้นสินะ ผมควรนำเรื่องนี้ไปบอกกับราชาแห่งบริสทาเนียแทนที่จะเป็นทหารรักษาการณ์? แบบนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเซรันกันล่ะ?”
“ไร้สาระ เจ้าคิดหรือว่าราชาแห่งบริสทาเนียจะเชื่อคำพูดของคนต่างถิ่นเช่นเจ้า? ไม่สิ เจ้าคิดหรือว่าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าองค์เหนือหัวได้?”
อากาเต้พลันมั่นใจมากขึ้น หากปัญหาลุกลามออกไป ไม่มีอะไรรับประกันได้ความเซรันจะคงอยู่ต่อไปได้หากเรื่องถึงหูองค์ราชา อากาเต้ต้องโดนพิพากษารับโทษโดยทันทีแน่ ทว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซิเอลหลายคนยอมรับการติดสินบน เพราะงั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่คำร้องของคนต่างถิ่นยากไร้ตรงหน้านี้จะไปถึงหูราชาหากอากาเต้ยังมีเครือข่ายอยู่
“อาร์คนิมมีสิทธิ์อันชอบธรรม!”
อย่างกะทันหัน เสียงใครคนหนึ่งพลันดังขึ้นภายในตรอก ใบหน้าของอากาเต้ถึงกับต้องเผยอาการสับสนขณะหันกลับไป
“ว่าอะไร? พล่ามวาจาไร้สาระ เฮือก นี่เจ้า?”
“ใช่ ผมคือผู้จัดการสาขาสมาคมเวทมนตร์ของซิเอล ราเบนท์”
เป็นนักเวทที่สมาคมเวทมนตร์ซึ่งอาร์คพบเจอตั้งแต่แรกที่มายังซิเอล อีกทั้งเขายังเป็นแฟนตัวยงของอาร์คอีกด้วย ราเบนท์พยักหน้ารับให้อาร์คก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“แม้ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น อาร์คนิมเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของสมาคมเวทมนตร์ย่อมมีสิทธิ์มีเสียง”
“สะ-สมาชิกของสมาคมเวทมนตร์? ไอ้คนที่เอาแต่ทำงานหาสัมภาระเนี่ยนะ?”
“อาร์คนิมเป็นคนที่ไม่อาจเพิกเฉยหากพบเห็นผู้คนประสบปัญหา”
ราเบนท์กล่าวอีกครั้งทั้งยังมีความนับถือต่ออาร์ค นับว่าอีกฝ่ายเข้าใจอาร์คผิดมหันต์ แต่ก็เป็นการเข้าใจผิดที่ดี…
“เพราะอาร์คนิมต้องการช่วยเหลือผู้คนของสลัม ก่อนหน้าที่อาร์คนิมจะมาที่นี่ก็ได้แวะไปที่สมาคมเวทมนตร์แล้วแจ้งเรื่องราวให้กระผมทราบ นับว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรง หากอากาเต้นิมปฏิเสธคำร้องขอนี้ อาร์คนิมจะใช้สิทธิ์ในการเป็นสมาชิกของสมาคมเวทมนตร์เพื่อแจ้งเรื่องนี้ขึ้นไป หากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอากาเต้นิมจะยังรับเรื่องราวไหวหรือ? ผมคงต้องแจ้งต่อมาสเตอร์ของทางสมาคมเวทมนตร์เสียหน่อย มาสเตอร์เป็นคนที่มีอิทธิพลในบริสทาเนียไม่น้อยเลยทีเดียว”
ใบหน้าของอากาเต้พลันต้องซีดขาวขณะสั่นกลัวเพราะคำพูดของนักเวทตรงหน้าคนนี้